สภาพการณ์ของไทยเราน่าเป็นห่วงยิ่งนัก ยิ่งนานวันไทยเราก็ยิ่งถอยหลังๆ ลงทุกที ทั้งนี้ก็เพราะผู้ปกครองไทยเรามิจฉาทิฐิมายาวนาน ได้แบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือ เผด็จการรัฐประหาร กับ เผด็จการรัฐสภา มาจากการเลือกตั้ง แต่ต่างก็ถือรัฐธรรมนูญเป็นศูนย์กลาง เมื่อพวกเขาเห็นผิดในเบื้องต้นเสียแล้ว ย่อมเป็นปัจจัยให้พวกเขาคิดผิด พูดผิด และทำผิดตลอดเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนานกว่า 75 ปี โดยไม่ได้ฉุกคิดแม้แต่น้อย แนวทางดังกล่าวทำให้คณะผู้ปกครองคณะแล้วคณะเล่า ต่างก็ตักตวง เอาเปรียบประเทศชาติและประชาชนจนร่ำรวยไปทุกคณะ แต่กลับทำให้ประเทศชาติตกต่ำย่ำแย่ล้าหลังเกินกว่าที่กล่าว ประชาชนยากจน และตกเป็นเหยื่อของคนร่ำรวย และรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณต่อคนร่ำรวยอย่างล้นฟ้าล้นแผ่นดิน ดุจทาสในเรือนเบี้ย เพราะด้วยความซื่อและความไม่รู้ ความไม่เท่าทันในการเมืองแบบเผด็จการที่แยบคาย
การนำคำสอนของพระพุทธเจ้า มาขยายความ เผยแผ่เป็นธรรมทานต่อท่านสาธุชนทั้งหลาย จึงเป็นภารกิจแห่งชีวิต เป็นสื่อ เป็นแสงสว่างทางปัญญาให้ท่านผู้อ่านและประชาชนทั้งหลาย เรามาติดตามความยิ่งใหญ่ในพระปรีชาญาณ “อนาคตังสญาณ” คือญาณหรือปัญญาที่หยั่งรู้อนาคตของพระพุทธเจ้า อันเป็นเครื่องเตือนใจ สาธุชนชาวไทยจะได้ไม่ประมาท ผู้ศึกษาและปฏิบัติมาดีแล้วล้วนมีความเห็นว่า “ปัญญาอันยิ่งใหญ่มาจากพระพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นศาสดาเอกของโลก” พระเจ้าปเสนทิโกสน ทรงพระสุบิน (ฝัน) รวม 16 เรื่อง พระพุทธเจ้าก็ทรงแก้พระสุบินให้ทั้งหมด เริ่มในตอนที่ 4 ต่อไป
4. ฝันว่าโคใหญ่เคยไถนา ไม่นำพาปล่อยปละจากสถาน เอาลูกโคเทียมไถเข้าใช้การ ไม่เคยงานเสียรอยย่อยยับไป เดินดินแตกแยกข้ามคันนาหนี ไม่รู้ในท่วงทีทำนองไถ
“มีพุทธบรรหารร่วมว่านานไปนเรศไทท้าวพระยาทุกธานี จะคบคนพาลาปัญญาหยาบ ใจบ้าบาปหนุ่มคะนองให้ครองที่ นับถือว่าสุจริตความคิดดี ได้ท่วงทีพวกอุททาม ก็ลามลวน ถึงได้เป็นเสนาปรึกษาความ ทำวู่วามตามศักดิ์แล้วหักหวน ความชอบผิดมิได้คิดที่ข้อควร เอาแต่ส่วนสินบนคนเข็ญใจ” (อุททาม แปลว่า คะนอง, ปราศจากความเหนี่ยวรั้ง)
ข้อทำนายนี้ ช่างเป็นความจริงเหลือเกิน ผู้ปกครอง นักการเมือง ล้วนมีนายบ่อน นักเลง ผู้กว้างขวาง ผู้มีอิทธิพลเป็นที่ปรึกษา เป็นหัวคะแนน ยึดจังหวัดใคร จังหวัดมัน เป็นเขตอิทธิพลทำมาหากินเกี่ยวกับอบายมุขทั้งปวง ทั้งที่ผิดกฎหมายและถูกต้องตามกฎหมาย แต่ผิดศีลธรรมตามหลักศาสนา
ถ้าหันกล้องส่องทางไกลเล็งไปที่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง ก็จะเห็นว่าทั้งนักการเมืองและข้าราชการ ล้วนมีพฤติกรรมไปในทางฉ้อราษฎร์บังหลวงในรูปแบบต่างๆ เพราะระบอบการเมืองไทยปัจจุบันมีเงื่อนไขให้ใช้เงินเป็นใหญ่ บวกกับระบบทุนนิยมผูกขาด ฉะนั้นการได้มาของความเป็นผู้แทน เงินเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ใครมีเงินก็ชนะการเลือกตั้งโดยไม่ต้องสงสัย เราจึงเห็นแต่ “นักการเมืองทาส” ที่ตกเป็นทาสนายเงินเดินพาเหรดเข้าสภา ส่วนคนดีมีความรู้ความสามารถตั้งใจจริง อุทิศตนเพื่อประเทศชาติอย่าได้หวังเลยว่าจะได้ทำงานตามอุดมการณ์ที่ถูกต้อง สังคมที่ขาดแคลนศีลธรรม ผู้ปกครอง นักการเมือง ข้าราชการไม่เคยเข้าวัดปฏิบัติธรรม อย่างดีก็เกี่ยวข้องเพียงพิธีกรรมทางศาสนา ซึ่งเป็นเพียงสะเก็ดในองค์ประกอบของศาสนาเท่านั้น (สะเก็ด เปรียบได้กับพิธีกรรม, เปลือก เปรียบได้กับศีล, กระพี้ เปรียบได้กับสมาธิ, แก่น เปรียบได้ตัวปัญญาที่เข้าถึงสัจธรรม)
ประเทศที่ขาดหลักการปกครอง (Principle of government) มีแต่รัฐธรรมนูญ หรือมีแต่วิธีการปกครอง (Methods of government) เพียงอย่างเดียว ย่อมทำให้ประชาชนยากแก่การเข้าใจ ทำให้ประชาชนเข้าใจการเมืองแบบผิดๆ และไม่รู้เท่าทันทางการเมือง เหตุนี้ทำให้อำนาจอธิปไตยอันเป็นอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศจะกลายเป็นของชนส่วนน้อยอย่างเป็นไปเอง ส่วนผู้มีอำนาจสูงสุดในแผ่นดินก็ไม่มีความชำนาญเกี่ยวกับระบอบการเมือง การเมืองจึงตกเป็นของคนส่วนน้อย ระบบเศรษฐกิจก็จะเป็นทุนนิยมผูกขาดหรือทุนนิยมล้าหลัง อำนาจทางเศรษฐกิจจึงตกเป็นของคนส่วนน้อย คนส่วนน้อยมั่งคั่ง แต่คนส่วนใหญ่ยากจน ผู้ปกครอง นักธุรกิจการเมือง กลุ่มทุนผูกขาดร่ำรวยใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายอยู่ดีกินดี กินอาหารมื้อละเป็นหมื่นเป็นแสน เป็นภาพที่ทำให้นักการเมืองทุกระดับ และข้าราชการหวั่นไหว จึงหาช่องทางในการคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ ประชาชนหวั่นไหว ก็จำต้องทำทุกอย่าง เช่น ค้ายาเสพติด บ่อน ซ่องหวยเถื่อน ฯลฯ เพื่อให้ได้เงินมาเท่านั้น โดยไม่คำนึงว่าผิดกฎหมายและผิดศีลธรรมอันดี ก็ต้องเสี่ยงเอา
5. ฝันว่ามีม้านั้นสองปาก เห็นหญ้าอยากปากอ้าน้ำลายไหล บุรุษสองปองป้อนจนอ่อนใจ หยิบหญ้าหย่อนยื่นให้ไม่เว้นวาย
“มีพุทธฎีกาพยากรณ์ผู้ตัดรอนความราษฎร์สิ้นทั้งหลาย จะรวบรวมกันกินทั้งสองฝ่าย จะให้ท้ายแนะนำโจทก์จำเลย กันกินพลางทางข่มด้วยลมลวง เหนี่ยวหน่วงถามถึงแล้วนิ่งเฉย บ้างอาศัยใช้การจนนานเลย ความก็เคยแห้งร้างอยู่ค้างปี”
ข้อนี้ก็ถูกต้องเป็นจริงในสังคมไทยและเป็นมานานแล้ว ในระบอบที่อำนาจอธิปไตยเป็นของชนส่วนน้อย ในสังคมจึงเป็นสังคมที่ขาดหลักนิติธรรม อย่างร้ายแรง เช่นไม่มีความเสมอภาคทางโอกาส กฎหมายไม่มีความเสมอภาค คนไม่รู้จึงตกเป็นเหยื่อของคนฉลาดแกมโกง ในเรื่องเกี่ยวกับคดีความเมื่อคนจนถูกจับ ไม่มีเงินวิ่งเต้น ถูกกล่าวหาแล้วผิดจริงหรือเป็นแพะรับบาปก็ต้องถูกจับติดคุกอย่างเดียว ส่วนคนมีเงินก็วิ่งเต้นจัดหาทนายแก้ต่าง วิ่งเต้นให้เขียนสำนวนอ่อน วิ่งเต้นให้อัยการไม่ฟ้อง วิ่งเต้นขอประกันตัว แม้กระทั่งวิ่งเต้นถึงผู้พิพากษาก็มี เพราะเงินเป็นใหญ่ นี่คือข้อเท็จจริงที่กำลังเป็นไปในสังคมไทย เป็นสังคมที่ล้าหลังในทุกด้าน โดยเฉพาะในทางการเมือง ถ้าระบอบการเมืองล้าหลัง (คือระบอบที่ไม่มีหลักธรรมการปกครองเป็นใหญ่ อำนาจอธิปไตยเป็นของชนส่วนน้อย) การปกครองชนิดนี้ย่อมล้าหลัง เศรษฐกิจล้าหลัง การดำเนินชีวิตของประชาชนล้าหลัง สังคมไทยจะเต็มไปด้วยการเอารัดเอาเปรียบ กดขี่ ข่มเหง ไปทั่วทุกหัวระแหง
6. ฝันว่าสุวรรณภาชน์ทอง สุนัขปองขึ้นนั่งน่าบัดสี
“เอื้อนพระโอษฐ์โปรดพุทธวาที ว่าพาลาจะได้ที่เสนีนาย จะหยิ่งยศมาสำทับไม่นับปราชญ์ เสพสังวาสคบพาลประมาณหมาย เหมือนขมิ้นขยำน้ำปูนละลาย ทั้งไพร่นายจะคะนองลำพองพาล”
ข้อนี้ถ้าพิจารณากันลึกๆ จะเห็นว่าคำทำนายนี้ ถูกต้องแม่นยำยิ่งนัก คนพาล พรรคพวกคนพาลได้เป็นใหญ่ ผู้ปกครอง นักการเมืองปัจจุบันจำนวนมากเติบโตขึ้นเป็นใหญ่ทางการเมืองด้วยน้ำเงินของนายทุนใหญ่สามานย์ นักค้ายาเสพติด นายบ่อน พ่อค้าหวยเถื่อนหนุนหลัง นักการเมืองหลายคนก็เป็นลูกของนายบ่อน เป็นลูกของผู้มีอิทธิพลค้าของเถื่อน บ่อน หวยเถื่อน นักการเมืองพวกนี้ใช้เงินซื้อเอา ใช้เงินเป็นทางผ่านเข้าสภาฯ ในรัฐสภาไทยกลายเป็นรัฐสภาของแก๊งนักเลงอิทธิพล ยังไงๆ ก็ไปไม่รอด
7. ฝันว่ามีผู้ฟั่นเชือกหนัง อยู่เคหังเพิงพะในสถาน ปลายเชือกเสือกห้อยลงย้อยยาน สุนัขนอนใต้ร้านกัดกินไป ยิ่งฟั่นก็ยิ่งสั้นไปหมดสิ้น หายืดลงถึงดินนั้นได้ไม่
“พระโลกุตตมาจารย์บรรหารไว้ ว่านานไปจึงจะเห็นทุกข์เข็ญมี ชายมาหาลาภสักการที่บ้านเรือน หญิงก็เบือนบากบ่ายจำหน่ายหนี ทำแสนงอนช่อนทรัพย์คิดอัปรีย์ ข่มขี่หยาบคายให้ชายกลัว ทำยอกยักลักทรัพย์ส่งให้ชู้ ตะแคงค่อนข่มขู่ข่มเหงผัว ชายก็เขลาเมารักสมัครมัว เห็นผัวกลัวกลับข่มให้สมใจ”
คำทำนายนี้ถูกตรงกับสมัยปัจจุบัน ภาษิตที่ว่า “ชายเป็นช้างเท้าหน้า หญิงเป็นช้างเท้าหลัง” หมดสมัยไปแล้ว ยุคนี้เป็นยุคที่หญิงต้องการเสมอกับชาย ผู้ชายทำอะไรได้ ผู้หญิงเราก็ทำได้หมด ยุคนี้หญิงไปเที่ยวโสเภณีชายผัวเช่า ก็มีถมเถไป หญิงแต่งงานแล้วไม่ต้องใช้นามสกุลสามีก็ได้ ถ้าเปลี่ยนไปใช้นามสกุลฝ่ายสามี กลัวเขาจะรู้ว่าแต่งงานแล้ว เผื่อวันหนึ่งอาจจะมีสามีใหม่ นามสกุลจะได้ไม่เป็นอุปสรรค สารพัดที่จะนำมากล่าวอ้างเสริมคำทำนาย เพราะสังคมไทยเป็นสังคมที่อ่อนแอทางประเพณีวัฒนธรรม วัฒนธรรมเป็นผลของสังคม ทุกสิ่งทุกอย่างมันรวมศูนย์อยู่ที่ระบอบการเมืองเลวเป็นเหตุ ผลคือการปกครองเลว การปกครองเลวเป็นเหตุ ผลคือเศรษฐกิจเลว เศรษฐกิจเลวเป็นเหตุ ผลคือการดำเนินชีวิตของประชาชนตกต่ำ ย่ำแย่วัฒนธรรมอ่อนแอ เรากำลังตกอยู่ในอันตราย เพราะความโง่เขลาเบาปัญญาของผู้ปกครองไทยรุ่นแรก และสืบๆ กันมาให้เป็นทาสแนวคิดลัทธิรัฐธรรมนูญมาอย่างผิดๆ ผู้ปกครองไทยเราจึงมีลักษณะ “ตัวเป็นไทย แต่ใจเป็นฝรั่ง” น่ากลัวที่สุดเพราะเป็นอาวุธที่ประเทศตะวันตกนำมาใช้รุกรบกับรากฐานวัฒนธรรมดั้งเดิมของเรา จึงเขียนไว้ให้มีคนกลับตัว กลับใจ ตระหนักเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
8. ฝันว่าประชาชนคนตักน้ำ ช่วยกันปล้ำเทส่งลงตุ่มใหญ่ ตุ่มน้อยร้อยพันเรียงกันไป หามีใครเทใส่แต่สักคน
“พระวรญาณโปรดประทานประกาศิต แนะนิมิตทายเข็ญให้เห็นผล ว่าภายหลังเสนาเป็นนายพล ราษฎร์จะปล้นทรัพย์ใส่ในตุ่มโต ยิ่งได้มากจานเจือจนเหลือล้น ยิ่งยากจนยับนักลงอักโข เฝ้าระวังตั้งหน้าแต่พาโล ที่ซื่อโซกลุ้มรุมดังตุ่มน้อย”
คำทำนายนี้สมจริงในสังคมไทยปัจจุบันที่ว่า “ไม่โกงไม่รวย” “ร่ำรวยโดยการฉ้อโกง” คนมีอำนาจ คนมีอิทธิพล ล้วนเป็นใหญ่เป็นโตเชิดหน้าชูตาอยู่ในสังคมชั้นสูง สังคมไทยวิปริตบิดกลับหลังหัน ยอมรับคนร่ำรวยไม่ว่าจะร่ำรวยมาจากการฉ้อโกงก็ตาม เมื่อเขาได้เป็นใหญ่เป็นโต ก็มักจะข่มขี่คนที่ต่ำต้อยกว่า คนที่ต่ำต้อยที่ไม่มีศักดิ์ศรีก็จะชอบเลียแข็งเลียขา เป็นคนหัวประจบ ยอมสยบลงเป็นทาสรับใช้ ข้าราชการตงฉิน จะถูกปรับย้ายหรือบีบให้ลาออก จนเกิดความรู้สึกว่า “ความเป็นธรรมไม่มีในประเทศไทย”
พระเจ้าแผ่นดิน มีคุณธรรม พระปรีชาสามารถในทุกอย่าง เป็นที่เคารพเชิดชูแผ่ไพศาล แต่ถ้ารัฐธรรมนูญมิจฉาทิฐิวิปริตผิดอาเพศ เพียงอย่างเดียว ส่วนที่เกี่ยวพันสัมพันธ์กันทั้งหมดในแผ่นดินก็จะล้มเหลวไปหมด เพราะเหตุนี้ ประเทศเกิดใหม่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แซงหน้าไปหมดแล้ว เช่น เกาหลี มาเลเซีย และเวียดนามกำลังจะแซงหน้าเราไปในปีหน้านี้แล้ว เราจะเป็นประเทศที่ล้าหลังที่สุดในโลก
การนำคำสอนของพระพุทธเจ้า มาขยายความ เผยแผ่เป็นธรรมทานต่อท่านสาธุชนทั้งหลาย จึงเป็นภารกิจแห่งชีวิต เป็นสื่อ เป็นแสงสว่างทางปัญญาให้ท่านผู้อ่านและประชาชนทั้งหลาย เรามาติดตามความยิ่งใหญ่ในพระปรีชาญาณ “อนาคตังสญาณ” คือญาณหรือปัญญาที่หยั่งรู้อนาคตของพระพุทธเจ้า อันเป็นเครื่องเตือนใจ สาธุชนชาวไทยจะได้ไม่ประมาท ผู้ศึกษาและปฏิบัติมาดีแล้วล้วนมีความเห็นว่า “ปัญญาอันยิ่งใหญ่มาจากพระพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นศาสดาเอกของโลก” พระเจ้าปเสนทิโกสน ทรงพระสุบิน (ฝัน) รวม 16 เรื่อง พระพุทธเจ้าก็ทรงแก้พระสุบินให้ทั้งหมด เริ่มในตอนที่ 4 ต่อไป
4. ฝันว่าโคใหญ่เคยไถนา ไม่นำพาปล่อยปละจากสถาน เอาลูกโคเทียมไถเข้าใช้การ ไม่เคยงานเสียรอยย่อยยับไป เดินดินแตกแยกข้ามคันนาหนี ไม่รู้ในท่วงทีทำนองไถ
“มีพุทธบรรหารร่วมว่านานไปนเรศไทท้าวพระยาทุกธานี จะคบคนพาลาปัญญาหยาบ ใจบ้าบาปหนุ่มคะนองให้ครองที่ นับถือว่าสุจริตความคิดดี ได้ท่วงทีพวกอุททาม ก็ลามลวน ถึงได้เป็นเสนาปรึกษาความ ทำวู่วามตามศักดิ์แล้วหักหวน ความชอบผิดมิได้คิดที่ข้อควร เอาแต่ส่วนสินบนคนเข็ญใจ” (อุททาม แปลว่า คะนอง, ปราศจากความเหนี่ยวรั้ง)
ข้อทำนายนี้ ช่างเป็นความจริงเหลือเกิน ผู้ปกครอง นักการเมือง ล้วนมีนายบ่อน นักเลง ผู้กว้างขวาง ผู้มีอิทธิพลเป็นที่ปรึกษา เป็นหัวคะแนน ยึดจังหวัดใคร จังหวัดมัน เป็นเขตอิทธิพลทำมาหากินเกี่ยวกับอบายมุขทั้งปวง ทั้งที่ผิดกฎหมายและถูกต้องตามกฎหมาย แต่ผิดศีลธรรมตามหลักศาสนา
ถ้าหันกล้องส่องทางไกลเล็งไปที่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง ก็จะเห็นว่าทั้งนักการเมืองและข้าราชการ ล้วนมีพฤติกรรมไปในทางฉ้อราษฎร์บังหลวงในรูปแบบต่างๆ เพราะระบอบการเมืองไทยปัจจุบันมีเงื่อนไขให้ใช้เงินเป็นใหญ่ บวกกับระบบทุนนิยมผูกขาด ฉะนั้นการได้มาของความเป็นผู้แทน เงินเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ใครมีเงินก็ชนะการเลือกตั้งโดยไม่ต้องสงสัย เราจึงเห็นแต่ “นักการเมืองทาส” ที่ตกเป็นทาสนายเงินเดินพาเหรดเข้าสภา ส่วนคนดีมีความรู้ความสามารถตั้งใจจริง อุทิศตนเพื่อประเทศชาติอย่าได้หวังเลยว่าจะได้ทำงานตามอุดมการณ์ที่ถูกต้อง สังคมที่ขาดแคลนศีลธรรม ผู้ปกครอง นักการเมือง ข้าราชการไม่เคยเข้าวัดปฏิบัติธรรม อย่างดีก็เกี่ยวข้องเพียงพิธีกรรมทางศาสนา ซึ่งเป็นเพียงสะเก็ดในองค์ประกอบของศาสนาเท่านั้น (สะเก็ด เปรียบได้กับพิธีกรรม, เปลือก เปรียบได้กับศีล, กระพี้ เปรียบได้กับสมาธิ, แก่น เปรียบได้ตัวปัญญาที่เข้าถึงสัจธรรม)
ประเทศที่ขาดหลักการปกครอง (Principle of government) มีแต่รัฐธรรมนูญ หรือมีแต่วิธีการปกครอง (Methods of government) เพียงอย่างเดียว ย่อมทำให้ประชาชนยากแก่การเข้าใจ ทำให้ประชาชนเข้าใจการเมืองแบบผิดๆ และไม่รู้เท่าทันทางการเมือง เหตุนี้ทำให้อำนาจอธิปไตยอันเป็นอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศจะกลายเป็นของชนส่วนน้อยอย่างเป็นไปเอง ส่วนผู้มีอำนาจสูงสุดในแผ่นดินก็ไม่มีความชำนาญเกี่ยวกับระบอบการเมือง การเมืองจึงตกเป็นของคนส่วนน้อย ระบบเศรษฐกิจก็จะเป็นทุนนิยมผูกขาดหรือทุนนิยมล้าหลัง อำนาจทางเศรษฐกิจจึงตกเป็นของคนส่วนน้อย คนส่วนน้อยมั่งคั่ง แต่คนส่วนใหญ่ยากจน ผู้ปกครอง นักธุรกิจการเมือง กลุ่มทุนผูกขาดร่ำรวยใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายอยู่ดีกินดี กินอาหารมื้อละเป็นหมื่นเป็นแสน เป็นภาพที่ทำให้นักการเมืองทุกระดับ และข้าราชการหวั่นไหว จึงหาช่องทางในการคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ ประชาชนหวั่นไหว ก็จำต้องทำทุกอย่าง เช่น ค้ายาเสพติด บ่อน ซ่องหวยเถื่อน ฯลฯ เพื่อให้ได้เงินมาเท่านั้น โดยไม่คำนึงว่าผิดกฎหมายและผิดศีลธรรมอันดี ก็ต้องเสี่ยงเอา
5. ฝันว่ามีม้านั้นสองปาก เห็นหญ้าอยากปากอ้าน้ำลายไหล บุรุษสองปองป้อนจนอ่อนใจ หยิบหญ้าหย่อนยื่นให้ไม่เว้นวาย
“มีพุทธฎีกาพยากรณ์ผู้ตัดรอนความราษฎร์สิ้นทั้งหลาย จะรวบรวมกันกินทั้งสองฝ่าย จะให้ท้ายแนะนำโจทก์จำเลย กันกินพลางทางข่มด้วยลมลวง เหนี่ยวหน่วงถามถึงแล้วนิ่งเฉย บ้างอาศัยใช้การจนนานเลย ความก็เคยแห้งร้างอยู่ค้างปี”
ข้อนี้ก็ถูกต้องเป็นจริงในสังคมไทยและเป็นมานานแล้ว ในระบอบที่อำนาจอธิปไตยเป็นของชนส่วนน้อย ในสังคมจึงเป็นสังคมที่ขาดหลักนิติธรรม อย่างร้ายแรง เช่นไม่มีความเสมอภาคทางโอกาส กฎหมายไม่มีความเสมอภาค คนไม่รู้จึงตกเป็นเหยื่อของคนฉลาดแกมโกง ในเรื่องเกี่ยวกับคดีความเมื่อคนจนถูกจับ ไม่มีเงินวิ่งเต้น ถูกกล่าวหาแล้วผิดจริงหรือเป็นแพะรับบาปก็ต้องถูกจับติดคุกอย่างเดียว ส่วนคนมีเงินก็วิ่งเต้นจัดหาทนายแก้ต่าง วิ่งเต้นให้เขียนสำนวนอ่อน วิ่งเต้นให้อัยการไม่ฟ้อง วิ่งเต้นขอประกันตัว แม้กระทั่งวิ่งเต้นถึงผู้พิพากษาก็มี เพราะเงินเป็นใหญ่ นี่คือข้อเท็จจริงที่กำลังเป็นไปในสังคมไทย เป็นสังคมที่ล้าหลังในทุกด้าน โดยเฉพาะในทางการเมือง ถ้าระบอบการเมืองล้าหลัง (คือระบอบที่ไม่มีหลักธรรมการปกครองเป็นใหญ่ อำนาจอธิปไตยเป็นของชนส่วนน้อย) การปกครองชนิดนี้ย่อมล้าหลัง เศรษฐกิจล้าหลัง การดำเนินชีวิตของประชาชนล้าหลัง สังคมไทยจะเต็มไปด้วยการเอารัดเอาเปรียบ กดขี่ ข่มเหง ไปทั่วทุกหัวระแหง
6. ฝันว่าสุวรรณภาชน์ทอง สุนัขปองขึ้นนั่งน่าบัดสี
“เอื้อนพระโอษฐ์โปรดพุทธวาที ว่าพาลาจะได้ที่เสนีนาย จะหยิ่งยศมาสำทับไม่นับปราชญ์ เสพสังวาสคบพาลประมาณหมาย เหมือนขมิ้นขยำน้ำปูนละลาย ทั้งไพร่นายจะคะนองลำพองพาล”
ข้อนี้ถ้าพิจารณากันลึกๆ จะเห็นว่าคำทำนายนี้ ถูกต้องแม่นยำยิ่งนัก คนพาล พรรคพวกคนพาลได้เป็นใหญ่ ผู้ปกครอง นักการเมืองปัจจุบันจำนวนมากเติบโตขึ้นเป็นใหญ่ทางการเมืองด้วยน้ำเงินของนายทุนใหญ่สามานย์ นักค้ายาเสพติด นายบ่อน พ่อค้าหวยเถื่อนหนุนหลัง นักการเมืองหลายคนก็เป็นลูกของนายบ่อน เป็นลูกของผู้มีอิทธิพลค้าของเถื่อน บ่อน หวยเถื่อน นักการเมืองพวกนี้ใช้เงินซื้อเอา ใช้เงินเป็นทางผ่านเข้าสภาฯ ในรัฐสภาไทยกลายเป็นรัฐสภาของแก๊งนักเลงอิทธิพล ยังไงๆ ก็ไปไม่รอด
7. ฝันว่ามีผู้ฟั่นเชือกหนัง อยู่เคหังเพิงพะในสถาน ปลายเชือกเสือกห้อยลงย้อยยาน สุนัขนอนใต้ร้านกัดกินไป ยิ่งฟั่นก็ยิ่งสั้นไปหมดสิ้น หายืดลงถึงดินนั้นได้ไม่
“พระโลกุตตมาจารย์บรรหารไว้ ว่านานไปจึงจะเห็นทุกข์เข็ญมี ชายมาหาลาภสักการที่บ้านเรือน หญิงก็เบือนบากบ่ายจำหน่ายหนี ทำแสนงอนช่อนทรัพย์คิดอัปรีย์ ข่มขี่หยาบคายให้ชายกลัว ทำยอกยักลักทรัพย์ส่งให้ชู้ ตะแคงค่อนข่มขู่ข่มเหงผัว ชายก็เขลาเมารักสมัครมัว เห็นผัวกลัวกลับข่มให้สมใจ”
คำทำนายนี้ถูกตรงกับสมัยปัจจุบัน ภาษิตที่ว่า “ชายเป็นช้างเท้าหน้า หญิงเป็นช้างเท้าหลัง” หมดสมัยไปแล้ว ยุคนี้เป็นยุคที่หญิงต้องการเสมอกับชาย ผู้ชายทำอะไรได้ ผู้หญิงเราก็ทำได้หมด ยุคนี้หญิงไปเที่ยวโสเภณีชายผัวเช่า ก็มีถมเถไป หญิงแต่งงานแล้วไม่ต้องใช้นามสกุลสามีก็ได้ ถ้าเปลี่ยนไปใช้นามสกุลฝ่ายสามี กลัวเขาจะรู้ว่าแต่งงานแล้ว เผื่อวันหนึ่งอาจจะมีสามีใหม่ นามสกุลจะได้ไม่เป็นอุปสรรค สารพัดที่จะนำมากล่าวอ้างเสริมคำทำนาย เพราะสังคมไทยเป็นสังคมที่อ่อนแอทางประเพณีวัฒนธรรม วัฒนธรรมเป็นผลของสังคม ทุกสิ่งทุกอย่างมันรวมศูนย์อยู่ที่ระบอบการเมืองเลวเป็นเหตุ ผลคือการปกครองเลว การปกครองเลวเป็นเหตุ ผลคือเศรษฐกิจเลว เศรษฐกิจเลวเป็นเหตุ ผลคือการดำเนินชีวิตของประชาชนตกต่ำ ย่ำแย่วัฒนธรรมอ่อนแอ เรากำลังตกอยู่ในอันตราย เพราะความโง่เขลาเบาปัญญาของผู้ปกครองไทยรุ่นแรก และสืบๆ กันมาให้เป็นทาสแนวคิดลัทธิรัฐธรรมนูญมาอย่างผิดๆ ผู้ปกครองไทยเราจึงมีลักษณะ “ตัวเป็นไทย แต่ใจเป็นฝรั่ง” น่ากลัวที่สุดเพราะเป็นอาวุธที่ประเทศตะวันตกนำมาใช้รุกรบกับรากฐานวัฒนธรรมดั้งเดิมของเรา จึงเขียนไว้ให้มีคนกลับตัว กลับใจ ตระหนักเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
8. ฝันว่าประชาชนคนตักน้ำ ช่วยกันปล้ำเทส่งลงตุ่มใหญ่ ตุ่มน้อยร้อยพันเรียงกันไป หามีใครเทใส่แต่สักคน
“พระวรญาณโปรดประทานประกาศิต แนะนิมิตทายเข็ญให้เห็นผล ว่าภายหลังเสนาเป็นนายพล ราษฎร์จะปล้นทรัพย์ใส่ในตุ่มโต ยิ่งได้มากจานเจือจนเหลือล้น ยิ่งยากจนยับนักลงอักโข เฝ้าระวังตั้งหน้าแต่พาโล ที่ซื่อโซกลุ้มรุมดังตุ่มน้อย”
คำทำนายนี้สมจริงในสังคมไทยปัจจุบันที่ว่า “ไม่โกงไม่รวย” “ร่ำรวยโดยการฉ้อโกง” คนมีอำนาจ คนมีอิทธิพล ล้วนเป็นใหญ่เป็นโตเชิดหน้าชูตาอยู่ในสังคมชั้นสูง สังคมไทยวิปริตบิดกลับหลังหัน ยอมรับคนร่ำรวยไม่ว่าจะร่ำรวยมาจากการฉ้อโกงก็ตาม เมื่อเขาได้เป็นใหญ่เป็นโต ก็มักจะข่มขี่คนที่ต่ำต้อยกว่า คนที่ต่ำต้อยที่ไม่มีศักดิ์ศรีก็จะชอบเลียแข็งเลียขา เป็นคนหัวประจบ ยอมสยบลงเป็นทาสรับใช้ ข้าราชการตงฉิน จะถูกปรับย้ายหรือบีบให้ลาออก จนเกิดความรู้สึกว่า “ความเป็นธรรมไม่มีในประเทศไทย”
พระเจ้าแผ่นดิน มีคุณธรรม พระปรีชาสามารถในทุกอย่าง เป็นที่เคารพเชิดชูแผ่ไพศาล แต่ถ้ารัฐธรรมนูญมิจฉาทิฐิวิปริตผิดอาเพศ เพียงอย่างเดียว ส่วนที่เกี่ยวพันสัมพันธ์กันทั้งหมดในแผ่นดินก็จะล้มเหลวไปหมด เพราะเหตุนี้ ประเทศเกิดใหม่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แซงหน้าไปหมดแล้ว เช่น เกาหลี มาเลเซีย และเวียดนามกำลังจะแซงหน้าเราไปในปีหน้านี้แล้ว เราจะเป็นประเทศที่ล้าหลังที่สุดในโลก
