“หมัก” ฝันลมๆ แล้งๆ “ยุทธ” รอดใบแดง เหมือนเอกสารลับทหาร ชี้บทสรุปยุบพรรคอีกไกลหลายขั้นตอน แต่ไม่ประมาท ปลงถึงขั้นยุบพรรคก็ต้องอวสาน สุดแต่เวรกรรม คงปั่นป่วน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมัคร สุนทรเวช ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (15 ก.พ.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงคดีความของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานรัฐสภา ที่คณะอนุกรรมการสอบสวนสรุปให้ใบแดง นายยงยุทธ ว่า ก็สุดแต่เวรแต่กรรม แต่เท่าที่ตะแคงหูฟังอยู่เรื่องนี้ยังอยู่ในชั้นของคณะอนุกรรมการสอบสวนฯ จะต้องส่งเรื่องให้ กกต.ตัดสินอีกที จากนั้นต้องส่งเรื่องสู่ศาลฎีกา และถ้าหากศาลเห็นว่ามีความผิดถึงขั้นจะยุบพรรคก็ต้องส่งไปยังตุลาการรัฐธรรมนูญ ยังมีอีกหลายขั้นตอน ถึงแม้ว่ายังอีกไกลแต่เราก็ไม่ประมาท ตนได้ฟังข่าวจากทีวีเมื่อเช้า พิธีกรได้ให้ข้อคิดเห็นที่ดี โดยยกกรณีเอกสารลับมาเปรียบเทียบ ซึ่งมีการตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบแล้วยืนยันว่าผิด แต่พอส่งเรื่องมาถึง กกต.ชุดใหญ่พิจารณาแล้วบอกว่าไม่ผิด
ผู้สื่อข่าวถามแย้งว่า คดีความทั้ง 2 กรณีแตกต่างกัน นายสมัคร กล่าวว่า ถึงจะต่างกันแต่ก็มีเค้าความเป็นไปได้ แม้คณะอนุกรรมการจะชี้ว่าผิด แต่ กกต.อาจจะบอกว่าไม่ผิดก็ได้ ถึงจะคนละเรื่องแต่มันทำนองเดียวกัน เมื่อถามว่า หากคดีนี้โยงใยไปถึงขั้นยุบพรรค จะเตรียมรับมืออย่างไร นายสมัคร กล่าวว่า “ถ้าถึงตรงนั้น มันก็ถึงก็กาลอวสาน ผมก็ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร มันทำอะไรไม่ได้หรอก ซึ่งเขาก็มีกรรมวิธีอยู่ คือ ต้องไปหาพรรคอื่น ตั้งพรรคใหม่ การยุบพรรค คือ ยุบแต่ชื่อพรรคเฉยๆ เพียงแต่กรรมการบริหารโดนฆ่าตายไปด้วยตามระเบียบ นอกนั้นคนส่วนใหญ่ยังอยู่ ก็คงปั่นป่วนกันไปพักหนึ่ง ถ้าถึงขนาดนั้น”
เมื่อถามว่า เท่าที่ได้หารือกับนายยงยุทธดูเหมือนจะมั่นใจว่านายยงยุทธไม่ผิด นายสมัคร กล่าวว่า ผมจะบอกให้ฟังว่า ผมเป็นคนพรรคพลังประชาชน เริ่มมาเกี่ยวข้องกับเขาตั้งแต่เดือนก.ค.นายยงยุทธกลับจากต่างประเทศก็เจอกัน ก็เล่าให้ฟังแล้วว่าอาการมันแย่ ทางเหนือ อีสานก็เล่าให้ฟัง เขามีการเตรียมการจะถล่ม รู้ล่วงหน้าตั้งหลายเดือน อย่างเรื่องของนายยงยุทธเตรียมการจะจัดการกันไว้ล่วงหน้า 5 เดือน จะเอาให้ได้ ถ้ารู้จักกันมา 5 เดือน รู้หัวรู้หางก็ต้องเชื่อกันไว้ ไม่มีอะไรเสียหาย ไม่เสียรังวัด ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาแล้วไม่เป็นอย่างที่ว่าก็ไม่เป็นไร ไม่ใช้เพราะพวกพ้องผมเชื่อด้วยเหตุผลว่า มันมีเค้าอย่างนั้น ผมไม่ใช่หมอดู ไม่ใช่ กกต.และไม่ได้เป็นอนุกรรมการผมเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน มันจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องเกิด
เมื่อถามว่า เมื่อรู้ว่า นายยงยุทธ กำลังแย่ เหตุใดพรรคจึงยังส่งไปเป็นประธานสภา นายสมัครกล่าวว่า เพราะแน่ใจว่าคนอย่าง นายยงยุทธ จะทำประโยชน์ให้พรรค ให้บ้านเมืองได้ เราแน่ใจว่าเขาทำงานได้คัดเลือกกันแล้ว ไม่เป็นปัญหาเรื่องอย่างนี้ ระบบของการเมืองมันสร้างไว้อย่างนี้ บางอย่างมีคนคาดว่าจะเป็น แต่ก็ไม่เป็น มีคนคาดว่าพลังประชาชนจะโดนใบเหลืองใบแดง 60 ใบ ก็ไม่เป็นอย่างนั้น มีแค่ 18+4 มากกว่าคนอื่นหน่อย
เมื่อถามว่า อยากให้การตัดสินออกมาแล้วเกิดความสมานฉันท์ นายสมัครกล่าวว่า พูดอย่างนั้นไม่ได้ ไม่มีเหตุผล จะเห็นว่าผมเองไม่ค่อยใช้คำว่าสมานฉันท์ เมื่อถามว่า การให้เป็นประธานสภาเพื่อเอาตำแหน่งมาค้ำ นายยงยุทธ ไว้ นายสมัคร กล่าวว่า พูดอย่างนั้นได้อย่างไร ขายหน้าเขา การเมืองมันกำหนดเกณฑ์ไว้อย่างนี้ เหมือนอย่างที่เขากำหนดว่าทำไมจะต้องส่งเรื่องไปยังศาลฎีกา ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน ใครไม่โดนแบบนี้บ้างไม่รู้สึก เขากำหนดเส้นทางเดินเราก็เดินไป ไม่ได้วิตกทุกข์ร้อนอะไร บ้านเมืองมาได้ถึงขนาดนี้ก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว ถ้าเวรกรรมของบ้านเมืองยังมี จะต้องกลับไปสู่กลียุคอีก ก็ให้เป็นไปตามนั้น ก็แล้วแต่ ที่พูดอย่างนี้มันก็ต้องยอมรับอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ไม่ได้จะมาพูดอะไรให้เสียหาย ในเมื่อกฎระเบียบเขียนเส้นทางไว้อย่างนี้ เป็น ส.ส.แล้วก็ยังสอยกลับไปเลือกตั้งใหม่ได้ มีอะไรแน่นอนเสียเมื่อไหร่