สำหรับองค์พระอุปัชฌาย์นั้น แม้ผมเคยไปกราบบ้างก็เป็นบางครั้งบางคราว ไม่ได้คุ้นเคยหรือสนิทสนม เพิ่งมาอยู่ใกล้กันจริง ๆ ก็ในช่วงเวลาสั้น ๆ ในงานอุปสมบทนั้น ก็ประจักษ์ชัดว่าเป็นพระมหาเถรผู้ทรงวิทยาคมแรงกล้านัก สมกับที่ขึ้นชื่อลือชามานานนักหนาแล้วจริง ๆ
ที่ว่าทรงวิทยาคมแรงกล้าก็เพราะว่าเมื่อครั้งมหาสงครามเอเชียบูรพานั้น ทหารญี่ปุ่นไปตั้งค่ายในวัดและริมทะเลแถบนั้น กองทัพพันธมิตรส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิดเป็นจำนวนมาก แต่ในบริเวณเขตวัดและพื้นที่ใกล้เคียงระเบิดที่ถูกทิ้งลงมาไม่เคยระเบิดแม้แต่ลูกเดียว แม้กระเบื้องหลังคากุฏิวิหารก็มิได้แผ้วพานด้วยภัยสงครามแม้แต่น้อย
ชื่อเสียงของพระภควัมบดีหรือพระปิดตาอันขึ้นชื่อลือชาของวัดแหลมทรายนั้นล้วนได้มาเพราะปรากฏการณ์ที่เป็นจริงที่เกิดขึ้นในมหาสงครามทั้งสิ้น ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะการโปรโมชั่นเพื่อการพาณิชย์หรือเพราะลูกศิษย์ยกย่องอาจารย์ตนแต่ประการใดเลย
ขบวนแห่นาคออกจากบ้าน ใช้เรือยนต์ขนาดใหญ่ที่ใช้แล่นระหว่างตัวอำเภอไปจังหวัด ตามด้วยขบวนเรือกลาง เรือเล็กอีกหลายลำ ชาวบ้านที่มาร่วมงานบุญและไม่สามารถโดยสารไปกับเรือได้ก็ต้องเดินไปที่วัดสำนักของพระอาจารย์
เป็นเหตุการณ์ที่ผมได้เห็นประจักษ์ชัดว่าทั้งก๋ง ยาย พ่อ แม่ และญาติพี่น้องทั้งปวงมีความสุขอย่างเต็มเปี่ยมที่ได้เห็นธงชัยของพระอรหันต์ที่ลูกได้ครองอยู่ หลังพิธีญัตติจตุตถกรรมแล้ว
ทั้งก๋ง ยาย พ่อ แม่ และญาติพี่น้องเรียงหน้ากันเข้ามาถวายของให้กับพระใหม่ ถวายแล้วก็ยกมือไหว้พระใหม่ ในขณะที่น้ำตาแห่งความปีติก็หลั่งไหลออกจากใบหน้า จนตัวผมเองที่แม้ครองผ้ากาสาวพัสตร์แล้วก็ห้ามใจกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้เลย
งานอุปสมบทสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ผมถูกจัดให้พักอยู่กุฏิเดียวกับพระอาจารย์ แต่อยู่ห้องมุมด้านตะวันตก ในขณะที่พระอาจารย์จำวัดอยู่ที่ห้องมุมด้านตะวันออก ทั้งกุฏินี้มีพระอาจารย์และผมอยู่เพียง 2 รูปเท่านั้น พระเณรอื่น ๆ และเด็กวัดอยู่กุฏิถัดไป
ผมต้องปฏิบัติศาสนกิจตามแบบอย่างที่พระอาจารย์เป็นผู้นำ ทั้งทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น ทำวัตรค่ำ และออกบิณฑบาต โดยในการออกบิณฑบาตนั้นวันแรก ๆ ก็ตามพระอาจารย์ไป ไปทางบกบ้าง ไปทางน้ำบ้าง
ถ้าไปทางบกพระอาจารย์ก็เดินนำหน้า มีพระอื่นๆ เดินตาม ผมเป็นพระบวชใหม่ต้องเดินหลังสุด แต่ถ้าไปทางน้ำ ผมก็จะนั่งเรือพายลำเดียวกับพระอาจารย์
ตกค่ำก็จุดตะเกียง นั่งฟังคำสอนของพระอาจารย์ ซึ่งมีปกติพร่ำสอนเรื่องการรักษาศีลให้บริสุทธิ์ การประพฤติปฏิบัติตัวของพระ การทำความรู้ในเรื่องความเป็นสมณะ ในเรื่องการนั่ง การยืน การเดิน การนอน การพูด การฉัน การไปฐาน การปรนนิบัติพระผู้ใหญ่ รวมถึงการทำสมาธิจิต
จะเป็นเพราะความตื่นเต้นหรือเพราะความอิ่มเอิบที่ได้ครองผ้ากาสาวพัสตร์ก็มิรู้ได้ ผมไม่รู้สึกหิวหรือรู้สึกอยากใด ๆ ในเวลาวิกาลแล้ว และไม่รู้สึกยากลำบากใด ๆ ในการครองตัวครองตนสมณเพศ ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะว่าผมคุ้นเคยกับวัด คุ้นเคยกับพระมาแต่ก่อนแล้วก็ได้
อยู่มาคืนหนึ่ง พระอาจารย์บอกว่าการบวชที่สามารถรักษาศีลให้บริสุทธิ์ มีจิตใจที่สงบเบิกบานดีแล้ว มีผลมาก มีบุญมาก มีกุศลมาก ควรจะต้องพิจารณาแผ่ส่วนบุญกุศลนี้ให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นญาติหรือไม่ก็ตาม พระอาจารย์บอกว่าบุญกุศลนั้นเหมือนกับเงินทอง ยิ่งแผ่ออกไปมาก ยิ่งอุทิศออกไปมากเท่าใดก็ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นเท่านั้น
คิดกันให้ดีเถิด การบริจาค การอุทิศทรัพย์สินเงินทองเพื่อการบุญการกุศลนั้นทำให้ทรัพย์สินหมดสิ้นไปหรือว่าทำให้งอกเงยขึ้นกันแน่ เมื่อใดที่เห็นความจริงประการนี้แล้วก็จะเป็นอาณาประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและแก่ผู้อื่น และไม่เสียทีที่เป็นเวไนยสัตว์เลย
พระอาจารย์บอกว่าวันแรก ๆ ที่บวชไม่อยากให้ใครมารบกวน เกรงว่าจะนอนไม่หลับ ซึ่งจะเป็นบาป คือเป็นบาปทั้งคนที่มารบกวน และเป็นบาปเกิดกับจิตของพระบวชใหม่ไปด้วย แต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว คุ้นเคยกับผ้าเหลืองดีแล้ว คุ้นเคยกับสถานที่ดีแล้ว ก็เป็นเวลาที่จะได้แผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้ผู้อื่น
ผมฟังคำพระอาจารย์ก็ไม่ได้คิดสิ่งใด เข้าใจเอาว่าเป็นการแนะนำให้ทำจิตแผ่ส่วนกุศลแห่งอุปสมบทให้ทั้งญาติมิตรและผู้ที่มิใช่ญาติมิตรในกาลอันเหมาะสม
ปรากฏว่าในยามดึกคืนนั้นผมหลับสนิทไปแล้ว แต่มารู้สึกตัวตื่นขึ้นอีกทีหนึ่งในท่ามกลางความมืด รู้สึกว่ามีใครต่อใครก็ไม่รู้มานั่งอยู่เต็มห้อง บ้างก็ยังยืนโผล่อยู่ข้างนอก บ้างก็เยี่ยมหน้าเข้ามาทางหน้าต่าง ผมรู้สึกว่าคนเหล่านั้นผอมแห้งแรงน้อย บ้างก็ใส่เสื้อ บ้างก็ไม่ใส่เสื้อ มือทั้งสองยกยื่นออกมาบริเวณหน้าอก เป็นลักษณะขออะไรสักอย่างหนึ่ง
ผมรู้ตัวตื่นขึ้นมาสัมผัสกับเหตุการณ์เช่นนั้นก็ตกใจ แต่เพียงชั่วแวบเดียวก็กุมสติได้ รำลึกถึงคำพระอาจารย์ที่บอกกล่าวไว้ในตอนหัวค่ำ ก็เข้าใจคำพูดนั้นเป็นอย่างดีว่าอาคันตุกะในอีกมิติหนึ่งที่มาเยือนในคืนนี้มากหลายนั้น หาได้มาร้ายแต่ประการใดไม่ แต่มาเพื่อขอส่วนบุญแห่งอุปสมบทตามคำพระอาจารย์เท่านั้น
ผมเคยเห็นผีมาหลายครั้งในชีวิต แต่ไม่เคยเห็นจำนวนมาก และในระยะใกล้ขนาดนี้เลย การเห็นในคราวนี้ไม่น่าหวาดกลัวอะไร เพราะแต่ละคนก็เหมือนกับคนเราดี ๆ นี่เอง เป็นแต่ว่าอยู่ในที่มืดและเหมือนโผล่มาจากความทุกข์ทรมานหรือความยากลำบากอันสุดแสนสาหัส แต่ผมไม่รู้จักว่าเป็นใครบ้าง จะเป็นญาติโกโหติกาหรือไม่ใช่ญาติก็ไม่รู้เลย
กุมสติได้มั่นแล้ว ผมก็ลุกขึ้นนั่งในท่าสมาธิ พริ้มตาลงรำลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ รวมทั้งพระคุณของพระอุปัชฌาย์ ครูบาอาจารย์ และบิดามารดา ตลอดจนก๋ง ยาย แล้วตั้งสัจจะอธิษฐานว่าข้าพเจ้านี้น้อมนับถือเอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง จึงเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ และแม้จะเพิ่งบวชไม่กี่วัน แต่มั่นใจว่ารักษาศีลได้บริสุทธิ์ ประพฤติพรหมจรรย์และครองความเป็นสมณะได้ไม่ขาดไม่เกิน ด้วยอำนาจแห่งสัจจะนี้ขอแผ่บุญกุศลจากการบรรพชาอุปสมบทขอจงบังเกิดผลและอานิสงส์แก่ท่านทั้งหลายที่มาพร้อมหน้ากันอยู่ ณ ที่นี้ด้วย
ผมตั้งจิตอธิษฐานอุทิศส่วนกุศลอย่างนั้นแล้วก็ทำจิตแผ่ไปราวกับว่าแจกข้าวของให้กับอาคันตุกะผู้มาเยือนจนมีความเบิกบานอิ่มเอิบใจบอกไม่ถูก จากนั้นก็ลืมตาขึ้น ปรากฏการณ์ที่พบเห็นได้หายไปหมดแล้ว เหลือแต่ความมืดและความเงียบสงบเหมือนเดิมทุกประการ
ผมก็ล้มตัวลงนอนไปจนสว่าง พอรุ่งขึ้นเช้าปะหน้าพระอาจารย์แล้ว ไม่ทันกล่าวคำประการใด ท่านก็ทักทายว่าอันบุญกุศลนั้นเมื่อแผ่ไปแล้วย่อมมีผล มีอานิสงส์มากกว่าที่จะเก็บเอาไว้คนเดียว พวกที่มาพบเมื่อคืนเขาอิ่มเอิบและอนุโมทนาในบุญกุศลแห่งอุปสมบทคราวนี้ ทำให้บุญกุศลเพิ่มพูนขึ้นเป็นอันมาก
ผมฟังคำพระอาจารย์ก็ยกมือขึ้นไหว้ด้วยน้ำใจอันเปี่ยมด้วยศรัทธา ในใจก็คิดว่าพระอาจารย์มีญาณทัศนะรู้ความที่เป็นไปกระจ่างนัก คงจะรู้แล้วว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาจะมีวิญญาณญาติมิตรและไม่ใช่ญาติมิตรมาขอส่วนบุญถึงที่นอน จึงได้บอกกล่าวเตือนสติแนะวิธีในการประพฤติปฏิบัติ และจากคำพูดที่เพิ่งพูดไปหยก ๆ นี้ก็แสดงอยู่ว่าพระอาจารย์ยังคงมีความห่วงใยในศิษย์นวกะว่าจะคุมสติเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ได้หรือไม่ ถึงแม้ยามราตรีก็คงอยู่ในสมาธิ แผ่กระแสจิตมาดูศิษย์นวกะทั้งคืน จึงรู้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นราวกับเห็นด้วยตาเนื้อฉะนั้น
เมื่อบวชครบ 7 วันผมก็เดินทางไปกราบพระอุปัชฌาย์ที่สำนักในตัวจังหวัด แล้วกลับมายังสำนักพระอาจารย์ และหลังจากนั้นก็ตามพระอาจารย์ไปงานนิมนต์ต่าง ๆ ที่ทางวัดได้รับไว้จนครบ 15 วันกำหนดแล้วจึงได้ลาสิกขาบทออกมาสู่เพศคฤหัสถ์ดังเดิม.
โปรดติดตามตอนที่ 71 “ปฐมบทสู่การก่อตัวของขบวนการนิสิตนักศึกษา ตอน 1” ในวันศุกร์ที่ 7 มีนาคม 2551
ที่ว่าทรงวิทยาคมแรงกล้าก็เพราะว่าเมื่อครั้งมหาสงครามเอเชียบูรพานั้น ทหารญี่ปุ่นไปตั้งค่ายในวัดและริมทะเลแถบนั้น กองทัพพันธมิตรส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิดเป็นจำนวนมาก แต่ในบริเวณเขตวัดและพื้นที่ใกล้เคียงระเบิดที่ถูกทิ้งลงมาไม่เคยระเบิดแม้แต่ลูกเดียว แม้กระเบื้องหลังคากุฏิวิหารก็มิได้แผ้วพานด้วยภัยสงครามแม้แต่น้อย
ชื่อเสียงของพระภควัมบดีหรือพระปิดตาอันขึ้นชื่อลือชาของวัดแหลมทรายนั้นล้วนได้มาเพราะปรากฏการณ์ที่เป็นจริงที่เกิดขึ้นในมหาสงครามทั้งสิ้น ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะการโปรโมชั่นเพื่อการพาณิชย์หรือเพราะลูกศิษย์ยกย่องอาจารย์ตนแต่ประการใดเลย
ขบวนแห่นาคออกจากบ้าน ใช้เรือยนต์ขนาดใหญ่ที่ใช้แล่นระหว่างตัวอำเภอไปจังหวัด ตามด้วยขบวนเรือกลาง เรือเล็กอีกหลายลำ ชาวบ้านที่มาร่วมงานบุญและไม่สามารถโดยสารไปกับเรือได้ก็ต้องเดินไปที่วัดสำนักของพระอาจารย์
เป็นเหตุการณ์ที่ผมได้เห็นประจักษ์ชัดว่าทั้งก๋ง ยาย พ่อ แม่ และญาติพี่น้องทั้งปวงมีความสุขอย่างเต็มเปี่ยมที่ได้เห็นธงชัยของพระอรหันต์ที่ลูกได้ครองอยู่ หลังพิธีญัตติจตุตถกรรมแล้ว
ทั้งก๋ง ยาย พ่อ แม่ และญาติพี่น้องเรียงหน้ากันเข้ามาถวายของให้กับพระใหม่ ถวายแล้วก็ยกมือไหว้พระใหม่ ในขณะที่น้ำตาแห่งความปีติก็หลั่งไหลออกจากใบหน้า จนตัวผมเองที่แม้ครองผ้ากาสาวพัสตร์แล้วก็ห้ามใจกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้เลย
งานอุปสมบทสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ผมถูกจัดให้พักอยู่กุฏิเดียวกับพระอาจารย์ แต่อยู่ห้องมุมด้านตะวันตก ในขณะที่พระอาจารย์จำวัดอยู่ที่ห้องมุมด้านตะวันออก ทั้งกุฏินี้มีพระอาจารย์และผมอยู่เพียง 2 รูปเท่านั้น พระเณรอื่น ๆ และเด็กวัดอยู่กุฏิถัดไป
ผมต้องปฏิบัติศาสนกิจตามแบบอย่างที่พระอาจารย์เป็นผู้นำ ทั้งทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น ทำวัตรค่ำ และออกบิณฑบาต โดยในการออกบิณฑบาตนั้นวันแรก ๆ ก็ตามพระอาจารย์ไป ไปทางบกบ้าง ไปทางน้ำบ้าง
ถ้าไปทางบกพระอาจารย์ก็เดินนำหน้า มีพระอื่นๆ เดินตาม ผมเป็นพระบวชใหม่ต้องเดินหลังสุด แต่ถ้าไปทางน้ำ ผมก็จะนั่งเรือพายลำเดียวกับพระอาจารย์
ตกค่ำก็จุดตะเกียง นั่งฟังคำสอนของพระอาจารย์ ซึ่งมีปกติพร่ำสอนเรื่องการรักษาศีลให้บริสุทธิ์ การประพฤติปฏิบัติตัวของพระ การทำความรู้ในเรื่องความเป็นสมณะ ในเรื่องการนั่ง การยืน การเดิน การนอน การพูด การฉัน การไปฐาน การปรนนิบัติพระผู้ใหญ่ รวมถึงการทำสมาธิจิต
จะเป็นเพราะความตื่นเต้นหรือเพราะความอิ่มเอิบที่ได้ครองผ้ากาสาวพัสตร์ก็มิรู้ได้ ผมไม่รู้สึกหิวหรือรู้สึกอยากใด ๆ ในเวลาวิกาลแล้ว และไม่รู้สึกยากลำบากใด ๆ ในการครองตัวครองตนสมณเพศ ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะว่าผมคุ้นเคยกับวัด คุ้นเคยกับพระมาแต่ก่อนแล้วก็ได้
อยู่มาคืนหนึ่ง พระอาจารย์บอกว่าการบวชที่สามารถรักษาศีลให้บริสุทธิ์ มีจิตใจที่สงบเบิกบานดีแล้ว มีผลมาก มีบุญมาก มีกุศลมาก ควรจะต้องพิจารณาแผ่ส่วนบุญกุศลนี้ให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นญาติหรือไม่ก็ตาม พระอาจารย์บอกว่าบุญกุศลนั้นเหมือนกับเงินทอง ยิ่งแผ่ออกไปมาก ยิ่งอุทิศออกไปมากเท่าใดก็ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นเท่านั้น
คิดกันให้ดีเถิด การบริจาค การอุทิศทรัพย์สินเงินทองเพื่อการบุญการกุศลนั้นทำให้ทรัพย์สินหมดสิ้นไปหรือว่าทำให้งอกเงยขึ้นกันแน่ เมื่อใดที่เห็นความจริงประการนี้แล้วก็จะเป็นอาณาประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและแก่ผู้อื่น และไม่เสียทีที่เป็นเวไนยสัตว์เลย
พระอาจารย์บอกว่าวันแรก ๆ ที่บวชไม่อยากให้ใครมารบกวน เกรงว่าจะนอนไม่หลับ ซึ่งจะเป็นบาป คือเป็นบาปทั้งคนที่มารบกวน และเป็นบาปเกิดกับจิตของพระบวชใหม่ไปด้วย แต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว คุ้นเคยกับผ้าเหลืองดีแล้ว คุ้นเคยกับสถานที่ดีแล้ว ก็เป็นเวลาที่จะได้แผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้ผู้อื่น
ผมฟังคำพระอาจารย์ก็ไม่ได้คิดสิ่งใด เข้าใจเอาว่าเป็นการแนะนำให้ทำจิตแผ่ส่วนกุศลแห่งอุปสมบทให้ทั้งญาติมิตรและผู้ที่มิใช่ญาติมิตรในกาลอันเหมาะสม
ปรากฏว่าในยามดึกคืนนั้นผมหลับสนิทไปแล้ว แต่มารู้สึกตัวตื่นขึ้นอีกทีหนึ่งในท่ามกลางความมืด รู้สึกว่ามีใครต่อใครก็ไม่รู้มานั่งอยู่เต็มห้อง บ้างก็ยังยืนโผล่อยู่ข้างนอก บ้างก็เยี่ยมหน้าเข้ามาทางหน้าต่าง ผมรู้สึกว่าคนเหล่านั้นผอมแห้งแรงน้อย บ้างก็ใส่เสื้อ บ้างก็ไม่ใส่เสื้อ มือทั้งสองยกยื่นออกมาบริเวณหน้าอก เป็นลักษณะขออะไรสักอย่างหนึ่ง
ผมรู้ตัวตื่นขึ้นมาสัมผัสกับเหตุการณ์เช่นนั้นก็ตกใจ แต่เพียงชั่วแวบเดียวก็กุมสติได้ รำลึกถึงคำพระอาจารย์ที่บอกกล่าวไว้ในตอนหัวค่ำ ก็เข้าใจคำพูดนั้นเป็นอย่างดีว่าอาคันตุกะในอีกมิติหนึ่งที่มาเยือนในคืนนี้มากหลายนั้น หาได้มาร้ายแต่ประการใดไม่ แต่มาเพื่อขอส่วนบุญแห่งอุปสมบทตามคำพระอาจารย์เท่านั้น
ผมเคยเห็นผีมาหลายครั้งในชีวิต แต่ไม่เคยเห็นจำนวนมาก และในระยะใกล้ขนาดนี้เลย การเห็นในคราวนี้ไม่น่าหวาดกลัวอะไร เพราะแต่ละคนก็เหมือนกับคนเราดี ๆ นี่เอง เป็นแต่ว่าอยู่ในที่มืดและเหมือนโผล่มาจากความทุกข์ทรมานหรือความยากลำบากอันสุดแสนสาหัส แต่ผมไม่รู้จักว่าเป็นใครบ้าง จะเป็นญาติโกโหติกาหรือไม่ใช่ญาติก็ไม่รู้เลย
กุมสติได้มั่นแล้ว ผมก็ลุกขึ้นนั่งในท่าสมาธิ พริ้มตาลงรำลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ รวมทั้งพระคุณของพระอุปัชฌาย์ ครูบาอาจารย์ และบิดามารดา ตลอดจนก๋ง ยาย แล้วตั้งสัจจะอธิษฐานว่าข้าพเจ้านี้น้อมนับถือเอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง จึงเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ และแม้จะเพิ่งบวชไม่กี่วัน แต่มั่นใจว่ารักษาศีลได้บริสุทธิ์ ประพฤติพรหมจรรย์และครองความเป็นสมณะได้ไม่ขาดไม่เกิน ด้วยอำนาจแห่งสัจจะนี้ขอแผ่บุญกุศลจากการบรรพชาอุปสมบทขอจงบังเกิดผลและอานิสงส์แก่ท่านทั้งหลายที่มาพร้อมหน้ากันอยู่ ณ ที่นี้ด้วย
ผมตั้งจิตอธิษฐานอุทิศส่วนกุศลอย่างนั้นแล้วก็ทำจิตแผ่ไปราวกับว่าแจกข้าวของให้กับอาคันตุกะผู้มาเยือนจนมีความเบิกบานอิ่มเอิบใจบอกไม่ถูก จากนั้นก็ลืมตาขึ้น ปรากฏการณ์ที่พบเห็นได้หายไปหมดแล้ว เหลือแต่ความมืดและความเงียบสงบเหมือนเดิมทุกประการ
ผมก็ล้มตัวลงนอนไปจนสว่าง พอรุ่งขึ้นเช้าปะหน้าพระอาจารย์แล้ว ไม่ทันกล่าวคำประการใด ท่านก็ทักทายว่าอันบุญกุศลนั้นเมื่อแผ่ไปแล้วย่อมมีผล มีอานิสงส์มากกว่าที่จะเก็บเอาไว้คนเดียว พวกที่มาพบเมื่อคืนเขาอิ่มเอิบและอนุโมทนาในบุญกุศลแห่งอุปสมบทคราวนี้ ทำให้บุญกุศลเพิ่มพูนขึ้นเป็นอันมาก
ผมฟังคำพระอาจารย์ก็ยกมือขึ้นไหว้ด้วยน้ำใจอันเปี่ยมด้วยศรัทธา ในใจก็คิดว่าพระอาจารย์มีญาณทัศนะรู้ความที่เป็นไปกระจ่างนัก คงจะรู้แล้วว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาจะมีวิญญาณญาติมิตรและไม่ใช่ญาติมิตรมาขอส่วนบุญถึงที่นอน จึงได้บอกกล่าวเตือนสติแนะวิธีในการประพฤติปฏิบัติ และจากคำพูดที่เพิ่งพูดไปหยก ๆ นี้ก็แสดงอยู่ว่าพระอาจารย์ยังคงมีความห่วงใยในศิษย์นวกะว่าจะคุมสติเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ได้หรือไม่ ถึงแม้ยามราตรีก็คงอยู่ในสมาธิ แผ่กระแสจิตมาดูศิษย์นวกะทั้งคืน จึงรู้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นราวกับเห็นด้วยตาเนื้อฉะนั้น
เมื่อบวชครบ 7 วันผมก็เดินทางไปกราบพระอุปัชฌาย์ที่สำนักในตัวจังหวัด แล้วกลับมายังสำนักพระอาจารย์ และหลังจากนั้นก็ตามพระอาจารย์ไปงานนิมนต์ต่าง ๆ ที่ทางวัดได้รับไว้จนครบ 15 วันกำหนดแล้วจึงได้ลาสิกขาบทออกมาสู่เพศคฤหัสถ์ดังเดิม.
โปรดติดตามตอนที่ 71 “ปฐมบทสู่การก่อตัวของขบวนการนิสิตนักศึกษา ตอน 1” ในวันศุกร์ที่ 7 มีนาคม 2551