พันธมิตรฯ นัดหารือมาตรการเคลื่อนไหวคัดค้านการแก้ไข รธน.วันนี้ ยันจะนำเป็นวาระสำคัญในการอภิปรายศุกร์ที่ 28 มีนาฯ ชี้รัฐบาลยิ่งดิ้นรนแก้ไข เท่ากับสารภาพผิดกลางแจ้ง แฉรัฐบาลงัดสารพัดวิถีสกัดคลื่นมวลชน ทั้งขู่เจ้าของรถ ดักฟังโทรศัพท์ เชื่อคนล้นหอประชุมใหญ่ มธ.แน่
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ในการประชุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในวันนี้ (26 มี.ค.) จะมีการกำหนดมาตรการเคลื่อนไหวคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน และในเวทีสัมมนาวันที่ 28 มีนาคมนี้ก็จะนำไปเป็นวาระสำคัญในการอภิปรายปราศรัยของแต่ละท่าน รวมทั้งหามาตรการเคลื่อนไหวคัดค้านร่วมกันกับมวลชนที่มาร่วมกิจกรรมในวันนั้น
นายสุริยะใส กล่าวว่า การเร่งรีบแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.237 เพื่อหนีความรับผิดชอบกรณีที่อาจถึงขั้นยุบพรรคการเมืองนั้น เปลือยให้เห็นธาตุแท้ว่า กรรมการบริหารพรรคการเมืองของทั้ง 3 พรรคคือพรรคมัชฌิมาธิปไตย พรรคชาติไทย และพรรคพลังประชาชน ได้สารภาพผิดกลางแจ้งว่าคนของพรรคทั้ง 3 ทุจริตเลือกตั้งจริง จนไม่สามารถที่จะหาพยานหลักฐานมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองในชั้นการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญได้ พูดง่ายๆ คือสู้ไปก็แพ้ก็เลยแก้รัฐธรรมนูญเพื่อฟอกผิดให้กับตัวเองเลยดีกว่าง่ายดี
“หากรัฐบาลแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 237 เป็นผลสำเร็จจะลุแก่อำนาจมากขึ้น และหลงละเลิงในอำนาจคล้ายๆ กับในยุคที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พอพ้นข้อกล่าวหา ในคดีซุกหุ้นภาคแรก ก็พยายามกินรวบทางการเมืองแทรกแซงองค์กรอิสระ ควบคุมสื่อ จนสุดท้ายทำให้การเมืองในระบบถึงทางตันและวิกฤติตามมาในที่สุด”
สำหรับกระแสตอบรับจากแนวร่วมและเครือข่ายของพันธมิตรฯ นั้น มีกระแสสูงมากภายหลังรัฐบาลเตรียมแก้รัฐธรรมมูญ ซึ่งเชื่อว่าคนอาจล้น หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หากไม่ถูกสกัด เพราะในขณะนี้แกนนำหลายๆ จังหวัดแจ้งมาว่ามีการสกัดการเดินทางสารพัดวิธี เช่น ข่มขู่เจ้าของรถตู้ รถบัส ไม่ให้นำคนเข้ามา หรือการปล่อยข่าวแก๊งปาหิน อาละวาดที่โน่นที่นี่ กระทั่งการดักฟักโทรศัพท์แกนนำ ก็กระทำกันอย่างกว้างขวางทั้งคนในบริษัทเอกชนเจ้าของมือถือ รายใหญ่บางค่าย และหน่วยงานการข่าวของทางราชการ
“แต่คงไม่สามารถสกัดการเคลื่อนไหวใดๆ ได้ เพราะทุกคนมั่นใจในการจัดกิจกรรมของพันธมิตรฯ ที่ยึดหลักสันติวิธีเหตุผล ความชอบธรรม ไม่หาเรื่อง ไม่ยั่วยุท้าทายใคร” นายสุริยะใสกล่าว