ทอท.จ่ายชดเชยเสียงอีก 97 ราย วงเงิน 22.3 ล้านบาท แกนนำชาวบ้านเตรียมเสนอไตรภาค เพิ่มราคาประเมินที่ดิน ด้านสุวรรณภูมิยันปิดซ่อมรันเวย์ ตะวันออก มา 1 สัปดาห์ ยังไม่กระทบการบริการโดยรวม ยอมรับช่วงคั่บคั่ง เครื่องบิน ต้องรอบ้าง
วานนี้ (26 ก.พ.) พลอากาศโทชนะ อยู่สถาพร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ได้เป็นประธานมอบเงินค่าชดเชยเพื่อการปรับปรุงอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับผลกระทบด้านเสียงจากการดำเนินการของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้แก่เจ้าของกรรมสิทธิ์อาคารและสิ่งปลูกสร้างจำนวน 97 ราย วงเงิน 22.33 ล้านบาท ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อาคารทั้งหมด 100 อาคาร ที่ปลูกสร้างก่อนปี 2544 ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านเสียง NEF มากกว่า 40 ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 29 พ.ค.2550 ซึ่งเป็นการชดเชยเพื่อนำไปดำเนินการปรับปรุงอาคาร
โดย พลอากาศโทชนะ กล่าวว่า หลังจากนี้ ทอท.จะทยอยจ่ายค่าชดเชยให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประชาชนที่ปลูกสร้างอาคารที่อยู่อาศัยก่อนปี 2544 และได้รับผลกระทบทางเสียง NEF มากกว่า 40 ซึ่งที่ผ่านมา ทอท.มีความพร้อมที่จะจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะการซื้อคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้เร็วที่สุด แต่ติดปัญหาที่ไม่สามารถตกลงราคากันได้ และบางรายไม่สามารถหาหลักฐานที่ยืนยันความเป็นเจ้าของสิ่งปลูกสร้างมาแสดงได้ครบ ทำให้กลายเป็นปัญหายืดเยื้อ
ด้าน นายวันชาติ มานะธรรมสมบัติ แกนนำผู้ได้รับผลกระทบทางเสียง กล่าวว่า จะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการไตรภาคี วันนี้ (27 ก.พ.) ให้เห็นชอบหลักเกณฑ์การกำหนดราคาประเมินที่ดินใหม่ จากเดิมที่มีการประเมินไว้ที่ 25,000 บาทต่อตารางวา ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำมาก ขณะที่ปัจจุบันราคาที่ดินในพื้นที่ใกล้เคียงกันเพิ่มขึ้นไปถึง 40,000-50,000 บาทต่อตารางวา ดังนั้น หากที่ประชุมเห็นชอบข้อเสนอดังกล่าวชาวบ้านที่ต้องการขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้กับ ทอท.ก็พร้อมจะย้ายออกไป โดยไม่รอการแก้ปัญหาเรื่องค่าการตลาดที่ทอท.ส่งเรื่องหารือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาอยู่
**ยันปิดรันเวย์ตะวันออกซ่อมยังไม่กระทบการบิน
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทอท.กล่าวถึงผลกระทบภายหลังที่สนามบินสุวรรณภูมิได้ปิดทางวิ่ง (รันเวย์) ฝั่งตะวันออก ระยะทาง 2,000 เมตร เพื่อซ่อมแซมพื้นผิวส่วนที่ชำรุดเสียหาย ตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า มีเครื่องบินต้องรอบินขึ้น-ลงบ้างในระหว่างชั่วโมงคับคั่ง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการแก่ผู้โดยสารแต่อย่างใด ซึ่งบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลการควบคุมการจราจรทางอากาศให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น ในขณะที่สายการบินต่างๆ ได้ให้ความร่วมมือในการถือปฏิบัติตามข้อแนะนำของหอบังคับการบินอย่างเคร่งครัด
โดยจะมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการขนส่งทางอากาศ (ขอ.) บวท. คณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบิน (Airport Operation Committee : AOC) ผู้แทนสายการบินต่างๆ เช่น การบินไทย บางกอกแอร์เวย์ส ไทยแอร์เอเชีย เป็นต้น ทุกสัปดาห์ เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม การปิดทางวิ่งฝั่งตะวันออก ทำให้เครื่องบินส่วนใหญ่ต้องทำการขึ้น-ลงที่รันเวย์ฝั่งตะวันตกมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในแนวเส้นเสียงดังกล่าว ได้รับผลกระทบทางด้านเสียงมากขึ้นกว่าปกติ ซึ่ง ทอท.จะเร่งดำเนินการซ่อมแซมทางวิ่งเส้นดังกล่าวให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
วานนี้ (26 ก.พ.) พลอากาศโทชนะ อยู่สถาพร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ได้เป็นประธานมอบเงินค่าชดเชยเพื่อการปรับปรุงอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับผลกระทบด้านเสียงจากการดำเนินการของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้แก่เจ้าของกรรมสิทธิ์อาคารและสิ่งปลูกสร้างจำนวน 97 ราย วงเงิน 22.33 ล้านบาท ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อาคารทั้งหมด 100 อาคาร ที่ปลูกสร้างก่อนปี 2544 ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านเสียง NEF มากกว่า 40 ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 29 พ.ค.2550 ซึ่งเป็นการชดเชยเพื่อนำไปดำเนินการปรับปรุงอาคาร
โดย พลอากาศโทชนะ กล่าวว่า หลังจากนี้ ทอท.จะทยอยจ่ายค่าชดเชยให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประชาชนที่ปลูกสร้างอาคารที่อยู่อาศัยก่อนปี 2544 และได้รับผลกระทบทางเสียง NEF มากกว่า 40 ซึ่งที่ผ่านมา ทอท.มีความพร้อมที่จะจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะการซื้อคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้เร็วที่สุด แต่ติดปัญหาที่ไม่สามารถตกลงราคากันได้ และบางรายไม่สามารถหาหลักฐานที่ยืนยันความเป็นเจ้าของสิ่งปลูกสร้างมาแสดงได้ครบ ทำให้กลายเป็นปัญหายืดเยื้อ
ด้าน นายวันชาติ มานะธรรมสมบัติ แกนนำผู้ได้รับผลกระทบทางเสียง กล่าวว่า จะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการไตรภาคี วันนี้ (27 ก.พ.) ให้เห็นชอบหลักเกณฑ์การกำหนดราคาประเมินที่ดินใหม่ จากเดิมที่มีการประเมินไว้ที่ 25,000 บาทต่อตารางวา ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำมาก ขณะที่ปัจจุบันราคาที่ดินในพื้นที่ใกล้เคียงกันเพิ่มขึ้นไปถึง 40,000-50,000 บาทต่อตารางวา ดังนั้น หากที่ประชุมเห็นชอบข้อเสนอดังกล่าวชาวบ้านที่ต้องการขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้กับ ทอท.ก็พร้อมจะย้ายออกไป โดยไม่รอการแก้ปัญหาเรื่องค่าการตลาดที่ทอท.ส่งเรื่องหารือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาอยู่
**ยันปิดรันเวย์ตะวันออกซ่อมยังไม่กระทบการบิน
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทอท.กล่าวถึงผลกระทบภายหลังที่สนามบินสุวรรณภูมิได้ปิดทางวิ่ง (รันเวย์) ฝั่งตะวันออก ระยะทาง 2,000 เมตร เพื่อซ่อมแซมพื้นผิวส่วนที่ชำรุดเสียหาย ตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า มีเครื่องบินต้องรอบินขึ้น-ลงบ้างในระหว่างชั่วโมงคับคั่ง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการแก่ผู้โดยสารแต่อย่างใด ซึ่งบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลการควบคุมการจราจรทางอากาศให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น ในขณะที่สายการบินต่างๆ ได้ให้ความร่วมมือในการถือปฏิบัติตามข้อแนะนำของหอบังคับการบินอย่างเคร่งครัด
โดยจะมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการขนส่งทางอากาศ (ขอ.) บวท. คณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบิน (Airport Operation Committee : AOC) ผู้แทนสายการบินต่างๆ เช่น การบินไทย บางกอกแอร์เวย์ส ไทยแอร์เอเชีย เป็นต้น ทุกสัปดาห์ เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม การปิดทางวิ่งฝั่งตะวันออก ทำให้เครื่องบินส่วนใหญ่ต้องทำการขึ้น-ลงที่รันเวย์ฝั่งตะวันตกมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในแนวเส้นเสียงดังกล่าว ได้รับผลกระทบทางด้านเสียงมากขึ้นกว่าปกติ ซึ่ง ทอท.จะเร่งดำเนินการซ่อมแซมทางวิ่งเส้นดังกล่าวให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด