สายการบินจี้ ทอท.ทำแผนฉุกเฉินรองรับ หวั่นปัญหารันเวย์ชำรุดลุกลาม เหลือรันเวย์เส้นเดียวสุดเสี่ยง เหตุยังไม่สรุปสาเหตุของการชำรุดการซ่อมแซมทำแค่ชั่วคราว ด้าน AOC แจ้งสายการบินสมาชิกเติมน้ำมันสำรองเพื่อบินวนเพิ่ม 30 นาทีชี้ทั้งเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มและสูญรายได้ ด้าน”ทรงศักดิ์” หวั่นข่าวทำตื่นตระหนกกระทบท่องเที่ยว ชี้ปัญหาทางเทคนิคเกิดขึ้นได้
จากกรณีที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิประกาศปิดซ่อมแซมทางวิ่งวิ่งฝั่งตะวันออก (East Runway) และทางขับ (Taxiway) B3-B5 ตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.-7 เม.ย.เป็นระยะเวลา 50 วันนั้น
แหล่งข่าวจากที่ประชุมกรณีรันเวย์ฝั่งตะวันออกสนามบินสุวรรณภูมิชำรุด เปิดเผยว่า กล่าวว่า วิศวกรของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. ได้แจ้งถึงผลการสำรวจความเสียหายของรันเวย์ว่า พบความเสียหายมีหลายรูปแบบกระจายทั่วพื้นที่ 600 เมตรเช่น ผิวหรือชั้นยางแอสฟัลส์ มีลักษณะสลายตัว (พื้นผิวยางเยิ้มไม่คงรูป) บางส่วนเป็นหลุม และบางส่วนชำรุดในลักษณะเป็นรอยแตกร้าว ซึ่งหากดูจากภายนอกพบว่าความเสียหายอาจไม่มีอะไรมาก แต่ผลการเจาะลงไปใต้ชั้นผิวเป็นแท่งพบว่าบางช่วงของชั้นโครงสร้างใต้ผิวรันเวย์มีการอัดแน่นน้อย และยังไม่สามารถหาสาเหตุที่แท้จริงได้ว่าเกิดจากอะไร โดยจะต้องให้วิศวกรที่ชำนาญวิเคราะห์ต่อไป
แหล่งข่าวกล่าวว่า หลายฝ่ายกังวลว่า หากทอท.ยังไม่สามารถหาสาเหตุของการชำรุดที่เกิดขึ้นได้การซ่อมแซมก็จะเป็นการซ่อมเพียงชั่วคราวและก็จะเกิดปัญหาขึ้นซ้ำอีก รวมถึงการชำรุดในรันเวย์ฝั่งตะวันตกที่เหลือก็จะลามไปได้ ดังนั้นทอท.ควรเร่งหาสาเหตุและแก้ปัญหาและซ่อมแซมให้ตรงกับสาเหตุ เพื่อไม่ให้ปัญหาลุกลามจนเกินที่จะควบคุม
ด้าน นายชัยวัฒน์ นวราช ประธานคณะกรรมการดำเนินงานด้านธุรกิจการบิน(AOC) กล่าวว่า ทอท.ควรให้ความสำคัญกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับสนามบินสุวรรณภูมิ ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินจนต้องปิด โดยเฉพาะการทำแผนปฎิบัติฉุกเฉินกรณีที่รันเวย์ฝั่งตะวันตกใช้งานไม่ได้ จะให้เครื่องบินไปใช้ที่ไหน ซึ่งเบื้องต้นผู้บริหารสนามบินสุวรรณภูมิระบุว่าจะใช้สนามบินดอนเมืองแต่ยังไม่มีรายละเอียดของแผนปฎิบัติ ทั้งนี้ กรณีที่สุวรรณภูมิเหลือรันเวย์เพียงเส้นเดียวถือว่าค่อนข่างเสี่ยง ถ้าไม่มีแผนฉุกเฉิน ซึ่ง ทอท.จะต้องประสานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจัดทำขึ้นมา ให้ชัดเจน
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า กรณีฉุกเฉิน เครื่องบินขึ้น-ลงที่สุวรรณภูมิไม่ได้ ทอท.ให้ใช้สนามบินดอนเมืองแทนเป็นเรื่องถูกต้องแต่ความพร้อมของสนามบินดอนเมืองมีแค่ไหน อุปกรณ์ที่จะใช้สำหรับรองรับเครื่องบินจำนวนมากที่ต้องย้ายจากสุวรรณภูมิมาทั้งหมด เจ้าหน้าที่ ศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง จะระดมเข้ามาอย่างไร ภายใน 24 ชม.ทำได้หรือไม่ หรือจะรับเรื่องคาร์โก้ขาเข้าอย่างไร เป็นต้น ตรงนี้ทอท.มีแผนอย่างไรควรต้องชัดเจน เพื่อความมั่นใจกับทุกฝ่าย
“เท่าที่ประชุมร่วมกัน ทอท.มีแผนสำรองเช่น กรณีที่หมอกลงจัดให้เครื่องมาลงดอนเมืองก่อนผู้โดยสารก็รออยู่ในเครื่อง 1-2 ชม.เมื่อหมอกจางก็ไปลงที่สุวรรณภูมิตามเดิม แต่ที่ต้องการคือแผนที่พิเศษกว่านี้สำหรับรองรับเหตุการณ์ที่ผิดปกติมากกว่านี้ เช่น รันเวย์ใช้ไม่ได้เลยเพราะชำรุดหรือมีเหตุการณ์เกิดขึ้นทำให้มีสิ่งกีดขวางบนรันเวย์ เป็นต้น ซึ่งใช้เวลาในการเคลียร์มาก”นายชัยวัฒน์ กล่าว
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมของสายการบินในช่วง 50 วันที่ สุวรรณภูมิจะมีการปิดรันเวย์ฝั่นตะวันออกซ่อมนั้น ทางAOC จะเร่งแจ้งให้สายการบินที่เป็นสมาชิกทราบโดยให้สายการบินเติมน้ำมันสำรองสำหรับบินวนได้นานขึ้นจากปกติ 30 นาที เพื่อรอคิวหรือกรณีที่ต้องไปลงที่สนามบินดอนเมืองแทน ซึ่งทำให้สายการบินมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และยังสูญเสียรายได้จาก การที่เอาน้ำหนักบรรทุกสำหรับน้ำมันบิน 30 นาที แทนที่จะใช้สำหรับรองรับสินค้าหรือผู้โดยสารได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มในการรับผิดชอบดูแลผู้โดยสารกรณีที่เที่ยวบินต้องล่าช้าและผู้โดยสารต่อเครื่องไม่ทันอีกด้วย
ด้าน นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทอท.ยืนยันว่า การชำรุดของทางวิ่งฝั่งตะวันออก (East Runway) และทางขับ (Taxiway) B3-B5 และต้องทำการปิดรันเวย์ฝั่งตะวันออกเพื่อซ่อมแซมตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.-7 เม.ย.นั้น จากการสำรวจของวิศวกรรายงานว่า พบความเสียหายชั้นผิว ซึ่งเมื่อพบต้องซ่อมทันทีเพื่อไม่ให้การชำรุดมากขึ้นและ ผิวที่แตกร่อนออกมาอาจจะทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยในขณะเครื่องบินขึ้นลงได้ ซึ่งการชำรุดของผิวรันเวย์ครั้งนี้ลักษณะใกล้เคียงกับครั้งที่ผ่านมา แต่พื้นที่ที่เสียหายอยู่ใกล้กับกึ่งกลางรันเวย์ ทำให้ความยาวรันเวย์ที่เหลือ 2,000 เมตร ซึ่งไม่สามารถให้เครื่องบินลงได้ ซึ่งสายการบินที่มีเครื่องบินขนาดเล็ก เสนอที่จะใช้รันเวย์ตะวันออกที่เหลือสำหรับการขึ้นเพื่อลดความแออัดของรันเวย์ด้านตะวันตก
นายเสรีรัตน์ กล่าวว่า การใช้งานหลักทั้งขึ้นและลงจะอยู่ที่รันเวย์ฝั่งตะวันตกซึ่งเบื้องต้นสนามบินสุวรรณภูมิมีแผนสำรองฉุกเฉินกรณีที่รันเวย์ฝั่งตะวันตก มีปัญหาเกิดขึ้นหรือหมอกลงจัดโดยการให้เครื่องบินลงที่ดอนเมืองแทนโดยจะขึ้นอยู่กับระดับของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้มีหมอกลงจัดทำให้เครื่องบินลงที่สุวรรณภูมิไม่ได้หลายเที่ยวบินก็ไปลงที่สนามบินดอนเมืองแทนและเมื่อสถานการณ์ปกติ เที่ยวบินก็กลับมาที่สุวรรณภูมิได้
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานกรณีสนามบินสุวรรณภูมิต้องปิดรันเวย์ตะวันออกเพื่อซ่อมแซม จึงยังไม่ทราบรายละเอียดที่แท้จริง ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร และมีความเสียหายมากน้อยแค่ไหน ซึ่งการชำรุดของรันเวย์สนามบินมีได้เพราะเป็นปัญหาทางเทคนิค แต่ไม่อยากให้ตื่นตระหนก เพราะจะทำให้กระทบต่อการท่องเที่ยวได้
จากกรณีที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิประกาศปิดซ่อมแซมทางวิ่งวิ่งฝั่งตะวันออก (East Runway) และทางขับ (Taxiway) B3-B5 ตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.-7 เม.ย.เป็นระยะเวลา 50 วันนั้น
แหล่งข่าวจากที่ประชุมกรณีรันเวย์ฝั่งตะวันออกสนามบินสุวรรณภูมิชำรุด เปิดเผยว่า กล่าวว่า วิศวกรของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. ได้แจ้งถึงผลการสำรวจความเสียหายของรันเวย์ว่า พบความเสียหายมีหลายรูปแบบกระจายทั่วพื้นที่ 600 เมตรเช่น ผิวหรือชั้นยางแอสฟัลส์ มีลักษณะสลายตัว (พื้นผิวยางเยิ้มไม่คงรูป) บางส่วนเป็นหลุม และบางส่วนชำรุดในลักษณะเป็นรอยแตกร้าว ซึ่งหากดูจากภายนอกพบว่าความเสียหายอาจไม่มีอะไรมาก แต่ผลการเจาะลงไปใต้ชั้นผิวเป็นแท่งพบว่าบางช่วงของชั้นโครงสร้างใต้ผิวรันเวย์มีการอัดแน่นน้อย และยังไม่สามารถหาสาเหตุที่แท้จริงได้ว่าเกิดจากอะไร โดยจะต้องให้วิศวกรที่ชำนาญวิเคราะห์ต่อไป
แหล่งข่าวกล่าวว่า หลายฝ่ายกังวลว่า หากทอท.ยังไม่สามารถหาสาเหตุของการชำรุดที่เกิดขึ้นได้การซ่อมแซมก็จะเป็นการซ่อมเพียงชั่วคราวและก็จะเกิดปัญหาขึ้นซ้ำอีก รวมถึงการชำรุดในรันเวย์ฝั่งตะวันตกที่เหลือก็จะลามไปได้ ดังนั้นทอท.ควรเร่งหาสาเหตุและแก้ปัญหาและซ่อมแซมให้ตรงกับสาเหตุ เพื่อไม่ให้ปัญหาลุกลามจนเกินที่จะควบคุม
ด้าน นายชัยวัฒน์ นวราช ประธานคณะกรรมการดำเนินงานด้านธุรกิจการบิน(AOC) กล่าวว่า ทอท.ควรให้ความสำคัญกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับสนามบินสุวรรณภูมิ ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินจนต้องปิด โดยเฉพาะการทำแผนปฎิบัติฉุกเฉินกรณีที่รันเวย์ฝั่งตะวันตกใช้งานไม่ได้ จะให้เครื่องบินไปใช้ที่ไหน ซึ่งเบื้องต้นผู้บริหารสนามบินสุวรรณภูมิระบุว่าจะใช้สนามบินดอนเมืองแต่ยังไม่มีรายละเอียดของแผนปฎิบัติ ทั้งนี้ กรณีที่สุวรรณภูมิเหลือรันเวย์เพียงเส้นเดียวถือว่าค่อนข่างเสี่ยง ถ้าไม่มีแผนฉุกเฉิน ซึ่ง ทอท.จะต้องประสานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจัดทำขึ้นมา ให้ชัดเจน
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า กรณีฉุกเฉิน เครื่องบินขึ้น-ลงที่สุวรรณภูมิไม่ได้ ทอท.ให้ใช้สนามบินดอนเมืองแทนเป็นเรื่องถูกต้องแต่ความพร้อมของสนามบินดอนเมืองมีแค่ไหน อุปกรณ์ที่จะใช้สำหรับรองรับเครื่องบินจำนวนมากที่ต้องย้ายจากสุวรรณภูมิมาทั้งหมด เจ้าหน้าที่ ศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง จะระดมเข้ามาอย่างไร ภายใน 24 ชม.ทำได้หรือไม่ หรือจะรับเรื่องคาร์โก้ขาเข้าอย่างไร เป็นต้น ตรงนี้ทอท.มีแผนอย่างไรควรต้องชัดเจน เพื่อความมั่นใจกับทุกฝ่าย
“เท่าที่ประชุมร่วมกัน ทอท.มีแผนสำรองเช่น กรณีที่หมอกลงจัดให้เครื่องมาลงดอนเมืองก่อนผู้โดยสารก็รออยู่ในเครื่อง 1-2 ชม.เมื่อหมอกจางก็ไปลงที่สุวรรณภูมิตามเดิม แต่ที่ต้องการคือแผนที่พิเศษกว่านี้สำหรับรองรับเหตุการณ์ที่ผิดปกติมากกว่านี้ เช่น รันเวย์ใช้ไม่ได้เลยเพราะชำรุดหรือมีเหตุการณ์เกิดขึ้นทำให้มีสิ่งกีดขวางบนรันเวย์ เป็นต้น ซึ่งใช้เวลาในการเคลียร์มาก”นายชัยวัฒน์ กล่าว
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมของสายการบินในช่วง 50 วันที่ สุวรรณภูมิจะมีการปิดรันเวย์ฝั่นตะวันออกซ่อมนั้น ทางAOC จะเร่งแจ้งให้สายการบินที่เป็นสมาชิกทราบโดยให้สายการบินเติมน้ำมันสำรองสำหรับบินวนได้นานขึ้นจากปกติ 30 นาที เพื่อรอคิวหรือกรณีที่ต้องไปลงที่สนามบินดอนเมืองแทน ซึ่งทำให้สายการบินมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และยังสูญเสียรายได้จาก การที่เอาน้ำหนักบรรทุกสำหรับน้ำมันบิน 30 นาที แทนที่จะใช้สำหรับรองรับสินค้าหรือผู้โดยสารได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มในการรับผิดชอบดูแลผู้โดยสารกรณีที่เที่ยวบินต้องล่าช้าและผู้โดยสารต่อเครื่องไม่ทันอีกด้วย
ด้าน นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทอท.ยืนยันว่า การชำรุดของทางวิ่งฝั่งตะวันออก (East Runway) และทางขับ (Taxiway) B3-B5 และต้องทำการปิดรันเวย์ฝั่งตะวันออกเพื่อซ่อมแซมตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.-7 เม.ย.นั้น จากการสำรวจของวิศวกรรายงานว่า พบความเสียหายชั้นผิว ซึ่งเมื่อพบต้องซ่อมทันทีเพื่อไม่ให้การชำรุดมากขึ้นและ ผิวที่แตกร่อนออกมาอาจจะทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยในขณะเครื่องบินขึ้นลงได้ ซึ่งการชำรุดของผิวรันเวย์ครั้งนี้ลักษณะใกล้เคียงกับครั้งที่ผ่านมา แต่พื้นที่ที่เสียหายอยู่ใกล้กับกึ่งกลางรันเวย์ ทำให้ความยาวรันเวย์ที่เหลือ 2,000 เมตร ซึ่งไม่สามารถให้เครื่องบินลงได้ ซึ่งสายการบินที่มีเครื่องบินขนาดเล็ก เสนอที่จะใช้รันเวย์ตะวันออกที่เหลือสำหรับการขึ้นเพื่อลดความแออัดของรันเวย์ด้านตะวันตก
นายเสรีรัตน์ กล่าวว่า การใช้งานหลักทั้งขึ้นและลงจะอยู่ที่รันเวย์ฝั่งตะวันตกซึ่งเบื้องต้นสนามบินสุวรรณภูมิมีแผนสำรองฉุกเฉินกรณีที่รันเวย์ฝั่งตะวันตก มีปัญหาเกิดขึ้นหรือหมอกลงจัดโดยการให้เครื่องบินลงที่ดอนเมืองแทนโดยจะขึ้นอยู่กับระดับของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้มีหมอกลงจัดทำให้เครื่องบินลงที่สุวรรณภูมิไม่ได้หลายเที่ยวบินก็ไปลงที่สนามบินดอนเมืองแทนและเมื่อสถานการณ์ปกติ เที่ยวบินก็กลับมาที่สุวรรณภูมิได้
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานกรณีสนามบินสุวรรณภูมิต้องปิดรันเวย์ตะวันออกเพื่อซ่อมแซม จึงยังไม่ทราบรายละเอียดที่แท้จริง ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร และมีความเสียหายมากน้อยแค่ไหน ซึ่งการชำรุดของรันเวย์สนามบินมีได้เพราะเป็นปัญหาทางเทคนิค แต่ไม่อยากให้ตื่นตระหนก เพราะจะทำให้กระทบต่อการท่องเที่ยวได้