xs
xsm
sm
md
lg

ถกใบแดงยุทธตู้เย็น 19 ก.พ. หมักขู่ยุบพรรคกลับสู่กลียุค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กกต.เตรียมนำสำนวนใบแดง "ยุทธ ตู้เย็น"เข้าสู่การพิจารณา 19 ก.พ. มั่นใจสรุปความเห็นส่งศาลฎีกาได้ก่อนสิ้นเดือนนี้ ยันอนุฯสอบสวนมีสิทธิ์ให้ข่าว ไม่มีสำนวนรั่ว ด้านกำนันเชียงราย บุก กกต. แจงไม่เคยรับเงิน 2 หมื่นจาก"ทั่นยุทธ" แถมเอ่ยปากขอโทษที่ทำให้เสื่อมเสีย "สดศรี"โวย อนุฯออกข่าวบีบกกต. "หมัก" บอกเรื่องนี้สุดแต่เวรแต่กรรม หากถึงขั้นยุบพรรค ก็ต้องอาวสาน บ้านเมืองอาจกลับเข้าสู่กลียุค

เมื่อวานนี้ (15ก.พ.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. กล่าวถึง กรณีคณะอนุกรรมการสอบกรณีทุจริตเชียงราย สรุปผลว่า นายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ว่า ทราบว่าคณะอนุกรรมการสอบสวนอยู่ระหว่างการเขียนรายงานสำนวนเพื่อส่งให้กกต.พิจารณาในสัปดาห์หน้า โดยที่ประชุม กกต.อาจบรรจุวาระให้พิจารณาในช่วงบ่าย วันที่ 19 ก.พ.นี้ เบื้องต้น กกต.อาจต้องฟังคณะกรรมการสอบสวนก่อน เพราะยังไม่ทราบรายละเอียด ซึ่งอาจทำให้ไม่สามารถพิจารณาเสร็จภายในวันเดียว แต่คาดว่าจะเสร็จทันภายในเดือน ก.พ.นี้

ทั้งนี้ กกต.คงจะไม่สอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีกแล้ว เพราะได้ให้เวลาคณะอนุกรรมการสอบสวนมานานแล้ว ซึ่งนายยงยุทธ ก็ได้มาให้การด้วยตนเอง นอกจากนี้ ยังมีการนำพยานหลายปากมาสอบสวนเพิ่มเติมในชั้นสอบสวน ดังนั้น คิดว่า พยานคงหมดแล้ว และเหลือเพียงการพิจารณาในชั้นกกต.เท่านั้น หาก กกต.เห็นว่า สำนวนไม่มีมูล เรื่องก็จบ แต่หากมีมูล ก็จะส่งให้ศาลฎีกาต่อไป

ที่ผ่านมาสำนวนที่ กกต.พิจารณาให้ใบแดง ก็จะส่งให้ศาลฎีกาพิจารณาภายใน 2 สัปดาห์ และเมื่อศาลรับเรื่องแล้ว นายยงยุทธ ต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ทันที ทั้งนี้ กรณีดังกล่าว กกต. แค่พิจารณาเพียงความผิดส่วนบุคคล ยังไม่พิจารณาในขั้นยุบพรรคพลังประชาชน เพราะต้องรอศาลฎีกาก่อน

"กกต.ไม่ได้หนักใจเรื่องตำแหน่งของนายยงยุทธ ที่เป็นประธานสภาฯ เพราะเราต้องพิจารณาให้รอบคอบ หลักฐานต้องมีครบ และชี้ชัดว่า มีมูลหรือไม่" นายประพันธ์ กล่าว

**ชี้อนุฯสอบสวนมีสิทธิ์ให้ข่าว

นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. กล่าวว่า หากได้รับสำนวนเรื่องนี้ ก็จะเร่งนำเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณาทันที ในวันอังคารที่ 19 ก.พ. นี้

"เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน เราต้องทำโดยรอบคอบ ซึ่งผมไม่แน่ใจว่า จะพิจารณาแล้วเสร็จเมื่อไร เราต้องให้ที่ประชุมพิจารณา แต่คาดว่าจะได้ข้อสรุปในสัปดาห์หน้าแน่นอน และคงไม่ต้องเชิญ นายยงยุทธมาสอบเพิ่มเติม เนื่องจากได้คณะกรรมการได้สอบสวนอย่างรอบคอบแล้ว"

ส่วนที่นายยงยุทธ บอกว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการจัดฉากนั้น ตนคิดว่า เป็นแค่ความเห็นส่วนตัว นายอภิชาต กล่าวว่า การที่มีข่าวนี้ออกมาก่อน ก็ไม่ใช่เรื่องสำนวนรั่ว เพราะประธานคณะอนุกรรมการ มีสิทธิ์ในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนได้ แต่ก็มีเสียงบ่นจากอนุฯ สอบสวนบางคน บอกว่าไม่ควรปรากฏออกมา เพราะจะเป็นการกดดัน กกต. อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวคิดว่าไม่เป็นการกดดัน เพราะเราทำหน้าที่เหมือนศาลสูง สามารถตัดสินเรื่องดังกล่าวได้เอง เราไม่ได้กังวลในเรื่องนี้

เมื่อถามว่า หากมีการให้ใบแดง จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา เพื่อสอบยุบพรรคหรือไม่ นายอภิชาต กล่าวว่า ยังไม่มีแนวคิดจะตั้งอนุกรรมการขึ้นมายุบพรรคพลังประชาชน เพราะที่ผ่านมาเราก็จะวินิจฉัยก่อนว่า ตัวบุคคลมีความผิด จากนั้นก็ต้องดูว่าการกระทำผิดมีผลกระทบไปถึงพรรคหรือไม่

นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านการมีส่วนร่วมกล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายเป็นห่วงในเรื่องบรรยากาศทางการเมืองจะเกิดความวุ่นวาย หากเรื่องบานปลายถึงขั้นยุบพรรค ว่า เรื่องนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของกกต. เพราะกกต.มีหน้าที่พิจารณาสำนวนร้องคัดค้าน ส่วนฝ่ายการเมืองก็มีหน้าที่ทำงานของฝ่ายการเมืองไป รัฐก็ทำงานของรัฐ ฝ่ายตรวจสอบก็ทำงานไป เพราะฉะนั้นกกต.ก็ต้องทำงานของกกต.ต่อไป ดังนั้นบรรยากาศของการเมืองจะเป็นอย่างไร ก็ไม่เกี่ยวกับกกต.

**"สดศรี"โวยออกข่าวบีบกกต.

ด้านนางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านบริหารพรรคการเมือง กล่าวว่า รู้สึกอึดอัดต่อการวินิจฉัยคำร้องคัดค้านดังกล่าวต่อไปของกกต. เพราะเมื่อข่าวออกสู่สาธารณะแล้วจะทำให้เกิดการวิ่งเต้นต่อกระบวนการวินิจฉัย และ กกต. ก็จะถูกสังคมเพ่งเล็งให้ต้องทำตามผลการวินิจฉัย อนุกรรมการฯ ซึ่งหาก กกต.ไม่ทำตามมตินั้น ก็จะถูกกล่าวหาว่า เข้าข้างอีกฝ่ายหนึ่ง นอกจากนั้นการเปิดเผยดังกล่าวก็อาจจะเป็นการข่มขู่ผู้ที่ได้รับผลจากการวินิจฉัยของคณะอนุกรรมการฯ ด้วย

"วันนี้อ่านหนังสือพิมพ์ ก็คิดว่า ตายแล้ว ข่าวเป็นตุเป็นตะว่า มีมติอย่างนั้น ถ้านายสุวิทย์ให้สัมภาษณ์อย่างนั้นจริง ทั้งที่เป็นตุลาการเก่า ก็เป็นเรื่องไม่สมควร น่าจะรู้มารยาทการทำงานดี ว่าถ้าอนุกรรมการฯ เปิดเผยผลก่อน จะเป็นการกดดันข่มขู่ผู้ที่ได้รับผลจากการวินิจฉัยของอนุกรรมการฯ แล้วตอนที่อนุฯ ชุดสอบเอกสารลับ ก็มีการเปิดเผยกันใหญ่ ว่าใครลงมติอย่างไร เราเห็นแล้วรู้สึกตกใจว่าข่าวออกมาได้อย่างไร ถ้าอนุกรรมการฯทุกชุดเปิดเผยก่อน กกต. อย่างนี้ก็ตายกันเลย แสดงว่าอนุกรรมการฯ มีอำนาจมากกว่า กกต. เพราะเปิดเผยผลการพิจารณาได้ตั้งแต่สำนวนยังไม่ถึง กกต. ถ้าอย่างนั้นกกต. ก็ควรมีมติให้อนุกรรมการฯ วินิจฉัยและลงมติแทน กกต.ไปเลยเอาไหม ถ้ากกต. ต้องลงมติตามที่อนุกรรมการฯสรุปก็เท่ากับเป็นการถูกบงการ แต่ถ้าไม่ทำตาม ก็จะถูกหาว่า กกต.ไปกินเงินใคร จึงขอให้อนุกรรมการฯ อย่าเพิ่งพูดอะไร จนกว่า กกต.จะลงมติเสียก่อน ถ้าพูดออกมาจะทำให้คนมาวิ่งเต้นกับเรา เราถือว่าเรายึดมั่นจรรยาบรรณตุลาการมาตลอด ส่วนสำนวนอื่นก็ไม่เคยมีใครทำอย่างนี้ แล้วนี่ยิ่งสำนวนระดับประธานสภา ยิ่งต้องปิดเป็นความลับ การที่อนุกรรมการฯ เปิดเผย ยิ่งเป็นตัวเร่งให้สังคม,มองกกต.อีกทาง

นางสดศรี ยังกล่าวอีกว่า กล่าวว่า จะเสนอให้มีการตั้งกรรมการสอบอนุกรรมการชุดที่มีนายสุวิทย์ เป็นประธาน เพื่อหาข้อเท็จจริงว่า ใครเป็นผู้เปิดเผยผลการวินิจฉัย เพราะข้อห้ามของตุลาการต้องไม่เปิดเผยความลับของทางราชการ ซึ่งเท่าที่ตนทราบตอนนี้สำนวนยังไม่เสร็จ และยังไม่พิมพ์ด้วยซ้ำ และถ้าสำนวนพิมพ์เสร็จแล้วก็ต้องส่งมาที่เลขาธิการกกต.ก่อน นำเข้าที่ประชุมกกต.

**10 กำนันเชียงรายปฏิเสธรับเงิน"ทั่นยุทธ"

เวลา 16.00 น. วันเดียวกันนี้ กำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.แม่จัน อ.เชียงราย จำนวน 9 คน ในนามชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.แม่จัน ซึ่งเคยให้ปากคำในสำนวนคดีทุจริตการเลือกตั้งที่ จ.เชียงราย ของนายยงยุทธ ได้เดินทางมาชี้แจงกับผู้สื่อข่าวที่ กกต. ถึงกรณีที่มีข่าวระบุว่า กำนันทั้ง10 คน ให้การยอมรับว่า ได้รับเงินจาก นายยงยุทธ โดยนายอดิศร เรือนคำ กำนัน ต.ศรีคำ อ.แม่จัน กล่าวว่า จากที่ได้เห็นข่าวหนังสือพิมพ์ ระบุว่าบรรดากำนันทั้ง 10 คน ได้ให้ปากคำต่อ คณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวน โดยยอมรับว่าได้รับเงินจากนายยงยุทธ จำนวน 2 หมื่นบาทนั้น ไม่เป็นความจริง เป็นข่าวที่คลาดเคลื่อน เราทั้ง 10 คน ขอปฏิเสธว่า ไม่เคยได้รับเงินจากนายยงยุทธ และไม่เคยให้ปากคำกับทางคณะกรรมการสอบสวนชุดใดๆ ของกกต.ทั้งสิ้น ว่าได้รับเงิน

" ข่าวดังกล่าวที่ออกมาทำให้พวกผมไม่สบายใจ เพราะชาวบ้านก็แสดงความไม่พอใจพวกผมว่าทำไมต้องมารับเงินที่กรุงเทพฯ ซึ่งนำความเสื่อมเสียมายังพวกผม และอยากขอโทษ นายยงยุทธ ผ่านสื่อด้วย ที่มีข่าวออกมาเช่นนี้ทำให้นายยงยุทธ ต้องเสื่อมเสีย"

สำหรับกำนันทั้ง 9 คนที่เดินทางประกอบด้วย นายอดิศร เรือนคำ นายจรินทร์ วงศ์ธานี นายประสิทธิ์ จินดาธรรม นายสมบูรณ์ อรินต๊ะทราย นายดวงแสง มูลกาศ นายชด บุตรทา นายพรชาติ สุวรรณรัตน์ นายพัฒน์ ก้างออนตา และนายบุญธรรม คำคะ

**"หมัก"ปลงบอกสุดแต่เวรกรรม

นายสมัคร สุนทรเวช กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า หัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ก็สุดแต่เวรแต่กรรม แต่เรื่องยังอยู่อีกหลายขั้นตอน และถึงแม้ว่ายังอีกไกล แต่เราก็ไม่ประมาท ตนได้ฟังข่าวจากทีวีเมื่อเช้า พิธีกรได้ให้ข้อคิดเห็นที่ดี โดยยกกรณีเอกสารลับมาเปรียบเทียบ ซึ่งมีการตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบแล้วยืนยันว่าผิด แต่พอส่งเรื่องมาถึง กกต.ชุดใหญ่พิจารณาแล้วบอกว่า ไม่ผิด ซึ่งเรื่องนี้แม้จะต่างกัน แต่ก็มีเค้าความเป็นไปได้

เมื่อถามว่า หากคดีนี้โยงใยไปถึงขั้นยุบพรรค จะเตรียมรับมืออย่างไร นายสมัคร กล่าวว่า "ถ้าถึงตรงนั้น มันก็ถึงกาลอวสาน ผมก็ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร มันทำอะไรไม่ได้หรอก ซึ่งเขาก็มีกรรมวิธีอยู่ คือต้องไปหาพรรคอื่น ตั้งพรรคใหม่ การยุบพรรคคือ ยุบแต่ชื่อพรรคเฉยๆ เพียงแต่กรรมการบริหารโดนฆ่าตายไปด้วยตามระเบียบ นอกนั้นคนส่วนใหญ่ยังอยู่ ก็คงปั่นป่วนกันไปพักหนึ่ง ถ้าถึงขนาดนั้น"

เมื่อถามว่า เท่าที่ได้หารือกับนายยงยุทธ ดูเหมือนจะมั่นใจว่า นายยงยุทธไม่ผิด นายสมัคร กล่าวว่า "ผมจะบอกให้ฟังว่า ผมเป็นคนพรรคพลังประชาชน เริ่มมาเกี่ยวข้องกับเขาตั้งแต่เดือน ก.ค. นายยงยุทธ กลับจากต่างประเทศก็เจอกัน ก็เล่าให้ฟังแล้วว่าอาการมันแย่ ทางเหนือ อีสาน ก็เล่าให้ฟัง เขามีการเตรียมการจะถล่ม รู้ล่วงหน้าตั้งหลายเดือน อย่างเรื่องของนายยงยุทธ เตรียมการจะจัดการกันไว้ล่วงหน้า 5 เดือน จะเอาให้ได้ ถ้ารู้จักกันมา 5 เดือน รู้หัวรู้หาง ก็ต้องเชื่อกันไว้ ไม่มีอะไรเสียหาย ไม่เสียรังวัด ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาแล้วไม่เป็นอย่างที่ว่าก็ไม่เป็นไร ไม่ใช้เพราะพวกพ้อง ผมเชื่อด้วยเหตุผลว่า มันมีเค้าอย่างนั้น ผมไม่ใช่หมอดู ไม่ใช่ กกต. และไม่ได้เป็นอนุกรรมการฯ ผมเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน มันจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องเกิด"

เมื่อถามว่า เมื่อรู้ว่านายยงยุทธ กำลังแย่ เหตุใดพรรคจึงยังส่งไปเป็นประธานสภาฯ นายสมัครกล่าวว่า เพราะแน่ใจว่าคนอย่างนายยงยุทธ จะทำประโยชน์ให้พรรค ให้บ้านเมืองได้ เราแน่ใจว่า เขาทำงานได้ คัดเลือกกันแล้ว ไม่เป็นปัญหาเรื่องอย่างนี้ ระบบของการเมืองมันสร้างไว้อย่างนี้ บางอย่างมีคนคาดว่าจะเป็น แต่ก็ไม่เป็น มีคนคาดว่าพลังประชาชนจะโดนใบเหลืองใบแดง 60 ใบ ก็ไม่เป็นอย่างนั้น มีแค่ 18+4 มากกว่าคนอื่นหน่อย

**ขู่ยุบ พปช.กลับสู่กลียุค

เมื่อถามว่า อยากให้การตัดสินออกมาแล้วเกิดความสมานฉันท์ นายสมัคร กล่าวว่า พูดอย่างนั้นไม่ได้ ไม่มีเหตุผล เมื่อถามว่า การให้เป็นประธานสภา เพื่อเอาตำแหน่งมาค้ำนายยงยุทธไว้ นายสมัคร กล่าวว่า พูดอย่างนั้นได้อย่างไร ขายหน้าเขา การเมืองมันกำหนดเกณฑ์ไว้อย่างนี้ เหมือนอย่างที่เขากำหนดว่า ทำไมจะต้องส่งเรื่องไปยังศาลฎีกา ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน ใครไม่โดนแบบนี้บ้างไม่รู้สึก เขากำหนดเส้นทางเดิน เราก็เดินไป บ้านเมืองมาได้ถึงขนาดนี้ก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว ถ้าเวรกรรมกรรมของบ้านเมืองยังมี จะต้องกลับไปสู่กลียุคอีก ก็ให้เป็นไปตามนั้น

**"ยุทธ์ตู้เย็น"ออกแถลงการณ์แก้ตัว

ด้านนายยงยุทธ์ ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยให้ พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานชี้แจงคดีข้อกล่าวหาของนายยงยุทธ เป็นผู้ออกมาแถลงข่าว ซึ่งเนื้อหาของแถลงการณ์ ก็ยังคงยืนยันว่า เรื่องนี้เป็นการจัดฉาก โดยมี นายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ เป็นนกต่อ ชักจูงกำนันเหล่านั้นมา นอกจากนี้ยังเห็นว่า การให้ข่าวของอนุฯ สอบสวน เป็นการวางแผนเพื่อกดดันกกต. ให้ตัดสินไปตามที่คนกลุ่มนี้ต้องการ และในวันที่ 18 ก.พ. ซึ่งเป็นวันแถลงนโยบายของรัฐบาล นายยงยุทธ จะยังคงขึ้นทำหน้าที่ประธานสภาตามปกติ
กำลังโหลดความคิดเห็น