xs
xsm
sm
md
lg

HE IS BACK!

เผยแพร่:   โดย: แสงแดด

ในที่สุด “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ “เดินทางกลับบ้าน!” เรียบร้อย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็ต้องเอ่ยต้อนรับว่า “Welcome Home!” และคงไม่สำคัญเท่ากับ ที่บรรดา “คอการเมือง” ทั้งหลายต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เขามาแล้ว – He is Back!”

หลากหลายคำถามและความคิดเห็นพรั่งพรูออกมาอย่างมาก ถึงการเดินทางกลับมาของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า “ควร-ไม่ควร” กลับบ้านเกิดในช่วงนี้ หรืออาจจะรอให้ทุกอย่างสงบนิ่ง การวิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้างแผ่วงกว้างอย่างมากในหมู่คนไทยทั้งในเมืองขนาดใหญ่ และชุมชนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในกรุงเทพฯ กับชนบทต่างจังหวัดทั่วไป

ประเด็นสำคัญที่ต้องมีการวิพากษ์วิจารณ์ จนเลยเถิดไปถึงการวิเคราะห์ว่า “การกลับมาบ้าน” ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีวัตถุประสงค์อย่างไร “ซ่อนเร้น” หรือว่า “บริสุทธิ์ใจ” ที่ต้องการเดินทางกลับมาตายที่บ้าน และที่สำคัญที่สุด จากการแถลงเปิดใจว่า “ยกเลิก-ยุติ” บทบาททางการเมืองทุกอย่าง คำถามสำคัญที่แทบทุกฝ่ายต่างฉงนสงสัยว่า “จริงหรือ?”

นอกจากนั้น อีกประเด็นสำคัญคือ “กลุ่มรักทักษิณ-กลุ่มไม่รักทักษิณ” ที่แน่นอนต่างฝ่ายต่างยังตั้งป้อม เฝ้าดูกันอยู่ โดยเฉพาะ “ฝ่ายรักทักษิณ” นั้นได้แสดงตนอย่างชัดเจน ด้วยการเดินขบวนโชว์ป้ายมาต้อนรับถึงสนามบินสุวรรณภูมิและที่ศาลฯ ตลอดจนที่โรงแรมเพนนินซูล่า หรือที่จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นบ้านเกิดของคุณทักษิณ ได้จัดกิจกรรมต้อนรับกันอย่างอึกทึกครึกโครม

แต่ “กลุ่มที่ไม่รักทักษิณ” ยัง “สงวนท่าที” ด้วยการไม่แสดงออกแต่ประการใด เพียงแต่ “เฝ้าดูห่างๆ” ซึ่งไม่ได้แสดงอาการทักท้วง “โห่ฮาป่า!” หรือนำประชาชนมาถือป้ายประท้วง ซึ่งส่งสัญญาณชัดเจนว่า “ไม่ต้องการเผชิญหน้า!” ที่ส่อนัยชัดเจนทางที่ดีว่า “การแบ่งแยก-แตกแยก” ยังไม่เกิดขึ้น เพียงแต่ต้องการเฝ้าติดตาม และให้ “โอกาส” พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในการ “พิสูจน์” การเปิดใจว่า “จริงเท็จ” อย่างไร!

สังคมการเมืองไทยปัจจุบันนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “การรับรู้-การตื่นตัว” ของประชาชนทุกระดับชั้น โดยเฉพาะ “ชนชั้นกลาง” ที่บริโภคข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีความสามารถในการ “พินิจพิเคราะห์” ข้อมูลข่าวสารอย่างละเอียด ซึ่งนัยสำคัญคือ “สังคมข้อมูลข่าวสาร” ที่ทำให้คนไทยในที่สุดทุกระดับชั้นหลีกหนีไม่พ้น ที่จะ “ล้นข้อมูล” จนสามารถมีความรู้และเข้าใจสถานการณ์ต่างๆ ทางการเมือง เศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น พูดง่ายๆ คือ “รอบรู้” และ “รู้ทัน” มากยิ่งขึ้น

ประเด็นสำคัญข้างต้นคือ เมื่อประชาชนส่วนใหญ่ส่วนหนึ่ง “ตื่นตัว-รู้ทัน” มากยิ่งขึ้นเท่าใด “ความต้องการมีส่วนร่วม!” ในทางการเมือง ด้วย “การตรวจสอบ” ซึ่งหมายความว่า “การเมืองภาคประชาชน” จะค่อยๆ ทะยานการมีบทบาทกับสังคมการเมืองมากยิ่งขึ้น

คำถามมากมายพร้อม “ข้อสงสัย” จากกลุ่มบุคคลทั่วไปที่มีความรู้ความเข้าใจในสถานการณ์บ้านเมืองว่า “การกลับบ้าน” ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รวดเร็วก่อนกำหนดเช่นนี้ มี “วาระซ่อนเร้น-วาระด่วน” อะไร ถึงได้ตัดสินใจกลับบ้านแบบสายฟ้าแลบ!

ว่าไปแล้ว ไม่มีใครตำหนิหรือต้องการหยุดการเดินทางกลับบ้านของอดีตนายกรัฐมนตรีแต่ประการใด เพราะถ้าจะมองอย่างผิวเผินแล้ว ก็ต้องบอกว่า หนึ่ง เป็น “สิทธิ” ของคุณทักษิณ ในฐานะที่เป็นคนไทย สอง “ดี” เสียอีกที่เดินทางมาต่อสู้คดีต่างๆ ในชั้นศาล และสาม “คิดถึงบ้าน-คิดถึงครอบครัว” ซึ่งทั้งสามเหตุผลนั้น ทุกคน “เข้าใจ-รับได้” ทั้งสิ้น ทั้งนี้ว่าไปแล้ว เหตุผลทั้งสามข้างต้นเป็นเหตุผลที่ประชาชนคนไทยทั้งรักและไม่รักคุณทักษิณ ต่างยินดีปรีดาด้วยซ้ำ!

การเดินทางกลับบ้านของคุณทักษิณ ที่มีผู้คนไปรับมากมาย ตั้งแต่บรรดานักการเมืองที่ “ติดหล่มบ้านเลขที่ 111” จำนวนหนึ่ง ตลอดจนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ชุดเดิมเกือบทั้งหมด และเจ้าหน้าที่ข้าราชการตำรวจไปคอยรักษาความปลอดภัยอำนวยความสะดวก พร้อมกลุ่มประชาชนจำนวนหลักหลายพันได้ไปต้อนรับ พร้อมยกป้ายเชียร์ ก็ต้องยอมรับว่า “กระแสดีสุดๆ!” ที่ทำให้เกิดการประหวั่นพรั่นพรึงได้อย่างมากกับฝ่ายตรงข้าม

เท่านั้นยังไม่พอ ที่ “ขย่มขวัญ” และแน่นอนที่สุดคือ “ได้ใจ” จากประชาชนทุกหมู่เหล่าคือ “ภาพกราบแผ่นดินเกิด” ของคุณทักษิณ ที่นิ่งอยู่ประมาณ 8-10 วินาที พร้อมเงยหน้าลุกขึ้นยืนกับน้ำตาคลอเปื้อนใบหน้า เพียงเหตุการณ์เสี้ยววินาทีนี้ ทุกคนก็อึ้งกันทั่วไปหมดและเป็นภาพที่ปรากฏไปตามสื่อทุกแขนงทั่วโลก ไม่ว่า “รัก-ไม่รัก” ทักษิณ!

ตามมาด้วยพร้อม “ครอบครัว” ยืนรอด้วยน้ำตาและ “กอด” กันกลม เพียงภาพสองที่ตามมาติดๆ นี้ก็ “กินใจ-ซึ้งใจ” แก่ผู้ที่ได้พบเห็นภาพนี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “คะแนนสงสาร” ที่ได้รับจากผู้คนโดยทั่วไปก็ท่วมท้นแล้ว ทั้งนี้ จะมีใครวิพากษ์วิจารณ์ว่า “จิตวิทยาสูง!” เพราะได้ผลทางการเมือง ซึ่งจะเท็จจริงอย่างไร แต่ “นักธุรกิจ-นักการเมือง” ระดับอ๋องอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พร้อมคณะที่ปรึกษาก็ต้องฟันธงว่า “ได้ผล” และแน่นอนที่สุด “วางแผน-พล็อต (Plot)” ทุกขั้นตอนมาเป็นอย่างดี

ความจริงที่เราต้องยอมรับว่า “กระแส” ตลอดจน “หมากการเมือง” ของคุณทักษิณ ชินวัตร นั้น “เหลือรับประทาน” ไม่ว่า “เหตุการณ์-ภาพ” ที่ปรากฏสู่สายตาสาธารณชน จะ “จัดตั้ง!” หรือ “จริงใจ!” แต่ก็ได้ใจ โกย “คะแนนสงสาร” ไปมากโข แต่ที่สำคัญที่สุดคือ “คะแนนนิยม” ที่สัมฤทธิผล ประกอบกับ “การทดสอบกระแส” ไปในตัวเช่นเดียวกัน!

นับต่อแต่นี้ไป สถานการณ์ทางการเมืองจะเปลี่ยนไปอย่างที่หลายๆ ฝ่าย ทั้งคาดการณ์และสงสัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระบวนการทางการพิจารณาด้านยุติธรรมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกรณี “ใบแดง” ของคุณยงยุทธ ติยะไพรัช ตลอดจนคดีความต่างๆ ของคุณทักษิณ และครอบครัว ซึ่งผลจะออกมาเช่นไร อีกไม่นานเกินรอ ข้อสมมุติฐานข้างต้นก็จะพิสูจน์กันออกมา

และล่าสุดที่นายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช “เบรกแตก” กับสื่อมวลชนอีกครั้งหนึ่ง ที่สนามบินก่อนออกเดินทางไปเยี่ยมประเทศสาธารณรัฐประชาชนลาว กรณี “นายกฯ ซ้อน” ที่คุณสมัคร สุนทรเวช ยอมรับเองว่า “ไม่เคยตบะแตกเช่นนี้มานานแล้ว!” สงสัยผู้สื่อข่าวที่ถามคงต้องไม่รับรางวัลหลักหมื่นเรียบร้อยโรงเรียนสมัครไปแล้ว!

นายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช น่าจะต้อง “อึดอัด” กับ “ความขลัง-ความศักดิ์สิทธิ์” ของตนเองที่ลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องด้วย “บารมี” ของคุณทักษิณ “กลบหมด!”

เท่านั้นยังไม่พอ “การทำงาน” และ “การตัดสินใจ” ของคณะรัฐมนตรีเกือบทั้งหมด อาจจะต้องไปอยู่ “ใต้ร่มเงา” ของคุณทักษิณโดยปริยาย ไม่ว่าจะมีการปฏิเสธกันอย่างไร!

การเดินทางกลับประเทศไทยอย่างรวดเร็วครั้งนี้มีนัยสำคัญมากมาย ที่จะมีต่อผลของ “คดี” ต่างๆ ทางการเมืองต่อพรรคพลังประชาชนและต่อครอบครัวคุณทักษิณ อย่างแน่นอน เพราะถ้ากลับช้ากว่านี้ “การตัดตอน” จะไม่สามารถดำเนินการได้ และทุกอย่างจะ “เลยเถิด-สายเกินแก้!”

การปรับข้าราชการระดับสูง 2 คน ที่เกี่ยวข้องกับคดีความ กรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น แทบไม่ต้องไปพิจารณาอื่นไกลเลยว่า อาจจะรีบดำเนินการแทรกแซง ควบคุม ส่วนกรณีเลขาธิการอาหารและยา (อย.) นั้น น่าจะเป็นกรณีของ “ผลประโยชน์” ทางธุรกิจอุตสาหกรรมยาที่มีมูลค่ามหาศาล และกรณีอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์นั้นเป็น “การล้างแค้น-หมั่นไส้” ทั้งเรื่องส่วนตัวและกรณี “TPBS”กับ “PTV”

การกลับบ้านของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในครั้งนี้ อาจจะเป็นการกลับอย่างบริสุทธิ์ใจและจริงใจดังการแถลงเปิดใจก็เป็นได้ ด้วย “การวางมือ” จากทุกอย่าง และดำเนินชีวิตตามครรลองธรรมชาติอย่างปกติ

เพียงแต่หลายๆ ฝ่ายซึ่งรับรองว่า “สงสัย” อย่างมาก ไม่ว่ากรณีเหตุการณ์การปรับสลับโยกย้ายข้าราชการระดับสูงจะเกิดขึ้นโดยบังเอิญ หรือว่าเป็นกรณีการตัดสินใจของ “รัฐบาลสมัคร” เองก็ตาม

นับแต่นี้เป็นต้นไป ดังที่กล่าวไว้แล้วข้างต้นว่า “สถานการณ์การเมือง” จะ “พลิกผัน” และแน่นอนที่สุด ที่ประชาชน นักวิชาการ สื่อมวลชน จะเฝ้าจับดูอย่างตาไม่กะพริบเด็ดขาด!

ก็ขอให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร “จริงใจ-บริสุทธิ์ใจ” กับการกลับบ้านและเห็นแก่ความสงบสุขของบ้านเมือง!
กำลังโหลดความคิดเห็น