xs
xsm
sm
md
lg

อำนาจมืดใช้วีธีก่อการร้าย ยิงสัญญานป่วน ‘เอเอสทีวี’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อำนาจเถื่อนคุกคาม ‘เอเอสทีวี’อย่างหนัก ตั้งป้อมยิงสัญญานทับซ้อนรบกวนช่องความถี่จนรับชมไม่ได้ เผยเจาะจงในช่วงวิจารณ์การเมือง-รัฐบาลหุ่นเชิด เตรียมจับมือฮ่องกงแพร่ข่าวไปประจานไปทั่วโลก กทช.ชี้ผิดกฎหมายชัด แต่ไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับ วงการสื่อสารโทรคมนาคมระบุเป็นพฤติกรรมของ ‘ผู้ก่อการร้าย’ ก่ออาชกรรมข้ามชาติเป็นภัยความมั่นคงที่นานาชาติยอมไม่ได้

จากกรณี เอเอสทีวี โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ถูกรบกวนสัญญานการแพร่ภาพออกอากาศมาอย่างต่อเนื่อง และ มีความถี่มากขึ้นในช่วงนี้ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า การเมืองกำลังร้อนระอุจากพฤติกรรมของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ที่ใช้อำนาจตามอำเภอใจในหลายเรื่อง

นายสายัณห์ เล็กอุทัย ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคเอเอสทีวี เปิดเผยว่า การแพร่ภาพของเอเอสทีวีโดยเฉพาะช่อง นิวส์1(News1) มีปัญหาถูกรบกวนมาเป็นระยะ แต่มาหนักขึ้นหลังการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 เมื่อพรรคพลังประชาชน หรือ พรรคไทยรักไทยเดิมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และมาหนักที่สุดช่วงสัปดาห์ที่แล้วเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งหลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศกลับถึงประเทศไทย

เอเอสทีวี นิวส์1(News1) นั้นต่างทราบกันดีว่าเป็นสื่อที่ทำหน้าที่วิพากษ์วิจารณ์การเมืองอย่างตรงไปตรงมา โดยเคยมีบทบาทสูงกับการต่อสู้กับระบอบทักษิณ จนเกิดรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 และ พ.ต.ท.ทักษิณ ตกเป็นผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีทุจริตประพฤติมิชอบในหลายคดี

นายสายัณห์ อธิบายว่า การรบกวนดังกล่าวต้องกระทำโดย 1.บุคคลหรือองค์กรที่มีความรู้ทางด้านวิศวกรรมสื่อสารโทรคมนาคมเป็นอย่างดี 2. มีจานดาวเทียมที่มีศักยภาพสูงในการส่งสัญญาณย่านเคยูแบนด์ ซึ่งเป็นย่านความถี่ที่ส่งสัญญาณการออกอากาศของเอเอสทีวี และ 3.รู้เรื่องภาษาไทยเป็นอย่างดี

“ข้อ3 นี้ถ้าหากเป็นคนหรือองค์กรต่างประเทศคงยากที่จะมาตรวจสอบว่า รายการไหนของเราวิเคราะห์วิจารณ์รัฐบาล หรือ ผู้มีอำนาจรัฐว่าอย่างไร เพราะการรบกวนสัญญานจะเกิดถี่มากในช่วงที่ รายการสำคัญๆที่ผู้ชมติดตามจำนวนมากกำลังออกกาศจนไม่สามารถรับชมภาพและเสียงได้”

รายการสำคัญทางเอเอสทีวี ที่มักจะถูกรบกวนสัญญาณเป็นประจำ คือ รายการ “รู้ทันประเทศไทย” ที่ดำเนินรายการโดยนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ช่วงเวลา ตั้งแต่ 19.00-20.30น. และรายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ที่ดำเนินรายการโดยนายปานเทพ พัวพงษ์พันธุ์ นางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ และนางสาวสโรชา พรอุดมศักดิ์ ช่วงเวลา20.30-21.30น. นอกจากนี้ยังมีรายการอื่นๆถูกรบกวนในบางครั้ง โดยที่ลักษณะของการรบกวนจะมีการส่งสัญญาณรบกวนเป็นช่วงๆ และเจาะจงเฉพาะประโยคที่สำคัญ
       
ทั้งนี้ บริษัท เอสอีเอส เมอริคอม ซึ่งดูแลการส่งสัญญาณดาวเทียม เอ็นเอสเอส 6 ที่เอเอสทีวีใช้บริการอยู่ ได้ยืนยันข้อมูลทางด้านวิศวกรรมกลับมาที่เอเอสทีวี หลังจากที่ฝ่ายเทคนิคเอเอสทีวีรายงานไป ว่า มีการส่งสัญญาณความถี่ที่สูงกว่าเข้าไปในย่านความถี่ที่เอเอสทีวีใช้ออกอากาศอย่างเฉพาะเจาะจงจริง เนื่องจากดาวเทียม เอ็นเอสเอส 6 นั้นใช้แพร่ภาพสำหรับสถานีโทรทัศน์หลายช่อง เช่น ดีเอ็มซี หรือธรรมกายทีวี ช่องเอเอฟ 4 หรือช่องของกองทัพอากาศ แต่ช่องความถี่ของสถานีอื่นไม่ถูกรบกวน

ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคเอเอสทีวี กล่าวว่า ในทางเทคนิค เอเอสทีวีได้ติดตามความเคลื่อนไหวการแพร่ภาพอยู่เสมอ โดยเมื่อถูกรบกวนจะทราบทันที ซึ่งมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่ วันที่ 25กุมภาพันธ์ เป็นต้นมา หากพิจารณาจากกราฟซึ่งประมวลผลออกมาจากเครื่องตรวจวัดความแรงของสัญญานดาวเทียมจะเห็นได้ชัดเจนมาก

“หากเป็นภาวะปกติ กราฟก็เคลื่อนไหวในลักษณะที่มีความสม่ำเสมอ แต่ช่วงไหนถูกยิงสัญญานเส้นกราฟจะกระโดดขึ้นมาคล้ายกลับลักษณะของเจดีย์มียอดแหลมๆโผล่ให้เห็น” นายสายัณห์อธิบาย (ดูกราฟฟิกที่หน้า 1 ประกอบ)

สำหรับการดำเนินการตามกฎหมาย ขณะนี้ เอเอสทีวีอยู่ระหว่างการประสานงานร่วมมือกับบริษัท เอเชีย ไทมส์ ออนไลน์ ผู้ว่าจ้างผลิตเนื้อหารายการ ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่ฮ่องกง และ เอ็นเอสเอส 6 ผู้ให้บริการดาวเทียม และ เตรียมที่จะแถลงข่าวปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ตีแพร่ไปทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ หากประชาชนต้องการรับชมอย่างต่อเนื่องและไม่ติดขัดอาจรับชมผ่านทางอินเทอร์เน็ตที่ www.astv-tv.com www.manager.co.th www.uthaisak.net www.siamtv.orgหรือ ฟังถ่ายทอดเสียงรายการสำคัญทาง www.managerradio.com ทั้งนี้ จนกว่าฝ่ายเทคนิคจะดำเนินการแก้ไขปรับปรุงจนเสร็จสิ้น

**กทช.ชี้ผิดกฎหมายชัด
นายสุธรรม อยู่ในธรรม คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. เปิดเผยว่า หากสัญญาณดาวเทียมของประเทศใดประเทศหนึ่งถูกรบกวน ก็จะต้องมีการดำเนินการเจรจาเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาสัญญาณรบกวน อย่างไรก็ดีการบริหารดาวเทียมมีหน่วยงานสมาคมโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ไอทียู) เป็นจัดสรรความถี่ช่องสัญญาณดาวเทียมให้แต่ละประเทศ โดยไอทียูจะกลั่นกรองจัดสรรช่องสัญญาณไม่ให้ทับซ้อนและก่อกวนกันในระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ดี หากมีการกระทำผิดเกี่ยวกับการใช้สัญญาณดาวเทียมแพร่ภาพไม่เหมาะสม หรือ มีการยิงสัญญารบกวน ก็จะเป็นปัญหาระหว่างประเทศเนื่องจากแต่ละประเทศจะมีกฎหมายดาวเทียมของแต่ละประเทศ ดังนั้นเมื่อเกิดกรณีดังกล่าวในประเทศใดก็จะต้องอาศัยกฎหมาย ดาวเทียมประเทศนั้นในการตัดสิน หรือหากเกิดการยิงสัญญาณรบกวนข้ามประเทศก็จะเป็นการฟ้องร้องระหว่างประเทศ

ส่วนประเทศไทยปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายดาวเทียม จึงยังอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารหรือไอซีที

**พฤติกรรมของผู้ก่อการร้าย

แหล่งข่าวในวงการดาวเทียมสื่อสารกล่าวว่า การส่งสัญญาณขึ้นรบกวน เอเอสทีวี ซึ่งเป็น สัญญาณโทรทัศน์ขนาดใหญ่นั้นจะต้องใช้เครื่องส่งจากภาคพื้นดินกำลังสูงมาก จานส่งขนาดใหญ่มากร่วม 10 เมตร ราคาแพงนับร้อยล้านบาท ปกติมีความแม่นยำการส่งสูง หากมาจากประเทศไทย ก็จะมีไม่กี่แห่งซึ่งล้วนอยู่ภายใต้หน่วยงานโทรทัศน์และสื่อสารใหญ่ๆและอยู่ภายใต้การดูแลของภาครัฐ

“การส่งสัญญาณโดยไม่ได้รับอนุญาตผิดกฏหมาย ตรวจสอบได้ เอเอสทีวีอาจขอให้ผู้ให้บริการดาวเทียมสแกนเพื่อหาต้นตอสัญญาณรบกวน” แหล่งข่าวระบุ

พฤติกรรมดังกล่าวนี้ ถือว่าเป็นพฤติกรรมของผู้มีอำนาจใช้กลวิธีที่ไม่ต่างกับผู้ก่อการร้ายใช้กัน เป็นอาชญากรรมข้ามชาติที่บ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศ โดยในหลักสากลไม่มีผู้ให้บริการดาวเทียม หรือ ใครกระทำเช่นนี้ เพราะ ต่างถือปฎิบัติตามกฎหมายสากลที่จะไม่มีการส่งคลื่นรบกวนกัน แต่ละคนก็จะมีความถี่ที่ชัดเจน การส่งสัญญานขึ้นไปทับซ้อนนับเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

“ยิ่งเป็นเรื่องของการให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชน การปิดกั้นเช่นนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า เป็นพฤติกรรมเดียวกับกับที่ระบอบทักษิณเคยใช้มาตลอด ” แหล่งข่าว กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น