ตลาดหลักทรัพย์ฯ จี้ "ทีพีไอโพลีน" ขั้นตอนและผลกระทบจากการจ่ายค่าปรับมูลค่าเกือบ 7 พันล้านบาท ภายในวันที่ 10 มีนาคมนี้ หลังเว็บไซต์ศาลอาญาประกาศยกคำร้องขอทุเลาและผัดผ่อนการชำระค่าปรับของบริษัท ขณะที่ราคาหุ้นทรุดฮวบสวนทางตลาดหุ้นไทย ปิดที่ 7.20 บาท ลดลงจากวันก่อน 5.26%
วานนี้ (6 มี.ค.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้มีคำสั่งให้บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL ชี้แจงความคืบหน้าและรายละเอียดกรณีที่ศาลอาญามีคำพิพากษาให้ปรับเป็นจำนวน 6,900.30 ล้านบาท เพื่อให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนได้ทราบข้อมูลที่ชัดเจนและนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยกำหนดให้ทีพีไอโพลีนชี้แจงข้อมูล ผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 10 มีนาคมนี้
สำหรับรายละเอียดที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้เปิดเผยประกอบด้วย 2 ประเด็นหลัก คือ ประเด็นแรก ระหว่างที่ทีพีไอโพลีนยื่นอุทธรณ์ พร้อมกับการยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดี และขอผัดผ่อนการชำระค่าปรับ แต่ศาลอาญามีคำสั่งไม่มีข้อยกเว้นให้ทุเลาการบังคับคดีนั้น หมายความว่า ทีพีไอโพลีนมีหน้าที่ที่จะต้องชำระค่าปรับไว้ก่อนในระหว่างที่คดียังอยู่ระหว่างดำเนินการตามกระบวนการของศาลหรือไม่
ประเด็นที่สอง หากทีพีไอโพลีนจะต้องชำระค่าปรับไว้ก่อนตามคำสั่งศาลอาญาดังกล่าว ทีพีไอโพลีนจะต้องอธิบายขั้นตอนการดำเนินการ หรือไม่จำเป็นต้องชำระค่าปรับไว้ก่อน จะมีผลอย่างไรต่อบริษัท รวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อฐานะการเงินของบริษัทด้วย
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2551 ทีพีไอโพลีนได้ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลอาญา กรณีศาลอาญาได้มีคำพิพากษาให้ทีพีไอโพลีนมีความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 โดยพิพากษาให้ปรับ TPIPL เป็นจำนวนเงิน 6,900.30 ล้านบาท และปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการดำเนินการตามกระบวนการของศาล ดังนั้นคดีของบริษัทยังไม่ถึงที่สุดจึงยังไม่ต้องดำเนินการจ่ายค่าปรับตามคำพิพากษาศาลอาญา
ขณะที่เว็บไซต์ของศาลอาญา (www.crimc.judiciary.go.th) ระบุว่า ทีพีไอโพลีนได้ยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีและคำร้องขอผัดผ่อนการชำระค่าปรับ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ และวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2551 ตามลำดับ แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2551 ศาลอาญาได้มีคำสั่งยกคำร้อง ตามป.อ.มาตรา 29 ที่กำหนดว่าผู้ใดต้องโทษปรับต้องชำระค่าปรับภายใน 30 วันนับแต่วันที่ศาลพิพากษา ไม่มีข้อยกเว้น
"จากข้อมูลในเว็บไซต์ของศาลอาญา อาจทำให้เข้าใจได้ว่าทีพีไอโพลีนมีหน้าที่ต้องชำระค่าปรับ 6,900.30 ล้านบาทไว้ก่อน ภายในกรอบระยะเวลาตามคำพิพากษาของศาล แม้ว่าคดีจะอยู่ระหว่างอุทธรณ์และยังไม่ถึงที่สุด"
ด้านทีพีไอโพลีน ได้อ้างว่าสิทธิในกระบวนการยุติธรรมว่า ในคดีอาญา ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด ก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุด แสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้ รวมทั้งการบังคับให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาจะต้องกระทำเมื่อคดีถึงสิ้นสุดเท่านั้น
สำหรับความเคลื่อนไหวราคาหุ้นวานนี้ ได้ปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดการซื้อขายในช่วงเช้า หลังจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีคำสั่งดังกล่าว โดยมีราคาหุ้นสูงสุดที่ระดับ 7.35 บาท ต่ำสุด 7.15 บาท ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 7.20 บาท ลดลงจากวันก่อน 0.40 บาท คิดเป็น 5.26% มูลค่าการซื้อขายรวม 153.68 ล้านบาท
วานนี้ (6 มี.ค.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้มีคำสั่งให้บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL ชี้แจงความคืบหน้าและรายละเอียดกรณีที่ศาลอาญามีคำพิพากษาให้ปรับเป็นจำนวน 6,900.30 ล้านบาท เพื่อให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนได้ทราบข้อมูลที่ชัดเจนและนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยกำหนดให้ทีพีไอโพลีนชี้แจงข้อมูล ผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 10 มีนาคมนี้
สำหรับรายละเอียดที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้เปิดเผยประกอบด้วย 2 ประเด็นหลัก คือ ประเด็นแรก ระหว่างที่ทีพีไอโพลีนยื่นอุทธรณ์ พร้อมกับการยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดี และขอผัดผ่อนการชำระค่าปรับ แต่ศาลอาญามีคำสั่งไม่มีข้อยกเว้นให้ทุเลาการบังคับคดีนั้น หมายความว่า ทีพีไอโพลีนมีหน้าที่ที่จะต้องชำระค่าปรับไว้ก่อนในระหว่างที่คดียังอยู่ระหว่างดำเนินการตามกระบวนการของศาลหรือไม่
ประเด็นที่สอง หากทีพีไอโพลีนจะต้องชำระค่าปรับไว้ก่อนตามคำสั่งศาลอาญาดังกล่าว ทีพีไอโพลีนจะต้องอธิบายขั้นตอนการดำเนินการ หรือไม่จำเป็นต้องชำระค่าปรับไว้ก่อน จะมีผลอย่างไรต่อบริษัท รวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อฐานะการเงินของบริษัทด้วย
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2551 ทีพีไอโพลีนได้ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลอาญา กรณีศาลอาญาได้มีคำพิพากษาให้ทีพีไอโพลีนมีความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 โดยพิพากษาให้ปรับ TPIPL เป็นจำนวนเงิน 6,900.30 ล้านบาท และปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการดำเนินการตามกระบวนการของศาล ดังนั้นคดีของบริษัทยังไม่ถึงที่สุดจึงยังไม่ต้องดำเนินการจ่ายค่าปรับตามคำพิพากษาศาลอาญา
ขณะที่เว็บไซต์ของศาลอาญา (www.crimc.judiciary.go.th) ระบุว่า ทีพีไอโพลีนได้ยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีและคำร้องขอผัดผ่อนการชำระค่าปรับ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ และวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2551 ตามลำดับ แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2551 ศาลอาญาได้มีคำสั่งยกคำร้อง ตามป.อ.มาตรา 29 ที่กำหนดว่าผู้ใดต้องโทษปรับต้องชำระค่าปรับภายใน 30 วันนับแต่วันที่ศาลพิพากษา ไม่มีข้อยกเว้น
"จากข้อมูลในเว็บไซต์ของศาลอาญา อาจทำให้เข้าใจได้ว่าทีพีไอโพลีนมีหน้าที่ต้องชำระค่าปรับ 6,900.30 ล้านบาทไว้ก่อน ภายในกรอบระยะเวลาตามคำพิพากษาของศาล แม้ว่าคดีจะอยู่ระหว่างอุทธรณ์และยังไม่ถึงที่สุด"
ด้านทีพีไอโพลีน ได้อ้างว่าสิทธิในกระบวนการยุติธรรมว่า ในคดีอาญา ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด ก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุด แสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้ รวมทั้งการบังคับให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาจะต้องกระทำเมื่อคดีถึงสิ้นสุดเท่านั้น
สำหรับความเคลื่อนไหวราคาหุ้นวานนี้ ได้ปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดการซื้อขายในช่วงเช้า หลังจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีคำสั่งดังกล่าว โดยมีราคาหุ้นสูงสุดที่ระดับ 7.35 บาท ต่ำสุด 7.15 บาท ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 7.20 บาท ลดลงจากวันก่อน 0.40 บาท คิดเป็น 5.26% มูลค่าการซื้อขายรวม 153.68 ล้านบาท