"สมัคร"ยังเดินหน้าวิพากษ์สื่อ อ้างไม่ยอมถูกถล่มอยู่ข้างเดียว แถมเชิญชวนประชาชนช่วยกันหัวเราะเยาะ อัดคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมตัวถ่วงความเจริญ แฉเปิดบริษัทรับงานอนุมัติอีไอเอรายละ10- 30 ล้าน เบรกลิ่วล้อจัดม็อบชนกลุ่มพันธมิตรฯ ด้านพันธมิตรฯนัดหารือ 26 มี.ค.นี้ เผยมีเซอร์ไพร้ส์
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เริ่มต้นรายการสนทนาประสาสมัคร ทางช่อง 11 และวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ เมื่อเช้าวานนี้ (23มี.ค.) ว่า ตนมาพูดออกโทรทัศน์ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 แล้วปรากฏว่าก่อนมา มีแต่คนบอกว่าขอไม่ให้พูดเรื่องหนังสือพิมพ์ ไม่ให้ตำหนิ ไม่ให้ว่า ไม่ให้ออกความเห็นตอบโต้หนังสือพิมพ์
"แล้วผมจะจัดรายการนี้ทำไม ถ้าเผื่ออย่างนั้น ก็เขาว่ากันโครมโครม เขาบอกว่าเขาเป็นกระจกส่อง แล้วผมก็บอกว่าอะไร เป็นอะไร ยังไง ไอ้รายการนี้คือการที่ผู้คนทั้งบ้านทั้งเมืองเสพข่าว เสพหนังสือพิมพ์ เสพอะไรต่างๆ แล้วบ้านเมืองนี้ก็มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เขาจะตำหนิติเตียนยังไงก็ทำได้ สถานีราชการ ตำหนินายกรัฐมนตรียังว่าได้เลยครับ ไม่เป็นปัญหา สถานีโทรทัศน์บางช่องเขาก็มีคนจัดรายการ มาจากไหนก็ไม่รู้ มาจัดรายการ พูดจาว่ากล่าวกระแทกแดกดัน เรายังไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอะไรยังไงเลย นี่ปัญหามันคือว่า จะให้เขานั่งถลุงเราข้างเดียว แล้วไม่ตอบ ไม่พูดเลย ไม่ช้าไม่นานก็จะมีปฏิวัติยึดอำนาจอีก ถ้าแบบนั้นหละก็ มันก็เลวตามที่เขาว่ากล่าว" นายสมัครกล่าว
นายสมัคร กล่าวยืนยันว่า ตนจะใช้ช่องทางนี้ จะอธิบายความ แต่เมื่อตนพูดแล้ว มีวิพากษ์วิจารณ์กลับมา ตนก็ต้องทำความเข้าใจกับประชาชน
"คนหนังสือพิมพ์เขาเป็นคนเขียน วิพากษ์วิจารณ์ผม วิทยุ โทรทัศน์ก็วิพากษ์วิจารณ์ แต่ปัญหาว่ามันต้องร่วมผสมผสานกันกัน ปล่อยให้เขาถลุง อยู่ข้างเดียว แล้วยังไง แล้วเราก็บอกว่าจะเอางาน ต้องส่งงาน ต้องแสดงเรื่องงาน เรื่องงานเรื่องาน ผมก็ทำเรื่องงานเรื่องงาน เอาหละครับ คราวที่แล้วเขาก็ตำหนิว่า โอย นั่นก็พูดๆๆ ไม่ทำอะไร นั่งแต่พูดๆ แปลว่าที่นั่งมานี่ไม่ได้ประโยชน์ ผมต้องทำความเข้าใจว่า มันมีประโยชน์บ้าง" นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวอีกว่า แล้วจริงๆ การจะทำงานอะไรนั้นงานที่ตนทำก็พอมี แต่ว่าตนมีคนอีก 35 คน ที่ทำงานกับตน ตนมาพูดจาอะไรต่างๆ เพราะคนที่เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องแสดงให้คนที่เขาเป็นประชาชนที่เขาดู ได้รู้ว่ามันเป็นคนมีความคิดบ้าง ดังนั้นตนก็จะจัดรายการเรื่องนั้น เรื่องนี้ ซึ่งเมื่อจัดรายการเสร็จตนก็จะต่อท้ายด้วยสารคดีของตน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายสมัครได้เล่าย้อนให้ฟังถึงสารคดีที่จัดทำขึ้นพิเศษในรายการ อาทิ ทฤษฎีเศษสตางค์ เรื่องน่าคิดจากผู้ผลิตถึงผู้บริโภค ทุกข์เพราะเป็นหนี้กับวิธีแก้ทุกข์ และเรื่องทุกข์ของหมอ และนายสมัครได้ย้ำว่า
"คนที่บริหารบ้านเมืองนี้มีความคิด ไม่ใช่มานั่งทื่อๆ เท่อๆ ไปนั่งเปิดร้าน ตัดริบบิ้น ไม่ใช่ คิดให้ฟังว่าคิดอะไรยังไง"
**โต้ข้อหา"นอมินีซีพี"
จากนั้นนายสมัคร กล่าวถึงแนวคิดในการแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตร ของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานเครือซีพีว่า เขาเป็นนักธุรกิจ เมื่อเขาพูด แล้วนายกรัฐมนตรีจะสนใจที่เขาพูด แล้วหาหนทางแก้ไขไม่ได้หรือ
"กลายเป็นว่า เป็นพวกพ้องนายกรัฐมนตรี คนนั้นคนนี้ เป็นพวกพ้อง ไปอ่านหนังสือพิมพ์สิครับ ผมก็ไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์ เหมือนกับไอ้นายกฯ มันต้องไปฟัง แล้วถ้าเราไม่ฟังที่เขาออกความเห็น ที่มันน่าคิด ฟังไหม ซึ่งหลังจากที่ผมกลับจากสิงคโปร์กลับมาอ่านหนังสือว่า ไอ้สมัครไปคิด นายห้างซีพี คิดยังไงนายสมัครคิดยังงั้น เอ๊ะ ก็เขาพูดออกสาธารณะชวนให้คนดู เราก็ต้องฟังว่า มันจริงไหมอย่างที่ว่า" นายสมัครกล่าว
**ภูมิใจคำชม"หมักไม่เปลี่ยนสี"
นายสมัคร กล่าวถึงการเดินทางไปเยือนสิงคโปร์ และได้พบกับประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ ซึ่ง 35 ปีมาแล้ว ท่านประธานาธิบดียังจำตนได้ ซึ่งได้คุยกันหลายเรื่อง แต่ตนเอามาเล่าให้ฟังไม่ได้ และเมื่อคุยจะจบ ท่านประธานาธิบดีตบไหล่แล้วบอกว่า มิสเตอร์สมัคร สีของคุณไม่เคยเปลี่ยน ยัวคัลเล่อเนฟเว่อเช้นจ์ (your color never change)
**ให้ประชาชนช่วยหัวเราะเยาะสื่อ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายของรายการ นายสมัคร กล่าวตอบคำถามโอยอ้างว่า ประชาชนถามว่า ทุกวันนี้บ้านเมืองวุ่นวายเพราะสื่อเป็นเหตุ และขอให้นายกฯ กำชับสื่อให้เสนอข่าวสร้างสรรค์ นายสมัคร กล่าวว่า เขาสั่งมาแล้วว่า ไม่ให้พูดไม่ให้จา ไม่ให้ดูแคลนแตะต้องสื่อ อีกทั้งอิสระเสรีภาพของสื่อมวลชนในประเทศไทยอยู่เหนือสิ่งอื่นใด แตะต้องไม่ได้หรอกครับ ต้องให้เขามีอิสระเสรีภาพ เราก็ดูเขาว่าจะเป็นยังไง
"เราสิครับ ที่เป็นคนบริโภคสื่อ เราควรจะดูเลยว่าเมื่อเขาเสนอมายังงั้นเราจะเป็นยังไง ถ้าไม่เคยรู้เลย ก็ขอบคุณมาก แต่ถ้าเสนอข่าวแล้วสมควรหัวเราะเยาะ ก็หัวเราะดังดังเลยครับ ปุโธ่เฮ๊ย สติปัญญามีแค่นี้ ท่านจะมาทำหนังสือพิมพ์ เราก็ทำได้ ส่วนตัวของเรา ในสาธารธชนไม่ต้องหรอกครับ ไม่ชอบก็ไม่ต้องซื้ออ่าน ชอบก็ซื้อ 2 ฉบับแจกเพื่อนเลย" นายสมัคร กล่าว
**จวกคกก.สิ่งแวดล้อมตัวถ่วง
นายสมัคร ยังกล่าวถึง ถึงอุปสรรคในการทำงานของรัฐบาลว่า นายสหัส บัณฑิตกุล รองนายกรัฐมนตรี ฐานะกำกับดูแลงานด้านเมกะโปรเจกต์ ของรัฐบาลว่า ปัญหาตอนนี้คือ ทำอะไรมันติดขัดชักช้า นายสหัสได้มาบ่นกับตนว่าติดขัดเรื่องอีไอเอหรือ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
"ไอ้ความยุ่งยากทั้งหลายทั้งปวงในบ้านเมือง ผมพูดตรงๆ ด้วยว่าสิ่งแวดล้อมมันเข้าไปแวดล้อมทุกสิ่ง แวดล้อมจนทำอะไรไม่ได้ กระดิกกระเดี้ยไม่ได้ ไม่ได้"
นายสมัคร กล่าวยกตัวอย่างว่า อย่างกรณีรถขนส่งมวลชนข้ามฟากที่ตนทำสมัยเป็นผู้ว่าฯ กทม.ทำที่สถานีตากสิน ระยะทาง 4.3 กม. กำลังจะดำเนินการเพื่อของบประมาณมาทำสถานี และราง แต่สุดท้ายให้ อีไอเอได้แค่ 2.2 กม. จึงได้แค่วงเวียนใหญ่ แต่ปัจจุบันต่อจากที่ตนทำเป็น 6.8 กม.แล้ว
"แปลว่ายังไง แปลว่าคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมเห็นว่า ทุกอย่างปลอดภัย ให้แค่ 2.2 กม. แล้วไอ้ 6.8 กม.สร้างไว้เสร็จเรียบร้อย ทำไมไม่ห้ามสร้างเสียตั้งแต่แรก แล้วสุดท้ายยังไง ก็ต้องให้ แล้วถ่วงไว้ทำไม ต้องพูดตรงๆ ยังงี้แหละ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม แวดล้อมทุกสิ่ง เดือดร้อนกันหมดครับ"นายสมัคร กล่าว และยกตัวอย่างถึงการตั้งโรงงานว่า มีการนับจำนวนคาร์บอนว่า มีปริมาณเท่าไร ซึ่งที่ตรงนั้นขอทำโรงงาน ไม่ได้สร้างหรอก เพราะเขาบอกว่าคาร์บอนเต็มแล้ว สร้างไม่ได้ ฉะนั้นนี่คือปัญหาของบ้านเมือง
นายสมัคร กล่าวอีกว่านายกรัฐมนตรีทั่วไปเกรงใจคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม เพราะต้องการเอาหน้าว่าเป็นคนดี แต่สำหรับตนไม่ใช่ เพราะตนฟัดมาตั้งแต่อยู่ผู้ว่าฯกทม.
"ให้ไปแหวกคณะกรรมการชุดนี้ดูชื่อว่ามีใครบ้าง ดีทั้งนั้นเลย จะทำดีหมดเลย แต่ว่าธุรกิจของชาวบ้านจะเดือดร้อนยังไง ไม่มีใครรับผิดชอบ แต่ผมจะรับผิดชอบ และผมจะตามไปดูและตามไปแหวก"
**แฉเปิดบริษัทอนุมัติอีไอเอ30ล้าน
นายสมัคร กล่าวว่า จะนินทาต่อได้ว่า มีคณะบริษัท มีบริษัทที่จะตั้ง การตรวจสอบสิ่งแวดล้อมนั้นบีบบริษัทตั้งไว้เลยว่า บริษัทนี้ไม่ผ่านหรอก
"แต่ถ้าบริษัทนี้ทำ บริษัทนี้ทำ เท่าไรทราบไหมครับ10 ล้าน 20 ล้าน 30 ล้าน ทำกันเรื่องสิ่งแวดล้อมนะครับ ไอ้บริษัทพวกนี้แหละครับ ตั้งทำมาหากิน เข้าผิดบริษัท ไม่ผ่าน ถูกต้องบริษัทปั๊บผ่านพั๊วะเลย จริงไม่จริงไปดูสิ ถ้าผมพูดยังไงก็เอาเลย จะทำยังไงกับผมก็เอา" นายสมัคร กล่าว
**เบรกลิ่วล้อห้ามจัดม็อบชนม็อบ
นายสมัคร ยังกล่าวถึงกรณี ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน เตรียมจัดม็อบ ป่วนการสัมมนาของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ ว่า ไม่ใช่พวกของตน เขาเป็น ส.ส.ของตนคนหนึ่ง เขาไปคิด ตนก็ออกปากห้าม บอกว่าไม่ต้องออกไป ตนก็พูดแค่นี้ ใครไปเชิญไปชวน กรุณาอย่าออกไป
"พูดกันชัดเจนเลยนะครับ ไม่ต้องไปต่อต้าน ไม่ต้อง ให้เขาแสดงไปข้างเดียวครับ คนทั้งบ้านทั้งเมืองจะได้เห็นว่า มันมีเหตุผลอะไร บริหารบ้านเมืองมาได้เดือนครึ่งเท่านั้น หาว่าผมจัดตั้งรัฐตำรวจ จัดการอะไรต่างๆ ตั้งเลยว่า ทักษิณกลับมาแล้ว ทักษิณ กลับมาอีกแล้ว ไหวไหมครับอย่างนี้ กระโดกกระเดกล้มลุกคลุกคลานจนโงหัวแทบไม่ขึ้น พอตั้งตัวได้จะได้ถอนหายใจว่าเอ้อสักที เอาอีกแล้วครับ ผมบอกว่าปล่อยให้เขาเอาไป จะกี่หัวกี่หาง 1 2 3 4 5 ว่ากันไป คนของพรรคการเมืองไปร่วม หัวหน้าพรรคเขารับรองแล้ว มีสิทธิ แต่ของผมไม่มีสิทธิครับ ของผมบอกไม่ ผมไม่เอาอย่างงั้น ส.ส.เหมือนกันครับ อยู่สมุทรปราการ เนี่ย ผมต้องออกปากทางโทรทัศน์เลย อย่าออกไป ในฐานะหัวหน้าพรรค อย่าออกไป ไม่งั้นไปเป็นเหยื่อไป เป็นเครื่องมือของเขา ไม่ได้หน้าตาอะไรขึ้นมาหรอกครับ ไม่ต้องต่อต้าน ดูสิว่าจะออกโรงกันเท่าไร จะนั่งดูสิว่าเขาจะทำยังไง"
นายสมัคร กล่าวด้วยว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ให้สถานที่ เราก็ไม่ขอให้ลำบากใจอธิการบดีเปล่าๆ ท่านจะให้ให้เลย แล้วเราจะดูสิว่า ทั้งบ้านทั้งเมืองจะได้เห็นว่าใครมันดี ใครมันเลว ใครมันทำอะไรเสียหาย หรือว่าถ้าปฏิวัติยึดอำนาจทำได้ แต่ว่าประชาธิปไตยเลือกตั้งมา มีคนทักท้วงว่าทำไม่ได้
**พันธมิตรฯนัดหารือ 26 มี.ค.
ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ในวันพุธที่ 26 มี.ค.นี้ พันธมิตรฯ จะประชุมหารือกันเป็นกรณีเร่งด่วน ซึ่งมีเซอร์ไพรส์แน่นอน และจะจัดสัมมนาประชาชนในวันที่ 28 มี.ค.ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อกำหนดท่าทีต่อการรื้อรัฐธรรมนูญของรัฐบาล และเพียงเพื่อสื่อสารกับประชาชน ซึ่งในขณะนี้ลงตัวและพร้อมเต็มที่
นายสุริยะใส ยืนยันว่า การสัมมนาครั้งนี้ ไม่ใช่การชุมนุมกดดันหรือเดินขบวนขับไล่รัฐบาล แต่ต้องการสะท้อนความไม่ชอบมาพากลในการบริหารงานของรัฐบาลให้ประชาชนได้รับรู้รับทราบเท่านั้น โดยจะเป็นการจัดกิจกรรมวันเดียวให้จบ ไม่ยืดเยื้อหรือมีวาระซ่อนเร้น หลัง 23.00 น. การสัมมนาจะยุติอย่างแน่นอน
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เริ่มต้นรายการสนทนาประสาสมัคร ทางช่อง 11 และวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ เมื่อเช้าวานนี้ (23มี.ค.) ว่า ตนมาพูดออกโทรทัศน์ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 แล้วปรากฏว่าก่อนมา มีแต่คนบอกว่าขอไม่ให้พูดเรื่องหนังสือพิมพ์ ไม่ให้ตำหนิ ไม่ให้ว่า ไม่ให้ออกความเห็นตอบโต้หนังสือพิมพ์
"แล้วผมจะจัดรายการนี้ทำไม ถ้าเผื่ออย่างนั้น ก็เขาว่ากันโครมโครม เขาบอกว่าเขาเป็นกระจกส่อง แล้วผมก็บอกว่าอะไร เป็นอะไร ยังไง ไอ้รายการนี้คือการที่ผู้คนทั้งบ้านทั้งเมืองเสพข่าว เสพหนังสือพิมพ์ เสพอะไรต่างๆ แล้วบ้านเมืองนี้ก็มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เขาจะตำหนิติเตียนยังไงก็ทำได้ สถานีราชการ ตำหนินายกรัฐมนตรียังว่าได้เลยครับ ไม่เป็นปัญหา สถานีโทรทัศน์บางช่องเขาก็มีคนจัดรายการ มาจากไหนก็ไม่รู้ มาจัดรายการ พูดจาว่ากล่าวกระแทกแดกดัน เรายังไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอะไรยังไงเลย นี่ปัญหามันคือว่า จะให้เขานั่งถลุงเราข้างเดียว แล้วไม่ตอบ ไม่พูดเลย ไม่ช้าไม่นานก็จะมีปฏิวัติยึดอำนาจอีก ถ้าแบบนั้นหละก็ มันก็เลวตามที่เขาว่ากล่าว" นายสมัครกล่าว
นายสมัคร กล่าวยืนยันว่า ตนจะใช้ช่องทางนี้ จะอธิบายความ แต่เมื่อตนพูดแล้ว มีวิพากษ์วิจารณ์กลับมา ตนก็ต้องทำความเข้าใจกับประชาชน
"คนหนังสือพิมพ์เขาเป็นคนเขียน วิพากษ์วิจารณ์ผม วิทยุ โทรทัศน์ก็วิพากษ์วิจารณ์ แต่ปัญหาว่ามันต้องร่วมผสมผสานกันกัน ปล่อยให้เขาถลุง อยู่ข้างเดียว แล้วยังไง แล้วเราก็บอกว่าจะเอางาน ต้องส่งงาน ต้องแสดงเรื่องงาน เรื่องงานเรื่องาน ผมก็ทำเรื่องงานเรื่องงาน เอาหละครับ คราวที่แล้วเขาก็ตำหนิว่า โอย นั่นก็พูดๆๆ ไม่ทำอะไร นั่งแต่พูดๆ แปลว่าที่นั่งมานี่ไม่ได้ประโยชน์ ผมต้องทำความเข้าใจว่า มันมีประโยชน์บ้าง" นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวอีกว่า แล้วจริงๆ การจะทำงานอะไรนั้นงานที่ตนทำก็พอมี แต่ว่าตนมีคนอีก 35 คน ที่ทำงานกับตน ตนมาพูดจาอะไรต่างๆ เพราะคนที่เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องแสดงให้คนที่เขาเป็นประชาชนที่เขาดู ได้รู้ว่ามันเป็นคนมีความคิดบ้าง ดังนั้นตนก็จะจัดรายการเรื่องนั้น เรื่องนี้ ซึ่งเมื่อจัดรายการเสร็จตนก็จะต่อท้ายด้วยสารคดีของตน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายสมัครได้เล่าย้อนให้ฟังถึงสารคดีที่จัดทำขึ้นพิเศษในรายการ อาทิ ทฤษฎีเศษสตางค์ เรื่องน่าคิดจากผู้ผลิตถึงผู้บริโภค ทุกข์เพราะเป็นหนี้กับวิธีแก้ทุกข์ และเรื่องทุกข์ของหมอ และนายสมัครได้ย้ำว่า
"คนที่บริหารบ้านเมืองนี้มีความคิด ไม่ใช่มานั่งทื่อๆ เท่อๆ ไปนั่งเปิดร้าน ตัดริบบิ้น ไม่ใช่ คิดให้ฟังว่าคิดอะไรยังไง"
**โต้ข้อหา"นอมินีซีพี"
จากนั้นนายสมัคร กล่าวถึงแนวคิดในการแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตร ของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานเครือซีพีว่า เขาเป็นนักธุรกิจ เมื่อเขาพูด แล้วนายกรัฐมนตรีจะสนใจที่เขาพูด แล้วหาหนทางแก้ไขไม่ได้หรือ
"กลายเป็นว่า เป็นพวกพ้องนายกรัฐมนตรี คนนั้นคนนี้ เป็นพวกพ้อง ไปอ่านหนังสือพิมพ์สิครับ ผมก็ไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์ เหมือนกับไอ้นายกฯ มันต้องไปฟัง แล้วถ้าเราไม่ฟังที่เขาออกความเห็น ที่มันน่าคิด ฟังไหม ซึ่งหลังจากที่ผมกลับจากสิงคโปร์กลับมาอ่านหนังสือว่า ไอ้สมัครไปคิด นายห้างซีพี คิดยังไงนายสมัครคิดยังงั้น เอ๊ะ ก็เขาพูดออกสาธารณะชวนให้คนดู เราก็ต้องฟังว่า มันจริงไหมอย่างที่ว่า" นายสมัครกล่าว
**ภูมิใจคำชม"หมักไม่เปลี่ยนสี"
นายสมัคร กล่าวถึงการเดินทางไปเยือนสิงคโปร์ และได้พบกับประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ ซึ่ง 35 ปีมาแล้ว ท่านประธานาธิบดียังจำตนได้ ซึ่งได้คุยกันหลายเรื่อง แต่ตนเอามาเล่าให้ฟังไม่ได้ และเมื่อคุยจะจบ ท่านประธานาธิบดีตบไหล่แล้วบอกว่า มิสเตอร์สมัคร สีของคุณไม่เคยเปลี่ยน ยัวคัลเล่อเนฟเว่อเช้นจ์ (your color never change)
**ให้ประชาชนช่วยหัวเราะเยาะสื่อ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายของรายการ นายสมัคร กล่าวตอบคำถามโอยอ้างว่า ประชาชนถามว่า ทุกวันนี้บ้านเมืองวุ่นวายเพราะสื่อเป็นเหตุ และขอให้นายกฯ กำชับสื่อให้เสนอข่าวสร้างสรรค์ นายสมัคร กล่าวว่า เขาสั่งมาแล้วว่า ไม่ให้พูดไม่ให้จา ไม่ให้ดูแคลนแตะต้องสื่อ อีกทั้งอิสระเสรีภาพของสื่อมวลชนในประเทศไทยอยู่เหนือสิ่งอื่นใด แตะต้องไม่ได้หรอกครับ ต้องให้เขามีอิสระเสรีภาพ เราก็ดูเขาว่าจะเป็นยังไง
"เราสิครับ ที่เป็นคนบริโภคสื่อ เราควรจะดูเลยว่าเมื่อเขาเสนอมายังงั้นเราจะเป็นยังไง ถ้าไม่เคยรู้เลย ก็ขอบคุณมาก แต่ถ้าเสนอข่าวแล้วสมควรหัวเราะเยาะ ก็หัวเราะดังดังเลยครับ ปุโธ่เฮ๊ย สติปัญญามีแค่นี้ ท่านจะมาทำหนังสือพิมพ์ เราก็ทำได้ ส่วนตัวของเรา ในสาธารธชนไม่ต้องหรอกครับ ไม่ชอบก็ไม่ต้องซื้ออ่าน ชอบก็ซื้อ 2 ฉบับแจกเพื่อนเลย" นายสมัคร กล่าว
**จวกคกก.สิ่งแวดล้อมตัวถ่วง
นายสมัคร ยังกล่าวถึง ถึงอุปสรรคในการทำงานของรัฐบาลว่า นายสหัส บัณฑิตกุล รองนายกรัฐมนตรี ฐานะกำกับดูแลงานด้านเมกะโปรเจกต์ ของรัฐบาลว่า ปัญหาตอนนี้คือ ทำอะไรมันติดขัดชักช้า นายสหัสได้มาบ่นกับตนว่าติดขัดเรื่องอีไอเอหรือ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
"ไอ้ความยุ่งยากทั้งหลายทั้งปวงในบ้านเมือง ผมพูดตรงๆ ด้วยว่าสิ่งแวดล้อมมันเข้าไปแวดล้อมทุกสิ่ง แวดล้อมจนทำอะไรไม่ได้ กระดิกกระเดี้ยไม่ได้ ไม่ได้"
นายสมัคร กล่าวยกตัวอย่างว่า อย่างกรณีรถขนส่งมวลชนข้ามฟากที่ตนทำสมัยเป็นผู้ว่าฯ กทม.ทำที่สถานีตากสิน ระยะทาง 4.3 กม. กำลังจะดำเนินการเพื่อของบประมาณมาทำสถานี และราง แต่สุดท้ายให้ อีไอเอได้แค่ 2.2 กม. จึงได้แค่วงเวียนใหญ่ แต่ปัจจุบันต่อจากที่ตนทำเป็น 6.8 กม.แล้ว
"แปลว่ายังไง แปลว่าคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมเห็นว่า ทุกอย่างปลอดภัย ให้แค่ 2.2 กม. แล้วไอ้ 6.8 กม.สร้างไว้เสร็จเรียบร้อย ทำไมไม่ห้ามสร้างเสียตั้งแต่แรก แล้วสุดท้ายยังไง ก็ต้องให้ แล้วถ่วงไว้ทำไม ต้องพูดตรงๆ ยังงี้แหละ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม แวดล้อมทุกสิ่ง เดือดร้อนกันหมดครับ"นายสมัคร กล่าว และยกตัวอย่างถึงการตั้งโรงงานว่า มีการนับจำนวนคาร์บอนว่า มีปริมาณเท่าไร ซึ่งที่ตรงนั้นขอทำโรงงาน ไม่ได้สร้างหรอก เพราะเขาบอกว่าคาร์บอนเต็มแล้ว สร้างไม่ได้ ฉะนั้นนี่คือปัญหาของบ้านเมือง
นายสมัคร กล่าวอีกว่านายกรัฐมนตรีทั่วไปเกรงใจคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม เพราะต้องการเอาหน้าว่าเป็นคนดี แต่สำหรับตนไม่ใช่ เพราะตนฟัดมาตั้งแต่อยู่ผู้ว่าฯกทม.
"ให้ไปแหวกคณะกรรมการชุดนี้ดูชื่อว่ามีใครบ้าง ดีทั้งนั้นเลย จะทำดีหมดเลย แต่ว่าธุรกิจของชาวบ้านจะเดือดร้อนยังไง ไม่มีใครรับผิดชอบ แต่ผมจะรับผิดชอบ และผมจะตามไปดูและตามไปแหวก"
**แฉเปิดบริษัทอนุมัติอีไอเอ30ล้าน
นายสมัคร กล่าวว่า จะนินทาต่อได้ว่า มีคณะบริษัท มีบริษัทที่จะตั้ง การตรวจสอบสิ่งแวดล้อมนั้นบีบบริษัทตั้งไว้เลยว่า บริษัทนี้ไม่ผ่านหรอก
"แต่ถ้าบริษัทนี้ทำ บริษัทนี้ทำ เท่าไรทราบไหมครับ10 ล้าน 20 ล้าน 30 ล้าน ทำกันเรื่องสิ่งแวดล้อมนะครับ ไอ้บริษัทพวกนี้แหละครับ ตั้งทำมาหากิน เข้าผิดบริษัท ไม่ผ่าน ถูกต้องบริษัทปั๊บผ่านพั๊วะเลย จริงไม่จริงไปดูสิ ถ้าผมพูดยังไงก็เอาเลย จะทำยังไงกับผมก็เอา" นายสมัคร กล่าว
**เบรกลิ่วล้อห้ามจัดม็อบชนม็อบ
นายสมัคร ยังกล่าวถึงกรณี ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน เตรียมจัดม็อบ ป่วนการสัมมนาของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ ว่า ไม่ใช่พวกของตน เขาเป็น ส.ส.ของตนคนหนึ่ง เขาไปคิด ตนก็ออกปากห้าม บอกว่าไม่ต้องออกไป ตนก็พูดแค่นี้ ใครไปเชิญไปชวน กรุณาอย่าออกไป
"พูดกันชัดเจนเลยนะครับ ไม่ต้องไปต่อต้าน ไม่ต้อง ให้เขาแสดงไปข้างเดียวครับ คนทั้งบ้านทั้งเมืองจะได้เห็นว่า มันมีเหตุผลอะไร บริหารบ้านเมืองมาได้เดือนครึ่งเท่านั้น หาว่าผมจัดตั้งรัฐตำรวจ จัดการอะไรต่างๆ ตั้งเลยว่า ทักษิณกลับมาแล้ว ทักษิณ กลับมาอีกแล้ว ไหวไหมครับอย่างนี้ กระโดกกระเดกล้มลุกคลุกคลานจนโงหัวแทบไม่ขึ้น พอตั้งตัวได้จะได้ถอนหายใจว่าเอ้อสักที เอาอีกแล้วครับ ผมบอกว่าปล่อยให้เขาเอาไป จะกี่หัวกี่หาง 1 2 3 4 5 ว่ากันไป คนของพรรคการเมืองไปร่วม หัวหน้าพรรคเขารับรองแล้ว มีสิทธิ แต่ของผมไม่มีสิทธิครับ ของผมบอกไม่ ผมไม่เอาอย่างงั้น ส.ส.เหมือนกันครับ อยู่สมุทรปราการ เนี่ย ผมต้องออกปากทางโทรทัศน์เลย อย่าออกไป ในฐานะหัวหน้าพรรค อย่าออกไป ไม่งั้นไปเป็นเหยื่อไป เป็นเครื่องมือของเขา ไม่ได้หน้าตาอะไรขึ้นมาหรอกครับ ไม่ต้องต่อต้าน ดูสิว่าจะออกโรงกันเท่าไร จะนั่งดูสิว่าเขาจะทำยังไง"
นายสมัคร กล่าวด้วยว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ให้สถานที่ เราก็ไม่ขอให้ลำบากใจอธิการบดีเปล่าๆ ท่านจะให้ให้เลย แล้วเราจะดูสิว่า ทั้งบ้านทั้งเมืองจะได้เห็นว่าใครมันดี ใครมันเลว ใครมันทำอะไรเสียหาย หรือว่าถ้าปฏิวัติยึดอำนาจทำได้ แต่ว่าประชาธิปไตยเลือกตั้งมา มีคนทักท้วงว่าทำไม่ได้
**พันธมิตรฯนัดหารือ 26 มี.ค.
ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ในวันพุธที่ 26 มี.ค.นี้ พันธมิตรฯ จะประชุมหารือกันเป็นกรณีเร่งด่วน ซึ่งมีเซอร์ไพรส์แน่นอน และจะจัดสัมมนาประชาชนในวันที่ 28 มี.ค.ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อกำหนดท่าทีต่อการรื้อรัฐธรรมนูญของรัฐบาล และเพียงเพื่อสื่อสารกับประชาชน ซึ่งในขณะนี้ลงตัวและพร้อมเต็มที่
นายสุริยะใส ยืนยันว่า การสัมมนาครั้งนี้ ไม่ใช่การชุมนุมกดดันหรือเดินขบวนขับไล่รัฐบาล แต่ต้องการสะท้อนความไม่ชอบมาพากลในการบริหารงานของรัฐบาลให้ประชาชนได้รับรู้รับทราบเท่านั้น โดยจะเป็นการจัดกิจกรรมวันเดียวให้จบ ไม่ยืดเยื้อหรือมีวาระซ่อนเร้น หลัง 23.00 น. การสัมมนาจะยุติอย่างแน่นอน