ศาลฎีกาฯ พร้อมรับ “ทักษิณ” กลับไทยสู้คดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ เตือนม็อบเชียร์มอบดอกไม้ ตะโกนให้กำลังใจ อาจเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล ขณะที่ตำรวจเตรียมพร้อม จัดกำลังหน่วยปราบจลาจล 1 กองร้อย ดูแลความสงบเรียบร้อย พร้อมหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด ตรวจเช็กรอบศาล
วันนี้ (27 ก.พ.) นายรักเกียรติ วัฒนพงษ์ เลขานุการศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 1 ตามหมายจับคดีดำหมายเลข อม.1/2550 สำนวนคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะเดินทางจากประเทศฮ่องกงเข้ามาในประเทศไทยในวันที่ 28 ก.พ.นี้ ว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ กลับเข้าประเทศจริง ตามขั้นตอนของกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องดำเนินการจับกุมตัวตามหมายจับพร้อมนำตัวไปตรวจสอบว่าเป็นบุคคลตรงตามหมายจับหรือไม่ ถ้าตรวจสอบแล้วเป็นบุคคลคนเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องนำตัวมาส่งให้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ทันทีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาที่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องนำตัวจำเลยตามหมายจับของศาลที่จับกุมได้มาส่งต่อศาลในทันที
นายรักเกียรติ กล่าวด้วยว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาจริงหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวมาส่ง เพื่อแสดงตัวต่อศาลแล้ว ก็จะต้องยื่นขอประกันตัวตามกระบวนการแต่จะได้ประกันหรือไม่เป็นดุลพินิจของศาล โดยองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาจะนัดวันเพื่อสอบคำให้การจำเลยอีกครั้ง อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับมา
นายรักเกียรติ ยังกล่าวถึงกลุ่มผู้สนับสนุนที่จะเดินทางมาร่วมให้กำลัง หาก พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับ และมามอบตัวที่ศาลในวันพรุ่งนี้ ว่า ขอให้ประพฤติตัวให้เหมาะสม งดการมอบดอกไม้ และร้องตะโกนให้กำลังใจในบริเวณศาล เนื่องจากการกระทำดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการให้กำลังใจหรือต่อต้าน ไม่ว่าโดยวิธีใดก็ตามถือเป็นการแสดงที่ไม่เหมาะสม อันอาจเป็นการกระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษกแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ยังถูกศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับคดีปกปิดโครงสร้าง ผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซีแอสเสท ด้วย ทำให้ต้องเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ต่อในทันทีที่ได้รับการประกันตัวจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯในคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ
ด้าน พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐผล ผกก.สน.ชนะสงคราม ซึ่งพื้นที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.ชนะสงคราม กล่าวว่า ทางโรงพักได้จัดกำลังดุแลรักษาความปลอดภัยรอบบริเวณศาลฎีกาตามปกติ เพียงแต่ในวันพรุ่งนี้ (28 ก.พ.) จะมีเหตุพิเศษที่ศาล ทางตำรวจจึงได้จัดกำลังตำรวจหน่วยปราบจลาจลของบก.น.1 จำนวน 1 กองร้อย ประมาณ 100 กว่านาย มาคอยดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยโดยทั่วไปตามที่ทางศาลได้ประสานมา
พ.ต.อ.รังสรรค์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวไม่ได้มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษให้กับกำลังตำรวจที่จะเข้าไปดูแลความเรียบร้อยดังกล่าว เนื่องจากเขตบริเวณดังกล่าว เป็นเขตของศาล โดยทางศาลได้ประสานมาว่า จะให้สื่อมวลชนอยู่บริเวณนั้น ให้ประชานที่จะคอยมาให้กำลังใจ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่บริเวณนี้ ตำรวจก็มีหน้าที่เข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อย และจัดระเบียบตามที่ทางศาลได้ประสานมา
“ทางศาลท่านประสานมาว่า ตรงนั้นยืนได้ ตรงนี้ยืนไม่ได้ ตำรวจเราก็ไปดำเนินการตามนั้น ในขณะที่ตำรวจสายตรวจของโรงพัก ก็จะออกตรวจตรารอบบริเวณศาลตามปกติ โดยในวันพรุ่งนี้ กำลังตำรวจจะเข้าปฏิบัติการรอบบริเวณศาลตั้งแต่ช่วงเช้า”
พ.ต.อ.รังสรรค์ กล่าวด้วยว่า ถือเป็นเรื่องปกติ ที่เมื่อมีคดีที่พิเศษ ทางหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด กองสรรพาวุธ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะต้องมาตรวจตรารอบบริเวณก่อน เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย ไม่ใช่เรื่องพิเศษอะไร