xs
xsm
sm
md
lg

"สมัคร"ปัด"แม้ว"ยุ่งโผทหาร "สมเจตน์"ถูกเด้งรับได้ไม่เสียใจสิ่งที่กระทำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“สมัคร” อ้อมแอ้มตอบ “ทักษิณ” ไม่เอี่ยวจัดโผทหาร เชื่อหลังเปิดชื่อทหารไม่โวย เพราะให้จัดการกันเอง ปฎิเสธไม่รู้จัก ตท.10 จึงไม่รู้ผงาดหรือไม่ ด้าน ผบ.สส.เผยดูรายชื่อแล้วไม่สะดุด รับมีฝ่ายการเมืองให้ความเห็นรายชื่อโยกย้าย ส่วน ตท.10 ขึ้นมาตามธรรมชาติ “ชลิต” ย้ำไม่มีการร้องขอจากฝ่ายการเมือง กองทัพเสนอไปไม่มีการแก้ไข “สนธิ” เมินเด็กในสายถูกเด้ง บอกมีความสุขดีกับชีวิต ขณะที่ “สมเจตน์” ให้สังคมดูเอาเอาหากถูกย้าย ยันไม่เสียใจต่อสิ่งที่กระทำไป

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกล่าวถึงความคืบหน้า การแต่งตั้งโยกย้ายทหารกลางปีที่มีการประชุมผู้นำเหล่าทัพที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่วันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ก็ควรจะเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นการประชุมรอบแรกจากนั้นก็จะส่งบัญชีรายชื่อมาให้ตน ซึ่งทุกอย่างเรียบร้อยแล้วคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร

ส่วนที่มีข่าวว่าเตรียมทหารรุ่น 10 (ตท.10) เพื่อนร่วมรุ่น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับมาผงาดอีกครั้ง นายสมัคร จ้อนถามว่า ตนไม่เห็นเลยทำไมสื่อทราบละ เขาเอาไปแจกให้ดูหรือ ผู้สื่อข่าวจึงตอบว่า นักข่าวสายทหารทราบหมดแล้ว นายสมัคร กล่าวอย่างกระท่อนกระแท่านว่า เป็นไปไม่ได้ ทหารบอกจะไม่ให้ใครดู จนกว่าจะดำเนินการ

ผู้สื่อข่าวถามว่าการแต่งตั้งโยกย้ายทหารครั้งนี้มีคำปรึกษาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่ามาถามเรื่องนี้ไม่มีทาง ไม่มีคำปรึกษาตนคิดเอง เมื่อถามว่า จะเอาเตรียมทหารรุ่น 10 ที่มีความรู้ความสามารถกลับมาหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า ตนไม่รู้จักรุ่น ตนบอกแล้วว่าที่มาตรงนี้ไม่ให้มีเรื่องรุ่น

ส่วนใช้หลักเกณฑ์อะไรในการพิจารณานั้น นายสมัคร กล่าวว่า หลักเกณฑ์ของตน หลักเกณฑ์ของเรา ผสมผสานกัน เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าหลังการโยกย้ายจะไม่มีเสียงวิจารณ์ออกมาจากกองทัพ นายสมัคร กล่าวว่า โอ้ย กองทัพพอใจแล้วจะวิจารณ์ตัวเองทำไม ตกลงกันเรียบร้อยดี แล้วจะวิจารณ์ตัวเองทำไม ต่อข้อถามว่าว่ามั่นใจว่าการโยกย้ายทหารครั้งนี้จะเป็นการสร้างมิติใหม่ คือไม่มีเสียงวิจารณ์ เหมือนในอดีต นายสมัคร กล่าวว่า แน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะชี้แจงเหตุผลการโยกย้ายได้หรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า คนที่จะชี้แจงคือฝ่ายทหาร ไม่ใช่ตน ฉะนั้นเมื่อทหารพอใจก็ไม่ต้องชี้แจงใคร ตัวเองพอใจแล้วจะไปชี้แจงอะไรกับใคร คนอื่นถ้าจะรู้ดีกว่าทหาร ก็ไปคุยกับทหาร เมื่อถามว่าหลังการโยกย้ายถ้ามีทหารคนใดออกมาโวยวาย ท่านจะชี้ให้ถามทหารพวกเดียวกันเองใช่หรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า ควรจะเป็นอย่างนั้น จะมีคนโวยวายเหรอ

ส่วนที่มีข่าวว่า พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ที่ถูกโยกย้าย มีการตั้งข้อสังเกตว่ าไม่เป็นธรรม นายสมัคร กล่าวว่า ตนยังไม่รู้เลย ไปให้สัมภาษณ์เองก็ต้องรับผิดชอบเอง บัญชียังไม่ได้ยื่นเลย ทำไมรู้ดีกันอย่างนี้ เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่า การโยกย้ายครั้งนี้จะไม่เกิดความแตกแยกกับกองทัพ นายสมัคร กล่าวว่า บอกแล้วว่ามานั่งตรงนี้เพื่อไม่ให้มีปัญหา เมื่อไม่มีปัญหาคุณจะให้มีปัญหายังไง

ผบ.สส.ยันโผโยกย้ายดูแล้วไม่สะดุด

พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส.กล่าวงถึงกระแสวิพากย์วิจารณ์ การโยกย้ายนายทหารที่มีการผลักดัน ตท.10 เข้ามารับตำแหน่งในกองทัพจำนวนมากว่า เท่าที่ดูก็ไม่รู้สึกสะดุดอะไร ก็ put the right man in to the right job เสียเป็นส่วนใหญ่ ส่วนเรื่องรุ่นก็ไม่มีปัญหาอะไร ไม่ใช่ย้ายคนเพราะเป็นรุ่นนั้นรุ่นนี้ แต่ดูว่าเขาทำอะไรได้บ้าง เมื่อถามว่าเท่าที่ดูไม่ได้มีรายการคุณขอมาใช่หรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า เท่าที่ดูก็เป็นการวางคนให้เหมาะสมกับงาน แต่ถ้ามีการขอมา ก็ขออย่างมีเหตุมีผล และก็คงจะน้อย ถึงได้ดูออกมาค่อนข้างจะไม่เสีย ดูแล้วก็เรียบร้อยดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่บอกว่ามีการขอมาแต่ก็ดูเหตุผลด้วย ายละเอียดเป็นอย่างไร พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ตนไม่ได้บอกว่ามีการขอมา แต่ตนดูว่าเท่าที่ดูบัญชีโยกย้ายแล้วก็ไม่ได้มีอะไรที่ไม่ดี คณะกรรมการก็ดูผ่านทุกตำแหน่งอยู่แล้ว อาจจะไม่ทราบละเอียดมาก แต่เท่าที่ดูก็ราบรื่นสายตาดี โดยมากเราดูรู้ว่าใครแย่มาก ส่วนที่ปานกลางก็ไม่ค่อยมีปัญหา ที่ดีๆ เราก็ลงในที่ที่ดี ส่วนใครลงตำแหน่งใด เป็นความลับไม่สามารถพูดได้ มีความผิดติดคุกได้ พวกเปิดเผยความลับต่อข้าศึกเขาเอาไปยิงเป้าได้นะ

รับมีฝ่ายการเมืองให้ข้อคิดเห็นการย้าย

ส่วนการโยกย้ายครั้งนี้มือมือที่มองไม่เห็นมาเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า “คำว่ามือที่มองไม่เห็นต้องให้คำจำกัดความดีๆ นะ เดี๋ยวจะเข้าใจไม่ตรงกัน ไม่ว่าครั้งไหนก็มีข้อมูลจากท่านนั้นท่านนี้ แต่อยู่ที่ว่าเราคิดอย่างไร เราต้องมีจุดยืน ไม่ใช่ว่าเรามีหน้าที่ที่จะจัดการได้ และไม่ทำหน้าที่ ไปฟังข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงแล้วเชื่อและนำมาใช้ เราก็คงเป็นผู้นำที่ไม่ดี”

ผู้สื่อข่าวซักว่า แต่ยอมรับใช่หรือไม่ว่าทางการเมืองก็มีการขอคนของตัวเอง เข้ามาบ้างใช่หรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า เขาอาจจะไม่ได้ขอคนเข้ามาก็ได้ แต่อาจจะให้ข้อคิด เป็นธรรมดาที่ระบบบริหารเป็นเช่นนั้น แต่ในความรับผิดชอบของเราเราย่อมมีข้อมูลที่เรารู้ดีกว่า

ตท.10 ขึ้นมาตามธรรมชาติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่เท่าที่ดู ตท.10 ก็เข้ามาในตำแหน่งมากมายพล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ถ้าเราพูดถึงเรื่องรุ่นโดยกว้างๆ ก็ลองย้อนไปดูก่อนหน้านี้ที่พวกผม ก็ถูกมองว่าพวกรุ่น 6 มาเป็น ผบ.เหล่าทัพกันหมด แต่ก็ต้องไปดูว่าเขาฮั้วกัน วิ่งเต้นกันมา หรือ มาโดยบังเอิญ และเจริญเติบโตขึ้นมาเองโดยธรรมชาติ ผมให้ไปไล่ดูได้ ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นการไปสนับสนุนซึ่งกันและกัน มันมาเอง ไปดูประวัติของแต่ละคนก็ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตท. 10 ขึ้นมาตามธรรมชาติใช่หรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า เท่าที่ดูในยามนี้ รุ่นที่เกษียณอย่าง รุ่น 6 นี้เกษียณเกลี้ยงหมดแล้ว รุ่น 7 ก็เหลือไม่เกิน 10 คน รุ่น 8 เหลือน้อยมาก ที่จะเป็นหลักเป็นฐานได้ก็มีรุ่น 8 ที่เหลือ อยู่บ้าน รุ่น 9 และ รุ่น 10 เพราะฉะนั้นก็เป็นธรรมดาที่อยู่ในลิสต์ เพราะอีกไม่นาน เขาก็จะเกษียณ ก็มีชื่ออยู่มากเป็นเรื่องธรรมดา แต่ที่สำคัญต้อดูว่าเขาเหมาะสมกับตำแหน่งหรือเปล่า

ผู้สื่อข่าวซักว่า มีข่าวว่านายสมัคร ได้นำโผทหารไปให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พิจารณาด้วย ข้อเท็จจริงเป้นอย่างไร พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ไม่รู้เรื่อง

“ชลิต”ย้ำไม่มีการร้องขอจากการเมือง

พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ.กล่าวถึงกรณีที่มีการระบุว่า ตท.10 กลับเข้ามา ในกองทัพจำนวนมากนั้น ไม่มี สื่อเขียนไปเอง ทั้งนี้ ไม่มีการร้องขอมาจากการเมือง ขณะนี้ ตท.10 มีอยู่เต็มไปหมดในทุกกองทัพ และมีทุกรุ่น ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรี ไม่มีการกดดันเหล่าทัพ และทุกคนก็สบายใจ เป็นสิ่งที่ดี เพราะช่วยกันทำงาน เพราะไม่มีการต่อรอง

พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ศึกษารายละเอียดใน พ.ร.บ.ว่าด้วยการจัดระเบียบกระทรวงกลาโหมมาก่อนจากเลขานุการของท่าน ซึ่ง ผบ.เหล่าทัพมีการพูดคุยร่วมกัน ท่านเห็นตามนั้นมีการพูดคุยก็ไม่มีการแก้ไข เมื่อทุกคนเห็นว่าไม่เปลี่ยน ทำให้บัญชีรายชื่อเป็นไปตามที่ ผบ.เหล่าทัพเสนอมา ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ถามเล็กน้อยว่าตำแหน่งนี้คนนี้เป็นอย่างไร เพราะท่านยังไม่เข้าใจระบบของทหาร แต่ไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร ทั้งนี้ ทุกเหล่าทัพเสร็จหมดแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าถึงเวลาคืนความชอบธรรมให้ ตท.10 กลับมาในกองทัพแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ในกองทัพมีตั้งแต่รุ่น 7- 12 ซึ่งแต่ละเหล่าทัพมีแนวทางการรับราชการ ซึ่งต้องมีการหมุนเวียน ทั้งนี้ การปรับย้ายไม่ใช่ปรับเพื่อล้างบางคนที่ คมช. สร้างขึ้นมา เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่ามีการนำบัญชีรายชื่อ นายทหารส่งให้ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดูก่อน พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ไม่ทราบ จะมีให้ท่านไปดูได้อย่างไร ต้องดูเฉพาะท่านที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่าไม่มี เพราะท่านไม่ได้เกี่ยว และคงไม่ขอดู

“สนธิ”ชีวิตมีความสุขแต่คนใกล้ชิดถูกเด้ง

พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณีที่นายทหารคนใกล้ชิดและเพื่อนร่วมรุ่น ตท. 6 มีข่าวว่าจะถูกเด้งเข้ากรุหลายตำแหน่งว่า ตนไม่อยากเสนอความคิดเห็น เพราะทุกวันนี้มีความสุขดีกับชีวิตพลเรือน อยากใช้เวลาว่างในการชมความงามของต้นไม้ และดอกไม้ ส่วนที่พักของตน คงไม่ต้องทราบขออยู่อย่างเงียบๆ

“สมเจตน์”ให้สังคมดูการกระทำของรัฐบาล

พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกลาโหม และอดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการ คมช. กล่าวถึงกระแสข่าวการถูกปรับย้ายเข้าตำแหน่งประจำเป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมว่า ทราบเรื่องนี้จากสื่อ ซึ่งต้องไปพิจารณาข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่ตนไม่ต้องการให้ความเห็นในเวลานี้ เนื่องจากมีผลประโยชน์โดยตรง ขอรอจนกว่าข้อเท็จจริงออกมาเป็นอย่างไรแล้ว จึงค่อยมาคิดวิเคราะห์

“สื่อและสังคมต้องดูว่ารัฐบาลกำลังทำในสิ่งที่ดีหรือไม่ดี และเหตุใดจึงต้อง มาทำเรา เหมาะสมหรือไม่ ถามว่ากลัวหรือไม่ ตอบเลยไม่กลัว เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด เราทำงานให้ประเทศชาติไม่หวังลาภยศ การโยกย้ายเรื่องเล็กไม่มีปัญหาอีก 6 เดือนก็จะเกษียณแล้ว เจ็บแค่นี้ทนได้ เรื่องนี้เรื่องเล็ก อยากให้ไตร่ตรองดูว่าเป็นอย่างไร แต่ยังไม่อยากให้วิจารณ์เดี่ยวหาว่าร้อนตัวตีปลาหน้าไซ มาถึงจุดนี้ถือว่าสูงสุดแล้ว เขาอยากให้เราเจ็บ แต่ถ้าไม่เจ็บก็ไม่เป็นไร หากถูกย้ายจริงก็ยอมรับได้ เพราะเป็นทหารอาชีพ เมื่อผู้บังคับบัญชาสั่งการก็ต้องยอมรับแง่กฎหมาย ส่วนความถูกต้องไม่ถูกต้องไม่สามารถพิจารณาได้ ต้องให้สังคมเป็นผู้ตัดสิน อีกทั้งไม่รู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่ได้กระทำไป”

"สมัคร"ลงนามตั้งโฆษกกลาโหม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ลงนามในคำสั่งกระทรวงกลาโหม แต่งตั้งโฆษกกระทรวงกลาโหม และ รองโฆษกกระทรวงกลาโหม เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจจในกิจการที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงกลาโหม โดยแต่งตั้งให้ พล.ต.ภราดร พัฒนถาบุตร เป็นโฆษกกระทรวงกลาโหม พล.ต.พีระพงษ์ มานะกิจ และ พล.ต.สุรพล อุดมชัยรัตน์ เป็นรองโฆษกกระทรวงกลาโหม โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ.เป็นต้นไป

พล.ต.ภราดร เปิดเผยว่า นายสมัคร ได้มอบหมายนโยบายเร่งด่วน ในการบริหารราชการกระทรวงกลาโหม 5 ประการสำคัญ คือ ส่งเสริมความสามัคคีที่ดีระหว่างทหารกับประชาชน กำหนดบทบาทให้ชัดเจนในเรื่องการพัฒนาโครงสร้างกำลับรบ พัฒนาบุคลากร อาวุธยุทโธปกรณ์ และหลักนิยม เพื่อให้สามารถสื่อให้สาธารณเข้าใจได้ การใช้ทรัพยากรทั้งปวงของกระทรวงกลาโหม ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชน และ การพัฒนาประเทศ การส่งเสริมการพัฒนาความรู้ ความสามารถทางการศึกษาของบุคลากรในกองทัพ และร่วมมือกับสถาบันการศึกษาของพลเรือนทั้งใน และต่างประเทศ ด้านการศึกษา และการวิจัยเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ภายในกองทัพ และเร่งรัดการดำเนินการ การบริหารจัดการ การแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้บังเกิดเอกภาพเป็นรูปธรรมโดยเร็ว และเพื่อให้เกิดประโยชน์สุขของประชาชน
กำลังโหลดความคิดเห็น