เอเอฟพี – ทักษิณให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ระบุ ไม่ขอรับตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ แต่ไม่วายแนะรัฐบาลรีบตักตวงผลประโยชน์จากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ ของอังกฤษ หลังเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งได้มีการนำบทสัมภาษณ์ดังกล่าวเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ฉบับวันนี้ (4) ว่า เขาได้ปฏิเสธข้อเสนอของ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ที่ได้เชิญให้ไปเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลแล้ว
“หากผมเข้าไปช่วยรัฐบาล มันอาจเป็นการสร้างปัญหามากกว่าที่จะแก้ปัญหา” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
อดีตนายกฯ ของไทย ซึ่งยืนยันมาตลอดว่าจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับการเมือง กล่าวว่า เขาคิดว่ารัฐบาลชุดใหม่น่าที่จะตักตวงผลประโยชน์จากการที่ค่าเงินบาทแข็งขึ้น และลงทุนในโครงการเทคโนโลยีใหม่ๆ จากต่างประเทศมากขึ้น
“รัฐบาลจำเป็นต้องฉกฉวยโอกาสจากการแข็งขึ้นของค่าเงินบาท ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง โดยนำเข้าสินค้าทุนและเครื่องจักรมากขึ้น” พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุ
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวด้วยว่า ในช่วง 1 ปีกว่าที่ผ่านมา ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตานักลงทุนตกต่ำลง เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองหลังเหตุรัฐประหารได้กลายมาเป็นคำถามสำคัญสำหรับนักลงทุน
ทั้งนี้ หลังเดินทางกลับจากการลี้ภัยอยู่ในต่างแดนนาน 18 เดือน เมื่อวันพฤหัสบดี (28) ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เก็บตัวเงียบ โดยได้ยกเลิกกำหนดการที่วางไว้หลายครั้งด้วยกัน
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ยกเลิกมาตรการกันทุนสำรอง 30 เปอร์เซ็นต์ เมื่อวันศุกร์ (29) ซึ่งเป็นมาตรการที่ประกาศใช้ในช่วงรัฐบาลชุดที่แล้ว และเป็นสาเหตุที่ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเดือนธันวาคมปี 2006 อย่างไรก็ตาม การยกเลิกมาตรการดังกล่าวกลับส่งผลเล็กน้อยต่อตลาดหุ้นของไทย ขณะที่ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมากสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 10 ปี ที่ 31.60-31.61 บาทต่อดอลลาร์