00 แม้ยังไม่อาจฟันธงได้ว่า “แม้ว” จะกลับไทยวันนี้(28 ก.พ.) ได้เต็มร้อยหรือไม่ เนื่องจากต้องประเมินสถานการณ์กันแบบชั่วโมงต่อชั่วโมง ทุกอย่างพลิกผันได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ดี ถ้าพิจารณาจากความเคลื่อนไหวล่าสุด และสายข่าวไม่มั่ว น่าจะมาแน่ และเดินทางถึง “สุวรรณภูมิ” ไม่เกิน 10 โมงเช้า
00 หลังจากนั้นจะต้องไปศาลเพื่อลุ้นประกันตัวในคดีทุจริตซื้อที่ดินย่านรัชดาฯ รวมทั้งต้องไปดีเอสไอ ขอประกันตัวในคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัทเอสซีแอสเสท แต่คงไม่มีปัญหาอะไรถ้าไม่เรื่องมากกับศาลขอใช้สิทธิพิเศษเหนือคนไทยทั่วไป ก็ว่ากันไป
00 อย่างไรก็ดี อีกมุมหนึ่งก็น่าจับตากันแบบไม่กระพริบก็เห็นจะหนีไม่พ้นท่าที “ทะแม่ง” ของ “หมัก” ที่ดูจะไม่ยินดียินร้ายกับการกลับมาครั้งนี้เท่าใดนัก ทำให้บรรยากาศภายในพรรค “พลังแม้ว” ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เกิดบรรยากาศดูกระอักกระอ่วนกันพิกล
00 ยิ่งถ้าจับอาการและคำพูดล่าสุด “เบรก” หลายคนจนหัวทิ่ม ลดอารมณ์ร่วมสร้างกระแสคลั่ง “เศรษฐีแสนล้าน” ลงได้ไม่น้อย อย่างน้อยก็ทำให้หลายคนละล้าละลังไปพอสมควร ประเภทโหมโปรโมตต้อนรับกลับบ้านปาน “วีรบุรุษ” เกณฑ์คนไปชุมนุมนับแสนก็ต้องพับไป หลังจากส่งสัญญาณชัดไปจากอีกมุมหนึ่งของห้องว่า “อย่าให้เอิกเกริก เดี๋ยวคนจะหมั่นไส้” หรือ “ถ้าไม่มีใครไปต้อนรับเลยจะเป็นผลดีมากกว่า ให้การกลับมาแบบธรรมชาติ”
00 แม้ถูกมองว่าเป็นคำพูดที่แฝงด้วยนัยซ่อนเร้นการเมืองบางอย่าง แต่ถ้าพิจารณาจากประสบการณ์อันโชกโชนทางการเมือง “หมัก” นี่แหละถือว่า “ขิงแก่” ของจริง เผ็ดจัดจ้านทุกรส และที่สำคัญ “รู้ทิศทางลม” เป็นอย่างดี
00 ขณะเดียวกัน ถ้าย้อนกลับไปในอดีตแล้ววกมาถึงปัจจุบัน หมักคนเดียวกันนี่แหละที่ “ยืนอยู่ข้างอำนาจ” ตลอด ไม่เชื่อลองทบทวนตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ ทั้งก่อนและหลัง 6 ตุลา 19 คนอื่นจะล้มหายตายจาก หรือหนีหัวซุกหัวซุนอย่างไร แต่เขาก็ยังเกาะเก้าอี้รัฐมนตรีใหญ่คับเมืองมาตลอด
00 หรือแม้กระทั่งกับ “ป๋าเปรม” ก็เถอะ ในยุคหนึ่ง “หมัก” คนนี้แหละที่นั่งเก้าอี้ รมว.คมนาคม นานกว่า 3 ปี เกาะติดกับทหารในยุคขวาพิฆาตซ้ายอย่างเป็นปี่เป็นขลุ่ย จนกระทั่งมาถึงยุคเปลี่ยนเป็น “ทุนครองเมือง” ก็ยังเข้ากันได้อีกแบบไม่น่าเชื่อ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังมีท่าทีดูถูกดูแคลนกันด้วยซ้ำ เมื่อครั้งสมัยเจ้าของพรรคหน้าเหลี่ยมอาศัยชายคา “พลังธรรม” เมื่อเกือบสิบปีก่อน
00 แต่อย่างว่า ขิงแก่ของจริงรสมันถึงจัดจ้าน ประเมินสถานการณ์ชนิดที่ “อ่านขาด” ก็ต้องเลือกข้างใหม่ แม้ต้องหันหน้าชน “ป๋า” ก็ต้องเสี่ยง หรือแม้กับทหารพวก คมช. “หน่อมแน้ม” เพราะมั่นใจแล้วไปไม่รอด
00 ดังนั้น เมื่อปะติดปะต่อย้อนอดีตถึงปัจจุบันแล้ว ถ้าให้เดารับรองว่า สาเหตุหลักอย่างหนึ่งที่เร่งให้ “แม้ว” ต้องรีบเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าเสี่ยงกลับไทยเร็วกว่ากำหนดแม้จะ “เคลียร์รันเวย์ไม่เรียบร้อย” ดี ก็น่าจะมาจาก คนชื่อ “สมัคร สุนทรเวช” คนนี่แหละ เพราะเริ่มจะออกฤทธิ์เดชกันแล้ว
00 อย่างน้อย คนที่เคยขับเคี่ยวกันมานานอย่าง “ไข่มุกดำ” วีระ มุกสิกพงศ์ น่าจะรู้จักตัวตนนายกฯคนนี้ได้ดีที่สุด เพราะถึงขนาดทุบกระปุกสร้างหนังเรื่อง “ไอ้ซ่าฯ” เปิดโปงกันมาแล้ว ไม่รู้ว่าพระเอกที่ชื่อ “สกัด สุนทรีเวช” เป็นคนละคนหรือเปล่า !!
00 หลังจากนั้นจะต้องไปศาลเพื่อลุ้นประกันตัวในคดีทุจริตซื้อที่ดินย่านรัชดาฯ รวมทั้งต้องไปดีเอสไอ ขอประกันตัวในคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัทเอสซีแอสเสท แต่คงไม่มีปัญหาอะไรถ้าไม่เรื่องมากกับศาลขอใช้สิทธิพิเศษเหนือคนไทยทั่วไป ก็ว่ากันไป
00 อย่างไรก็ดี อีกมุมหนึ่งก็น่าจับตากันแบบไม่กระพริบก็เห็นจะหนีไม่พ้นท่าที “ทะแม่ง” ของ “หมัก” ที่ดูจะไม่ยินดียินร้ายกับการกลับมาครั้งนี้เท่าใดนัก ทำให้บรรยากาศภายในพรรค “พลังแม้ว” ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เกิดบรรยากาศดูกระอักกระอ่วนกันพิกล
00 ยิ่งถ้าจับอาการและคำพูดล่าสุด “เบรก” หลายคนจนหัวทิ่ม ลดอารมณ์ร่วมสร้างกระแสคลั่ง “เศรษฐีแสนล้าน” ลงได้ไม่น้อย อย่างน้อยก็ทำให้หลายคนละล้าละลังไปพอสมควร ประเภทโหมโปรโมตต้อนรับกลับบ้านปาน “วีรบุรุษ” เกณฑ์คนไปชุมนุมนับแสนก็ต้องพับไป หลังจากส่งสัญญาณชัดไปจากอีกมุมหนึ่งของห้องว่า “อย่าให้เอิกเกริก เดี๋ยวคนจะหมั่นไส้” หรือ “ถ้าไม่มีใครไปต้อนรับเลยจะเป็นผลดีมากกว่า ให้การกลับมาแบบธรรมชาติ”
00 แม้ถูกมองว่าเป็นคำพูดที่แฝงด้วยนัยซ่อนเร้นการเมืองบางอย่าง แต่ถ้าพิจารณาจากประสบการณ์อันโชกโชนทางการเมือง “หมัก” นี่แหละถือว่า “ขิงแก่” ของจริง เผ็ดจัดจ้านทุกรส และที่สำคัญ “รู้ทิศทางลม” เป็นอย่างดี
00 ขณะเดียวกัน ถ้าย้อนกลับไปในอดีตแล้ววกมาถึงปัจจุบัน หมักคนเดียวกันนี่แหละที่ “ยืนอยู่ข้างอำนาจ” ตลอด ไม่เชื่อลองทบทวนตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ ทั้งก่อนและหลัง 6 ตุลา 19 คนอื่นจะล้มหายตายจาก หรือหนีหัวซุกหัวซุนอย่างไร แต่เขาก็ยังเกาะเก้าอี้รัฐมนตรีใหญ่คับเมืองมาตลอด
00 หรือแม้กระทั่งกับ “ป๋าเปรม” ก็เถอะ ในยุคหนึ่ง “หมัก” คนนี้แหละที่นั่งเก้าอี้ รมว.คมนาคม นานกว่า 3 ปี เกาะติดกับทหารในยุคขวาพิฆาตซ้ายอย่างเป็นปี่เป็นขลุ่ย จนกระทั่งมาถึงยุคเปลี่ยนเป็น “ทุนครองเมือง” ก็ยังเข้ากันได้อีกแบบไม่น่าเชื่อ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังมีท่าทีดูถูกดูแคลนกันด้วยซ้ำ เมื่อครั้งสมัยเจ้าของพรรคหน้าเหลี่ยมอาศัยชายคา “พลังธรรม” เมื่อเกือบสิบปีก่อน
00 แต่อย่างว่า ขิงแก่ของจริงรสมันถึงจัดจ้าน ประเมินสถานการณ์ชนิดที่ “อ่านขาด” ก็ต้องเลือกข้างใหม่ แม้ต้องหันหน้าชน “ป๋า” ก็ต้องเสี่ยง หรือแม้กับทหารพวก คมช. “หน่อมแน้ม” เพราะมั่นใจแล้วไปไม่รอด
00 ดังนั้น เมื่อปะติดปะต่อย้อนอดีตถึงปัจจุบันแล้ว ถ้าให้เดารับรองว่า สาเหตุหลักอย่างหนึ่งที่เร่งให้ “แม้ว” ต้องรีบเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าเสี่ยงกลับไทยเร็วกว่ากำหนดแม้จะ “เคลียร์รันเวย์ไม่เรียบร้อย” ดี ก็น่าจะมาจาก คนชื่อ “สมัคร สุนทรเวช” คนนี่แหละ เพราะเริ่มจะออกฤทธิ์เดชกันแล้ว
00 อย่างน้อย คนที่เคยขับเคี่ยวกันมานานอย่าง “ไข่มุกดำ” วีระ มุกสิกพงศ์ น่าจะรู้จักตัวตนนายกฯคนนี้ได้ดีที่สุด เพราะถึงขนาดทุบกระปุกสร้างหนังเรื่อง “ไอ้ซ่าฯ” เปิดโปงกันมาแล้ว ไม่รู้ว่าพระเอกที่ชื่อ “สกัด สุนทรีเวช” เป็นคนละคนหรือเปล่า !!