"ทักษิณ" คิดหนักก่อนกลับไทย หลังคณะทำงานอัยการคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯจ้องคัดค้านประกันตัว ทัพนักข่าวเก้องานแถลงวันกลับที่ "เอสซีปาร์ค" ล่มไม่เป็นท่า "ศันสนีย์" โบ้ยไม่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แถลงยอมรับเดินทางไปพบ "ทักษิณ" ที่ปักกิ่งจริง "หมัก"เลิกให้ความสำคัญ"แม้ว" แม้แต่คำปรึกษายังไม่สน ขณะที่ ทนาย และ สตช.ยังยืนยัน แม้วกลับไทย 28 ก.พ. เตรียม 2 แผนอารักขาถึงขั้นใช้ ฮ.รับส่งไป ศาล-ดีเอสไอ ด้าน"วีระ สมความคิด" เชื่อ"แม้ว"หัวหด หลังผิดแผนเรื่อง กกต. แจกใบแดง"ยุทธตู้เย็น" อาจลามถึงยุบพรรค และต่อรองเรื่องประกันตัวไม่ชัวร์
รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงเที่ยงวานนี้ (26 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวจำนวนมาก ได้เดินทางไปที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค เพื่อรายงานการแถลงข่าวกำหนดวันเดินทางกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ยังหนีคดีทุจริตอยู่ในต่างประเทศ โดยจะมี น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เป็นผู้แถลง
จนกระทั่งถึงเวลาตามกำหนดแถลงข่าว ปรากฏว่า ไม่มีการแถลงข่าวแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวจึงได้พยายามติดต่อ น.ส.ศันสนีย์ ทางโทรศัพท์ ซึ่ง น.ส.ศันสนีย์ ได้ยืนยันกลับมาว่า จะไม่มีการแถลงข่าวถึงกำหนดการเดินทางกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากตนไม่ได้รับมอบหมายให้แถลงข่าว อีกทั้งตนก็ไม่ทราบกำหนดการเดินทางกลับที่แน่นอนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย เพียงแต่ทราบคร่าวๆ ว่า อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับภายในเร็ววันนี้
น.ส.ศันสนีย์ ยอมรับว่า ได้เดินทางไปเยี่ยม พ.ต.ท.ทักษิณ ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนจริง และเพิ่งเดินทางกลับมาเมื่อคืนวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า อยากกลับบ้านมาก เพราะคิดถึงบ้าน นอกจากนี้ น.ส.ศันสนีย์ ยังปฏิเสธข่าวที่ว่าได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโฆษกประจำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ และเป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์การเดินทางกลับประเทศตามที่เป็นข่าวด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์จากกรุงปักกิ่ง เพื่อพูดคุยกับชมรมคนรักทักษิณ ที่จัดงานเลี้ยงที่ จ.เชียงราย โดยบอกว่าจะแถลงถึงกำหนดวันกลับไทยในวันอังคารที่ 26 ก.พ.นี้ ซึ่งต่อมามีกระแสข่าวว่า น.ส.ศันสนีย์ จะเป็นผู้แถลง แต่เมื่อถึงวันดังกล่าวจริงกลับไม่มีการแถลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบ www.truethaksin.com และ www.hi-thaksin.net หลังจากมีรายงานก่อนหน้านี้ ว่า ทีมกฎหมายตระกูลชินวัตร และน.ส.ศันสนีย์ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับวันที่ 28 ก.พ.พร้อมทั้งบอกว่า จะมีแถลงการณ์ผ่าน www.truethaksin.com แต่ปรากฏว่า ตลอดทั้งวันความเคลื่อนไหวเว็บดังกล่าวยังไม่มีการนำแถลงการณ์ออกมาแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยัง นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ และนายพิชิต ชื่นบาน ทนายความตระกูลชินวัตร ก็ไม่ยอมรับสาย และให้ข้อมูลเพิ่มเติมแต่อย่างใด ทั้งที่เมื่อวันที่ 25 ก.พ. นายพิชิต บอกกับสื่อมวลชนให้ติดตามอ่านแถลงการณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ จากเว็บไซต์ ทรูทักษิณ
“ทักษิณ”ลังเลบินกลับไทย
ขณะที่แหล่งข่าวเปิดเผยว่า หลังจากมีข่าวว่า คณะทำงานอัยการคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯได้เตรียมหารือกับ อสส. เพื่อยื่นคัดค้านการให้ประกันตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งจะยื่นคำร้อง ขอประกันตัวแบบขอมีสิทธิเดินทางไปทำธุรกิจต่างประเทศ หลังจากเดินทางกลับถึงไทยในวันที่ 28 ก.พ.นี้ ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ เกิดความลังเล ประกอบกับเกรงในเรื่องของความไม่ปลอดภัย ซึ่งทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องทบทวนในการเดินทางกลับในวันที่ 28 ก.พ.นี้ จึงอาจมีการเลื่อนการเดินทาง เพื่อรอดูท่าทีที่ชัดเจนทางอัยการสูงสุดก่อน แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการแถลงข่าวที่ชัดเจนในการเดินทางกลับ นอกจากข่าวในเว็ปไซด์ไฮ-ทักษิณ
ขณะที่รายงานข่าวจากทาง สตช.ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงยืนยันที่จะเดินทางกลับไทย ในวันที่ 28 ก.พ.เวลา 09.40 น. ซึ่งในส่วนของ สตช. ได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัย โดยได้เตรียมแผนรักษาความปลอดภัยไว้ 2 แผน คือ 1.หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ลงจากเครื่องบิน จะนำรถไปรับภายในจากสนามบินเพื่อเดินทางไป 2 จุด คือ ที่ดีเอสไอ กับศาลอาญา และแผนที่ 2 หากมีกลุ่มคนที่รักและเกลียด พ.ต.ทักษิณ ไปรอรับเป็นจำนวนมาก ก็อาจมีการใช้เฮลิคอปเตอร์จากสนามบิน ส่วนสถานที่ลงจอดยังไม่มีการระบุ เพื่อความปลอดภัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ และป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดคิด
อย่างไรก็ตาม ในช่วงค่ำวันเดียวกัน นายพิชิต ชื่นบาน ทนายความของพ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์ มาแจ้งกับผู้สื่อข่าวที่พรรคพลังประชาชนว่า ได้รับการติดต่อจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าจะเดินทางกลับมาในวันที่ 28 ก.พ.นี้ เวลา 09.40 น. เที่ยวบิน ทีจี 603 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
“พจมาน” เรียกลิ่วล้อหารือการเมือง
มีรายงานข่าวจากพรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า ในช่วงเที่ยงวันเดียวกันคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เรียกแกนนำพรรคและอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เข้าหารือที่อาคารชินวัตร 3 เพื่อประเมินสถานการณ์การเมืองหลังจากที่ กกต. มีมติให้ใบแดงนายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร นอกจากนี้ ยังมองว่า รัฐบาลควรเร่งทำงานให้มีผลงานมากที่สุดและในช่วง 3 เดือนนี้อาจมีการปรับ ครม.เพื่อเรียกศรัทธาของรัฐบาลให้มากที่สุด อีกทั้งกรณีของนายยงยุทธ นั้น อาจทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เลื่อนเวลากลับประเทศออกไปอีกระยะ โดยอ้างเหตุผลการเลื่อนกลับประเทศต่อกับสังคมว่า เมื่อพันธมิตรฯ ไม่ต้องการให้กลับ และเพื่อความสมานฉันท์ของสังคม พ.ต.ท.ทักษิณ จึงขอเลื่อนเวลากลับประเทศออกไปก่อน และจะกลับมาในอนาคตอันใกล้นี้
ทั้งนี้ ยังมีข่าวลือภายในพรรคว่า เหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะเลื่อนการกลับประเทศ เพราะมีข้อมูลว่า อาจจะไม่ได้รับความปลอดภัย รวมทั้งการเดินทางจากจีนในครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะจะพาผู้ใหญ่ของประเทศจีน เดินทางมาด้วย คาดว่าอาจจะเป็น นายหู จิน เทา มาด้วย เพื่อเป็นเกราะป้องกันตัว
“นภดล” เว่อร์ “แม้ว” นั่งเจ็ตส่วนตัวกลับ
ด้าน นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ตนได้พบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อมอบหมายงานต่อให้ที่ปรึกษากฎหมายคนใหม่ เท่าที่ทราบเป็นไปได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะออกแถลงการณ์ วันนี้ (26) ยืนยันการกลับประเทศภายใน 1 - 5 วัน หลังจากนี้ ขอให้รอฟังแถลงการณ์
ส่วนกระแสข่าวการเดินทางกลับในวันที่ 28 ก.พ. นั้น นายนพดล กล่าวว่า เท่าที่ทราบจะเป็นวันดังกล่าวแต่ถ้าจะให้โทรศัพท์ไปถาม นักข่าวก็จะไปออกข่าวว่า รัฐมนตรีโทรฯหา พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วจะเป็นรัฐมนตรีของใคร เวลานี้ต้องระมัดระวังเรื่องการพูด แต่จะพยายามตรวจสอบให้ อย่างไรก็ตาม หาก พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับมา น่าจะใช้เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ไม่ใช่สายการบินพาณิชย์
อัยการจ้องค้านประกันตัว “ทักษิณ”
ด้าน นายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการศาลสูงเขต 8 หนึ่งในคณะทำงานคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จำเลยที่ 1 คดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก เตรียมเดินทางกลับมามอบตัวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่า คณะทำงานอัยการคดีที่ดินรัชดาฯ จะต้องหารือกับนายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด ว่า จะมีความเห็นคัดค้านการขอประกันตัว พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ เพราะทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะมอบตัวต่อศาลฎีกาฯ พร้อมยื่นคำร้องขอประกันตัว แบบขอมีสิทธิเดินทางไปทำธุรกิจต่างประเทศ ซึ่งเป็นการยื่นประกันตัวที่แตกต่างกับกรณีคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา จำเลยที่ 2 ซึ่งไม่ได้ขอมีสิทธิเดินทางไปต่างประเทศ อัยการจึงไม่ได้คัดค้าน และศาลฎีกาฯ มีคำสั่งอนุญาตให้ประกัน
นายนันทศักดิ์ กล่าวว่า ในวันที่ 28 ก.พ.นี้ หาก พ.ต.ท.ทักษิณ มาศาลฯ คณะอัยการจะยังไม่เดินทางไปศาล เพราะเป็นเรื่องระหว่างศาลกับจำเลย ซึ่งหนีหมายจับ แล้วมาขอเข้ามอบตัว ทางอัยการจะไปศาลได้ก็ต่อเมื่อ ศาลมีคำสั่ง เช่น หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ยื่นประกัน และศาลต้องการจะฟังความเห็นอัยการ ศาลก็จะมีคำสั่งเรียกอัยการไปศาล อัยการก็จะไปแถลงความเห็น แต่ถ้าศาลเห็นว่าศาลใช้อำนาจพิจารณาสั่งอนุญาต หรือไม่อนุญาตให้ประกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โดยไม่ต้องสอบถามอัยการ ศาลก็สามารถมีคำสั่งคำร้องประกันได้ทันที เพราะกฎหมายให้ศาลเป็นผู้มีอำนาจสั่งให้ประกัน หรือไม่ให้ประกันตัวจำเลย
อธิบดีอัยการศาลสูงเขต 8 กล่าวอีกว่า หลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ มาขึ้นศาลในคดีที่ดินรัชดาฯ ทางพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดี (ดีเอสไอ) สามารถมาอายัดตัวตามหมายจับในฐานะ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ต้องหาคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสท ได้ถึงแม้สำนวนคดีนี้จะมีการส่งให้อัยการฝ่ายคดีพิเศษพิจารณาแล้ว เพราะตามกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ เมื่อดีเอสไอ ได้ตัวผู้ต้องหามาก็ต้องตรวจสอบว่าเป็นบุคคลตรงตามหมายจับหรือไม่ ถ้าถูกต้อง ดีเอสไอ จะต้องยื่นคำร้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้เพื่อขอให้ศาลถอนหมายจับ
จากนั้น จะนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาส่งมอบอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 ทั้งนี้ การขอประกันตัวในคดีเอสซีแอสเสท พ.ต.ท.ทักษิณ อาจยื่นขอในชั้นพนักงานสอบสวน หรือจะขอในชั้นส่งมอบตัวต่อพนักงานอัยการก็ได้ เหมือนกรณีคุณหญิงพจมาน ซึ่งอัยการอนุญาตให้ประกันตัวไป
พปช.เล่นลิ้น ส.ส.แห่ต้อนรับ “แม้ว”
วันเดียวกัน ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน แถลงภายหลังการประชุม ส.ส.ของพรรคฯ ว่า นายสมัคร สุนมรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะเดินทางกลับประเทศไทยนั้น ขอให้เป็นไปตามธรรมชาติ พรรคจะไม่มีการเตรียมต้อนรับ หรือจัดคนไปต้อนรับอย่างเอิกเกริก เพราะถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถเดินทางกลับมาเพื่อต่อสู้คดีในฐานะคนไทยคนหนึ่ง รวมทั้งจะไม่มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับในวันที่ 28 ก.พ.นั้น ที่ประชุมได้มีการหยิบยกมาพูดคุยกันหรือไม่ ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับเมื่อไหร่ถือเป็นสิทธิของท่าน พรรคไม่ทราบกำหนดการใดๆ ทั้งสิ้น และจนถึงขณะนี้ก็ไม่ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับมาเมื่อไร อย่างไรก็ตาม เราสนับสนุนให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาต่อสู้คดีอย่างเป็นธรรม ส่วนใครจะไปต้อนรับหรือไม่นั้นถือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละบุคคล แต่พรรคจะไม่มีการเกณฑ์คนไปต้อนรับอย่างแน่นอน
“หมัก” เลิกให้ความสำคัญกับ “แม้ว”
ด้าน นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธถึงการหารือร่วมกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ถึงการเดินทางกลับของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในเรื่องการรักษาความปลอดภัยว่า ยังไม่ได้คุย ได้บอกไปแล้วว่าถ้าตัดสินใจอย่างไรก็เรื่องของท่าน ในพรรคก็ถามตนเป็นยังไงก็ตอบไปว่าปล่อยไปตามธรรมชาติ ท่านจะกลับก็ต้องปล่อยเป็นเรื่องของท่าน ที่จะกลับมาสู้คดีความ ก็อยากให้กลับมาสู้คดีความก็เท่านั้น ไม่มีปัญหาอื่น คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาอดีตนายกฯ ออกไป แล้วกลับมา ก็ทำเรียบร้อย อดีตนายกฯ ก็คงเรียบร้อยเช่นเดียวกัน
เมื่อถามว่า มองกันว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมา จะกระเทือนถึงรัฐบาล นายสมัคร กล่าวว่า กระเทือนได้อย่างไร ตนเป็นนายกฯ และท่านก็เล่นการเมืองไม่ได้ อยู่ในบ้านเลขที่ 111 จะมากระเทือนอะไร ยังไงท่านก็เป็นนายกฯไม่ได้ และก็บอกแล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง บัดนี้ถึงเวลาที่จะมาแสดงความสุจริตของท่านก็เท่านั้นเอง
เมื่อถามว่า ได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ บ้างหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า ไม่คุย ไม่ได้พูด เป็นความคิดการตัดสินใจของท่านเอง ที่จะมา เราก็ไม่ได้เตรียมการ ป้องกันอะไร และไม่คิดว่าจะมีอะไรเป็นเรื่องยุ่งยาก เมื่อถามถึงบาบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ หากกลับมาประเทศไทย ในแง่ของรัฐบาลเกี่ยวข้องกันหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า ท่านเป็นอดีตนายกฯ มันเกี่ยวข้องกันอย่างไร เมื่อถามว่า ในแง่ของคำแนะนำการบริหารประเทศ นายสมัคร กล่าวว่า ถูกต้อง พูดถูกต้องแล้ว และหากมีการแนะนำมาตนก็ไม่จำเป็นต้องมาบอก
เมื่อถามว่า จะฝากเตือนประชาชนที่เดินทางไปต้อนรับ หรือไม่รับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สนามบินอย่างไร นายสมัคร กล่าวว่า อู๊ย ไม่บังอาจไปฝากเตือน แต่อยากบอกว่า กรุณาอย่าวิตกทุกข์ร้อนเรื่องนี้ สบายๆ ขอให้เป็นไปตามธรรมชาติ
“ตามความเห็นของผม คนไปรับมากมายก่ายกองก็จะเกิดเหตุ หากคนไปรับน้อยหน่อย ก็คงจะเหตุน้อยลง ถ้าไม่ไปเลยก็นับว่าจะดีมาก นายกฯ ทักษิณ คงจะสบายใจดี”นายสมัคร กล่าว
เมื่อถามว่า จากความรู้ความสามารถของอดีตนายกฯ ทักษิณ จะมีส่วนช่วยในการให้คำปรึกษาบริหารประเทศหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า หากมีคำแนะนำก็ถือเป็นเรื่องส่วนตัว เอามาใช้ก็ไม่ต้องบอกใคร เมื่อถามว่า การที่ท่านได้เป็นรัฐบาล เป็นเพราะตัวท่านเอง หรือเป็นเพราะชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ นายสมัคร กล่าวว่า โอ๊ย นายสมัคร รับเลือกตั้งหรือเปล่า แล้วใครสมัครรับเลือกตั้ง ใครเป็นหัวหน้าพรรค ใครเป็นหัวหน้ารัฐบาล ไม่เกี่ยวข้องอะไรกันหรอก เมื่อถามว่า การเป็นรัฐบาลไม่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณใช่หรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า พูดกันธรรมดาๆ ว่าจะให้คำปรึกษาส่วนตัวก็ยังไม่เหมาะ ที่จริงไม่ต้องถามหรอกคำถามแบบนี้
ตำรวจวางกำลังเข้มรับ “ทักษิณ”
พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. เปิดเผยถึงแผนป้องกันเหตุร้าย หาก พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับประเทศไทย ว่า ได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1-9 ผู้บังคับการตำรวจจราจร ผู้บังคับการตรวจ และปฏิบัติการพิเศษ รองผู้บังคับการหัวหน้าศูนย์สืบสวน ปฏิบัติตามแผนหลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับประเทศ ซึ่งตำรวจคาดการณ์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อมอบตัวสู้คดีตามหมายจับของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และเชื่อว่าจะพักอาศัยในกรุงเทพฯ หรือจังหวัดเชียงใหม่ และที่อื่นๆ
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า จัดตำรวจรักษาความปลอดภัยบริเวณศาลฎีกาฯ สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาฯ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ โดยให้ ผกก.แต่ละ สน.เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติด้วยตัวเอง พร้อมจัดเตรียมกำลังกองร้อยควบคุมฝูงชนจำนวน 1 กองร้อย พร้อมไว้ ณ ที่ตั้งของแต่ละหน่วยเพื่อให้ปฏิบัติงานได้ภายใน 30 นาที และให้ติดตามแนวโน้มของสถานการณ์การเดินทางกลับประเทศไทยของอดีตนายกฯ อย่างใกล้ชิด ให้ สน.ที่รับผิดชอบที่ตั้งศาลฎีกา และกรมสอบสวนคดีพิเศษให้เตรียมรถยกพร้อมเจ้าหน้าที่ประจำไว้ที่สี่แยกโดยรอบเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางจราจร และประสานกับโรงพยาบาล หน่วยบรรเทาสาธารณภัยกรณีเกิดเพลิงไหม้
“โดยจัดกองร้องควบคุมฝูงชน 1 กองร้อยเพื่อเตรียมจัดระเบียบบุคคลที่อาจเดินทางมาให้กำลังใจหรือต่อต้าน ระมัดระวังการยั่วหรือเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มสนับสนุนและต่อต้าน จัดเจ้าหน้าที่สืบสวนบันทึกภาพนิ่ง และเคลื่อนไหวสืบสวนหาข่าวโดยเกาะติดแกนนำหลัก แฝงตัวหาข่าวไปกับกลุ่มผู้ชุมนุม ติดตามความเคลื่อนไหวของสื่อมวลชน ช่างภาพอิสระหรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงให้ตำรวจเข้าร่วมรักษาความปลอดภัยในห้องพิจารณาคดี”ผบช.น. กล่าว
พปช.เวอร์!ขอพื้นที่สุวรรณภูมิรับ “แม้ว”
พล.อ.ท.ชนะ อยู่สถาพร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่า ขณะนี้พรรค พปช.ได้ประสานงานขอใช้พื้นที่ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ในช่วงเช้าวันที่ 28 ก.พ. เพื่อต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะเดินทางกลับประเทศไทย แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันชัดเจนว่า จะเดินทางมาถึงเวลาใด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะจัดสรรพื้นที่ส่วนใด ที่ไม่ส่งผลกระทบ หรือรบกวนการใช้บริการของผู้โดยสารอื่นๆ
“การกำหนดจุดพื้นที่ที่แน่นอนจะต้องรอการรายงานจากผู้บริหารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอีกครั้ง ส่วนการรักษาความปลอดภัย จะประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรง หากมีประชาชนที่สนับสนุน หรือกลุ่มต่อต้านมาพบกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ”
“วีระ” เชื่อ “แม้ว” หัวหดไม่กล้ากลับ
ด้าน นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น ให้สัมภาษณ์ในรายการชั่วโมงข่าวทางเอเอสทีวี กล่าวถึงการตัดสินของ กกต. ที่มีมติเสียงข้างมากให้ใบแดง นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทน ว่า เป็นเพราะหลักฐานมีความชัดเจนมาก ซึ่งเมื่อผลออกมาแบบนี้ทางพรรค พปช. และ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นผู้ผลักดันนายยงยุทธ เป็นประธานสภา จะรับผิดชอบอย่างไร
นอกจากนี้ นายวีระ ยังกล่าวอีกว่า จากข่าวที่ได้รับมาล่าสุดทราบมาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีกำหนดกลับประเทศไทยวันที่ 28 ก.พ.นั้น ล่าสุดหัวหด ไม่กลับมาแล้ว เนื่องจากตอนแรกคิดว่าคำตัดสินของ กกต. เป็นไปตามที่คิดเอาไว้ แต่เมื่อออกมาตรงกันข้าม ก็ต้องเปลี่ยนแผนใหม่
นายวีระ ระบุอีกว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นายนพดล ปัทมะ รมว.การต่างประเทศ และนายยงยุทธ ได้นำพาสปอร์ตเล่มแดงไปมอบให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงฮ่องกง คนเหล่านี้ทำเพื่อใคร ทำเพื่อคุณทักษิณ คนเดียวเท่านั้น" นายวีระกล่าว และว่า ในตอนแรก พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อรองไม่ต้องการไปประกันตัวที่ศาล แต่ตกลงกันไม่ได้ ก็เลยต้องเปลี่ยนใจไม่กลับมา
นายวีระ ยังเปิดเผยอีกว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อนของตนเองที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตของภาครัฐ ได้ถูกอุ้มหายตัวไปที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จนบัดนี้ยังไม่กลับมา โดยยืนยันว่า ถ้าเรื่องนี้ไม่มีความคืบหน้าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และถ้ารู้ว่าเป็นคนในเครื่องแบบ ก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
“สมเกียรติ” ยัน ปชป.ไฟเขียวสู้ “แม้ว”
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.ระบบสัดส่วน ปชป. กล่าวว่า ได้ร่วมหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากที่ไปร่วมแถลงข่าวประกาศเคลื่อนไหวทางการเมืองภาคประชาชนร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยใช้เวลาในการหารือนานร่วม 30 นาที
นายสมเกียรติ กล่าวว่า การหารือร่วมกับนายอภิสิทธิ์ เป็นไปด้วยบรรยากาศของความเข้าใจ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนส่วนร่วมกับพรรค ซึ่งยอมรับว่าพรรคเปิดกว้างมากขึ้น ยอมรับฟังความคิดเห็นของการเมืองภาคประชาชน โดยพรรคไม่ได้ปิดกั้นการทำงานภาคประชาชนของตนแต่อย่างใด แต่ต้องไม่กระทบกับวัฒนธรรมองค์กรของพรรค
“ผมเป็น 1 ใน 5 ของพันธมิตรฯ เกิดจากการเมืองภาคประชาชน จนได้เป็น ส.ส. หากผมไม่ไปร่วมแถลงด้วย ผมก็เสียหาย เพราะเกิดมาจากภาคประชาชน ผมไม่ลืมกำพืดของตัวเอง เพราะประชาชนส่วนหนึ่งเลือกผมเข้ามา เพราะจากบทบาทการทำหน้าที่ทางการเมืองภาคประชาชน นี่คือจุดยืนของผม ดังนั้น เมื่อผมถูกเลือกเข้ามาจึงต้องทำหน้าที่ทั้งการเมืองในสภา และการเมืองภาคประชาชนด้วยความสมดุล คือ มีจุดยืนทางการเมืองภาคประชาชนเคารพกฎระเบียบ และวัฒนธรรมองค์กรของพรรค และการเคลื่อนไหวหากเกิดวิกฤติด้วยความเหมาะสม”
นายสมเกียรติ กล่าวด้วยว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตั้งขึ้นมามีบทบาทอย่างชัดเจนซึ่งครบ 2 ปีแล้ว และเมื่อตนมาเป็น ส.ส.แล้วก็สามารถเคลื่อนไหวภาคประชาชนได้ เช่นเดียวกับ ส.ส.พรรคอื่น ซึ่ง ส.ส.อีสานหลายคนไปตั้งชมรมคนรักทักษิณ หลังจากได้รับการเลือกตั้งไปแล้ว สมาชิกแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ
บางคนก็ไปเป็นรัฐมนตรีกันอย่างเอิกเกริก ไม่เห็นมีใครว่าอะไร ซึ่งตนเดิมเคยเป็นแกนนำพันธมิตรฯ การกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง จึงไม่น่าจะกระทบกับพรรค และไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร การทำงานการเมือง ต้องไม่ลืมการเมืองภาคประชาชนด้วย
คนใต้ร่นถกฟื้นพันมิตรใต้ 27 ก.พ.นี้
นายเอกชัย อิสระทะ อดีตผู้ประสานงานพันธมิตรสงขลา เพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวของอดีตแกนนำพันธมิตรสงขลา เพื่อประชาธิปไตย ซึ่งในเบื้องต้นตกลงจะประชุมหารือในการฟื้นโครงสร้างองค์กรขึ้นมาใหม่ในวันศุกร์ที่ 29 ก.พ.นี้ ภายหลังจาก 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประชุมกันที่บ้านพระอาทิตย์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 ก.พ.และมีมติฟื้นโครงสร้างองค์กรพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขึ้นมาใหม่ไปแล้วว่า ได้มีการประสานกันแล้วว่าแกนนำพันธมิตรสงขลาฯจะเลื่อนการประชุมมาเป็นวันนี้ (27) เนื่องจากมีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับไทยในวันที่ 28 ก.พ.นี้
“ทีแรกเรากำหนดเอาเป็นเย็นวันศุกร์ที่ 29 ก.พ. จะคุยกัน แต่พอมีข่าวคุณทักษิณจะกลับไทยในวันที่ 28 ก.พ. เราเลยต้องร่นเข้ามาเป็นวันนี้ เพราะสถานการณ์มันเดินไปเร็วมากในช่วงเวลานี้ และน่าจะเป็นที่แน่นอนว่าจะมีการฟื้นโครงสร้างพันธมิตรสงขลา เพื่อประชาธิปไตยขึ้นมาเช่นกัน แต่จะมีการปรับเปลี่ยนอย่างไรหรือไม่คงต้องหารือกันก่อน”นายเอกชัย กล่าว
สำหรับสถานที่นัดประชุมคือ ห้องประชุมสภาอาจารย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ (มอ.หาดใหญ่) ตั้งแต่เวลา 13.00 น.จากนั้นเวลา 14.30 น. จะเปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชน
ด้าน นายสาคร สงมา แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคเหนือตอนล่าง เปิดเผยว่า ตนพร้อมประกาศสู้ทุกรูปแบบ แต่อาจไม่เหมือนเดิม เพราะเหตุการณ์ได้เปลี่ยนไปบ้าง และเชื่อว่าสถานการณ์จะรุนแรงกว่าการต่อสู้กับระบอบทักษิณเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เพราะปัจจุบันมีการจัดตั้งกลุ่มคนรักทักษิณขึ้นมา ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯ เหนือตอนล่าง ก็มีการพูดคุย เพื่อเตรียมการเคลื่อนไหวในอีก 2-3 วันข้างหน้า เพื่อฟื้นตัวอีกรอบ
“สาวกแม้ว”เคลื่อนไหวช่วย “นาย”
ที่ จ.พิษณุโลก วานนี้ กลุ่มผู้จงรักภักดีต่อ "ทักษิณ" นำโดยนายเลิศ ไม้เก่า พร้อมกลุ่มได้ประกาศระดมพลเพื่อกำหนดท่าทีแนวทางต่อสู้กับกลุ่มพันธมิตรฯ โดยช่วงบ่าย กลุ่มนายเลิศ ได้มีการประชุมแกนนำที่โรงแรมลาพาโลมา โดยมีนายกริช จินต์วุฒิ เจ้าของโรงแรมลาพาโลมา พร้อมแกนนำผู้ใหญ่บ้าน หัวคะแนน และคนของ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ประมาณ 30 คน นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ตรียมที่จะลงขันว่าจ้างเหมารถบัส 1 คัน เพื่อเดินทางไปรับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยกำหนดให้เดินทางถึงกรุงเทพฯเช้าวันที่ 28 ก.พ.นี้ ด้วย
นายเลิศ ไม้เก่า กล่าวกับบรรดาแนวร่วมรักทักษิณที่มาร่วมประชุมว่า ขอบคุณเฮียเคี้ยง (นายกริช จินต์วุฒิ) ที่อนุเคราะห์สถานที่ สิ่งที่จะบอกคือ นายทักษิณ จะกลับเข้ามาประเทศไทย พวกเราจะต้องไปต้อนรับด้วยมิตรรักและผูกพัน กลุ่มแนวร่วมทักษิณ พร้อมจะลงขันไปรับที่สนามบิน
“ผมจะประกาศจุดยืนของคนพิษณุโลกว่า ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่กล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นทรราช ซึ่งทรราชนั้นมีอยู่ 2 ประเภท แต่เดี๋ยวนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นบุคคลธรรมดา เขามีสิทธิ์กลับเข้าประเทศ ผมจะต่อต้าน และหาวิธีหยุดกลุ่มพันธมิตรฯ ให้ถึงที่สุด เราจะต้องปกป้องนายกฯที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งคราวนี้เป็นนายสมัคร สุนทรเวช เราจะไปรับคนๆ หนึ่ง จะไม่ให้ใครเดือดร้อน เพราะตลอดระยะเวลา 10 กว่าเดือน ผมต้องขายบ้านเพื่อเลียแผลใจ และกาย เพราะช่วงปฏิวัติทหารสั่งกักบริเวณในรัศมี 15 กิโลเมตรจากสะพานเรศวร ทำให้ธุรกิจผมเสียหาย”
ขณะที่นายกริช จินต์วุฒิ เจ้าของโรงแรมลาพาโลมา บอกว่า “ผมไม่พอใจกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ไม่ให้ทักษิณ เข้าประเทศ ถ้าผมมีตังค์ เหมือนนายกฯ ทักษิณ ผมจะจ้างคนไปยิงทิ้งคนที่ขึ้นเวที ผมไม่ชอบพวกเศษมนุษย์ ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย”
รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงเที่ยงวานนี้ (26 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวจำนวนมาก ได้เดินทางไปที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค เพื่อรายงานการแถลงข่าวกำหนดวันเดินทางกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ยังหนีคดีทุจริตอยู่ในต่างประเทศ โดยจะมี น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เป็นผู้แถลง
จนกระทั่งถึงเวลาตามกำหนดแถลงข่าว ปรากฏว่า ไม่มีการแถลงข่าวแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวจึงได้พยายามติดต่อ น.ส.ศันสนีย์ ทางโทรศัพท์ ซึ่ง น.ส.ศันสนีย์ ได้ยืนยันกลับมาว่า จะไม่มีการแถลงข่าวถึงกำหนดการเดินทางกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากตนไม่ได้รับมอบหมายให้แถลงข่าว อีกทั้งตนก็ไม่ทราบกำหนดการเดินทางกลับที่แน่นอนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย เพียงแต่ทราบคร่าวๆ ว่า อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับภายในเร็ววันนี้
น.ส.ศันสนีย์ ยอมรับว่า ได้เดินทางไปเยี่ยม พ.ต.ท.ทักษิณ ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนจริง และเพิ่งเดินทางกลับมาเมื่อคืนวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า อยากกลับบ้านมาก เพราะคิดถึงบ้าน นอกจากนี้ น.ส.ศันสนีย์ ยังปฏิเสธข่าวที่ว่าได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโฆษกประจำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ และเป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์การเดินทางกลับประเทศตามที่เป็นข่าวด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์จากกรุงปักกิ่ง เพื่อพูดคุยกับชมรมคนรักทักษิณ ที่จัดงานเลี้ยงที่ จ.เชียงราย โดยบอกว่าจะแถลงถึงกำหนดวันกลับไทยในวันอังคารที่ 26 ก.พ.นี้ ซึ่งต่อมามีกระแสข่าวว่า น.ส.ศันสนีย์ จะเป็นผู้แถลง แต่เมื่อถึงวันดังกล่าวจริงกลับไม่มีการแถลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบ www.truethaksin.com และ www.hi-thaksin.net หลังจากมีรายงานก่อนหน้านี้ ว่า ทีมกฎหมายตระกูลชินวัตร และน.ส.ศันสนีย์ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับวันที่ 28 ก.พ.พร้อมทั้งบอกว่า จะมีแถลงการณ์ผ่าน www.truethaksin.com แต่ปรากฏว่า ตลอดทั้งวันความเคลื่อนไหวเว็บดังกล่าวยังไม่มีการนำแถลงการณ์ออกมาแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยัง นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ และนายพิชิต ชื่นบาน ทนายความตระกูลชินวัตร ก็ไม่ยอมรับสาย และให้ข้อมูลเพิ่มเติมแต่อย่างใด ทั้งที่เมื่อวันที่ 25 ก.พ. นายพิชิต บอกกับสื่อมวลชนให้ติดตามอ่านแถลงการณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ จากเว็บไซต์ ทรูทักษิณ
“ทักษิณ”ลังเลบินกลับไทย
ขณะที่แหล่งข่าวเปิดเผยว่า หลังจากมีข่าวว่า คณะทำงานอัยการคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯได้เตรียมหารือกับ อสส. เพื่อยื่นคัดค้านการให้ประกันตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งจะยื่นคำร้อง ขอประกันตัวแบบขอมีสิทธิเดินทางไปทำธุรกิจต่างประเทศ หลังจากเดินทางกลับถึงไทยในวันที่ 28 ก.พ.นี้ ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ เกิดความลังเล ประกอบกับเกรงในเรื่องของความไม่ปลอดภัย ซึ่งทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องทบทวนในการเดินทางกลับในวันที่ 28 ก.พ.นี้ จึงอาจมีการเลื่อนการเดินทาง เพื่อรอดูท่าทีที่ชัดเจนทางอัยการสูงสุดก่อน แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการแถลงข่าวที่ชัดเจนในการเดินทางกลับ นอกจากข่าวในเว็ปไซด์ไฮ-ทักษิณ
ขณะที่รายงานข่าวจากทาง สตช.ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงยืนยันที่จะเดินทางกลับไทย ในวันที่ 28 ก.พ.เวลา 09.40 น. ซึ่งในส่วนของ สตช. ได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัย โดยได้เตรียมแผนรักษาความปลอดภัยไว้ 2 แผน คือ 1.หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ลงจากเครื่องบิน จะนำรถไปรับภายในจากสนามบินเพื่อเดินทางไป 2 จุด คือ ที่ดีเอสไอ กับศาลอาญา และแผนที่ 2 หากมีกลุ่มคนที่รักและเกลียด พ.ต.ทักษิณ ไปรอรับเป็นจำนวนมาก ก็อาจมีการใช้เฮลิคอปเตอร์จากสนามบิน ส่วนสถานที่ลงจอดยังไม่มีการระบุ เพื่อความปลอดภัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ และป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดคิด
อย่างไรก็ตาม ในช่วงค่ำวันเดียวกัน นายพิชิต ชื่นบาน ทนายความของพ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์ มาแจ้งกับผู้สื่อข่าวที่พรรคพลังประชาชนว่า ได้รับการติดต่อจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าจะเดินทางกลับมาในวันที่ 28 ก.พ.นี้ เวลา 09.40 น. เที่ยวบิน ทีจี 603 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
“พจมาน” เรียกลิ่วล้อหารือการเมือง
มีรายงานข่าวจากพรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า ในช่วงเที่ยงวันเดียวกันคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เรียกแกนนำพรรคและอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เข้าหารือที่อาคารชินวัตร 3 เพื่อประเมินสถานการณ์การเมืองหลังจากที่ กกต. มีมติให้ใบแดงนายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร นอกจากนี้ ยังมองว่า รัฐบาลควรเร่งทำงานให้มีผลงานมากที่สุดและในช่วง 3 เดือนนี้อาจมีการปรับ ครม.เพื่อเรียกศรัทธาของรัฐบาลให้มากที่สุด อีกทั้งกรณีของนายยงยุทธ นั้น อาจทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เลื่อนเวลากลับประเทศออกไปอีกระยะ โดยอ้างเหตุผลการเลื่อนกลับประเทศต่อกับสังคมว่า เมื่อพันธมิตรฯ ไม่ต้องการให้กลับ และเพื่อความสมานฉันท์ของสังคม พ.ต.ท.ทักษิณ จึงขอเลื่อนเวลากลับประเทศออกไปก่อน และจะกลับมาในอนาคตอันใกล้นี้
ทั้งนี้ ยังมีข่าวลือภายในพรรคว่า เหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะเลื่อนการกลับประเทศ เพราะมีข้อมูลว่า อาจจะไม่ได้รับความปลอดภัย รวมทั้งการเดินทางจากจีนในครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะจะพาผู้ใหญ่ของประเทศจีน เดินทางมาด้วย คาดว่าอาจจะเป็น นายหู จิน เทา มาด้วย เพื่อเป็นเกราะป้องกันตัว
“นภดล” เว่อร์ “แม้ว” นั่งเจ็ตส่วนตัวกลับ
ด้าน นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ตนได้พบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อมอบหมายงานต่อให้ที่ปรึกษากฎหมายคนใหม่ เท่าที่ทราบเป็นไปได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะออกแถลงการณ์ วันนี้ (26) ยืนยันการกลับประเทศภายใน 1 - 5 วัน หลังจากนี้ ขอให้รอฟังแถลงการณ์
ส่วนกระแสข่าวการเดินทางกลับในวันที่ 28 ก.พ. นั้น นายนพดล กล่าวว่า เท่าที่ทราบจะเป็นวันดังกล่าวแต่ถ้าจะให้โทรศัพท์ไปถาม นักข่าวก็จะไปออกข่าวว่า รัฐมนตรีโทรฯหา พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วจะเป็นรัฐมนตรีของใคร เวลานี้ต้องระมัดระวังเรื่องการพูด แต่จะพยายามตรวจสอบให้ อย่างไรก็ตาม หาก พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับมา น่าจะใช้เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ไม่ใช่สายการบินพาณิชย์
อัยการจ้องค้านประกันตัว “ทักษิณ”
ด้าน นายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการศาลสูงเขต 8 หนึ่งในคณะทำงานคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จำเลยที่ 1 คดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก เตรียมเดินทางกลับมามอบตัวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่า คณะทำงานอัยการคดีที่ดินรัชดาฯ จะต้องหารือกับนายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด ว่า จะมีความเห็นคัดค้านการขอประกันตัว พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ เพราะทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะมอบตัวต่อศาลฎีกาฯ พร้อมยื่นคำร้องขอประกันตัว แบบขอมีสิทธิเดินทางไปทำธุรกิจต่างประเทศ ซึ่งเป็นการยื่นประกันตัวที่แตกต่างกับกรณีคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา จำเลยที่ 2 ซึ่งไม่ได้ขอมีสิทธิเดินทางไปต่างประเทศ อัยการจึงไม่ได้คัดค้าน และศาลฎีกาฯ มีคำสั่งอนุญาตให้ประกัน
นายนันทศักดิ์ กล่าวว่า ในวันที่ 28 ก.พ.นี้ หาก พ.ต.ท.ทักษิณ มาศาลฯ คณะอัยการจะยังไม่เดินทางไปศาล เพราะเป็นเรื่องระหว่างศาลกับจำเลย ซึ่งหนีหมายจับ แล้วมาขอเข้ามอบตัว ทางอัยการจะไปศาลได้ก็ต่อเมื่อ ศาลมีคำสั่ง เช่น หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ยื่นประกัน และศาลต้องการจะฟังความเห็นอัยการ ศาลก็จะมีคำสั่งเรียกอัยการไปศาล อัยการก็จะไปแถลงความเห็น แต่ถ้าศาลเห็นว่าศาลใช้อำนาจพิจารณาสั่งอนุญาต หรือไม่อนุญาตให้ประกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โดยไม่ต้องสอบถามอัยการ ศาลก็สามารถมีคำสั่งคำร้องประกันได้ทันที เพราะกฎหมายให้ศาลเป็นผู้มีอำนาจสั่งให้ประกัน หรือไม่ให้ประกันตัวจำเลย
อธิบดีอัยการศาลสูงเขต 8 กล่าวอีกว่า หลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ มาขึ้นศาลในคดีที่ดินรัชดาฯ ทางพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดี (ดีเอสไอ) สามารถมาอายัดตัวตามหมายจับในฐานะ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ต้องหาคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสท ได้ถึงแม้สำนวนคดีนี้จะมีการส่งให้อัยการฝ่ายคดีพิเศษพิจารณาแล้ว เพราะตามกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ เมื่อดีเอสไอ ได้ตัวผู้ต้องหามาก็ต้องตรวจสอบว่าเป็นบุคคลตรงตามหมายจับหรือไม่ ถ้าถูกต้อง ดีเอสไอ จะต้องยื่นคำร้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้เพื่อขอให้ศาลถอนหมายจับ
จากนั้น จะนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาส่งมอบอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 ทั้งนี้ การขอประกันตัวในคดีเอสซีแอสเสท พ.ต.ท.ทักษิณ อาจยื่นขอในชั้นพนักงานสอบสวน หรือจะขอในชั้นส่งมอบตัวต่อพนักงานอัยการก็ได้ เหมือนกรณีคุณหญิงพจมาน ซึ่งอัยการอนุญาตให้ประกันตัวไป
พปช.เล่นลิ้น ส.ส.แห่ต้อนรับ “แม้ว”
วันเดียวกัน ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน แถลงภายหลังการประชุม ส.ส.ของพรรคฯ ว่า นายสมัคร สุนมรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะเดินทางกลับประเทศไทยนั้น ขอให้เป็นไปตามธรรมชาติ พรรคจะไม่มีการเตรียมต้อนรับ หรือจัดคนไปต้อนรับอย่างเอิกเกริก เพราะถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถเดินทางกลับมาเพื่อต่อสู้คดีในฐานะคนไทยคนหนึ่ง รวมทั้งจะไม่มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับในวันที่ 28 ก.พ.นั้น ที่ประชุมได้มีการหยิบยกมาพูดคุยกันหรือไม่ ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับเมื่อไหร่ถือเป็นสิทธิของท่าน พรรคไม่ทราบกำหนดการใดๆ ทั้งสิ้น และจนถึงขณะนี้ก็ไม่ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับมาเมื่อไร อย่างไรก็ตาม เราสนับสนุนให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาต่อสู้คดีอย่างเป็นธรรม ส่วนใครจะไปต้อนรับหรือไม่นั้นถือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละบุคคล แต่พรรคจะไม่มีการเกณฑ์คนไปต้อนรับอย่างแน่นอน
“หมัก” เลิกให้ความสำคัญกับ “แม้ว”
ด้าน นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธถึงการหารือร่วมกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ถึงการเดินทางกลับของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในเรื่องการรักษาความปลอดภัยว่า ยังไม่ได้คุย ได้บอกไปแล้วว่าถ้าตัดสินใจอย่างไรก็เรื่องของท่าน ในพรรคก็ถามตนเป็นยังไงก็ตอบไปว่าปล่อยไปตามธรรมชาติ ท่านจะกลับก็ต้องปล่อยเป็นเรื่องของท่าน ที่จะกลับมาสู้คดีความ ก็อยากให้กลับมาสู้คดีความก็เท่านั้น ไม่มีปัญหาอื่น คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาอดีตนายกฯ ออกไป แล้วกลับมา ก็ทำเรียบร้อย อดีตนายกฯ ก็คงเรียบร้อยเช่นเดียวกัน
เมื่อถามว่า มองกันว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมา จะกระเทือนถึงรัฐบาล นายสมัคร กล่าวว่า กระเทือนได้อย่างไร ตนเป็นนายกฯ และท่านก็เล่นการเมืองไม่ได้ อยู่ในบ้านเลขที่ 111 จะมากระเทือนอะไร ยังไงท่านก็เป็นนายกฯไม่ได้ และก็บอกแล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง บัดนี้ถึงเวลาที่จะมาแสดงความสุจริตของท่านก็เท่านั้นเอง
เมื่อถามว่า ได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ บ้างหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า ไม่คุย ไม่ได้พูด เป็นความคิดการตัดสินใจของท่านเอง ที่จะมา เราก็ไม่ได้เตรียมการ ป้องกันอะไร และไม่คิดว่าจะมีอะไรเป็นเรื่องยุ่งยาก เมื่อถามถึงบาบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ หากกลับมาประเทศไทย ในแง่ของรัฐบาลเกี่ยวข้องกันหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า ท่านเป็นอดีตนายกฯ มันเกี่ยวข้องกันอย่างไร เมื่อถามว่า ในแง่ของคำแนะนำการบริหารประเทศ นายสมัคร กล่าวว่า ถูกต้อง พูดถูกต้องแล้ว และหากมีการแนะนำมาตนก็ไม่จำเป็นต้องมาบอก
เมื่อถามว่า จะฝากเตือนประชาชนที่เดินทางไปต้อนรับ หรือไม่รับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สนามบินอย่างไร นายสมัคร กล่าวว่า อู๊ย ไม่บังอาจไปฝากเตือน แต่อยากบอกว่า กรุณาอย่าวิตกทุกข์ร้อนเรื่องนี้ สบายๆ ขอให้เป็นไปตามธรรมชาติ
“ตามความเห็นของผม คนไปรับมากมายก่ายกองก็จะเกิดเหตุ หากคนไปรับน้อยหน่อย ก็คงจะเหตุน้อยลง ถ้าไม่ไปเลยก็นับว่าจะดีมาก นายกฯ ทักษิณ คงจะสบายใจดี”นายสมัคร กล่าว
เมื่อถามว่า จากความรู้ความสามารถของอดีตนายกฯ ทักษิณ จะมีส่วนช่วยในการให้คำปรึกษาบริหารประเทศหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า หากมีคำแนะนำก็ถือเป็นเรื่องส่วนตัว เอามาใช้ก็ไม่ต้องบอกใคร เมื่อถามว่า การที่ท่านได้เป็นรัฐบาล เป็นเพราะตัวท่านเอง หรือเป็นเพราะชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ นายสมัคร กล่าวว่า โอ๊ย นายสมัคร รับเลือกตั้งหรือเปล่า แล้วใครสมัครรับเลือกตั้ง ใครเป็นหัวหน้าพรรค ใครเป็นหัวหน้ารัฐบาล ไม่เกี่ยวข้องอะไรกันหรอก เมื่อถามว่า การเป็นรัฐบาลไม่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณใช่หรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า พูดกันธรรมดาๆ ว่าจะให้คำปรึกษาส่วนตัวก็ยังไม่เหมาะ ที่จริงไม่ต้องถามหรอกคำถามแบบนี้
ตำรวจวางกำลังเข้มรับ “ทักษิณ”
พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. เปิดเผยถึงแผนป้องกันเหตุร้าย หาก พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับประเทศไทย ว่า ได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1-9 ผู้บังคับการตำรวจจราจร ผู้บังคับการตรวจ และปฏิบัติการพิเศษ รองผู้บังคับการหัวหน้าศูนย์สืบสวน ปฏิบัติตามแผนหลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับประเทศ ซึ่งตำรวจคาดการณ์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อมอบตัวสู้คดีตามหมายจับของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และเชื่อว่าจะพักอาศัยในกรุงเทพฯ หรือจังหวัดเชียงใหม่ และที่อื่นๆ
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า จัดตำรวจรักษาความปลอดภัยบริเวณศาลฎีกาฯ สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาฯ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ โดยให้ ผกก.แต่ละ สน.เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติด้วยตัวเอง พร้อมจัดเตรียมกำลังกองร้อยควบคุมฝูงชนจำนวน 1 กองร้อย พร้อมไว้ ณ ที่ตั้งของแต่ละหน่วยเพื่อให้ปฏิบัติงานได้ภายใน 30 นาที และให้ติดตามแนวโน้มของสถานการณ์การเดินทางกลับประเทศไทยของอดีตนายกฯ อย่างใกล้ชิด ให้ สน.ที่รับผิดชอบที่ตั้งศาลฎีกา และกรมสอบสวนคดีพิเศษให้เตรียมรถยกพร้อมเจ้าหน้าที่ประจำไว้ที่สี่แยกโดยรอบเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางจราจร และประสานกับโรงพยาบาล หน่วยบรรเทาสาธารณภัยกรณีเกิดเพลิงไหม้
“โดยจัดกองร้องควบคุมฝูงชน 1 กองร้อยเพื่อเตรียมจัดระเบียบบุคคลที่อาจเดินทางมาให้กำลังใจหรือต่อต้าน ระมัดระวังการยั่วหรือเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มสนับสนุนและต่อต้าน จัดเจ้าหน้าที่สืบสวนบันทึกภาพนิ่ง และเคลื่อนไหวสืบสวนหาข่าวโดยเกาะติดแกนนำหลัก แฝงตัวหาข่าวไปกับกลุ่มผู้ชุมนุม ติดตามความเคลื่อนไหวของสื่อมวลชน ช่างภาพอิสระหรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงให้ตำรวจเข้าร่วมรักษาความปลอดภัยในห้องพิจารณาคดี”ผบช.น. กล่าว
พปช.เวอร์!ขอพื้นที่สุวรรณภูมิรับ “แม้ว”
พล.อ.ท.ชนะ อยู่สถาพร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่า ขณะนี้พรรค พปช.ได้ประสานงานขอใช้พื้นที่ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ในช่วงเช้าวันที่ 28 ก.พ. เพื่อต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะเดินทางกลับประเทศไทย แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันชัดเจนว่า จะเดินทางมาถึงเวลาใด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะจัดสรรพื้นที่ส่วนใด ที่ไม่ส่งผลกระทบ หรือรบกวนการใช้บริการของผู้โดยสารอื่นๆ
“การกำหนดจุดพื้นที่ที่แน่นอนจะต้องรอการรายงานจากผู้บริหารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอีกครั้ง ส่วนการรักษาความปลอดภัย จะประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรง หากมีประชาชนที่สนับสนุน หรือกลุ่มต่อต้านมาพบกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ”
“วีระ” เชื่อ “แม้ว” หัวหดไม่กล้ากลับ
ด้าน นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น ให้สัมภาษณ์ในรายการชั่วโมงข่าวทางเอเอสทีวี กล่าวถึงการตัดสินของ กกต. ที่มีมติเสียงข้างมากให้ใบแดง นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทน ว่า เป็นเพราะหลักฐานมีความชัดเจนมาก ซึ่งเมื่อผลออกมาแบบนี้ทางพรรค พปช. และ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นผู้ผลักดันนายยงยุทธ เป็นประธานสภา จะรับผิดชอบอย่างไร
นอกจากนี้ นายวีระ ยังกล่าวอีกว่า จากข่าวที่ได้รับมาล่าสุดทราบมาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีกำหนดกลับประเทศไทยวันที่ 28 ก.พ.นั้น ล่าสุดหัวหด ไม่กลับมาแล้ว เนื่องจากตอนแรกคิดว่าคำตัดสินของ กกต. เป็นไปตามที่คิดเอาไว้ แต่เมื่อออกมาตรงกันข้าม ก็ต้องเปลี่ยนแผนใหม่
นายวีระ ระบุอีกว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นายนพดล ปัทมะ รมว.การต่างประเทศ และนายยงยุทธ ได้นำพาสปอร์ตเล่มแดงไปมอบให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงฮ่องกง คนเหล่านี้ทำเพื่อใคร ทำเพื่อคุณทักษิณ คนเดียวเท่านั้น" นายวีระกล่าว และว่า ในตอนแรก พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อรองไม่ต้องการไปประกันตัวที่ศาล แต่ตกลงกันไม่ได้ ก็เลยต้องเปลี่ยนใจไม่กลับมา
นายวีระ ยังเปิดเผยอีกว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อนของตนเองที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตของภาครัฐ ได้ถูกอุ้มหายตัวไปที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จนบัดนี้ยังไม่กลับมา โดยยืนยันว่า ถ้าเรื่องนี้ไม่มีความคืบหน้าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และถ้ารู้ว่าเป็นคนในเครื่องแบบ ก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
“สมเกียรติ” ยัน ปชป.ไฟเขียวสู้ “แม้ว”
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.ระบบสัดส่วน ปชป. กล่าวว่า ได้ร่วมหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากที่ไปร่วมแถลงข่าวประกาศเคลื่อนไหวทางการเมืองภาคประชาชนร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยใช้เวลาในการหารือนานร่วม 30 นาที
นายสมเกียรติ กล่าวว่า การหารือร่วมกับนายอภิสิทธิ์ เป็นไปด้วยบรรยากาศของความเข้าใจ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนส่วนร่วมกับพรรค ซึ่งยอมรับว่าพรรคเปิดกว้างมากขึ้น ยอมรับฟังความคิดเห็นของการเมืองภาคประชาชน โดยพรรคไม่ได้ปิดกั้นการทำงานภาคประชาชนของตนแต่อย่างใด แต่ต้องไม่กระทบกับวัฒนธรรมองค์กรของพรรค
“ผมเป็น 1 ใน 5 ของพันธมิตรฯ เกิดจากการเมืองภาคประชาชน จนได้เป็น ส.ส. หากผมไม่ไปร่วมแถลงด้วย ผมก็เสียหาย เพราะเกิดมาจากภาคประชาชน ผมไม่ลืมกำพืดของตัวเอง เพราะประชาชนส่วนหนึ่งเลือกผมเข้ามา เพราะจากบทบาทการทำหน้าที่ทางการเมืองภาคประชาชน นี่คือจุดยืนของผม ดังนั้น เมื่อผมถูกเลือกเข้ามาจึงต้องทำหน้าที่ทั้งการเมืองในสภา และการเมืองภาคประชาชนด้วยความสมดุล คือ มีจุดยืนทางการเมืองภาคประชาชนเคารพกฎระเบียบ และวัฒนธรรมองค์กรของพรรค และการเคลื่อนไหวหากเกิดวิกฤติด้วยความเหมาะสม”
นายสมเกียรติ กล่าวด้วยว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตั้งขึ้นมามีบทบาทอย่างชัดเจนซึ่งครบ 2 ปีแล้ว และเมื่อตนมาเป็น ส.ส.แล้วก็สามารถเคลื่อนไหวภาคประชาชนได้ เช่นเดียวกับ ส.ส.พรรคอื่น ซึ่ง ส.ส.อีสานหลายคนไปตั้งชมรมคนรักทักษิณ หลังจากได้รับการเลือกตั้งไปแล้ว สมาชิกแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ
บางคนก็ไปเป็นรัฐมนตรีกันอย่างเอิกเกริก ไม่เห็นมีใครว่าอะไร ซึ่งตนเดิมเคยเป็นแกนนำพันธมิตรฯ การกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง จึงไม่น่าจะกระทบกับพรรค และไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร การทำงานการเมือง ต้องไม่ลืมการเมืองภาคประชาชนด้วย
คนใต้ร่นถกฟื้นพันมิตรใต้ 27 ก.พ.นี้
นายเอกชัย อิสระทะ อดีตผู้ประสานงานพันธมิตรสงขลา เพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวของอดีตแกนนำพันธมิตรสงขลา เพื่อประชาธิปไตย ซึ่งในเบื้องต้นตกลงจะประชุมหารือในการฟื้นโครงสร้างองค์กรขึ้นมาใหม่ในวันศุกร์ที่ 29 ก.พ.นี้ ภายหลังจาก 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประชุมกันที่บ้านพระอาทิตย์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 ก.พ.และมีมติฟื้นโครงสร้างองค์กรพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขึ้นมาใหม่ไปแล้วว่า ได้มีการประสานกันแล้วว่าแกนนำพันธมิตรสงขลาฯจะเลื่อนการประชุมมาเป็นวันนี้ (27) เนื่องจากมีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับไทยในวันที่ 28 ก.พ.นี้
“ทีแรกเรากำหนดเอาเป็นเย็นวันศุกร์ที่ 29 ก.พ. จะคุยกัน แต่พอมีข่าวคุณทักษิณจะกลับไทยในวันที่ 28 ก.พ. เราเลยต้องร่นเข้ามาเป็นวันนี้ เพราะสถานการณ์มันเดินไปเร็วมากในช่วงเวลานี้ และน่าจะเป็นที่แน่นอนว่าจะมีการฟื้นโครงสร้างพันธมิตรสงขลา เพื่อประชาธิปไตยขึ้นมาเช่นกัน แต่จะมีการปรับเปลี่ยนอย่างไรหรือไม่คงต้องหารือกันก่อน”นายเอกชัย กล่าว
สำหรับสถานที่นัดประชุมคือ ห้องประชุมสภาอาจารย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ (มอ.หาดใหญ่) ตั้งแต่เวลา 13.00 น.จากนั้นเวลา 14.30 น. จะเปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชน
ด้าน นายสาคร สงมา แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคเหนือตอนล่าง เปิดเผยว่า ตนพร้อมประกาศสู้ทุกรูปแบบ แต่อาจไม่เหมือนเดิม เพราะเหตุการณ์ได้เปลี่ยนไปบ้าง และเชื่อว่าสถานการณ์จะรุนแรงกว่าการต่อสู้กับระบอบทักษิณเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เพราะปัจจุบันมีการจัดตั้งกลุ่มคนรักทักษิณขึ้นมา ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯ เหนือตอนล่าง ก็มีการพูดคุย เพื่อเตรียมการเคลื่อนไหวในอีก 2-3 วันข้างหน้า เพื่อฟื้นตัวอีกรอบ
“สาวกแม้ว”เคลื่อนไหวช่วย “นาย”
ที่ จ.พิษณุโลก วานนี้ กลุ่มผู้จงรักภักดีต่อ "ทักษิณ" นำโดยนายเลิศ ไม้เก่า พร้อมกลุ่มได้ประกาศระดมพลเพื่อกำหนดท่าทีแนวทางต่อสู้กับกลุ่มพันธมิตรฯ โดยช่วงบ่าย กลุ่มนายเลิศ ได้มีการประชุมแกนนำที่โรงแรมลาพาโลมา โดยมีนายกริช จินต์วุฒิ เจ้าของโรงแรมลาพาโลมา พร้อมแกนนำผู้ใหญ่บ้าน หัวคะแนน และคนของ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ประมาณ 30 คน นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ตรียมที่จะลงขันว่าจ้างเหมารถบัส 1 คัน เพื่อเดินทางไปรับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยกำหนดให้เดินทางถึงกรุงเทพฯเช้าวันที่ 28 ก.พ.นี้ ด้วย
นายเลิศ ไม้เก่า กล่าวกับบรรดาแนวร่วมรักทักษิณที่มาร่วมประชุมว่า ขอบคุณเฮียเคี้ยง (นายกริช จินต์วุฒิ) ที่อนุเคราะห์สถานที่ สิ่งที่จะบอกคือ นายทักษิณ จะกลับเข้ามาประเทศไทย พวกเราจะต้องไปต้อนรับด้วยมิตรรักและผูกพัน กลุ่มแนวร่วมทักษิณ พร้อมจะลงขันไปรับที่สนามบิน
“ผมจะประกาศจุดยืนของคนพิษณุโลกว่า ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่กล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นทรราช ซึ่งทรราชนั้นมีอยู่ 2 ประเภท แต่เดี๋ยวนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นบุคคลธรรมดา เขามีสิทธิ์กลับเข้าประเทศ ผมจะต่อต้าน และหาวิธีหยุดกลุ่มพันธมิตรฯ ให้ถึงที่สุด เราจะต้องปกป้องนายกฯที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งคราวนี้เป็นนายสมัคร สุนทรเวช เราจะไปรับคนๆ หนึ่ง จะไม่ให้ใครเดือดร้อน เพราะตลอดระยะเวลา 10 กว่าเดือน ผมต้องขายบ้านเพื่อเลียแผลใจ และกาย เพราะช่วงปฏิวัติทหารสั่งกักบริเวณในรัศมี 15 กิโลเมตรจากสะพานเรศวร ทำให้ธุรกิจผมเสียหาย”
ขณะที่นายกริช จินต์วุฒิ เจ้าของโรงแรมลาพาโลมา บอกว่า “ผมไม่พอใจกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ไม่ให้ทักษิณ เข้าประเทศ ถ้าผมมีตังค์ เหมือนนายกฯ ทักษิณ ผมจะจ้างคนไปยิงทิ้งคนที่ขึ้นเวที ผมไม่ชอบพวกเศษมนุษย์ ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย”