xs
xsm
sm
md
lg

ธ.เฉพาะกิจอ้อนเลื่อนใช้IAS39 อ้างไม่มุ่งหากำไร-เปลืองงบรัฐ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน-เอสเอ็มอีแบงก์หนุนคลังออกมาตรการผ่อนปรนตั้งสำรอง IAS 39 เหตุเป็นธนาคารเฉพาะกิจเพื่อพัฒนาเอสเอ็มอีไม่ได้มุ่งแสวงหากำไรเหมือนแบงก์พาณิชย์หวั่นสิ้นเปลืองงบประมาณรัฐมาอุดหนุน ด้านธอส.-เอ็กซิมแบงก์ยันไร้ปัญหาตั้งสำรองครบ 100%

นางพงษ์ศักดิ์ ชิวชรัตน์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.) หรือ เอสเอ็มอีแบงก์ เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ผ่อนผันการตั้งสำรองตามเกณฑ์มาตรฐานทางบัญชีระหว่างประเทศฉบับที่ 39 (IAS 39) ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กำหนดให้ตั้งสำรองภายในสิ้นปี 2549 ออกไปเป็นปี 2552 เนื่องจากธพว.ต้องปรับระบบบัญชีเพื่อให้สามารถรองรับเกณฑ์ดังกล่าวแล้วเสร็จเสียก่อน

ซึ่งตามหลักการดำเนินงานของธนาคารเพื่อการพัฒนาต่างๆ ในโลกนี้ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ต้องใช้เกณฑ์ดังกล่าวในการตั้งสำรองเพราะเป้าหมายในการดำเนินงานแตกต่างกับธนาคารพาณิชย์อย่างสิ้นเชิง เนื่องจากธนาคารพาณิชย์มีเป้าหมายการทำธุรกิจเพื่อแสวงหากำไรให้กับผู้ถือหุ้นเป็นหลัก แต่สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐไม่ได้มีเป้าหมายเช่นนั้นจึงไม่ควรใช้เกณฑ์การตั้งสำรองเช่นเดียวกัน

“สถาบันการเงินเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นมาต้องใช้เงินงบประมาณของรัฐบาลสนับสนุนการทำธุรกรรมเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในประเทศเติบโตและแข่งขันได้ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหนทางในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หากต้องตั้งสำรองตามไอเอเอส 39 จะทำให้สิ้นเปลืองเงินงบประมาณของประเทศ วิธีการที่เหมาะสมคือควรกำหนดเกณฑ์ที่ไม่ต้องเข้มงวดเช่นเดียวกับแบงก์พาณิชย์แต่ไปเข้มงวดในกระบวนการพิจารณาสินเชื่อเพื่อให้ได้พอร์ตสินเชื่อที่มีคุณภาพมากขึ้นแทน” นางพงษ์ศักดิ์กล่าว

ด้านนายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส กล่าวว่า ตนเห็นด้วยในการผ่อนปรนการตั้งสำรองตามเกณฑ์ไอเอเอส 39 สำหรับธนาคารที่ไม่สามารถดำเนินการได้ โดยการออกเกณฑ์อาจจะเป็นในลักษณะธนาคารใดมีความพร้อมก็ให้ดำเนินการ โดยในส่วนของธนาคารออมสินนั้นมีความพร้อมในการดำเนินการอยู่แล้ว โดยปัจจุบันสำรองอยู่ที่ระดับ 110% ของจำนวนหนี้ที่ต้องตั้งสำรอง และเชื่อว่าการตั้งสำรองตามารตฐานดังกล่าว เป็นสิ่งที่ต้องทำในอนาคต ดังนั้นการเริ่มทะยอยทำตามเกณฑ์ให้ได้จะไม่เป็นภาระที่หนักในอนาคต

ธอส.ชี้จำเป็นต้องสำรองสร้างเพื่อความเชื่อมั่น

นายคนิสร์ สุคนธมาน รองกรรมการผู้จัดการ สายการเงินและบัญชี(ซีเอฟโอ) ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) กล่าวว่า การตั้งสำรองตามเกณฑ์ไอเอเอส 39 ที่ธปท.ประกาศใช้ถือเป็นมาตรฐานสากลที่ทั่วโลกยึดถือปฏิบัติกัน โดยเกณฑ์ที่ธปท.ประกาศออกมานั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นซึ่งจะเน้นที่หลักประกันของสินเชื่อที่ปล่อยกู้ให้ลูกค้าไป แต่เกณฑ์ไอเอเอส 39 ยังมีเรื่องอื่นๆ อีกมากที่เกี่ยวข้องที่ธปท.ยังไม่ประกาศออกใช้ทั้งหมด

“ตั้งแต่ปี 2549 และ 2550 ที่ผ่านมาธอส.ได้ตั้งสำรองไปแล้วประมาณ 3 พันล้านบาท ซึ่งธอส.ถือว่ามีความจำเป็นต้องตั้งสำรองตามเกณฑ์ดังกล่าว เพราะแม้ว่าจะเป็นธนาคารเฉพาะกิจของรัฐแต่การทำธุรกรรมของธอส.เช่น การทำซีเคียวรีไทเซชั่นและการออกหุ้นกู้สกุลต่างประเทศจำเป็นที่จะต้องมีเครดิตเรตติ้งที่ดีเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนที่จะตัดสินใจซื้อตราสารทางการเงินที่ธอส.ออกไปแต่ละงวด หากไม่ตั้งสำรองตามเกณฑ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการระดมทุนของธอส.ได้” นายคนิสร์กล่าว

ธสน.ยันพ้นปี 49 ไร้ปัญหาตั้งสำรอง

นายอภิชัย บุญธีรวร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ กล่าวว่า เอ็กซิมแบงก์ไม่มีปัญหาในการตั้งสำรองตามเกณฑ์ไอเอเอส 39 แต่อย่างใด โดยในปี 2549 ซึ่งเป็นปีแรกที่ต้องปฏิบัติตามอาจเป็นภาระในการตั้งสำรองถึง 2 พันล้านบาท ส่งผลให้ธนาคารมีผลการดำเนินงานขาดทุนประมาณ 1.3 พันล้านบาท แต่หลังจากตั้งสำรองไปแล้วการดำเนินธุรกรรมของธนาคารก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

ทั้งนี้ การทำธุรกรรมของเอ็กซิมแบงก์จะมีความแตกต่างจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐแห่งอื่น เช่น การระดมทุนที่ส่วนใหญ่ธสน.ต้องระดมทุนจากภายนอกประเทศในสกุลต่างประเทศและการปล่อยกู้ให้กับลูกค้าทั้งหมดก็เป็นการทำธุรกรรมกับคู่ค้าที่เป็นชาวต่างชาติจึงมีความจำเป็นที่ธสน.ต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ไอเอเอส 39 ของธปท.เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนที่จะซื้อหุ้นกู้ของธสน.

“หากเอ็กซิมแบงก์ไม่ตั้งสำรองตามเกณฑ์ไอเอเอส 39 อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของธนาคารได้เนื่องจากจะต้องมีการระดมเงินทุนจากต่างประเทศในรูปแบบตราสารประเภทต่างๆ ดังนั้นเมื่อมีการตั้งสำรองตามเกณฑ์ไอเอเอส 39 ที่เป็นมาตรฐานสากลก็จะทำให้เครดิจเรตติ้งของธอส.ออกมาดีเป็นที่น่าเชื่อถือของนักลงทุนต่างประเทศที่จะซื้อตราสารทางการเงินที่ออกโดยเอ็กซิมแบงก์” นายอภิชัยกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น