xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรฯ คาดคนล้น มธ.เตือนรัฐอย่าจ้องเช็กบิล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พันธมิตรฯ หารือนอกรอบเตรียมความพร้อมดูแลความปลอดภัย เชื่อแฟนล้นหอประชุมใหญ่มธ. เตือนรัฐบาลหากเดินหน้าแก้แค้น เช็กบิล ฟอกผิด "แม้ว" มีสิทธิเคลื่อนไหวใหญ่ ระบุ ส.ส.พปช.เคลื่อนไหวต้านพันธมิตรฯ แค่สร้างราคาตัวเอง ไม่กล้าก่อม็อบจริง เตือนหากเหตุการณ์บานปลายต้องรับผิดชอบด้าน "สมชาย-หมอเลี้ยบ" ประสานเสียงปราม "ประชา" ย้ำไม่ใช่นโยบาย พปช. ด้านพันธมิตรฯขอนแก่น-ภูเก็ต พร้อมร่วมงาน "ยามเฝ้าแผ่นดินภาคพิเศษ" ที่ มธ. 28 มี.ค.นี้

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าววานนี้ (19 มี.ค.)ว่า มีการประชุมแกนนำพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย เพื่อเตรียมการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนที่จะมาร่วมงานสัมมนาของกลุ่มพันธมิตรฯที่จะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 28 มี.ค.นี้ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานจนล้นหอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) ซึ่งเราได้เตรียมจอโปรเจ็กเตอร์ให้ประชาชนได้ชมบริเวณสนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

นอกจากนี้ ยังหารือถึงบทบาทของแนวร่วมและเครือข่ายของกลุ่มพันธมิตรฯ ในการมีส่วนร่วมตามโครงสร้างใหม่ ซึ่งคงหารือกันภายหลังวันที่ 28 มี.ค.หลังมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา 6 ชุด ซึ่งประเด็นสำคัญก็คือต้องสร้างเครือข่ายและแนวร่วมให้เพิ่มมากขึ้นตามภูมิภาค เนื่องจากโอกาสที่จะมีการเคลื่อนไหวใหญ่ เหมือนเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาอีกรอบเป็นไปได้สูง ในสถานการณ์ที่รัฐบาลยังคงแก้แค้น เช็กบิลฝ่ายตรงข้างและดำเนินการฟอกผิดให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และครอบครัวเช่นนี้

นายสุริยะใส กล่าวว่า การสัมมนาครั้งนี้จะมีนักวิชาการระดับสูงระดับคณะบดีมหาวิทยาลัยต่างๆ จำนวนมากจะมาเข้าร่วมทั้ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์หรือ นิด้า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งถือว่ามากกว่าที่คิดไว้

อย่างไรก็ตามในวันที่ 28 มี.ค.นี้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง 1 ในแกนนำพันธมิตรฯ ไม่สามารถมาร่วมงานได้ เนื่องจากติดภารกิจที่ต่างประเทศ แต่ได้บันทึกวีซีดีไว้เพื่อนำไปเปิดในงานดังกล่าว ส่วนพันธมิตรฯคนอื่นๆ มากันครบ

ส่วนกรณีที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนตั้งกลุ่มมหาประชาชนขึ้นมาคัดค้านกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า คิดว่าคงมีเจตนาข่มขู่และสร้างสถานการณ์มากกว่า แต่คงไม่กล้ามาจริง เป็นการสร้างราคาให้ตัวเอง เพราะถ้ามาแล้วจัดการมวลชนไม่ได้ ก็จะเกิดเงื่อนไขการเผชิญหน้า แกนนำก็จะตกเป็นจำเลยสังคมและต้องรับผิดชอบ ซึ่งคนในพรรคพลังประชาชนเองรวมถึง นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ก็ไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ตามทางกลุ่มพันธมิตรฯก็ไม่ได้ประมาทได้เตรียมมาตรการป้องกันไว้แล้ว โดยยึดหลักสันติวิถีไม่เผชิญหน้ากับใคร

"พัชรวาท"เชื่อไม่มีเหตุรุนแรง

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.)กล่าวถึงการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม 2 กลุ่มที่คัดค้านและสนับสนุนรัฐบาล ที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 มี.ค.นี้ ว่า ได้เรียก พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำหน้าที่ รอง ผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง มากำชับให้ไปดูแลเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อมูลต่างๆ และการจัดกำลังให้เกิดความเหมาะสม คิดว่าไม่น่าจะมีอะไร และไม่น่าจะมีเรื่องของม็อบชนม็อบ เป็นเรื่องของการแสดงความเห็นของกลุ่มคน เป็นเรื่องที่ถูกต้องไม่น่ามีอะไร

"สมชาย"ติงส.ส.พปช.อย่าทำให้วุ่นวาย

นายสมชาย วงศ์สวัสด์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ศึกษาธิการ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนตั้งกลุ่มขึ้นมาต่อต้านพันธมิตรฯ ซึ่งนี้เรามีกฎหมายอยู่ถ้าทำอะไรนอกกรอบกฎหมายและส่งผลให้เกิดความวุ่นวายก็ต้องดำเนินการ

"ผมอยากขอร้องว่าเราไม่อยากกลับไปสู่ความเป็นวิกฤติหรือว่าสิ่งที่ทำให้กระทบกับความเชื่อมั่น ความสุขสงบของประเทศ อะไรที่เป็นกฎเกณฑ์ก็สามารถทำได้ ทุกฝ่าย แต่การที่จะออกมาเผชิญหน้ากันผมไม่เห็นด้วย"

ส่วนจะขอให้ ส.ส.พรรคพลังประชาชนยุติบทบาทหรือไม่นั้นนายสมชาย กล่าวว่า ตนยืนยันว่าพรรคไม่ได้ให้การสนับสนุนให้มีใครมาเคลื่อนไหวหรือ ดำเนินการใดๆ ที่จะเป็นปัญหาบ้านเมืองอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ภายในพรรคได้มีการ พูดคุยถึเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ตนไม่ได้เข้าประชุม

ส่วนที่ ส.ส. ออกมาระบุว่ากระทำในนามส่วนตัวจะส่งผลกระทบต่อพรรคหรือไม่นั้น นายสมชาย กล่าวว่า ก็อย่างที่บอกไม่ว่าจะเป็น ส.ส.พรรคไหนก็ต้องมีความกังวลใจกันอยู่แล้ว แต่ยืนยันว่าพรรคพลังประชาชนไม่สนับสนุน ตนอยากให้ประชาชนเป็นคนตัดสินใจว่าใครทำอะไรถูกผิด

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ประชาชนก็ไม่สบายใจว่าจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกหรือไม่ เพราะหากตบมือข้างเดียวก็ไม่เป็นไรแต่มีรัฐบาลออกมาสนับสนุน นายสมชาย กล่าวปฏิสเสธว่า รัฐบาลไม่สนับสนุนแต่อาจจะเป็นส่วนบุคคล และขอยืนยันว่ารัฐบาล ไม่สนับสนุนให้ประชาชนเป็นผู้พิจารณา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนจะมีการเตือนนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชนแกนนำไปแล้วแต่ก็ยังมีการเคลื่อนไหว นายสมชาย กล่าวว่า ก็จะเตือนท่าน ซึ่งความคิดของแต่ละคนหลากหลาย แต่จะถูกหรือไม่ก็อยู่ที่คนคิด อย่างไรก็ตาม จะพยายามเตือนในส่วนที่สามารถจะเตือนได้ ก็จะพยายามคุยกันเพราะบางสิ่งบางอย่างที่เราไปจำกัดสิทธิเสรีภาพก็ต้องฟังกันก่อน แต่ยืนยันว่าไม่สนับสนุน

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ทางพรรคพลังประชาชนไม่สนับสนุน แต่ก็ไม่ห้ามใช่หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ต้องการให้กระทบกระเทือนความสงบ เรียบร้อย เพราะมีปัญหามาเยอะแล้ว เสียเวลาการทำงานให้กับประชาชนไปเยอะ ไม่อยากให้เสียไปมากกว่านี้

"เลี้ยบ"เตือนลิ่วล้อก่อม็อบชน

เช่นเดียวกับ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า พรรคพลังประชาชนไม่ประสงค์ให้เกิดการดำเนินการใดๆ ที่จะนำไปสู่การเผชิญหน้า แม้การแสดงออก ถือเป็นสิทธิที่จะสามารถทำได้ แต่ต้องไม่ให้สถานการณ์บานปลายออกไป ดังนั้นจะต้องหารือกับ ส.ส.ที่จะดำเนินการอย่างแน่นอน เชื่อว่าสุดท้ายแล้วนายประชา ประสพดี จะรับฟังความคิดเห็นของแกนนำพรรค และบทสรุปคงจะออกมาในทิศทางที่พรรคอยากเห็น เพราะเชื่อว่าทุกฝ่ายต่างปรารถนาดีต่อบ้านเมือง

"ณัฐวุฒิ"ให้พันธมิตรฯ หยุดก่อน

ขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตแกนนำ ม็อบ นปก. กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของ ส.ส.พรรคถือเป็นสิทธิเสรีภาพของแต่ละคน แต่ต้องดำเนินการให้อยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่สร้างความวุ่นวาย แต่ไม่ได้เป็นนโยบาย ของพรรค ซึ่งนายประชา ประสพดี เคยโทรศัพท์มาพูดคุยกันตนบ้างเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเกี่ยวกับเนื้อหารายละเอียดในการพูดที่ท้องสนามหลวงของกลุ่มแนวร่วม นปก. เมื่อครั้งที่ตนเคยขึ้นเวที

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมานายณัฐวุฒิ เตือนพันธมิตรฯให้หยุดการเคลื่อนไหว แต่ทำไมไม่เตือนคนของพรรคพลังประชาชน ายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เราได้พูดคุยกันแล้วไม่ว่ากลุ่มพันธมิตรฯ หรือกลุ่มไหนก็มีสิทธิเสรีภาพตามกฎหมายแต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนอื่น ไม่เกิดความรุนแรงอยากเรียนตรงไปตรงมาว่าผลมันคือ กลุ่มพันธมิตรฯออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล ขณะที่กลุ่มมหาชนฯ ก็ออกมาเพื่อปกป้องรัฐบาลของประชาชน ซึ่งก็เตือนพร้อมกันว่าแต่ละกลุ่มจะสร้างคามรุนแรงไม่ได้ และคิดว่าวิธีการเป็นท่วงทำนองการนำเสนอ เป็นการชิงจังหวะในการเคลื่อนไหวหากแต่ละกลุ่มหยุดนิ่งตนคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา ซึ่งกลุ่มของนายประชา ก็ไม่ได้จะเคลื่อนไหวเป็นเดือนเป็นปี ดังนั้น พันธมิตรฯเป็นคนเริ่มต้นและหากพันธมิตรฯยุติบทบาทก่อนก็จบ

มธ.ยันพันธมิตรฯ มีสิทธิใช้หอประชุม

รศ.ดร.อุดม รัฐอมฤต รองอธิการบดีฝ่ายบริหารท่าพระจันทร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่ากลุ่มพันธมิตรฯได้ขออนุญาตเช่าหอประชุมตามหลักเกณฑ์ปกติ เมื่อมหาวิทยาลัยฯได้ตรวจสอบว่า หอประชุมใหญ่ว่างอยู่ในวันที่ 28 มี.ค. ก็ได้อนุญาตให้ใช้ โดยให้ชำระค่าธรรมเนียมและค่าสาธารณูปโภค ตามระเบียบของมหาวิทยาลัยฯ เพราะเห็นว่ามีลักษณะเป็นการจัดอภิปราย และสัมมนา เช่นเดียวกับการจัดกิจกรรมปกติของหอประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อีกทั้งเป็นการแสดงทัศนะ และความคิดเห็นทางการเมือง อันเป็นเรื่องที่สามารถกระทำได้โดยชอบด้วยกฎหมายอยู่แล้ว
 
"มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขอยืนยันว่า ทุกกลุ่มทุกฝ่ายที่มีทัศนคติ และความคิดเห็นทางการเมืองแตกต่างกันไป สามารถมาใช้สถานที่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทำกิจกรรม และแสดงออกซึ่งความคิดเห็นทางการเมืองได้ อย่างเต็มที่ในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยฯไม่ใช่แต่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของรัฐบาล หรือต้องเป็นกลุ่มพันธมิตรฯ เท่านั้น เพราะเมื่อเดือนตุ.ค.50 ในระหว่างรัฐบาลของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ มหาวิทยาลัยฯ ก็ได้เคยอนุญาตให้ นพ.เหวง โตจิการ จัดกิจกรรมการสัมมนา และอภิปรายทางการเมือง โดยมีกลุ่ม นปก. และกลุ่มการเมืองอื่นๆ ที่ต่อต้านรัฐบาลในเวลานั้น มาเข้าร่วมที่ห้องประชุมศรีบูรพา ของมหาวิทยาลัยฯ มาแล้ว"

รศ.ดร.อุดม กล่าวว่า เนื่องจากการขอใช้หอประชุมใหญ่ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ มีฝ่ายไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของกลุ่มพันธมิตรฯ ดังนั้น มหาวิทยาลัยฯ จึงได้ประสานงานไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อให้ดำเนินการให้มีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเพื่อดูแลความปลอดภัยในบริเวณพื้นที่มหาวิทยาลัย และพื้นที่โดยรอบหอประชุมใหญ่ด้วยแล้ว

ขอนแก่นพร้อมเข้ากรุงร่วมงานยามฯ

นพ.เฉลิมชัย อภิญญานุรักษ์ ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขอนแก่น เปิดเผยว่า ในวันที่ 28 มี.ค.ที่กลุ่มพันธมิตรฯจัดกิจกรรม " ยามเฝ้าแผ่นดินภาคพิเศษ" เพื่อให้ความรู่กับประชาชนที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นั้น พันธมิตรฯขอนแก่นจะเดินทางไปร่วมกิจกรรม โดยจะเช่ารถบัสเดินทางเข้ากรุงเทพฯประมาณ 2 คัน และมีบางส่วนที่จะเดินทางไปเอง ส่วนการเคลื่อนไหวในพื้นที่พันธมิตรฯ ขอนแก่น จะรอดูสถานการณ์และประเมินภาพจากวันที่ 28 มี.ค. เพื่อกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวต่อไป

อย่างไรก็ตามได้มีประชาชนที่เคยร่วมกับพันธมิตรฯขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้สอบถามมาว่าจะจัดกิจกรรมเปิดเวทีย่อยหรือถ่ายทอดสดรายการ " ยามเฝ้าแผ่นดินภาคพิเศษ " จากเอเอสทีวี ที่บึงแก่นนคร หรือที่ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ-เอเอสทีวี นิวส์วัน เหมือนในอดีตหรือไม่ ซึ่งพันธมิตรฯขอนแก่นเห็นว่าเวลานี้ยังไม่ควรจัดเวทีย่อยใดๆ เพราะไม่ต้องการให้เป็นตัวเร่งในการเพิ่มความรุนแรงของสถานการณ์ อีกทั้งหากจัดถ่ายทอดสดใน 2 จุดดังกล่าว ซึ่งมีลักษณะเป็นพื้นที่เปิดเกรงว่าหากมีผู้ไม่หวังดี สร้างความรุนแรงจะไม่ควบคุมสถานการณ์ได้ อาจทำให้ประชาชนได้รับอันตรายได้

หากเป็นไปได้ก็อาจมีการเปิดเวทีย่อย ในหน่วยงานของคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งจะสามารถดูแลความปลอดภัยได้ดีกว่า ทั้งนี้พันธมิตรฯ ขอนแก่น จะขอดูสถานการณ์ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ก่อนเพื่อกำหนดก้าวต่อไป
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าจะมีการเคลื่อนไหวของประชาชนในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ที่ใช้ชื่อกลุ่มว่า " กลุ่มรักทักษิณ " ซึ่งจะมีการเคลื่อนไหวเพื่อมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ ที่สนามหลวงในวันที่ 28 มี.ค. นี้ จำนวนหลายคันรถบัส

"ยามฯ ภูเก็ต"เตรียมเคลื่อนพล

ด้านนายณัชจรงค์ เอกเพิ่มทรัพย์ ประธานกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของสมาชิกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต ได้หารือกันแล้วในการเดินทางขึ้นไปร่วม เวที "ยามเฝ้าแผ่นดิน ภาคพิเศษ" ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โด สมาชิกบางส่วนจะเดินทางไปร่วมกับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯเพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการด้านต่างๆ

"ขณะนี้มีประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ประสานงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่าการเดินทางขึ้นไปครั้งนี้ จะถูกเจ้าหน้าที่บางกลุ่มสกัดกั้น แต่จะใช้ลักษณะการเดินทางแบบดาวกระจาย ต่างคนต่างไป แล้วไปพบกันที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สถานที่จัดงาน โดยจะนำธงและเสื้อยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ตไปร่วมด้วย"

ส่วนในพื้นที่ภูเก็ต สมาชิกบางส่วนจะอยู่ในพื้นที่ เพื่อขึ้นจอโปรเจกเตอร์ รับภาพการถ่ายทอดสดจาก เอเอสทีวี ที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน อ.เมืองภูเก็ต โดยวันที่ 22 มี.ค.นี้ จะเริ่มทดสอบการถ่ายทอดสดก่อน เริ่มเวลา 19.00 น. ส่วนวันที่ 28 มี.ค.จะเริ่มเวลา 18.00 น. เป็นต้นไป

ประธานกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต ยังกล่าวถึงการจัดกิจกรรมทอดผ้าป่า จาน ดาวเทียม เอเอสทีวี จานละ 1,500 บาท ซึ่งนำไปบริจาคยังชุมชนต่าง ๆ ที่อยู่พื้นที่ ห่างไกลข้อมูล ไม่มีเคเบิลท้องถิ่นด้วยว่า ที่ผ่านมา ทางกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต ทำการบริจาคไปแล้วที่ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา 1 จาน,อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี 1 จาน อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี 1 จาน,พื้นที่เขตเทศบาลนครภูเก็ต 1 จาน และตามเกาะแก่งต่าง ๆ บริเวณอ่าวพังงา จ.พังงา 4 จาน โดยมีผู้มีจิตศรัทธาช่วยบริจาคเงินสมทบทุน มาอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งจากที่สมาชิกกลุ่มฯ ร่วมกันบริจาคแล้ว ทำให้ขณะนี้พื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ตอนบน มีจานดาวเทียม เอเอสทีวีติดตั้งไปแล้วหลายจุดด้วยกัน ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนรับชมช่อง News 1 เป็นจำนวนมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น