xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กบัง” ไม่สนรุ่น 10 ผงาด-มุ่งชมความงามธรรมชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พล.อ.บุญสร้าง” เผยหากนายทหารที่เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 ได้ปรับย้ายขึ้นมานั่งในตำแหน่งสำคัญก็ไม่แปลก เพราะรุ่นพี่เกษียณเกือบหมดแล้ว ยันพิจารณาตามความเหมาะสม หากคุณสมบัติและความรู้ความสามารถผ่านก็ไม่มีปัญหา ขณะที่ “บิ๊กบัง” ไม่สน หันเอาดีชมความงามของต้นไม้ และดอกไม้

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงโผบัญชีรายชื่อการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารกลางปีว่า วันนี้ (7 มี.ค.) พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.ทหารสูงสุด ได้เชิญผู้บัญชาการ 3 เหล่าทัพ เข้าประชุมเพื่อเตรียมการรองรับการปรับโครงสร้างกระทรวงกลาโหม ตาม พ.ร.บ.จัดส่วนราชการกระทรวงกลาโหม

โดยหลักๆ คือ การเปลี่ยนกองบัญชาการทหารสูงสุดให้เป็นกองบัญชาการกองทัพไทย และกำหนดให้มีการประชุมศูนย์บัญชาการทางทหาร มีผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นผู้อำนวยการศูนย์ และมีผู้บัญชาการ 3 เหล่าทัพเป็นสมาชิกที่ต้องเข้าร่วมประชุมด้วย

สำหรับการประชุมศูนย์บัญชาการทางทหาร จะกำหนดให้ประชุมกันเดือนละครั้ง ซึ่งจะแตกต่างจากการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ที่นัดประชุมกัน 2 เดือนครั้ง โดยการประชุมศูนย์ฯ จะมีการหยิบยกประเด็นปัญหาในบ้านเมือง รวมถึงสถานการณ์ความมั่นคงในประเทศขึ้นมาหารือ เพื่อให้คำแนะนำ และเปรียบเสมือนเป็นทีมที่ปรึกษาให้กับ รมว.กลาโหม ส่วนการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพจะเป็นเพียงแค่การรายงานผลการปฏิบัติงานของแต่ละเหล่าทัพเท่านั้น

นอกจากนี้ พล.อ.บุญสร้าง ยังได้พูดถึงการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารกลางปีด้วยว่าใกล้เสร็จหมดแล้ว โดยยอมรับว่า หากนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 9 และรุ่น 10 ขึ้นมานั่งในตำแหน่งสำคัญก็ไม่แปลก เพราะได้พิจารณาตามสายงาน และกรอบเวลาการดำรงตำแหน่งต่างๆ ของแต่ละคน เนื่องจากปีนี้นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 6 (รุ่นเดียวกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน) ก็จะเกษียณทั้งหมด ส่วนรุ่น 7 และ 8 ก็เหลือไม่กี่คน

ดังนั้น คนที่จะได้ขึ้นมาก็เป็นรุ่น 9 และ รุ่น 10 แต่ก็ยอมรับว่าอาจมีบางตำแหน่งที่มีการขอเข้ามาบ้าง ซึ่งทางกองทัพจะพิจารณาตามความเหมาะสม หากคุณสมบัติและความรู้ความสามารถผ่านก็ไม่มีปัญหา

ทางด้าน พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า การประชุมวันนี้ไม่มีการพูดถึงบัญชีโยกย้ายนายทหาร เพราะทุกอย่างเรียบร้อยดี ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าเตรียมทหารรุ่น 10 กลับเข้ามาในกองทัพจำนวนมากนั้น ไม่มี สื่อเขียนไปเอง ทั้งนี้ ไม่มีการร้องขอมาจากการเมือง ขณะนี้ ตท.10 มีอยู่เต็มไปหมดในทุกกองทัพ และมีทุกรุ่น ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีไม่มีการกดดันเหล่าทัพ และทุกคนก็สบายใจ เป็นสิ่งที่ดี เพราะช่วยกันทำงาน เพราะไม่มีการต่อรอง

พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ศึกษารายละเอียดใน พ.ร.บ.กลาโหมมาก่อนจากเลขานุการของท่าน ซึ่ง ผบ.เหล่าทัพมีการพูดคุยร่วมกัน ท่านเห็นตามนั้นมีการพูดคุยก็ไม่มีการแก้ไข เมื่อทุกคนเห็นว่าไม่เปลี่ยน ทำให้บัญชีรายชื่อเป็นไปตามที่ ผบ.เหล่าทัพ เสนอมา ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ถามเล็กน้อยว่าตำแหน่งนี้คนนี้เป็นอย่างไร เพราะท่านยังไม่เข้าใจระบบของทหาร แต่ไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร ทั้งนี้ ทุกเหล่าทัพเสร็จหมดแล้ว

เมื่อถามว่า ถึงเวลาคืนความชอบธรรมให้ ตท.10 กลับมาในกองทัพ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ในกองทัพมีตั้งแต่รุ่น 7-12 ซึ่งแต่ละเหล่าทัพมีแนวทางการรับราชการ ซึ่งต้องมีการหมุนเวียน ทั้งนี้ การปรับย้ายไม่ใช่ปรับเพื่อล้างบางคนที่ คมช.สร้างขึ้นมา เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่ามีการนำบัญชีรายชื่อนายทหารส่งให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดูก่อน พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ไม่ทราบ จะให้ท่านไปดูได้อย่างไร ต้องดูเฉพาะท่านที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่าไม่มี เพราะท่านไม่ได้เกี่ยว และคงไม่ขอดู

ขณะที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณีที่นายทหารคนใกล้ชิดและเพื่อนร่วมรุ่น ตท. 6 มีข่าวว่าจะถูกเด้งเข้ากรุหลายตำแหน่งว่า ตนไม่อยากเสนอความคิดเห็น เพราะทุกวันนี้มีความสุขดีกับชีวิตพลเรือน อยากใช้เวลาว่างในการชมความงามของต้นไม้ และดอกไม้ ส่วนที่พักของตน คงไม่ต้องทราบขออยู่อย่างเงียบๆ

ส่วน พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกลาโหม และอดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการ คมช. กล่าวถึงกระแสข่าวการถูกปรับย้ายเข้าตำแหน่งประจำเป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมว่า ทราบเรื่องนี้จากสื่อ ซึ่งต้องไปพิจารณาข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่ตนไม่ต้องการให้ความเห็นในเวลานี้ เนื่องจากมีผลประโยชน์โดยตรง ขอรอจนกว่าข้อเท็จจริงออกมาเป็นอย่างไรแล้วจึงค่อยมาคิดวิเคราะห์

“สื่อและสังคมต้องดูว่ารัฐบาลกำลังทำในสิ่งที่ดีหรือไม่ดี และเหตุใดจึงต้องมาทำเรา เหมาะสมหรือไม่ ถามว่ากลัวหรือไม่ ตอบเลยไม่กลัว เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด เราทำงานให้ประเทศชาติไม่หวังลาบยศ การโยกย้ายเรื่องเล็กไม่มีปัญหาอีก 6 เดือนก็จะเกษียณแล้ว เจ็บแค่นี้ทนได้ เรื่องนี้เรื่องเล็ก อยากให้ไตร่ตรองดูว่าเป็นอย่างไร แต่ยังไม่อยากให้วิจารณ์เดี่ยวหาว่าร้อนตัวตีปลาหน้าไซ มาถึงจุดนี้ถือว่าสูงสุดแล้ว เขาอยากให้เราเจ็บ แต่ถ้าไม่เจ็บก็ไม่เป็นไร หากถูกย้ายจริงก็ยอมรับได้ เพราะเป็นทหารอาชีพ เมื่อผู้บังคับบัญชาสั่งการก็ต้องยอมรับแง่กฎหมาย ส่วนความถูกต้องไม่ถูกต้องไม่สามารถพิจารณาได้ ต้องให้สังคมเป็นผู้ตัดสิน อีกทั้งไม่รู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่ได้กระทำไป” พล.อ.สมเจตน์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น