ชุมพร- เหยื่อ ตชด.นอกรีตที่ถูกช็อตลิ้น บังคับให้รับครอบครองยาบ้า 1,000 เม็ด ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 6 ปี ปรับ 4 แสนบาท
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (28 มี.ค.) นายธีรศักดิ์ คงเดช ผู้พิพาษาศาลอาญาจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำตัดสินพิพากษา นางจารีย์ ดอกไม้หอม จำเลยที่ถูกเจ้าหน้าที่ ตชด.ชุด ร.ต.อ.ณัฎฐ์ ชลนิธิวณิชย์ ผบ.หมวด 426 กก.ตชด.42 จ.นครศรีธรรมราช ช่วยราชการ ตชด.41 จ.ชุมพร พร้อมพวกจับกุม เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2549 พร้อมของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 1,000 เม็ด และสมุดจดรายการจำนวน 1 เล่ม พร้อมตั้งข้อหามี เมทแอมเฟตามีน จำนวน 1,000 เม็ด น้ำหนัก 1.580 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย แต่จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลได้ใช้เวลาอ่านคำพิพากษาประมาณ 30 นาที โดยมีใจความว่า เมื่อพิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์โดยละเอียดแล้วเห็นว่า ไม่ปรากฏข้อพิรุธสงสัยใดๆ เกี่ยวกับตัวพยาน พยานโจทก์มีน้ำหนักมั่นคงน่าเชื่อถือ ที่จำเลยนำสืบต่อสู้ไม่ได้กระทำความผิด แต่ถูกเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมทำร้ายและยึดของกลางนั้น เห็นว่า พยานโจทก์ปาก พ.ต.ท.สมพร เกิดกุลพนักงานสอบสวน และ พ.ต.อ.ธงชัย ถาวระ ผกก.สภ.พระแสง พยานจำเลยให้การว่าในชั้นสอบสวน จำเลยอ้างว่าถูกทำร้ายนั้น ไม่ปรากฏว่า จำเลยมีร่องรอยใดๆ ที่อ้างว่า ถูกทำร้ายเพียงแต่จำเลยมีอาการอิดโรยเท่านั้น และจัดไห้จำเลยไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ตรวจร่างกายแล้วไม่ปรากฏว่ามีบาดแผลใดๆ
ต่อมาภายหลังจำเลยและญาติจำเลยก็ไม่ได้มีการร้องเรียน เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุม นอกจากนี้ พยานอื่นของจำเลยบางส่วน ไม่ได้รู้เห็นเหตุการณ์ และบางส่วนเป็นเครือญาติ และมีความเกี่ยวพันอย่างใกล้ชิด ย่อมเบิกความเพื่อช่วยเหลือจะเลยเป็นปกติธรรมดา จึงมีน้ำหนักน้อย ไม่สามารถหักล้างพยานโจทก์ได้ พฤติการณ์แห่งคดีรับฟังได้ โดยปราศจากข้อสงสัยว่าวันตามเวลาเกิดเหตุเจ้าพนักงานตำรวจจับกุม นายชุมพล โดยวิธีล่อซื้อ ต่อมาสอบสวนขยายผลนายชุมพลรับว่าซื้อยาบ้ามาจากจำเลย จนนำมาซึ่งการจับกุมจำเลยและยึดของกลางตามฟ้องจริง
จึงพิพากษาตัดสิน จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดไห้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรค 3(2) 66 วรรคสอง จำคุก 6 ปี และปรับ 400,000 บาท ริบเมทแอมเฟตามีนที่เหลือจากการตรวจพิสูจน์ และสมุดจดรายการของกลาง หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 แต่กักขังได้ไม่เกิน 2 ปี
หลังจากฟังคำพิพากษาแล้ว นางจารีย์ ถึงกับตกตะลึง และร้องไห้เดินออกจากห้องรับฟังคำพิพากษาพร้อมกับหลุดปากออกมา ว่า ศาลตัดสินเข้าข้างตำรวจ จน นางขนิษฐา รัฐกาญจน์ ทนายความถึงกับกระโดดเข้ามาใช้มืออุดปาก นางจารีย์ และห้ามพูด ขณะที่เดินลงบันไดศาล นางจารีย์ถึงกับเป็นลมล้มฟุบคาบันได ญาติๆต้องช่วยกันปฐมพยาบาล
ด้านนางขนิษฐา ทนายความได้กล่าวว่า จะดำเนินการอุทธรณ์ต่อสู้ต่อไป พร้อมบอกว่า มั่นใจในความบริสุทธิของลูกความ พร้อมใช้ตำแหน่งทนายความประกันตัวจำเลยออกจากเรือนจำ เพื่อนำตัวไปรักษา เนื่องจากตัวนางจารีย์ยังอาการเจ็บคอและเจ็บภายในท้อง จากสาเหตุถูกทำร้ายขณะนำตัวไปกักขัง