“ลิ่วล้อแม้ว” เร่งโหมโปรโมตลูกพี่กลับไทยเป็นการใหญ่ “นพดล” ทำกระมิดกระเมี้ยนป้องปากไม่อยากจะบอกว่ากลับไทยวันที่ 28 ก.พ.โดยให้รอฟังจากปากเจ้าตัวเองวันนี้ อ้างไปจีนฐานะส่วนตัวลงทุนซื้อตั๋วเครื่องบินเอง แต่ยืนยันไม่ได้พบกันที่นั่น
วันนี้ (26 ก.พ.) ที่ทำเนียบฯ นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ กล่าวก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีถึงกระแสข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมแถลงข่าวกลับประเทศไทยในวันที่ 28 ก.พ.ว่า ไม่อยากพูดเรื่องนี้ เพราะพูดไปแล้วเดี๋ยวจะกล่าวหาว่าเป็นทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณอีก แต่สื่อมวลชนที่ถือว่ารักกันได้สอบถามเรื่องนี้เอง ฉะนั้นจะพูดเพียงว่า ทราบว่าวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณอาจจะแถลงข่าวนี้ในวันนี้ผ่านอินเทอร์เน็ต หรือช่องทางอื่นจากประเทศจีน โดยสายๆ วันนี้น่าจะชัดเจน
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับประเทศในวันที่ 28 ก.พ.จริงหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า วันนี้จะชัดเจน แต่จากกระแสข่าวก็น่าจะเป็นเช่นนั้น และขอให้เรื่องนี้ออกจากปาก พ.ต.ท.ทักษิณเองดีกว่า ทราบเพียงว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาแบบเงียบๆ แบบธรรมชาติ แต่หากไม่บอกประชาชนก็กระไรอยู่ คิดว่าจะกลับมาใน 2-3 วันนี้ โดยคิดว่าน่าจะมีญาติพี่น้องไปรับบ้าง ส่วนการรักษาความปลอดภัยนั้นเป็นหน้าที่ของตำรวจ กระทรวงการต่างประเทศจะไม่ดำเนินการ
นายนพดล กล่าวว่า บางคนตั้งข้อสังเกตว่าสุดสัปดาห์ที่แล้วว่าไปประเทศจีนทำไม ขอชี้แจงว่าในฐานะคนไทยที่มีสิทธิ์เดินทางนั้น เดินทางแบบส่วนตัว ซื้อตั๋วเครื่องบินสายการบินไชน่าแอร์ไลน์โดยเงินส่วนตัว เดินทางไปจีนเพื่อไปมอบงานให้ทีมทนายความชุดใหม่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะตั้งแต่มารับหน้าที่รัฐมนตรีก็ยังไม่ได้มอบงานเลย จึงต้องไปมอบงานและก็ไม่ได้พบ พ.ต.ท.ทักษิณด้วย และยอมรับข้อวิจารณ์ แต่ย้ำว่าไปแบบส่วนตัวตามสิทธิของคนไทย ยังสงสัยว่าทำไมสื่อมวลชนมักสอบถามความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณจากตนเพียงอย่างเดียว แม้ช่วงที่ผ่านมาก็ไปทำหน้าที่ประชุมร่วมกับรัฐมนตรีอาเซียนและได้ผลสำเร็จมากมาย แต่ทำไมไม่มีข่าวออกไปเลย
ถามว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศจะชุมนุมคัดค้านการกลับประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ นายนพดล กล่าวว่า การคัดค้านนั้นไม่มีเหตุผล วันนี้บ้านเมืองมีขื่อมีแป มีรัฐธรรมนูญและผ่านการเลือกตั้ง วันนี้คนไทยทุกคนจะดำเนินการใดๆ ก็ได้แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย พันธมิตรฯ รัฐบาล อดีต คมช.หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ และตนเองนั้นไม่มีสิทธิอยู่เหนือกฎหมาย ฉะนั้น การชุมนุมของพันธมิตรฯ ก็กระทำได้แต่ต้องไม่ละเมิดกฎหมาย วันนี้บ้านเมืองบอบช้ำมามากเพราะไม่ยึดหลักกฎหมาย ฉะนั้น ทุกอย่างต้องยึดกฎหมายและรัฐธรรมนูญเป็นหลัก เมื่อถามว่าแสดงว่ารัฐบาลอาจใช้กฎหมายที่รุนแรงควบคุมการชุมนุม นายนพดล กล่าวว่า ไม่ใช่ คนไทยทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย คนไทยมีน้ำใจเอื้ออาทรกัน ย้ำเพียงว่าคนไทยต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเท่านั้น
นายนพดล กล่าวว่า บ้านเมืองวันนี้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หลายฝ่ายก็ปรองดองสมานฉันท์ รัฐบาลชุดนี้มาจากการเลือกตั้งแล้ว มีกฎหมายแล้ว ต่างชาติก็ยอมรับและพร้อมมาลงทุนมันก็เป็นสัญญาณที่ดีให้นานาชาติรับรู้แล้ว เมื่อถามว่าการกลับประเทศครั้งนี้ถือว่ามีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ความเสี่ยงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในการกลับประเทศครั้งนี้ยอมรับว่ายังมีความเสี่ยงอยู่ ไม่ได้หมายความว่าไม่มีเลย แต่มันน้อยลงไปแล้ว แต่คิดว่าวันนี้บ้านเมืองมีกฎหมาย และ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้ต้องหาก็ต้องกลับมาสู้คดี
“ก่อนหน้านี้พันธมิตรฯ ก็เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาสู้คดี แต่ตอนนี้ก็เปลี่ยนใจ ผมมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีสิทธิเหมือนคนไทยทุกคน เพราะมีบัตรประชาชนและกลับมาสู้คดีได้ ฉะนั้นอย่าสร้างเงื่อนไขที่คนไทยรับไม่ได้ ไม่อย่างนั้นอาจมีกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ เกิดขึ้นก็ได้ ผมไม่อยากวิจารณ์การรวมกลุ่ม แต่รัฐบาลจะไม่มีให้มีใครอยู่เหนือกฎหมาย รัฐบาลไม่กลัวการข่มขู่ใดๆ เพราะวันนี้มีกฎหมายบังคับใช้แล้ว ที่ผ่านมาประชาชนบอบช้ำ นักลงทุนขาดทุนเป็นแสนล้าน ผมไม่ยอมให้ใครใช้ประเทศเป็นตัวประกันอีกแล้ว” นายนพดลกล่าว
เมื่อถามว่าที่บอกว่าอาจมีบางกลุ่มชุมนุมคัดค้านพันธมิตรฯ นั้น มีมาตรการรองรับแล้วหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ไม่มีการคัดค้านการชุมนุมของพันธมิตรฯและไม่มีการชุมนุมต่อต้านพันธมิตรฯ พันธมิตรฯมีสิทธิชุมนุมและประท้วงตามกรอบกฎหมาย แต่รัฐบาลจะดูแลไม่ให้มันบานปลาย ไม่ให้มีมือที่ 3 หรือมือที่มองไม่เห็นแทรกแซง สมมติว่าการชุมนุมนั้นบุกสถานที่ราชการ ก็ต้องถือว่าบุกรุกสถานที่ราชการ หรือถ้าตนไปปิด นสพ.ตนก็โดนฟ้องร้อง เป็นต้น
ทั้งนี้ พันธมิตรฯ ออกแถลงการณ์มีท่าทีชัดเจนว่าจะชุมนุมคัดค้านรัฐบาล และ พ.ต.ท.ทักษิณ หากมีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมเพื่อเบี่ยงเบนคดีทุจริตที่กำลังถูกสอบสวน เช่น การโยกย้ายกลั่นแกล้งข้าราชการที่ดูแลคดี เช่นกรณีเกิดขึ้นกับการโยกย้ายนายสุนัย มโนมัยอุดม พ้นจากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่กำลังสอบสวนการทุจริตของ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวหลายคดี แล้วเอาคนใกล้ชิด เช่น พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง มีดูแลแทน เป็นต้น แต่ไม่ได้คัดค้านการกลับมาสู้คดี ในทางตรงกันข้ามได้เรียกร้องให้รีบกลับเข้ามาโดยเร็ว
/0110