ซีพีร่วมกับกรมปศุสัตว์เปิดศูนย์อนุรักษ์และพัฒนาควายไทย

ศูนย์ข่าวศรีราชา - บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมกับกรมปศุสัตว์ เปิดศูนย์อนุรักษ์และพัฒนาควายไทย พร้อมมอบน้ำเชื้อพ่อควายพันธุ์ดี จำนวน 26,000 หลอด มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ให้กรมปศุสัตว์ใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาพันธุ์ควายไทย นำไปแจกจ่ายเกษตรกร

วันนี้ (21 มี.ค.) ที่บริเวณศูนย์อนุรักษ์และพัฒนาควายไทย ตำบลหนองชาก อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี นายศักดิ์ชัย ศรีบุญซื่อ อธิบดีกรมปศุสัตว์ นายวัลลภ เจียรวนนท์ รองประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และนายสาโรจน์ เจียระคงมั่น ประธานคณะทำงานโครงการ ฯ พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติ ร่วมกันเปิดศูนย์อนุรักษ์และพัฒนาควายไทย อย่างเป็นทางการ

นายสาโรจน์ เจียระคงมั่น ประธานคณะทำงานโครงการศูนย์อนุรักษ์และพัฒนาควายไทย กล่าวว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาพบว่า ควายในประเทศไทยมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงปี 2540 มีควายทั้งสิ้น 2,293,938 ตัว แต่ในปี 2549 จำนวนควายลดลงเหลือเพียง 1,351,851 ตัว ซึ่งลดไป 58.93 % ที่สำคัญควายไทยที่เหลืออยู่ส่วนใหญ่มีขนาดเล็กและไม่ได้มาตรฐานควายไทย

สาเหตุดังกล่าวทำให้เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะบริษัทชั้นนำด้านการเกษตร จึงมีแนวความคิดก่อตั้งศูนย์อนุรักษ์และพัฒนาควายไทยขึ้นมา เพื่อใช้เป็นศูนย์รวมของพ่อพันธุ์ควายชั้นดี เพื่อผลิตน้ำเชื้อควายสายพันธุ์ดี สำหรับใช้ในการปรับปรุงสายพันธุ์ควายไทยให้มีโครงสร้างใหญ่ และมีน้ำหนักมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มมูลค่า นอกจากนั้นยังสามารถใช้ศูนย์ฯแห่งนี้ เป็นศูนย์วิชาการและส่งเสริมการเลี้ยงควายให้แก่เกษตรกรได้อีกด้วย

นายสาโรจน์ กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันศูนย์อนุรักษ์และพัฒนาควายไทยแห่งนี้ ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานฟาร์มและมาตรฐานการผลิตน้ำเชื้อจากกรมปศุสัตว์ โดยมีควายพ่อพันธุ์ที่เป็นแชมป์ระดับประเทศทั้งหมด 6 ตัว สามารถผลิตน้ำเชื้อได้ถึงปีละ 26,000 หลอด ซึ่งทางศูนย์ฯจะมอบน้ำเชื้อพ่อควายพันธุ์ดีที่ทางศูนย์ฯผลิตได้ทั้งหมดให้กับกรมปศุสัตว์เป็นประจำทุกปี

สำหรับในปีนี้เป็นปีแรก ที่ศูนย์ฯผลิตน้ำเชื้อได้จำนวน 26,000 หลอด มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท โดยผ่านอธิบดีกรมปศุสัตว์ นำไปมอบให้แก่สำนักเทคโนโลยีชีวภาพการผลิตปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ เพื่อนำไปส่งเสริมให้เกษตรกรได้ใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาสายพันธุ์ควายไทยในอนาคตต่อไป

นายสาโรจน์ กล่าวว่า ศูนย์ฯดังกล่าวเกิดขึ้นจากแนวความคิดของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ได้ไถ่ชีวิตควาย 1 คู่ จากโรงฆ่าสัตว์ หลังจากนั้นได้ให้เกษตรกรนำไปเลี้ยงร่วมกับไก่พื้นเมืองตามวิถีชีวิตชนบทไทย โดยพบว่าการเลี้ยงควายควบคู่กับไก่ ช่วยทำให้ระบบนิเวศน์และสภาพธรรมชาติดีขึ้น ทั้งยังเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กันและกัน คือ ไก่กินข้าวเปลือก ควายกินหญ้าและวัชพืชเป็นอาหาร, ไก่ช่วยกำจัดแมลง และหนอนจากมูลควาย, มูลควายเป็นปุ๋ยบำรุงดิน ซึ่งพบว่าไก่เจริญเติบโตเร็ว แข็งแรง ลดปริมาณอาหารที่เลี้ยง นอกจากนั้นเกษตรกรยังมีรายได้จากมูลควายแห้งอีกด้วย

ด้าน นายศักดิ์ชัย ศรีบุญซื่อ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ตนยินดีอย่างยิ่งที่มีโครงการนี้เกิดขึ้น และหลังจากนี้ต่อไปทั้งหน่วยงานรัฐและภาคเอกชน พร้อมเกษตรกรจะต้องปรับปรุงสายพันธุ์ เพิ่มปริมาณควายให้เพียงพอกับความต้องการ และถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่คณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ คิดโครงการนี้ฯขึ้นมา โดยตนคาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้จะมีควายไทยที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างแน่นอน

อนึ่ง ศูนย์อนุรักษ์และพัฒนาควายไทย ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 550 ไร่ ในตำบลหนองชาก อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี โดยศูนย์ฯ ประกอบด้วยโรงเรือนพ่อพันธุ์ควายไทย ห้องปฎิบัติการแช่แข็งน้ำเชื้อ ศูนย์สาธิตเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจะเป็นจุดสาธิตการใช้ควายไถนา ,การเลี้ยงปลา ,การปลูกผักไร้ดินต้นทุนต่ำ ,การเพาะเห็ดหอม และบ้านเกษตรกรตัวอย่างในการประกอบอาชีพตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อใช้เป็นแหล่งในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้แก่เกษตรกรทั่วไป