xs
xsm
sm
md
lg

ประสพสุขตั้งแน่วันนี้กมธ.สอบซื้อเก้าอี้ปธ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (20 มี.ค.) นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภาได้เดินทางไปพบนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่ห้องรับรอง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อขอคำแนะนำในการทำงาน โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที ซึ่งนายมีชัย มอบกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดีให้กับนายประสพสุข
นายประสพสุข กล่าวว่า นายมีชัยได้แนะนำการทำงานโดยบอกว่าเป็นนักกฎหมายทำงานได้อยู่แล้ว และขอให้สานต่อเรื่องข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ให้เรียบร้อย ซึ่งนายมีชัยยังชมว่า ส.ว.ชุดนี้คงทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีที่มาที่สมบูรณ์
ทั้งนี้ในการประชุมวุฒิสภาวันนี้ (21 มี.ค.) ตนได้บรรจุญัตติเรื่องขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบข่าวการใช้เงินซื้อเสียงในการเลือกประธานวุฒิสภา เป็นเรื่องด่วน และเชื่อว่าจะสามารถตั้งได้ เพื่อหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ทั้งนี้ยืนยันว่าจะไม่เป็นมวยล้ม อย่างแน่นอน เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ดังนั้นจะต้องสอบจนกว่าจะได้ข้อยุ
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวว่าตนเห็นด้วยกับนายวิเขียร คันฉ่อง ส.ว.ตรังที่ให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯสอบสวนการใช้เงินซื้อเสียงในการเลือกประธานวุฒิสภา เพื่อให้เกิดความกระจ่างกับสังคม ซึ่งกรณีนี้มี 3-4 ประเด็น แต่ที่เกี่ยวข้องกับตนคือ การโทรศัพท์ทาบทามให้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน โดยเสนอให้ค่าตอบแทน เป็นรายเดือนตลอดวาระในการเลือกประธานวุฒิสภา ซึ่งตนได้สอบถามผู้รู้แล้ว การพูดในลักษณะนี้ก็เป็นวิธีการล้อมรั้วเข้าคอก แล้วสั่งการให้โหวต
นายสมชาย กล่าวว่า ตนมีชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ของบุคคลดังกล่าว ที่อ้างเป็นอดีตนักการเมืองหลายสมัย แต่ไม่ได้อยู่ในสภา ส่วนกรณีการให้รถเบนซ์ เงินล้านบาท ผลประโยชน์อื่นๆ ตนไม่ทราบ เพียงทราบจากข่าวเท่านั้น ไม่แน่ใจว่าจะมีเพื่อนสมาชิกให้ความร่วมมือในเรื่องนี้ขนาดไหน ทั้งนี้ตนจะเสนอชื่อ น.ส.รสนา โตสิตระกูล พ.ท.กมล ประจวบเหมาะ และนายพิเชต สุนทรพิพิธ ส.ว.สรรหา เป็นกรรมาธิการด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจว่ากรรมาธิการจะสอบสวน และเอาผิดได้หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า อยู่ที่การสอบสวนของคณะกรรมาธิการฯ เมื่อพบข้อเท็จจริงแล้วจะดำเนินการอย่างไร แต่ก็เป็นเรื่องยาก เพราะการคอร์รัปชั่นไม่มีใบเสร็จ และกรณีนี้ก็เป็นเพียงการทาบทาม เว้นแต่จะจับได้คาหนังคาเขา แต่ตนจะเปิดเผยชื่อบุคคล และเบอร์โทรศัพท์ดังกล่าวในทางลับต่อกรรมาธิการฯเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ชื่อดังกล่าวเปิดเผยแล้วจะมีผลกระทบ และเชื่อมโยงใครหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่บุคคลดังกล่าวก็เป็นที่รู้จัก แต่ไม่โด่งดังมาก ทั้งนี้ การที่จะเปิดเผยชื่อหรือไม่ เป็นเรื่องของกรรมาธิการ
ผู้สื่อข่าวถามว่าคนที่มาติดต่อไม่เสี่ยงที่เข้ามาทาบทามคนที่เป็นสื่อมวลชนหรือ เพราะจะเปิดเผยเรื่องดังกล่าว นายสมชาย กล่าวว่า ในครั้งแรกก็คิดว่า เรื่องนี้เป็นการปล่อยข่าวผ่านตน แต่เมื่อตรวจสอบจากเพื่อน ส.ว.ก็มีหลายท่านได้รับการติดต่อเช่นเดียวกัน ดังนั้นแสดงให้เห็นว่า นักการเมืองยังมีความคิดแบบเก่าๆ ว่านักข่าวซื้อได้ และตนเชื่อว่าในอนาคตจะมีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นอีก ยังมีซื้อเสียง อีกต่อไป หรือโหวตกฎหมาย แต่วิธีการจะเปลี่ยนรูปแบบไป ดังนั้นเราต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้กับ ส.ว.
นายวิเชียร คันฉ่อง ส.ว.ตรัง ผู้เสนอญัตติ ดังกล่าวกล่าวว่า เมื่อตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯแล้ว ก็ขอความร่วมมือจากเพื่อน ส.ว.ที่เคยให้ข่าว รวมทั้งสื่อมวลชนที่เสนอข่าว มาให้ข้อมูลต่อกรรมาธิการฯ เพื่อเป็นประโยชน์ในการสอบข้อเท็จจริง เพราะเกรงว่าหากไม่ได้ข้อมูลตรงนี้ ก็จะทำอะไรไม่ได้ ส่วนกรรมาธิการฯจะมีจำนวน 10 หรือ 15 คน ก็ขึ้นกับมติที่ประชุม แต่ควรมีตน เป็นกรรมาธิการฯด้วย เพราะตนเป็นผู้เสนอญัตติ และเห็นว่า พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ ส.ว.สุราษฏร์ธานี ควรเข้ามาเป็นกรรมาธิการฯด้วย เพราะเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญ ในการสอบสวน
กำลังโหลดความคิดเห็น