มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารรับราชการสนองพระเดชพระคุณ จำนวน 383 นายโดยมี นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นผู้รับสนองพระราชราชโองการ วานนี้ (20 มี.ค.) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2551 เป็นต้นไป ซึ่งมีรายชื่อที่น่าสนใจดังนี้
กระทรวงกลาโหม พล.อ. สมเจตน์ บุญถนอม ผอ.สำนักงบประมาณกลาโหม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการ คมช. ซึ่งเป็นนายทหารคนใกล้ชิดกับ พล.อ. วินัย ภัททยิกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม และมีบทบาทในการสกัดการเคลื่อนไหวของ นาย ยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ถูกปรับเป็น ประธานคณะที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม (อัตราจอมพล) ซึ่งครองยศสูงขึ้น เพื่อรอเกษียณ ในเดือนต.ค.นี้ โดยขยับเอา พล.อ. รังสาทย์ แช่มเชื้อ (ตท.10) เป็น ผอ.สำนักงบประมาณกลาโหมแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการโยกย้ายครั้งนี้ เตรียมทหารรุ่น 10 (ตท.10) ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ได้รับการพิจารณาเข้าสู่ตำแหน่งสำคัญอีกครั้งภายหลังถูกปรับย้ายไปหลังการปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 คือ พล.อ.ท.สุเมธ์ โพธิ์มณี ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ. เป็น หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการประจำรมว.กลาโหม (อัตราพลเอก) พล.ต.พฤณฑ์ สุวรรณทัต อดีตผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.) พล.ต. มนัส เปาริก อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 3 และ พล.อ.ต. พงษ์ธร บัวทรัพย์ อดีตเจ้ากรมสรรพาวุธทหารอากาศ เป็นผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายเสนาธิการประจำรมว.กลาโหม (อัตราพลโท)
พล.อ.อ. สุกำพล สุวรรณทัต ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพอากาศ ซึ่งมีความขัดแย้งกับ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. ถูกเด้งพ้นกองทัพอากาศมาเป็น ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และ พล.ต. เรืองศักดิ์ ทองดี อดีต ผบ.กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (ผบ.ปตอ.) เป็นที่ปรึกษาสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (อัตราพลโท) พล.ท. ชูชัย บุญย้อย ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ บก.ทหารสูงสุด ขยับขึ้นเป็น ผบ.ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ(ผบ.ศรภ.) แทน พล.ท. ชวลิต จารุจินดา นายทหารคนใกล้ชิด พล.อ.วินัย ที่ถูกเด้งไปนั่งรอง ผบ.หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (รอง ผบ.นทพ.)
สำหรับนายทหารใกล้ชิดกับ พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตประธาน คมช. ที่เข้ากรุ คือ พล.ท.สุนัย สัปปัตตะวนิช ผู้บัญชาการหน่วยสงครามพิเศษ (ผบ.นสศ.) เป็นที่ปรึกษากองทัพบก โดยโยกเอา พล.ท. ภุชงค์ รัตนวรรณ (ตท.10) จเรทหาร ขึ้นเป็น ผบ.นสศ. ส่วน พล.ท. พิรุณ แผ้วพลสง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ บก.ทหารสูงสุด ข้ามมาเป็น รอง เสธ.ทบ. พล.ท. กิตติทัศน์ บำเหน็จพันธุ์ ผอ.ททบ.5 เป็น เจ้ากรมการทหารสื่อสาร พล.ต. สหชาติ พิพิธกุล เป็นผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแพทย์พระมงกุฎ
ด้าน กองทัพเรือที่เป็น ตท.10 ที่ได้ขยับ มี พล.ร.ท. วัลลภ เกิดผล ผบ.โรงเรียนนายเรือ เป็นที่ปรึกษาสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (อัตรา พล.ร.อ.) พล.ร.ท. รพล คำคล้าย ผู้ช่วย เสธ.ทร.ฝ่ายยุทธการ เป็นรองเสธ.ทร. พล.ร.ท. นิพนธ์ จักษุดุลย์ เป็นที่ปรึกษากองทัพเรือ (อัตราพล.ร.อ.) พล.ร.ท. ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ เป็น ผบ.กองเรือภาคที่ 1 กองเรือยุทธการ
ส่วนกองทัพอากาศ พล.อ.ท.หม่อมหลวง สุทธิรัตน์ เกษมสันต์ ณ อยุธยา ปลัดบัญชี ทอ. ซึ่งเป็นบิดาของ “น้องนุ๊ก” นางสุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา นักร้อง นักแสดง ขึ้นเป็น ผบ.กองบัญชาการสนับสนุนทหารอากาศ
สำหรับนายทหารที่มีการปรับย้ายตำแหน่งสำคัญในกองบัญชาการทหารสูงสุด อาทิ พล.ท.ชวลิต จารุจินดา ผบ.ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ผบ.ศรภ.) เด็ก พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม อดีตเลขาธิการ คมช. ถูกย้ายไปเป็น รอง ผบ.หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา โดยดึงเอา พล.ท.ชูชัย บุญย้อย (ตท.10) มาดำรงตำแหน่ง ผบ.ศรภ.แทน
พล.ท. เสถียร เพิ่มทองอินทร์ รอง ผบ.หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (รอง ผบ.นทพ.) ได้ขึ้นเป็น ผบ.นทพ. แทน พล.อ. เหมรัฐ ขำนิล (ตท.9) ซึ่งเป็นนายทหารใกล้ชิดกับ พล.อ. บุญรอด สมทัศน์ อดีตรมว.กลาโหม ซึ่งถูกเด้งเข้ากรุเป็นที่ปรึกษาพิเศษ บก.ทหารสูงสุด พล.ต. สุรพันธ์ วงษ์ไทย เป็นเจ้ากรมยุทธศึกษาทหาร พล.ต. สุรัตน์ วรรักษ์ เป็นเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร
กองทัพบก พล.ท. บดินทร์ ลักษมีวาสิน รองเสธ.ทบ. เป็นที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก พล.ท. อารักษ์ ประภาพันธ์ เจ้ากรมการทหารสื่อสาร เป็นที่ปรึกษาพิเศษ ทบ. พล.ต. อดุล อุบล รองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก เป็น เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก พล.ต. ชาย วงคำษา รองแม่ทัพภาคที่ 1 และพล.ต. จิระพันธ์ เกษมศานติ์สุข รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นรองหัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสธ.ประจำผู้บังคับบัญชา พล.ต. คณิต สาพิทักษ์ ผบ.พล.ร.2 รอ. เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต. โฆษิต สมุทรผ่อง ผบ.กองพลพัฒนาที่ 4 ขยับขึ้นเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต. ไตรรัตน์ รังคะรัตน์ รอง ผอ.ททบ.5 เป็น ผบ.ศูนย์การทหารม้า และพ.อ.วลิต โรจนภักดี รองผบ.พล.ร.2 รอ.เป็น ผบ.พล.ร.2 รอ.
สำหรับกองทัพอากาศซึ่งมีตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ทอ.ว่างลง เนื่องจาก พล.อ.อาคม กาญจนหิรัญ ลาออกไปเป็น ส.ว. ปรากฏว่า พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. ได้ขยับเอา พล.อ.อ. พุฑฒิ มังคละพฤกษ์ ผบ.กองบัญชาการยุทธทางอากาศ (ผบ.บยอ.) ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นมงฟอร์ต กับ พ.ต.ท. ทักษิณ ขึ้นเป็น ผู้ช่วย ผบ.ทอ. และให้ พล.อ.อ. คณาพันธุ์ สงวนสัตย์ เป็น ผบ.กองบัญชาการยุทธทางอากาศ นอกจากนี้ พล.อ.ต. ระพีพัฒน์ หลาบเลิศบุญ ผู้บังคับทหารอากาศดอนเมือง (ผบ.ดม.) ขยับขึ้นเป็น ผบ.หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน (ผบ.อย.) โดยเอา พล.อ.ต. อานนท์ จารยะพันธุ์ เสธ.กรมควบคุมการปฏิบัติการทางอากาศ (คปอ.) เป็น ผบ.ดม.
นอกจากนี้ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ยังขยับน้องชาย พล.ต. ธนดล เผ่าจินดา เสธ.หน่วยบัญชาการกำลังสำรอง (เสธ.นสร.) ขึ้นเป็น รอง ผบ.นสร. เพื่อเตรียมจ่อเก้าอี้ ผบ.นสร.ในเดือนต.ค.นี้ นอกจากนี้ พ.อ.ธัญญพรหม อัศวจินดา ซึ่งเป็นนายทหารคนสนิทของ พล.อ. สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม ขยับมานั่งผู้ช่วยหัวหน้านายทหารฝ่ายเสธ.ประจำรองปลัดกระทรวงกลาโหม (อัตรา พล.ต.)
ขณะเดียวกันยังมีนายพลหญิงใหม่ของกองทัพเพิ่มอีก12 คน ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 6 คน คือ น.อ. หญิง วิชชุดา พิชญาภรณ์ เป็นผู้ชำนาญการกรมการเงินกลาโหม พ.อ.หญิง พูลศรี รัศมี พ.อ.หญิง หิรัญญา เพ็ญกิตติ พ.อ.หญิง ศรีสรัณย์ ธีรธำรง พ.อ.หญิง สุวาณี ศรีวิไลทนต์ และ พ.อ.หญิง เอี่ยมทิพย์ สิมารักษ์ เป็น ผู้ชำนาญการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม
ส่วนกองบัญชาการกองทัพไทย มี 1 คน คือ น.อ. หญิง สุรัชฎา ชลออยู่ เป็นผู้ชำนาญการกองบัญชาการทหารสูงสุด กองทัพบกมี 2 คน คือ พ.อ.หญิง ศิริรัตน์ บุญรอด และพ.อ.หญิง วราภรณ์ ทวีวุฒิทรัพย์ เป็นผู้ชำนาญการกองทัพบก และกองทัพอากาศ มี 3 คน คือ น.อ. หญิง วันเพ็ญ โพธิสุวรรณ น.อ. หญิง วีร์นะ ตระกูลฮุน และน.อ. หญิง กาญจนา เชื้อทอง เป็นผู้ชำนาญการกองทัพอากาศ
ชี้เด้งผบ.นสศ.เพื่อความเหมาะสม
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.กล่าวถึงเหตุผลในการปรับย้าย พล.ท. สุนัย สัมปัตตะวนิช ออกจากตำแหน่ง ผบ.นสศ. ไปเป็นที่ปรึกษา ทบ.ว่า ไม่มีปัญหาอะไร ก็ปรับเพื่อความเหมาะสม ซึ่งคนที่ขึ้นมาเป็นแล้ว ไม่ได้หมายความว่าต้องเป็น 3 ปี 5 ปี 7 ปี อย่างไรก็ตาม ต่อไปตนคงจะหาตำแหน่งที่ดีให้ สำหรับ พล.ท.ภุชงค์ รัตนวรรณ ก็เคยเป็น รอง ผบ.นสศ. มาก่อน และก็มีการถูกปรับออกไป เขาจะได้มีโอกาส ได้เข้ามาทำงานในหน่วยที่เขาเติบโตขึ้นมา
ผู้สื่อข่าวถามว่า เกี่ยวกับเรื่องรุ่นหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ ปฏิเสธที่จะตอบ พร้อมระบุว่า “ขอคำถามต่อไป”
ส่วนการปรับย้ายครั้งนี้เพื่อวางฐานในการปรับย้ายเดือน ตค.ใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า การปรับย้ายก็ต้องให้เหมาะสมทั้งปัจจุบันและอนาคตอยู่แล้ว ผู้สื่อข่าวซักว่า หมายความว่า โผนี้เป็นการวางฐานไว้ในการโยกย้ายปลายปีใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่มี กองทัพบกก็ทำไปตามภารกิจของตัวเองและ คิดว่า คงทำได้ดี เมื่อถามว่า จะทำให้กองทัพเหนียวแน่นและ สามัคคีกันมากขึ้นใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้พูดเรื่องเหนียวแน่นหรือไม่เหนียวแน่น กองทัพก็ทำตามภารกิจของตัวเองเท่านั้น
สมัคร,ปัดอุมอนุพงษ์อยู่ครบ3ปี
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า จะให้ พล.อ.อนุพงษ์อยู่ในตำแหน่งครบวาระ 3 ปีว่า ทำไมถามคำถามอย่างนี้ ตนไม่เคยพูดสักคำ เพียงแต่ดูตามอายุท่านจะอยู่ได้ 3 ปี แล้วมันเป็นอย่างไร ทุกคนต้องอยู่ปีเดียวแล้วเปลี่ยนหรืออย่างไร ที่ถามอย่างนี้ ตนได้ตอบคำถามใครต่อใครว่า ผบ.ทบ.คนนี้มีอายุอยู่ในราชการอีก 3 ปี ถ้าใครอยู่ได้4 ปี 5 ปี ตนก็ได้จะบอกอย่างนี้ แต่ถ้าเป็นอธิบดีอยู่ได้แค่ 4 ปีก็ต้องปรับเปลี่ยนมันเป็นไปตามหลักเกณฑ
แฉรัฐบาลสั่งเช็คงบลับปฎิวัติ
มีรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. หลังบัญชีโยกย้ายนายทหารออก ที่บ้านพักรับรองผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ อดีตประธาน คมช. พร้อมด้วย พล.อ. วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส. พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และพล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. เข้าร่วมรับประทานอาหารและหารือถึงการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารกลางปี ภายหลังมีการปรับเปลี่ยน ตท.10 เข้ามาดำรงตำแหน่งหลักหลายตำแหน่ง
รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับตำแหน่งผบ.นสศ.ที่มีการปรับเปลี่ยนนั้น ฝ่ายการเมืองได้กดดันนายสมัคร สุนทรเวช ให้มีการเปลี่ยนตัว ผบ.นสศ.เพราะเกรงว่า พล.ท. สุนัย สัปปัตตะวนิช อดีต ผบ.นสศ.ที่มีความสนิทสนมกับพล.อ.สนธิ จะมีความเคลื่อนไหว โดยเฉพาะการส่งกำลังพลจากหน่วยรบพิเศษ ไปติดตามฝ่ายนักการเมืองบางคน นายสมัครจึงได้หารือกับ พล.อ.อนุพงษ์ ถึงประเด็นดังกล่าว พล.อ.อนุพงษ์ จึงเสนอ พล.ท. ภุชงค์ รัตนวรรณ (ตท.10) จเรทหาร เข้ามาดำรงตำแหน่งแทน เพื่อจัดระเบียบให้กำลังพลกลับหน่วยที่ตั้ง
ทั้งนี้ยังได้มีการแต่งตั้ง พล.ท.ชูชัย บุญย้อย ขึ้นมาเป็นผบ.ศรภ. เพื่อมาดูแลด้านการข่าว และแต่งตั้งพล.อ. รังสาทย์ แช่มเชื้อ ขึ้นมาเป็นผอ.สำนักงบประมาณกระทรวงกลาโหม เพื่อเข้ามาตรวจสอบการใช้งบลับของคมช. ที่ใช้ในช่วงการปฏิวัติที่ผ่านมา
นอกจากนี้ นายสมัคร ยังได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด เพื่อตรวจสอบ การใช้งบลับในการปฏิวัติที่ผ่านมาตามที่กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ มีหนังสือร้องเรียนให้มีการตรวจสอบพล.อ.วินัย ภัททิยกุล และพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำงานเลขาธิการ คมช. และพล.อ. สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม และอดีตผู้ช่วยเลขาธิการคมช.
+++++++++++
ผู้ว่าฯลุยพล.ต.อ. “ส”รุกป่า
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ว่าฯโคราชเต้นนำทีมลุยตรวจพื้นที่ 2 บิ๊กตำรวจรุกป่าปากช่องตามใบสั่ง "เฉลิม" พบมีการบุกรุกเข้าปรับพื้นที่ปลูกต้นไม้ ทำฟาร์มเลี้ยงกวางและปลูกบ้านพักหรูหลายหลัง พร้อมทำรั้ว สร้างถนนคอนกรีต รอบบริเวณบนพื้นที่กว่า 1 พันไร่ เผยตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการตรวจสอบ โดยตรงเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและเป็นธรรมให้ได้ข้อสรุปใน 7 วันแต่ยังไม่เปิดชื่อผู้ครอบครองและเจ้าของสิ่งปลูกสร้างได้ในขณะนี้ เผย พล.ต.อ. “ส” กับ พล.ต.ต. “ช” คือคนที่ มท.1 สั่งเช็คบิล
วานนี้ (20 มี.ค.) นายสุธี มากบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา, นายคณีธิป บุณยเกตุ นายอำเภอปากช่อง และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง หลัง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฯเร่งตรวจสอบกรณีมีนายตำรวจระดับสูงเข้าบุกรุกพื้นที่ป่า ส.ป.ก.กว่า 1,000 ไร่และปลูกบ้านพักหรูราคากว่า 100 ล้านบาทใกล้แนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเป็นผืนป่ามรดกโลก ใน อ.ปากช่อง และให้รายงานให้ทราบภายใน 7 วัน
ทั้งนี้ คณะของนายสุธี ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าบริเวณหลังหมู่บ้านกอก หมู่ที่ 9 ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง ซึ่งมีจุดชมทิวทัศน์เป็นเนินเขาสวยงาม โดยพื้นที่ดังกล่าว มีผู้เข้าทำประโยชน์ด้วยการปรับพื้นที่ปลูกต้นไม้ ทำฟาร์มเลี้ยงกวาง ปลูกบ้านพักหรูไว้จำนวนหลายหลัง บนเนื้อที่กว่า 1 พันไร่และทำการสร้างรั้วสูงประมาณ 2 เมตร ล้อมรอบพื้นที่มีประตูเข้าออก 3 ช่องทั้ง 2 ด้าน พร้อมสร้างถนนคอนกรีตขนาดกว้าง 4 เมตร รอบบริเวณที่ดินดังกล่าว
ภายหลังตรวจสอบนายสุธี เปิดเผยว่า ตั้งแต่ตนเข้ามารับตำแหน่งที่ จ.นครราชสีมา เมื่อเดือน ต.ค.2550 ก็ได้รับข้อมูลจากสื่อมวลชนว่าในพื้นที่ อ.ปากช่อง มีการบุกรุกที่ดินจากกลุ่มผู้มีอิทธิพลจำนวนมาก ทางจังหวัดฯจึงได้ตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัดขึ้นมาตรวจสอบที่ดินทุกแปลงใน อ.ปากช่อง เพื่อแก้ไขปัญหาและทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย
สำหรับพื้นที่ที่ลงตรวจสอบในครั้งนี้จากการสอบถามทางสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมาและสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 นครราชสีมา ทราบว่า จนถึงปัจจุบันนี้ผืนป่าตรงนี้ทางกรมป่าไม้ได้ส่งมอบให้กับ ส.ป.ก.เมื่อปี 2536 ฉะนั้นจึงต้องมาดูอีกครั้งหนึ่งว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะยังไม่มีการสำรวจอย่างละเอียดถูกต้อง
ขณะนี้จึงได้ตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 27 พ.ร.บ.ปฏิรูปที่ดิน พ.ศ.2518 และแก้ไขเพิ่มเติม ขึ้นมาดูแลเรื่องนี้โดยตรง ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะประกอบด้วยหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความถูกต้องและเป็นธรรม ซึ่งที่ผ่านมา จ.นครราชสีมา ได้ทำการตรวจสอบพื้นที่ ส.ป.ก.มาหลายแห่งแล้ว เพียงแต่ไม่เป็นข่าวทางสื่อมวลชนเท่านั้น
พร้อมกันนี้ได้ประสานกับ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ในการดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย ซึ่งหากมีการแจ้งความร้องทุกข์ทางผู้บังคับการฯก็พร้อมที่จะดำเนินคดีตามกฎหมาย
“จากนี้ไปเจ้าหน้าที่คงจะลงพื้นที่ตรวจสอบว่าที่ดินดังกล่าวที่ถูกล้อมรั้วไว้มีจำนวนกี่ไร่ และการบุกรุกเข้าไปปลูกบ้านพักอาศัยจะมีความผิดตามกฎหมาย หรือไม่อย่างไรนั้น เราจะเดินตามกรอบของกฎหมายต่อไปให้ได้ข้อสรุปภายใน 7 วัน แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ทั้งหมด รวมทั้งชื่อผู้ครอบครองและเจ้าของสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ดังกล่าวด้วย” นายสุธี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ที่เข้าครอบครองและเป็นเจ้าสิ่งปลุกสร้างในพื้นที่ ส.ป.ก.ดังกล่าวเป็นของนายตำรวจชื่อย่อ "ส" ยศ พลตำรวจเอก และนายตำรวจชื่อย่อ "ช" ยศ พลตำรวจตรี ซึ่งจากการตรวจสอบการชำระภาษีบำรุงท้องที่ที่องค์การบริหารส่วนตำบล ปากช่อง พบว่ามีการใช้ชื่อทั้งบุคคลอื่น ชื่อตัวเองและคนในครอบครัว ในการครอบครองและชำระภาษี
โดย พล.ต.อ. “ส” ใช้ชื่อนายสุกิจ เดชรัตนโชค อายุ 54 ปีบ้านเลขที่ 890/10 ถ.สุขิมวิท 105 แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ เป็นผู้ครอบครองและชำระภาษีจำนวน 110 ไร่ ส่วนที่ดินอีกแปลงที่ติดกันของ พล.ต.ต. “ช” นั้น ใช้ชื่อของตัวเองและคนในครอบครัว ครอบครองและชำระภาษี รวมกว่า 1,000 ไร่
กระทรวงกลาโหม พล.อ. สมเจตน์ บุญถนอม ผอ.สำนักงบประมาณกลาโหม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการ คมช. ซึ่งเป็นนายทหารคนใกล้ชิดกับ พล.อ. วินัย ภัททยิกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม และมีบทบาทในการสกัดการเคลื่อนไหวของ นาย ยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ถูกปรับเป็น ประธานคณะที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม (อัตราจอมพล) ซึ่งครองยศสูงขึ้น เพื่อรอเกษียณ ในเดือนต.ค.นี้ โดยขยับเอา พล.อ. รังสาทย์ แช่มเชื้อ (ตท.10) เป็น ผอ.สำนักงบประมาณกลาโหมแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการโยกย้ายครั้งนี้ เตรียมทหารรุ่น 10 (ตท.10) ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ได้รับการพิจารณาเข้าสู่ตำแหน่งสำคัญอีกครั้งภายหลังถูกปรับย้ายไปหลังการปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 คือ พล.อ.ท.สุเมธ์ โพธิ์มณี ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ. เป็น หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการประจำรมว.กลาโหม (อัตราพลเอก) พล.ต.พฤณฑ์ สุวรรณทัต อดีตผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.) พล.ต. มนัส เปาริก อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 3 และ พล.อ.ต. พงษ์ธร บัวทรัพย์ อดีตเจ้ากรมสรรพาวุธทหารอากาศ เป็นผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายเสนาธิการประจำรมว.กลาโหม (อัตราพลโท)
พล.อ.อ. สุกำพล สุวรรณทัต ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพอากาศ ซึ่งมีความขัดแย้งกับ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. ถูกเด้งพ้นกองทัพอากาศมาเป็น ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และ พล.ต. เรืองศักดิ์ ทองดี อดีต ผบ.กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (ผบ.ปตอ.) เป็นที่ปรึกษาสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (อัตราพลโท) พล.ท. ชูชัย บุญย้อย ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ บก.ทหารสูงสุด ขยับขึ้นเป็น ผบ.ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ(ผบ.ศรภ.) แทน พล.ท. ชวลิต จารุจินดา นายทหารคนใกล้ชิด พล.อ.วินัย ที่ถูกเด้งไปนั่งรอง ผบ.หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (รอง ผบ.นทพ.)
สำหรับนายทหารใกล้ชิดกับ พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตประธาน คมช. ที่เข้ากรุ คือ พล.ท.สุนัย สัปปัตตะวนิช ผู้บัญชาการหน่วยสงครามพิเศษ (ผบ.นสศ.) เป็นที่ปรึกษากองทัพบก โดยโยกเอา พล.ท. ภุชงค์ รัตนวรรณ (ตท.10) จเรทหาร ขึ้นเป็น ผบ.นสศ. ส่วน พล.ท. พิรุณ แผ้วพลสง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ บก.ทหารสูงสุด ข้ามมาเป็น รอง เสธ.ทบ. พล.ท. กิตติทัศน์ บำเหน็จพันธุ์ ผอ.ททบ.5 เป็น เจ้ากรมการทหารสื่อสาร พล.ต. สหชาติ พิพิธกุล เป็นผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแพทย์พระมงกุฎ
ด้าน กองทัพเรือที่เป็น ตท.10 ที่ได้ขยับ มี พล.ร.ท. วัลลภ เกิดผล ผบ.โรงเรียนนายเรือ เป็นที่ปรึกษาสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (อัตรา พล.ร.อ.) พล.ร.ท. รพล คำคล้าย ผู้ช่วย เสธ.ทร.ฝ่ายยุทธการ เป็นรองเสธ.ทร. พล.ร.ท. นิพนธ์ จักษุดุลย์ เป็นที่ปรึกษากองทัพเรือ (อัตราพล.ร.อ.) พล.ร.ท. ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ เป็น ผบ.กองเรือภาคที่ 1 กองเรือยุทธการ
ส่วนกองทัพอากาศ พล.อ.ท.หม่อมหลวง สุทธิรัตน์ เกษมสันต์ ณ อยุธยา ปลัดบัญชี ทอ. ซึ่งเป็นบิดาของ “น้องนุ๊ก” นางสุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา นักร้อง นักแสดง ขึ้นเป็น ผบ.กองบัญชาการสนับสนุนทหารอากาศ
สำหรับนายทหารที่มีการปรับย้ายตำแหน่งสำคัญในกองบัญชาการทหารสูงสุด อาทิ พล.ท.ชวลิต จารุจินดา ผบ.ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ผบ.ศรภ.) เด็ก พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม อดีตเลขาธิการ คมช. ถูกย้ายไปเป็น รอง ผบ.หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา โดยดึงเอา พล.ท.ชูชัย บุญย้อย (ตท.10) มาดำรงตำแหน่ง ผบ.ศรภ.แทน
พล.ท. เสถียร เพิ่มทองอินทร์ รอง ผบ.หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (รอง ผบ.นทพ.) ได้ขึ้นเป็น ผบ.นทพ. แทน พล.อ. เหมรัฐ ขำนิล (ตท.9) ซึ่งเป็นนายทหารใกล้ชิดกับ พล.อ. บุญรอด สมทัศน์ อดีตรมว.กลาโหม ซึ่งถูกเด้งเข้ากรุเป็นที่ปรึกษาพิเศษ บก.ทหารสูงสุด พล.ต. สุรพันธ์ วงษ์ไทย เป็นเจ้ากรมยุทธศึกษาทหาร พล.ต. สุรัตน์ วรรักษ์ เป็นเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร
กองทัพบก พล.ท. บดินทร์ ลักษมีวาสิน รองเสธ.ทบ. เป็นที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก พล.ท. อารักษ์ ประภาพันธ์ เจ้ากรมการทหารสื่อสาร เป็นที่ปรึกษาพิเศษ ทบ. พล.ต. อดุล อุบล รองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก เป็น เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก พล.ต. ชาย วงคำษา รองแม่ทัพภาคที่ 1 และพล.ต. จิระพันธ์ เกษมศานติ์สุข รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นรองหัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสธ.ประจำผู้บังคับบัญชา พล.ต. คณิต สาพิทักษ์ ผบ.พล.ร.2 รอ. เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต. โฆษิต สมุทรผ่อง ผบ.กองพลพัฒนาที่ 4 ขยับขึ้นเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต. ไตรรัตน์ รังคะรัตน์ รอง ผอ.ททบ.5 เป็น ผบ.ศูนย์การทหารม้า และพ.อ.วลิต โรจนภักดี รองผบ.พล.ร.2 รอ.เป็น ผบ.พล.ร.2 รอ.
สำหรับกองทัพอากาศซึ่งมีตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ทอ.ว่างลง เนื่องจาก พล.อ.อาคม กาญจนหิรัญ ลาออกไปเป็น ส.ว. ปรากฏว่า พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. ได้ขยับเอา พล.อ.อ. พุฑฒิ มังคละพฤกษ์ ผบ.กองบัญชาการยุทธทางอากาศ (ผบ.บยอ.) ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นมงฟอร์ต กับ พ.ต.ท. ทักษิณ ขึ้นเป็น ผู้ช่วย ผบ.ทอ. และให้ พล.อ.อ. คณาพันธุ์ สงวนสัตย์ เป็น ผบ.กองบัญชาการยุทธทางอากาศ นอกจากนี้ พล.อ.ต. ระพีพัฒน์ หลาบเลิศบุญ ผู้บังคับทหารอากาศดอนเมือง (ผบ.ดม.) ขยับขึ้นเป็น ผบ.หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน (ผบ.อย.) โดยเอา พล.อ.ต. อานนท์ จารยะพันธุ์ เสธ.กรมควบคุมการปฏิบัติการทางอากาศ (คปอ.) เป็น ผบ.ดม.
นอกจากนี้ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ยังขยับน้องชาย พล.ต. ธนดล เผ่าจินดา เสธ.หน่วยบัญชาการกำลังสำรอง (เสธ.นสร.) ขึ้นเป็น รอง ผบ.นสร. เพื่อเตรียมจ่อเก้าอี้ ผบ.นสร.ในเดือนต.ค.นี้ นอกจากนี้ พ.อ.ธัญญพรหม อัศวจินดา ซึ่งเป็นนายทหารคนสนิทของ พล.อ. สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม ขยับมานั่งผู้ช่วยหัวหน้านายทหารฝ่ายเสธ.ประจำรองปลัดกระทรวงกลาโหม (อัตรา พล.ต.)
ขณะเดียวกันยังมีนายพลหญิงใหม่ของกองทัพเพิ่มอีก12 คน ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 6 คน คือ น.อ. หญิง วิชชุดา พิชญาภรณ์ เป็นผู้ชำนาญการกรมการเงินกลาโหม พ.อ.หญิง พูลศรี รัศมี พ.อ.หญิง หิรัญญา เพ็ญกิตติ พ.อ.หญิง ศรีสรัณย์ ธีรธำรง พ.อ.หญิง สุวาณี ศรีวิไลทนต์ และ พ.อ.หญิง เอี่ยมทิพย์ สิมารักษ์ เป็น ผู้ชำนาญการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม
ส่วนกองบัญชาการกองทัพไทย มี 1 คน คือ น.อ. หญิง สุรัชฎา ชลออยู่ เป็นผู้ชำนาญการกองบัญชาการทหารสูงสุด กองทัพบกมี 2 คน คือ พ.อ.หญิง ศิริรัตน์ บุญรอด และพ.อ.หญิง วราภรณ์ ทวีวุฒิทรัพย์ เป็นผู้ชำนาญการกองทัพบก และกองทัพอากาศ มี 3 คน คือ น.อ. หญิง วันเพ็ญ โพธิสุวรรณ น.อ. หญิง วีร์นะ ตระกูลฮุน และน.อ. หญิง กาญจนา เชื้อทอง เป็นผู้ชำนาญการกองทัพอากาศ
ชี้เด้งผบ.นสศ.เพื่อความเหมาะสม
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.กล่าวถึงเหตุผลในการปรับย้าย พล.ท. สุนัย สัมปัตตะวนิช ออกจากตำแหน่ง ผบ.นสศ. ไปเป็นที่ปรึกษา ทบ.ว่า ไม่มีปัญหาอะไร ก็ปรับเพื่อความเหมาะสม ซึ่งคนที่ขึ้นมาเป็นแล้ว ไม่ได้หมายความว่าต้องเป็น 3 ปี 5 ปี 7 ปี อย่างไรก็ตาม ต่อไปตนคงจะหาตำแหน่งที่ดีให้ สำหรับ พล.ท.ภุชงค์ รัตนวรรณ ก็เคยเป็น รอง ผบ.นสศ. มาก่อน และก็มีการถูกปรับออกไป เขาจะได้มีโอกาส ได้เข้ามาทำงานในหน่วยที่เขาเติบโตขึ้นมา
ผู้สื่อข่าวถามว่า เกี่ยวกับเรื่องรุ่นหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ ปฏิเสธที่จะตอบ พร้อมระบุว่า “ขอคำถามต่อไป”
ส่วนการปรับย้ายครั้งนี้เพื่อวางฐานในการปรับย้ายเดือน ตค.ใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า การปรับย้ายก็ต้องให้เหมาะสมทั้งปัจจุบันและอนาคตอยู่แล้ว ผู้สื่อข่าวซักว่า หมายความว่า โผนี้เป็นการวางฐานไว้ในการโยกย้ายปลายปีใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่มี กองทัพบกก็ทำไปตามภารกิจของตัวเองและ คิดว่า คงทำได้ดี เมื่อถามว่า จะทำให้กองทัพเหนียวแน่นและ สามัคคีกันมากขึ้นใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้พูดเรื่องเหนียวแน่นหรือไม่เหนียวแน่น กองทัพก็ทำตามภารกิจของตัวเองเท่านั้น
สมัคร,ปัดอุมอนุพงษ์อยู่ครบ3ปี
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า จะให้ พล.อ.อนุพงษ์อยู่ในตำแหน่งครบวาระ 3 ปีว่า ทำไมถามคำถามอย่างนี้ ตนไม่เคยพูดสักคำ เพียงแต่ดูตามอายุท่านจะอยู่ได้ 3 ปี แล้วมันเป็นอย่างไร ทุกคนต้องอยู่ปีเดียวแล้วเปลี่ยนหรืออย่างไร ที่ถามอย่างนี้ ตนได้ตอบคำถามใครต่อใครว่า ผบ.ทบ.คนนี้มีอายุอยู่ในราชการอีก 3 ปี ถ้าใครอยู่ได้4 ปี 5 ปี ตนก็ได้จะบอกอย่างนี้ แต่ถ้าเป็นอธิบดีอยู่ได้แค่ 4 ปีก็ต้องปรับเปลี่ยนมันเป็นไปตามหลักเกณฑ
แฉรัฐบาลสั่งเช็คงบลับปฎิวัติ
มีรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. หลังบัญชีโยกย้ายนายทหารออก ที่บ้านพักรับรองผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ อดีตประธาน คมช. พร้อมด้วย พล.อ. วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส. พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และพล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. เข้าร่วมรับประทานอาหารและหารือถึงการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารกลางปี ภายหลังมีการปรับเปลี่ยน ตท.10 เข้ามาดำรงตำแหน่งหลักหลายตำแหน่ง
รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับตำแหน่งผบ.นสศ.ที่มีการปรับเปลี่ยนนั้น ฝ่ายการเมืองได้กดดันนายสมัคร สุนทรเวช ให้มีการเปลี่ยนตัว ผบ.นสศ.เพราะเกรงว่า พล.ท. สุนัย สัปปัตตะวนิช อดีต ผบ.นสศ.ที่มีความสนิทสนมกับพล.อ.สนธิ จะมีความเคลื่อนไหว โดยเฉพาะการส่งกำลังพลจากหน่วยรบพิเศษ ไปติดตามฝ่ายนักการเมืองบางคน นายสมัครจึงได้หารือกับ พล.อ.อนุพงษ์ ถึงประเด็นดังกล่าว พล.อ.อนุพงษ์ จึงเสนอ พล.ท. ภุชงค์ รัตนวรรณ (ตท.10) จเรทหาร เข้ามาดำรงตำแหน่งแทน เพื่อจัดระเบียบให้กำลังพลกลับหน่วยที่ตั้ง
ทั้งนี้ยังได้มีการแต่งตั้ง พล.ท.ชูชัย บุญย้อย ขึ้นมาเป็นผบ.ศรภ. เพื่อมาดูแลด้านการข่าว และแต่งตั้งพล.อ. รังสาทย์ แช่มเชื้อ ขึ้นมาเป็นผอ.สำนักงบประมาณกระทรวงกลาโหม เพื่อเข้ามาตรวจสอบการใช้งบลับของคมช. ที่ใช้ในช่วงการปฏิวัติที่ผ่านมา
นอกจากนี้ นายสมัคร ยังได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด เพื่อตรวจสอบ การใช้งบลับในการปฏิวัติที่ผ่านมาตามที่กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ มีหนังสือร้องเรียนให้มีการตรวจสอบพล.อ.วินัย ภัททิยกุล และพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำงานเลขาธิการ คมช. และพล.อ. สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม และอดีตผู้ช่วยเลขาธิการคมช.
+++++++++++
ผู้ว่าฯลุยพล.ต.อ. “ส”รุกป่า
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ว่าฯโคราชเต้นนำทีมลุยตรวจพื้นที่ 2 บิ๊กตำรวจรุกป่าปากช่องตามใบสั่ง "เฉลิม" พบมีการบุกรุกเข้าปรับพื้นที่ปลูกต้นไม้ ทำฟาร์มเลี้ยงกวางและปลูกบ้านพักหรูหลายหลัง พร้อมทำรั้ว สร้างถนนคอนกรีต รอบบริเวณบนพื้นที่กว่า 1 พันไร่ เผยตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการตรวจสอบ โดยตรงเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและเป็นธรรมให้ได้ข้อสรุปใน 7 วันแต่ยังไม่เปิดชื่อผู้ครอบครองและเจ้าของสิ่งปลูกสร้างได้ในขณะนี้ เผย พล.ต.อ. “ส” กับ พล.ต.ต. “ช” คือคนที่ มท.1 สั่งเช็คบิล
วานนี้ (20 มี.ค.) นายสุธี มากบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา, นายคณีธิป บุณยเกตุ นายอำเภอปากช่อง และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง หลัง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฯเร่งตรวจสอบกรณีมีนายตำรวจระดับสูงเข้าบุกรุกพื้นที่ป่า ส.ป.ก.กว่า 1,000 ไร่และปลูกบ้านพักหรูราคากว่า 100 ล้านบาทใกล้แนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเป็นผืนป่ามรดกโลก ใน อ.ปากช่อง และให้รายงานให้ทราบภายใน 7 วัน
ทั้งนี้ คณะของนายสุธี ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าบริเวณหลังหมู่บ้านกอก หมู่ที่ 9 ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง ซึ่งมีจุดชมทิวทัศน์เป็นเนินเขาสวยงาม โดยพื้นที่ดังกล่าว มีผู้เข้าทำประโยชน์ด้วยการปรับพื้นที่ปลูกต้นไม้ ทำฟาร์มเลี้ยงกวาง ปลูกบ้านพักหรูไว้จำนวนหลายหลัง บนเนื้อที่กว่า 1 พันไร่และทำการสร้างรั้วสูงประมาณ 2 เมตร ล้อมรอบพื้นที่มีประตูเข้าออก 3 ช่องทั้ง 2 ด้าน พร้อมสร้างถนนคอนกรีตขนาดกว้าง 4 เมตร รอบบริเวณที่ดินดังกล่าว
ภายหลังตรวจสอบนายสุธี เปิดเผยว่า ตั้งแต่ตนเข้ามารับตำแหน่งที่ จ.นครราชสีมา เมื่อเดือน ต.ค.2550 ก็ได้รับข้อมูลจากสื่อมวลชนว่าในพื้นที่ อ.ปากช่อง มีการบุกรุกที่ดินจากกลุ่มผู้มีอิทธิพลจำนวนมาก ทางจังหวัดฯจึงได้ตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัดขึ้นมาตรวจสอบที่ดินทุกแปลงใน อ.ปากช่อง เพื่อแก้ไขปัญหาและทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย
สำหรับพื้นที่ที่ลงตรวจสอบในครั้งนี้จากการสอบถามทางสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมาและสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 นครราชสีมา ทราบว่า จนถึงปัจจุบันนี้ผืนป่าตรงนี้ทางกรมป่าไม้ได้ส่งมอบให้กับ ส.ป.ก.เมื่อปี 2536 ฉะนั้นจึงต้องมาดูอีกครั้งหนึ่งว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะยังไม่มีการสำรวจอย่างละเอียดถูกต้อง
ขณะนี้จึงได้ตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 27 พ.ร.บ.ปฏิรูปที่ดิน พ.ศ.2518 และแก้ไขเพิ่มเติม ขึ้นมาดูแลเรื่องนี้โดยตรง ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะประกอบด้วยหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความถูกต้องและเป็นธรรม ซึ่งที่ผ่านมา จ.นครราชสีมา ได้ทำการตรวจสอบพื้นที่ ส.ป.ก.มาหลายแห่งแล้ว เพียงแต่ไม่เป็นข่าวทางสื่อมวลชนเท่านั้น
พร้อมกันนี้ได้ประสานกับ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ในการดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย ซึ่งหากมีการแจ้งความร้องทุกข์ทางผู้บังคับการฯก็พร้อมที่จะดำเนินคดีตามกฎหมาย
“จากนี้ไปเจ้าหน้าที่คงจะลงพื้นที่ตรวจสอบว่าที่ดินดังกล่าวที่ถูกล้อมรั้วไว้มีจำนวนกี่ไร่ และการบุกรุกเข้าไปปลูกบ้านพักอาศัยจะมีความผิดตามกฎหมาย หรือไม่อย่างไรนั้น เราจะเดินตามกรอบของกฎหมายต่อไปให้ได้ข้อสรุปภายใน 7 วัน แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ทั้งหมด รวมทั้งชื่อผู้ครอบครองและเจ้าของสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ดังกล่าวด้วย” นายสุธี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ที่เข้าครอบครองและเป็นเจ้าสิ่งปลุกสร้างในพื้นที่ ส.ป.ก.ดังกล่าวเป็นของนายตำรวจชื่อย่อ "ส" ยศ พลตำรวจเอก และนายตำรวจชื่อย่อ "ช" ยศ พลตำรวจตรี ซึ่งจากการตรวจสอบการชำระภาษีบำรุงท้องที่ที่องค์การบริหารส่วนตำบล ปากช่อง พบว่ามีการใช้ชื่อทั้งบุคคลอื่น ชื่อตัวเองและคนในครอบครัว ในการครอบครองและชำระภาษี
โดย พล.ต.อ. “ส” ใช้ชื่อนายสุกิจ เดชรัตนโชค อายุ 54 ปีบ้านเลขที่ 890/10 ถ.สุขิมวิท 105 แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ เป็นผู้ครอบครองและชำระภาษีจำนวน 110 ไร่ ส่วนที่ดินอีกแปลงที่ติดกันของ พล.ต.ต. “ช” นั้น ใช้ชื่อของตัวเองและคนในครอบครัว ครอบครองและชำระภาษี รวมกว่า 1,000 ไร่