“มีชัย” ย้ำข้อกฎหมายถ้าศาลรับฟ้องคดี “ทั่นยุทธ” ซื้อเสียง ฯพณฯ ต้องพ้นจากเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนฯทันที แต่ตอนนี้ยังอยู่ลุ้นต่อไปก่อน แต่หวังว่าคงไม่ถึงเช่นนั้น ขณะเดียวกัน แนะ สนช.อภิปรายนโยบายรัฐบาลอย่างเป็นกลาง
วันนี้ (16 ก.พ.) นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีที่อนุกรรมการการสอบสวนคดีทุจริตการเลือกตั้งที่จังหวัดเชียงราย กรณี นายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.สัดส่วนกลุ่มที่ 1 พรรคพลังประชาชน ลงมติให้ใบแดง ว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่ง นายยงยุทธ จะพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ก็ต่อเมื่อศาลประทับรับฟ้องในกรณีดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตาม หากตำแหน่งประธานรัฐสภาว่างลง ประธานวุฒิสภาจะทำหน้าที่รักษาการตำแหน่งประธานรัฐสภาแทน ขณะที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎร จะทำหน้าที่รักษาตำแหน่งประธานสภา ในเบื้องต้นคาดหวังว่า จะไม่มีเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้น
นายมีชัย ซึ่งถือว่า ดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา เชื่อมั่นว่า การดำเนินการสรรหาสมาชิกวุฒิสภาครั้งนี้จะเป็นไปอย่างราบรื่น แต่แสดงความหนักใจกรณีที่คณะกรรมการสรรหา ส.ว.ไม่ให้ความชัดเจนเรื่องกติกาหรือคุณสมบัติของผู้เข้ารับการสรรหา โดยเฉพาะในส่วนของคุณสมบัติ สนช.ที่กำลังรอดูอยู่
นอกจากนี้ นายมีชัย ซึ่งกล่าวเปิดการสัมมนาของ สนช.โดยขอให้เพื่อน สนช.ช่วยกันสรุปผลการดำเนินการของคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ เพื่อเตรียมจัดทำเป็นรายงานสรุปผลงาน นอกจากนี้ ยังขอให้เตรียมข้อมูลสำหรับอภิปรายนโยบายของรัฐบาล ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ด้วย โดยกรอบเวลาในการอภิปรายของ สนช.ได้เวลารวม 9 ชั่วโมง ในฐานะของ สนช.คนอภิปรายควรเป็นกลาง ไม่ใช่อภิปรายตามฝ่ายค้านหรือฝ่ายสนับสนุน เพราะ สนช.ไม่จำเป็นต้องหาเสียงทางการเมือง
ดังนั้น การอภิปรายต้องเป็นไปในลักษณะให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ และเป็นการให้คำแนะนำต่อรัฐบาล โดยต้องครอบคลุมทุกหัวข้อของนโยบาย โดยมอบหมายให้คณะกรรมาธิการแต่ละคณะไปจัดสรรเวลาที่เหมาะสม ซึ่งอาจอภิปรายคนละ 5-10 นาที ทั้งนี้ ในการสัมมนาครั้งนี้ยังได้เปิดให้สมาชิก สนช.ลงชื่อเพื่อสมัครเข้าชมรม สนช.ปี 2549 และ 2551 ด้วย
/0110
