xs
xsm
sm
md
lg

"สนธิ"ลั่นขึ้นเวทีพันธมิตรฯ แน่ รัฐบาลยุ ส.ส.พปช.จัดม็อบชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"สนธิ ลิ้มทองกุล" ลั่นพร้อมขึ้นเวทีสัมมนากับพันธมิตรฯ ที่ธรรมศาสตร์ ประกาศไม่กลัวคำขู่ "เหลิม-ลิ่วล้อแม้ว" ที่อ้างว่าผิดเงื่อนไขการประกันตัวคดีหมิ่นประมาท เหตุยึดหลัก รธน.ที่ให้เสรีภาพการชุมนุมและแสดงความเห็นโดยสุจริต "แม่ทัพภาคที่ 1-ผบช.น." ประสานเสียงยืนยันไม่มีเหตุรุนแรง "จักรภพ" หนุน ส.ส.พปช.จัดม็อบชนพันธมิตรฯ อ้างเป็นสิทธิทำได้ "ประชา" จวก ปชป.ปล่อย "สมเกียรติ" ร่วมงานพันธมิตรฯ "อภิสิทธิ์" ชี้สมเกียรติทำได้ ชาวตะวันออกแห่ซื้อจานดาวเทียม ASTV หวั่นรัฐบาลตัดสัญญาณเคเบิ้ล

หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และองค์กรเครือข่ายฯ มีมติดำเนินการจัดการสัมมนารายการ "ยามเฝ้าแผ่นดิน ภาคพิเศษ" ในวันศุกร์ที่ 28 มี.ค.นี้ ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เวลา 16.00-22.00 น. ก็ก่อให้เกิดกระแสความเคลื่อนไหวจากรัฐบาล และแรงต้านจากบรรดาผู้สนับสนุนพรรคพลังประชาชนอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี, ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย, ส.ส.พรรคพลังประชาชน, นายทหารระดับสูง รวมไปถึงกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่แปรสภาพมาจากกลุ่ม นปก.เดิมภายใต้การนำของ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย นพ.เหวง โตจิราการ และ นพ.สันต์ หัตถีรัตน์

โดยเฉพาะ ร.ต.อ.เฉลิม รมว.มหาดไทย ที่พยายามออกมาขู่นายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ที่อยู่ในระหว่างประกันตัวต่อศาลจากคดีหมิ่นประมาทว่าอาจผิดเงื่อนไขการประกันตัวต่อศาลจนถึงขั้นติดคุกได้ถ้าหากนายสนธิคิดที่จะเคลื่อนไหวในวันที่ 28 มี.ค.

นายสนธิ ลิ้มทองกุล ให้สัมภาษณ์ วานนี้ (17 มี.ค.) ว่า การสัมมนารายการ "ยามเฝ้าแผ่นดิน ภาคพิเศษ" ในวันศุกร์ที่ 28 มี.ค.นี้ ตนไม่เพียงแต่จะเข้าร่วม แต่จะขึ้นเวทีด้วยอย่างแน่นอน ตนไม่กลัวคำขู่ของ ร.ต.อ.เฉลิม รวมถึงบรรดาลิ่วล้อ ของระบอบทักษิณที่ออกมาขู่ตนโดยอ้างว่าการขึ้นเวทีของตนอาจทำให้ศาล ยกเลิกการประกันได้

"การเคลื่อนไหวของผมอยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญ ที่ระบุถึงเสรีภาพ ในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ รวมไปถึงการแสดงความคิดเห็นที่สุจริต ดังนั้น ผมจึงไม่กลัวว่าจะผิดเงื่อนไขของการประกันตัว ยืนยันว่าในวันที่ 28 มีนาคมผมจะขึ้น เวทีปราศรัยที่หอประชุมใหญ่ ธรรมศาสตร์อย่างแน่นอน"

แม่ทัพภาคที่ 1 เชื่อไม่มีอะไรเหตุรุนแรง

พล.ท. ประยุทธ์ จันโอชา แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ เตรียมจัดสัมมนาในวันที่ 28 มี.ค.นี้ว่า ไม่น่าจะมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น ซึ่งเราติดตามข่าว การชุมนุมอยู่เสมอ และผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้ทหารทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทั้งในเรื่อง การป้องกันประเทศและการรักษาความมั่นคงภายใน รวมถึงการพัฒนาด้านต่างๆ ขออย่าได้ห่วงกังวลเรื่องใด เพราะบ้านเมืองเราจะต้องคลี่คลายไปในทางที่ดี ทั้งนี้ ทหารไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องทางด้านการเมืองใดๆทั้งสิ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า แม้สถานการณ์บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายทหารก็จะไม่ออกมาใช้หรือไม่ พล.ท. ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ใช่หน้าที่ของทหารในเวลานี้ แต่เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องดูแล เพราะขณะนี้บ้านเมืองอยู่ในความสงบเรียบร้อย และไม่น่าจะมีมือที่สาม เพราะทุกคนอยากให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อย เราไม่จำเป็นต้องเตรียมแผนปฐพี 149 เพื่อเข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อย และ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ไม่ได้สั่งการอะไร จากการติดตามดูแล้วสถานการณ์ไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้น

ส่วนที่พรรคพลังประชาชนพยายามจัดม็อบเข้ามาชนกับกลุ่มพันธมิตรฯนั้น พล.ท. ประยุทธ์ กล่าวว่า ประชาชนต้องการให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุขมากกว่า คงไม่ไปเข้าข้างใดข้างหนึ่ง ทำให้เกิดความวุ่นวาย ตนอยากฝากถึงประชาชนว่าจะต้องทำอย่างไรให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อย

ผบช.น.มั่นใจทุกอย่างเรียบร้อย

พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. กล่าวถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยกลุ่มพันธมิตรฯนัดจัดสัมมนา ในวันที่ 28 มี.ค.ว่าได้สั่งการไปยังตำรวจท้องที่ สน.ชนะสงคราม สน.พระราชวัง และ สน.ใกล้เคียง จัดกำลังตำรวจมาดูแลความปลอดภัย และจราจร สังกัดกองบังคับการตำรวจ (บก.จร.)อำนวยความสะดวกด้านการจราจรและไม่ให้มีการจัดกิจกรรมใด ๆ ที่ก่อให้เกิดการกีดขวางจราจร

ส่วนจะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรนั้นได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายการข่าวประสานไปยังแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม แล้วพร้อมหารือวางแนวทางป้องกันเหตุร้ายที่อาจขึ้น จากการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มมือที่ 3 อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการชุมนุมครั้งนี้ไม่น่ามีปัญหาอะไรและตำรวจสามารถควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อย ได้อย่างแน่นอนเพราะใช้สถานที่หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นสถานที่ปิดง่ายต่อการควบคุมดูแลซึ่งตนจะไปอำนวยการสั่งการด้วยตัวเอง

"เพ็ญ" หนุน ส.ส.พปช.ชนพันธมิตรฯ

ด้านนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ประชาชนต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งตนเห็นว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นประโยชน์กับรัฐบาลมาก เพราะทำให้เห็นว่าบ้านเมืองยั งมีการเคลื่อนไหวอยู่ ซึ่งยิ่งมีความเคลื่อนไหวมากเท่าใด รัฐบาลยิ่งมีความชอบธรรม ที่จะบริหารราชการแผ่นดินเพื่อแก้ไขปัญหา อย่าลืมว่าก่อนที่รัฐบาลชุดนี้จะเข้ามาประเทศอยู่ในปัญหาที่ลึกซึ้งมาก ซึ่งคนที่รวมตัวกันมาก็ต้องไม่ลืมด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะเดียวกันกลุ่ม นปช.ซึ่งพัฒนามาจากกลุ่ม นปก.ก็จะฟื้นขึ้นมา เคลื่อนไหวต่อสู่กับกลุ่มพันธมิตรฯด้วยจะเกิดปัญหาหรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้มาจากการเลือกตั้งไม่มีกลุ่มมวลชนติดปลายนวมมาด้วยเลย เป็นรัฐบาลประชาธิปไตยล้วนๆ แต่ก็กลับมีสัญญาณว่าจะไม่ให้รัฐบาลทำงานอีกแล้ว หาว่ารัฐบาลทำงานไม่ดี ทั้งที่บริหารมาเพียงเดือนดเศษ จึงอยากให้รัฐบาลชั่งใจด้วยว่าอะไรเป็นต้นเหตุที่ทำให้เราเกิดความไม่สบายใจว่าบ้านเมืองอาจจะมีปัญหา อย่างไรก็ตามถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะทำให้บรรยากาศนั้นดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็อยากขอร้องไม่ว่ากลุ่มไหนอยากให้ความร่วมมือกับการพัฒนาประเทศ

นายจักรภพ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของทั้ง 2 กลุ่มคงไม่เกิดการเผชิญหน้า คนเรามีความเห็นไม่ตรงกันก็ไม่เห็นต้องยกพวกตีกันเลย เรื่องนี้ในส่วนของรัฐบาลมีการพูดคุยกันภายใน ซึ่งคงไม่ต้องบอกกันดังๆ ทุกเรื่องไป และเท่าที่ดูการสำรวจของโพลล์สำนักต่างๆ จะเห็นว่าประชาชนให้ความสำคัญกับปัญหาปากท้องมากกว่าปัญหาการเมืองหรือการชุมนุมรัฐบาล จึงต้องจับประเด็นให้ถูกว่าอะไรสำคัญกว่าอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมไม่ปราบ ส.ส.ในพรรคพลังประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหว ชนกับพันธมิตรฯ นายจักรภพกล่าวว่า การออกมาแสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิที่จะทำได้ เป็นการแสดงให้เห็นว่าเราไม่ได้อยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการที่ทุกคนคิดอะไรต้องอุบไว้ในใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากรัฐบาลไม่สามารถทำให้การชุมนุมต่างๆ สงบได้ จะทำให้เป็นโอกาสของคนอีกกลุ่มหนึ่งเข้ามาจัดระเบียบอีกหรือไม่ นายจักรภพกล่าวว่า รัฐบาลก็ต้องพยายามทำไม่ให้เกิดวันนั้น เรามีบทเรียนมาแล้วในรัฐบาลก่อนการรัฐประหาร เราก็คงจะไม่ปล่อยให้เหตุการณ์มันล่วงเลยไปจนกระทั่งทำอะไรไม่ได้

"ที่พันธมิตรฯ บอกว่ารัฐบาลทำไมทำอย่างนั้นอย่างนี้แล้วไม่ชี้แจงเลยนั้นคงไม่ใช่ เพราะรัฐบาลใช้กลไกลสภาผู้แทนฯชี้แจง พันธมิตรฯ สามารถใช้กลไกนี้ได้ ในการเสนอปัญหาต่างๆ ผ่านไปยังประธานสภา หรือ ส.ส. ส.ว.ซึ่งรัฐบาลจะได้ยินไปด้วย และถือเป็นช่องทางหนึ่งในการระงับความขัดแย้งได้"

ส่วนจะทำอย่างไรไม่ให้สังคมเข้าใจผิดว่ารัฐบาลสนับสนุน นปช.ในการฟื้น ขึ้นมาอีกครั้ง นายจักรภพกล่าวว่า สื่อมวลชนช่วยทำหน้าที่นี้อยู่แล้วว่าแต่ละกลุ่มนั้นมีเบื้องหลังในการเคลื่อนไหวหรือไม่ เราเชื่อว่าทุกกลุ่มมีความจริงใจในการ เสนอปัญหาเพื่อบ้านเมือง แต่ต้องระวังเส้นที่จะข้ามมาแล้วไปละเมิดสิทธิคนอื่นด้วย ตรงนี้มากกว่า

นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน แกนนำกลุ่มมหาชนร่วมพิทักษ์ประชาธิปไตย ที่ประกาศจะเผชิญหน้ากับกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า กลุ่มฯ ไม่ได้ตั้งมาเพื่อต้านใคร แต่เพื่อชี้นำสังคมให้เห็นถึงความเคลื่อนไหว ของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่กำลังสร้างเงื่อนไขโดยอาศัยช่องว่างทางกฎหมายมาโจมตี ล้มล้างรัฐบาลด้วยข้อหาต่างๆ และกำลังสร้างกระแสนำไปสู่การชุมนุมอีกครั้ง ดังนั้นกิจกรรมของกลุ่มฯ จะมีเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับกลุ่มพันธมิตรฯ เท่านั้น แต่จะไม่เกิดการปะทะกันอย่างแน่นอน แต่จะเปิดเวทีทอล์คโชว์ แสดงทัศนคติในวันที่ 28 มี.ค. เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์

นอกจากนี้จะจัดเวทีสัญจรทุกเย็นวันศุกร์ตามสถานที่ต่างๆ คู่ขนานไปกับกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูล 2 ทาง ซึ่งการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 19 มี.ค.นี้ ตนอาจจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุมด้วย

"กลุ่มฯ เราทำกันในนามส่วนตัว และในรูปแบบของกลุ่ม ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองต้นสังกัด แตกต่างจากนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ที่ไปพูดอย่างชัดแจ้งในภาคใต้ ปลุกระดมให้คนมาเคลื่อนไหวล้มล้างรัฐบาลร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ไม่รู้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำอะไรกันอยู่ถึงปล่อยให้นายสมเกียรติดำเนินการแบบนั้น นายสมเกียรติน่าจะลาออกจาก ส.ส.แล้วไปร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ แบบเต็มตัวตามเดิมจะเหมาะสมกว่า"

ปชป.ย้ำพันธมิตรฯ แค่จัดสัมมนา

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายสมเกียรติ เคยเป็นแกนนำพันธมิตรฯก่อนที่จะมาเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขาก็ไปในส่วนของเขา และได้มาเล่าให้สมาชิกฟังว่าการเคลื่อนไหวเป็นอย่างไร ในส่วนของพรรคก็ไม่ได้ไปดำเนินการอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า จำเป็นต้องให้นายสมเกียรติ ยุติบทบาทหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าไม่จำเป็น และขณะนี้ก็ยังไม่มีอะไร ซึ่งการประชุมส.ส.ของพรรคที่ผ่านมา นายสมเกียรติ ก็ชี้แจงแล้วว่าไปทำอะไรมา พรรคก็รับทราบและถือเป็นสิทธิ์ของ นายสมเกียรติ ที่จะดำเนินการได้ ซึ่งตอนนี้ก็เห็นว่ายังไม่มีอะไรเป็นเพียงการจัดการอภิปราย ประชุมสัมมนาเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องที่ไปเชิญชวนคนมาชุมนุม หรือเคลื่อนไหว ทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะไป หากทุกอย่างทำอย่างเปิดเผย และบริสุทธิ์ใจก็ไม่ต้องกลัวอะไร

ส่วนที่จะมีการไปร้องกับ กกต. ให้ไปตรวจสอบว่า คนของพรรคประชาธิปัตย์ขนคนมาฟังในส่วนของรายการยามเฝ้าแผ่นดินนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าไม่มี ส.ส. 2 ท่านที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก็ได้ปฏิเสธชัดเจนว่า พรรคไม่ได้ไปเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ก็คงจะมีความพยายามกล่าวหา ซึ่งทุกอย่างที่เราทำก็เปิดเผย และไม่รู้สึกกังวล

ชาวตะวันออกแห่ซื้อจานดาวเทียม ASTV

ที่ จ.ชลบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้า วันเดียวกันประชาชนในเขตจังหวัดทางภาคตะวันออกต่างทยอยเดินทางมาที่ สำนักงานหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ศูนย์ข่าวศรีราชา จ.ชลบุรี กันอย่างต่อเนื่อง เพื่อติดต่อขอซื้อจานดาวเทียม ASTV จากทางศูนย์ข่าวกันเป็นจำนวนมาก นายโกวิท มั่งคั่ง อายุ 72 ปี ลูกค้าจากเขต อำเภอเมืองชลบุรี ที่เดินทางมาซื้อจานดาวเทียม ASTV บอกว่า ต้องมาซื้อจานดาวเทียมไว้ก่อน ถึงแม้ตอนนี้สัญญาณถ่ายทอดช่องสัญญาณ ASTV จากทางเคเบิลทีวีท้องถิ่นยังคงมีอยู่ก็ตาม แต่ทว่าในอนาคตเกรงว่าอาจโดนทางรัฐบาลชุดนี้ตัดสัญญาณแพร่ภาพก็เป็นได้

ลูกค้าอีกราย กล่าวด้วยว่า หากในอนาคตสัญญาณ ASTV ถูกตัดขาดจาก เคเบิลท้องถิ่น จะทำให้ประชาชนที่เคยติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านช่องสัญญาณดังกล่าว ต้องได้รับผลกระทบตามมาทั้งข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ก็จะหายไปโดยปริยาย เหมือนเป็นการปิดหูปิดตาประชาชนอีกครั้ง

สงขลาเคลื่อนไหวพร้อมพันธมิตรฯ

นายเอกชัย อิสระทะ ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยว่า การเคลื่อนไหวของพันธมิตรสงขลาฯ จะมีหลายฝ่ายเข้าร่วม ทั้งกลุ่มนักวิชาการ นักกิจกรรมสังคม กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินสงขลา และเครือข่ายอื่นๆ

สำหรับกิจกรรมที่จะดำเนินการ คือการเชิญแกนนำพันธมิตรฯ มาร่วมเสวนาให้ความรู้กับประชาชน วิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองทั้งปัจจุบันและอนาคต รวมทั้งจะส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 28 มี.ค. เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้เรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำคือการให้ความรู้กับภาคประชาชนว่าบ้านเมืองเดินมาถึงจุดไหน เกิดวิกฤตอะไรขึ้น และประชาชนควรจะเข้ามามีส่วนร่วมกับการนำพาประเทศให้พ้นวิกฤตได้อย่างไร

ซึ่งในวันที่ 28 มี.ค. จะจัดสถานที่หน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ ติดตั้งจอโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่ให้ประชาชนได้ร่วมชม ยามเฝ้าแผ่นดินภาคพิเศษ และจะมีการนำข้อมูลมาวิเคราะห์และกำหนดเป็นแนวทางในการเคลื่อนไหวต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น