การท่าปิดซ่อมรันเวย์ในสนามบินสุวรรณภูมิด้านตะวันออก 50 วัน ตั้งแต่ 18 ก.พ. - 7 เม.ย. หลังพบความเสียหาย ขณะที่“สันติ” ชี้ ใช้ดอนเมืองให้คุ้ม ด้าน ขอ.เตรียมเปิดฟังความทุกฝ่ายก่อนฟันธง ด้าน”ชนะ” ฟุ้งสุวรรณภูมิปี 51 คนล้น ต้องขยาย มี 120 เที่ยวบินพร้อมย้ายกลับคาดสามารถพลิกทำกำไรจากที่ขาดทุนกว่าพันล้าน
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่าสนามบินสุวรรณภูมิมีแผนที่จะปิดซ่อมแซมบริเวณทางวิ่งฝั่งตะวันออก (East Runway) ระยะทางประมาณ 2,000 เมตรเนื่องจากพบว่ามีพื้นผิวชำ รุดเป็นระยะทาง 600 เมตร บริเวณกึ่งกลางทางวิ่งฝั่งตะวันออกและทางขับ (Taxiway) B3- B 5 จะมีการปิดซ่อมตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ. ถึง 7เม.ย.51 รวมเวลา 50 วัน โดยกลุ่มบริษัท IOT JointVenture เป็นผู้รับผิดชอบเพราะยังอยู่ในระยะเวลาประกัน
เนื่องจากทางวิ่งฝั่งตะวันออก มีความยาว 4,000 เมตรแม้จะมีการปิดซ่อมบางส่วนแต่ยังเหลือความยาวของทางวิ่งอีกประมาณ 2,000 เมตรสามารถใช้งานได้สำหรับเครื่องบินขนาดกลาง เช่นเครื่องบินแบบ ATR และ A 319, A 320 รวมทั้งเครื่องบินแบบ B 737 ที่ทำการบินภายในประเทศจะสามารถใช้ทางวิ่งฝั่งตะวันออกสำหรับทำการบินขึ้นทางด้านทิศใต้ได้ตามปกติ
นายเสรีรัตน์ ยอมรับว่าการปิดซ่อมทางวิ่งดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อการให้บริการเที่ยวบินบ้างแต่ได้มีการประชุมและวางแผนร่วมกับกรมการขนส่งทางอากาศ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.)คณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบิน (AirportOperation Committee : AOC) , ผู้แทนสายการบิน,กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง, กรมศุลกากร แล้วโดยทุกหน่วยงานให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการปรับแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องกัน ส่วนกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินจะประสานไปยังท่าอากาศยานดอนเมืองในการจัดทำแผนรองรับไว้แล้ว
แหล่งข่าวจาก ทอท. กล่าวว่า ความเสียหายที่พบบริเวณรันเวย์ตะวันออกนั้นเป็นความเสียหายเฉพาะชั้นพื้นผิวกแอสฟัสต์ไม่ได้กระทบกับตัวโครงสร้างหลัก ส่วนพื้นผิวที่เสียหายก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการซ่อมและแก้ไขเรียบร้อยแล้วโดยมีการปรับเปลี่ยนสเปคขนาดของหินที่ผสมในยางแอสฟัสต์ให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นจากเดิม เพื่อให้สามารถรองรับน้ำหนักแรงกดทับได้มากขึ้น ดังนั้นบริเวณรันเวย์ตะวันออกที่พบความเสียหายเป็นพื้นที่เดิมหากมีการปรับซ่อมและแก้ไขจะไม่เกิดปัญหานี้ขึ้นอีก
ด้าน นายอนุชา คำโมง ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการจราจรทางอากาศ ของ บวท.กล่าวว่า ในช่วงเวลาของการปิดซ่อมทางวิ่งประมาณ 50วันดังกล่าว ทาง บวท.จะสามารถบริหารจัดการจราจรทางอากาศโดยใช้ทางวิ่งฝั่งตะวันตกเป็นทางวิ่งหลักในการให้เครื่องบินบินขึ้น-ลง อาจจะกระทบต่อเที่ยวบินบ้างเล็กน้อย แต่ บวท.สามารถบริหารจัด การได้ รวมทั้งทาง บวท.ได้ประสานกับ สายการบินต่างๆเพื่อปรับตารางการบินให้สอดคล้องกับสภาพการจราจรในชั่วโมงคับคั่งไว้แล้วประกอบกับทางวิ่งฝั่งตะวันออกของทสภ.ยังคงเปิดใช้งานได้ถึงประมาณ 2,000 เมตรที่สามารถจัดให้เครื่องบินขนาดกลางที่บินภายในประเทศสามารถบินขึ้นได้ตามปกติ
ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาความหนาแน่นของการจราจรในทางวิ่งฝั่งตะวันตกไปได้ส่วนหนึ่ง
ส่วน นายชัยวัฒน์ นวราชประธานคณะกรรมการดำเนินงานด้านธุรกิจการบิน หรือ AOC กล่าวว่า การปิดซ่อมทางวิ่งฝั่งตะวันออกบางส่วนของ ทสภ.ในครั้งนี้ไม่กระทบต่อการให้บริการเที่ยวบินของสายการบินต่าง ๆมากนัก เพราะ ทสภ.ได้มีการประชุมวางแผนร่วมกับสายการบินและหน่วยงานต่าง ๆล่วงหน้า จึงทำให้แต่ละสายการบินปรับแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับการซ่อมทางวิ่งดังกล่าวไว้แล้ว
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยภายหลังเรียกพลอากาศโทชนะ อยู่สถาพร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เข้าหารือเรื่องการใช้ประโยชน์ของสนามบินดอนเมืองให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและเหมาะสมตาความจำเป็นซึ่งต้องรอผลสรุปรายละเอียดและเปรียบเทียบแต่ละแนวทางกลับมาอีกครั้ง และต้องหารือกับกรมการขนส่งทางอากาศรวมทั้งรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้เกิดความรอบด้านเพราะสนามบินแห่งนี้มีศักยภาพที่จะพัฒนาให้เป็นศูนย์ซ่อมอากาศยานของภูมิภาคและเป็นศูนย์กลางของชิ้นส่วนอะไหล่เครื่องบินอีกด้วย
ส่วนที่ระบุว่าสนามบินสุวรรณภูมิจะเต็มขีดความสามารถเกิน46 ล้านคนในปี 2551 นั้น รมว.คมนาคม กล่าวว่าเรื่องนี้ทางผู้บริหารทอท.ต้องเสนอแผนรายละเอียดว่าเต็มขีดความสามารถนั้นยังสามารถบริหารจัดการเพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้เพิ่มอีกหรือไม่ อย่างไรบ้างแต่จำเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องเดินหน้าขยายสนามบินระยะที่2 ต่อไป
นอกจากนี้ นายสันติ กล่าวว่าจากการหารือกับนายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณอธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ ยอมรับว่ายังมีความเห็นที่แตกต่างเรื่องการใช้ประโยชน์จากสนามบินดอนเมืองเช่นมีการเสนอให้พัฒนาเป็นศูนย์ซ่อมแทน เรื่องนี้คงจะต้องมีการพิจารณาและนัดหารือร่วมกันทุกฝ่ายอีกครั้งก่อนที่จะมีข้อยุติในเรื่องนี้
ด้านนายชัยศักดิ์ กล่าวว่าได้รายงานตามหลักการข้อเท็จจริงว่าไม่เห็นด้วยที่จะให้สนามบินดอนเมืองรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศเพราะจะกระทบต่อความสะดวกของผู้โดยสารในเรื่องการต่อเที่ยวบิน และจะส่งผลกระทบต่อการเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคอีกด้วยรวมทั้งผู้ประ กอบการบินและสายการบินเกือบ100 %คัดค้านในเรื่อง นี้ การตัดสินใจจึงขึ้นอยู่กับนโยบายของกระทรวงคมนาคมจะต้องมีความชัดเจนด้วย
ด้าน พลอากาศโทชนะ กล่าวว่าได้มารายงานเรื่องแนวทางการใช้ประโยชน์ของสนามบินดอนเมืองและผลการศึกษาของทอท.เพื่อประกอบการพิจารณาและตัดสินใจในระดับนโยบายต่อไปในเบื้องต้นมีเที่ยวบินที่สนใจจะเข้ามาใช้บริการประมาณ120 เที่ยวต่อวัน ทำให้การบริหารจัดการของสนามบินแห่งนี้ที่ขาดทุนกว่าพันล้านบาทสามารถที่จะทำกำไรได้ทันที
“ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาสนามบินดอนเมืองซึ่งเป็นสมบัติของไม่ได้ถูกนำไปใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ทำให้ต้องประสบปัญหาการขาดทุนกว่าพันล้านบาท วันนี้มาให้ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจในระดับนโยบายหากมีความชัดเจนในเรื่องใช้ประโยชน์สนามบินดอนเมืองจะใช้เวลาเตรียมการไม่เกิน2 เดือนเพราะสายการบินที่จะย้ายกลับมีความชัดเจนอยู่แล้ว“พล.อ.ท.ชนะ กล่าว
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า มีแนวโน้มว่าสายการบินไทยแอร์เอเชียสายการบินนกแอร์และโอเรียนท์ไทยแอร์ไลน์จะย้านฐานการบินกลับมาเพื่อช่วยลดความแออัดของสนามบินสุวรรณภูมิลงได้ เพราะหากไม่ดำ เนินการใดๆ คาดว่าในปี 2551 จะมีจำนวนผู้โดยสารประมาณ 48.5 ล้านคนต่อปีซึ่งเต็มขีดความสามารถที่รองรับได้ 46 ล้านคนต่อปี และไม่สามารถที่จะขยายสนามบินเพื่อให้รองรับได้ทันอีกด้วยจึงจำเป็นต้องมีการแบ่งเบาปริมาณการจราจรโดยจะยึดตามความสมัครใจของแต่ละสายการบินเป็นหลัก
พล.อ.ท.ชนะ กล่าวว่า ในส่วนของอาคารผู้โดยสารยังว่างสามารถใช้ประโยชน์ได้อีกมากโดยเฉพาะเที่ยวบินระหว่างประเทศขณะนี้มีมีเพียงเที่ยวบินเช่าเหมาลำยังสามารถรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศไทยได้อีกมาก โดยเฉพาะสายการบินต้นทุนต่ำที่สนใจส่วนจะเปิดให้เป็นสนามบินสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับนโยบายของกระทรวงคมนาคม
นอกจากนี้ พล.อ.ท.ชนะ กล่าวด้วยว่า ทอท.มีแผนที่จะให้เอกชนที่สนใจเข้ามาเช่าใช้ประโยชน์จากพื้นที่บริเวณคลังสินค้าจะมีการใช้ประโยชน์สำหรับ Cargo Express ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการขนส่งยักษ์ใหญ่เช่นเดียวกับกลุ่ม Federal Express และ DHL ไม่น้อยกว่า 2 รายแสดงความสนใจที่จะเข้ามาเช่าใช้พื้นที่ รวมทั้งยังเป็นผู้ประ กอบการขนถ่ายสินค้าประเภทเน่าเสียง่าย ซึ่งเรื่องนี้จะต้องรอความชัดเจนจากระดับนโยบายก่อน
พล.อ.ท.ชนะ กล่าวว่า ในวันที่ 13 ก.พ.นี้ตนจะเข้าพบเพื่อรายงานเกี่ยวกับปัญหาอุปกสรรคทั้งหมดของสนามบินสุวรรณภูมิพร้อมแผนขยายสนามบินระยะที่ 2 ซึ่งขณะนี้มีแผนที่ชัดเจนอยู่แล้ว รวมทั้งปัญหาเรื่องของผลกระทบทางเสียงของชุมชนรอบสนามบิน ตลอดจนแนวทางการพัฒนาท่าอากาศยานภูมิภาค
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่าสนามบินสุวรรณภูมิมีแผนที่จะปิดซ่อมแซมบริเวณทางวิ่งฝั่งตะวันออก (East Runway) ระยะทางประมาณ 2,000 เมตรเนื่องจากพบว่ามีพื้นผิวชำ รุดเป็นระยะทาง 600 เมตร บริเวณกึ่งกลางทางวิ่งฝั่งตะวันออกและทางขับ (Taxiway) B3- B 5 จะมีการปิดซ่อมตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ. ถึง 7เม.ย.51 รวมเวลา 50 วัน โดยกลุ่มบริษัท IOT JointVenture เป็นผู้รับผิดชอบเพราะยังอยู่ในระยะเวลาประกัน
เนื่องจากทางวิ่งฝั่งตะวันออก มีความยาว 4,000 เมตรแม้จะมีการปิดซ่อมบางส่วนแต่ยังเหลือความยาวของทางวิ่งอีกประมาณ 2,000 เมตรสามารถใช้งานได้สำหรับเครื่องบินขนาดกลาง เช่นเครื่องบินแบบ ATR และ A 319, A 320 รวมทั้งเครื่องบินแบบ B 737 ที่ทำการบินภายในประเทศจะสามารถใช้ทางวิ่งฝั่งตะวันออกสำหรับทำการบินขึ้นทางด้านทิศใต้ได้ตามปกติ
นายเสรีรัตน์ ยอมรับว่าการปิดซ่อมทางวิ่งดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อการให้บริการเที่ยวบินบ้างแต่ได้มีการประชุมและวางแผนร่วมกับกรมการขนส่งทางอากาศ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.)คณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบิน (AirportOperation Committee : AOC) , ผู้แทนสายการบิน,กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง, กรมศุลกากร แล้วโดยทุกหน่วยงานให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการปรับแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องกัน ส่วนกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินจะประสานไปยังท่าอากาศยานดอนเมืองในการจัดทำแผนรองรับไว้แล้ว
แหล่งข่าวจาก ทอท. กล่าวว่า ความเสียหายที่พบบริเวณรันเวย์ตะวันออกนั้นเป็นความเสียหายเฉพาะชั้นพื้นผิวกแอสฟัสต์ไม่ได้กระทบกับตัวโครงสร้างหลัก ส่วนพื้นผิวที่เสียหายก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการซ่อมและแก้ไขเรียบร้อยแล้วโดยมีการปรับเปลี่ยนสเปคขนาดของหินที่ผสมในยางแอสฟัสต์ให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นจากเดิม เพื่อให้สามารถรองรับน้ำหนักแรงกดทับได้มากขึ้น ดังนั้นบริเวณรันเวย์ตะวันออกที่พบความเสียหายเป็นพื้นที่เดิมหากมีการปรับซ่อมและแก้ไขจะไม่เกิดปัญหานี้ขึ้นอีก
ด้าน นายอนุชา คำโมง ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการจราจรทางอากาศ ของ บวท.กล่าวว่า ในช่วงเวลาของการปิดซ่อมทางวิ่งประมาณ 50วันดังกล่าว ทาง บวท.จะสามารถบริหารจัดการจราจรทางอากาศโดยใช้ทางวิ่งฝั่งตะวันตกเป็นทางวิ่งหลักในการให้เครื่องบินบินขึ้น-ลง อาจจะกระทบต่อเที่ยวบินบ้างเล็กน้อย แต่ บวท.สามารถบริหารจัด การได้ รวมทั้งทาง บวท.ได้ประสานกับ สายการบินต่างๆเพื่อปรับตารางการบินให้สอดคล้องกับสภาพการจราจรในชั่วโมงคับคั่งไว้แล้วประกอบกับทางวิ่งฝั่งตะวันออกของทสภ.ยังคงเปิดใช้งานได้ถึงประมาณ 2,000 เมตรที่สามารถจัดให้เครื่องบินขนาดกลางที่บินภายในประเทศสามารถบินขึ้นได้ตามปกติ
ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาความหนาแน่นของการจราจรในทางวิ่งฝั่งตะวันตกไปได้ส่วนหนึ่ง
ส่วน นายชัยวัฒน์ นวราชประธานคณะกรรมการดำเนินงานด้านธุรกิจการบิน หรือ AOC กล่าวว่า การปิดซ่อมทางวิ่งฝั่งตะวันออกบางส่วนของ ทสภ.ในครั้งนี้ไม่กระทบต่อการให้บริการเที่ยวบินของสายการบินต่าง ๆมากนัก เพราะ ทสภ.ได้มีการประชุมวางแผนร่วมกับสายการบินและหน่วยงานต่าง ๆล่วงหน้า จึงทำให้แต่ละสายการบินปรับแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับการซ่อมทางวิ่งดังกล่าวไว้แล้ว
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยภายหลังเรียกพลอากาศโทชนะ อยู่สถาพร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เข้าหารือเรื่องการใช้ประโยชน์ของสนามบินดอนเมืองให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและเหมาะสมตาความจำเป็นซึ่งต้องรอผลสรุปรายละเอียดและเปรียบเทียบแต่ละแนวทางกลับมาอีกครั้ง และต้องหารือกับกรมการขนส่งทางอากาศรวมทั้งรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้เกิดความรอบด้านเพราะสนามบินแห่งนี้มีศักยภาพที่จะพัฒนาให้เป็นศูนย์ซ่อมอากาศยานของภูมิภาคและเป็นศูนย์กลางของชิ้นส่วนอะไหล่เครื่องบินอีกด้วย
ส่วนที่ระบุว่าสนามบินสุวรรณภูมิจะเต็มขีดความสามารถเกิน46 ล้านคนในปี 2551 นั้น รมว.คมนาคม กล่าวว่าเรื่องนี้ทางผู้บริหารทอท.ต้องเสนอแผนรายละเอียดว่าเต็มขีดความสามารถนั้นยังสามารถบริหารจัดการเพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้เพิ่มอีกหรือไม่ อย่างไรบ้างแต่จำเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องเดินหน้าขยายสนามบินระยะที่2 ต่อไป
นอกจากนี้ นายสันติ กล่าวว่าจากการหารือกับนายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณอธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ ยอมรับว่ายังมีความเห็นที่แตกต่างเรื่องการใช้ประโยชน์จากสนามบินดอนเมืองเช่นมีการเสนอให้พัฒนาเป็นศูนย์ซ่อมแทน เรื่องนี้คงจะต้องมีการพิจารณาและนัดหารือร่วมกันทุกฝ่ายอีกครั้งก่อนที่จะมีข้อยุติในเรื่องนี้
ด้านนายชัยศักดิ์ กล่าวว่าได้รายงานตามหลักการข้อเท็จจริงว่าไม่เห็นด้วยที่จะให้สนามบินดอนเมืองรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศเพราะจะกระทบต่อความสะดวกของผู้โดยสารในเรื่องการต่อเที่ยวบิน และจะส่งผลกระทบต่อการเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคอีกด้วยรวมทั้งผู้ประ กอบการบินและสายการบินเกือบ100 %คัดค้านในเรื่อง นี้ การตัดสินใจจึงขึ้นอยู่กับนโยบายของกระทรวงคมนาคมจะต้องมีความชัดเจนด้วย
ด้าน พลอากาศโทชนะ กล่าวว่าได้มารายงานเรื่องแนวทางการใช้ประโยชน์ของสนามบินดอนเมืองและผลการศึกษาของทอท.เพื่อประกอบการพิจารณาและตัดสินใจในระดับนโยบายต่อไปในเบื้องต้นมีเที่ยวบินที่สนใจจะเข้ามาใช้บริการประมาณ120 เที่ยวต่อวัน ทำให้การบริหารจัดการของสนามบินแห่งนี้ที่ขาดทุนกว่าพันล้านบาทสามารถที่จะทำกำไรได้ทันที
“ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาสนามบินดอนเมืองซึ่งเป็นสมบัติของไม่ได้ถูกนำไปใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ทำให้ต้องประสบปัญหาการขาดทุนกว่าพันล้านบาท วันนี้มาให้ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจในระดับนโยบายหากมีความชัดเจนในเรื่องใช้ประโยชน์สนามบินดอนเมืองจะใช้เวลาเตรียมการไม่เกิน2 เดือนเพราะสายการบินที่จะย้ายกลับมีความชัดเจนอยู่แล้ว“พล.อ.ท.ชนะ กล่าว
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า มีแนวโน้มว่าสายการบินไทยแอร์เอเชียสายการบินนกแอร์และโอเรียนท์ไทยแอร์ไลน์จะย้านฐานการบินกลับมาเพื่อช่วยลดความแออัดของสนามบินสุวรรณภูมิลงได้ เพราะหากไม่ดำ เนินการใดๆ คาดว่าในปี 2551 จะมีจำนวนผู้โดยสารประมาณ 48.5 ล้านคนต่อปีซึ่งเต็มขีดความสามารถที่รองรับได้ 46 ล้านคนต่อปี และไม่สามารถที่จะขยายสนามบินเพื่อให้รองรับได้ทันอีกด้วยจึงจำเป็นต้องมีการแบ่งเบาปริมาณการจราจรโดยจะยึดตามความสมัครใจของแต่ละสายการบินเป็นหลัก
พล.อ.ท.ชนะ กล่าวว่า ในส่วนของอาคารผู้โดยสารยังว่างสามารถใช้ประโยชน์ได้อีกมากโดยเฉพาะเที่ยวบินระหว่างประเทศขณะนี้มีมีเพียงเที่ยวบินเช่าเหมาลำยังสามารถรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศไทยได้อีกมาก โดยเฉพาะสายการบินต้นทุนต่ำที่สนใจส่วนจะเปิดให้เป็นสนามบินสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับนโยบายของกระทรวงคมนาคม
นอกจากนี้ พล.อ.ท.ชนะ กล่าวด้วยว่า ทอท.มีแผนที่จะให้เอกชนที่สนใจเข้ามาเช่าใช้ประโยชน์จากพื้นที่บริเวณคลังสินค้าจะมีการใช้ประโยชน์สำหรับ Cargo Express ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการขนส่งยักษ์ใหญ่เช่นเดียวกับกลุ่ม Federal Express และ DHL ไม่น้อยกว่า 2 รายแสดงความสนใจที่จะเข้ามาเช่าใช้พื้นที่ รวมทั้งยังเป็นผู้ประ กอบการขนถ่ายสินค้าประเภทเน่าเสียง่าย ซึ่งเรื่องนี้จะต้องรอความชัดเจนจากระดับนโยบายก่อน
พล.อ.ท.ชนะ กล่าวว่า ในวันที่ 13 ก.พ.นี้ตนจะเข้าพบเพื่อรายงานเกี่ยวกับปัญหาอุปกสรรคทั้งหมดของสนามบินสุวรรณภูมิพร้อมแผนขยายสนามบินระยะที่ 2 ซึ่งขณะนี้มีแผนที่ชัดเจนอยู่แล้ว รวมทั้งปัญหาเรื่องของผลกระทบทางเสียงของชุมชนรอบสนามบิน ตลอดจนแนวทางการพัฒนาท่าอากาศยานภูมิภาค