นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้เริ่มปิดทางวิ่งฝั่งตะวันออก ระยะทาง 2,000 เมตร เป็นเวลา 50 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ถึง 7 เมษายนนี้ เพื่อซ่อมแซมพื้นผิวส่วนที่ชำรุดเสียหาย ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ติดตามผลกระทบเกี่ยวกับการขึ้น-ลงของเครื่องบินตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่ายังคงให้บริการขึ้น-ลงของเครื่องบินได้ตามปกติ โดยมีเครื่องบินรอบินขึ้น-ลงบ้างในระหว่างชั่วโมงคับคั่ง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการแก่ผู้โดยสารแต่อย่างใด เนื่องจากได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ในการจัดเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลการควบคุมการจราจรทางอากาศให้มีความรวดเร็วเหมาะสม รวมทั้งสายการบินต่างๆ ยังได้ให้ความร่วมมือในการถือปฏิบัติตามข้อแนะนำของหอบังคับการบินอย่างเคร่งครัด จึงทำให้การขึ้น-ลงของเครื่องบินเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและรวดเร็ว
ทั้งนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังได้จัดให้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการขนส่งทางอากาศ บริษัท วิทยุการบินฯ คณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบิน หรือเอโอซี ผู้แทนสายการบินต่างๆ เช่น การบินไทย บางกอกแอร์เวย์ ไทยแอร์เอเชีย เป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด
นายเสรีรัตน์ กล่าวอีกว่า ในช่วงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิปิดซ่อมทางวิ่ง ฝั่งตะวันออก จำเป็นต้องให้เครื่องบินส่วนใหญ่ไปขึ้น-ลงที่ทางวิ่งฝั่งตะวันตกมากกว่าเดิม ซึ่งอาจจะทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในแนวเส้นเสียงดังกล่าว ได้รับผลกระทบทางด้านเสียงมากขึ้นกว่าปกติ แต่จะพยายามซ่อมแซมทางวิ่งเส้นดังกล่าวให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ซึ่งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าไปให้ข้อมูลและเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเสียงดังกล่าวได้ทราบแล้ว
ทั้งนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังได้จัดให้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการขนส่งทางอากาศ บริษัท วิทยุการบินฯ คณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบิน หรือเอโอซี ผู้แทนสายการบินต่างๆ เช่น การบินไทย บางกอกแอร์เวย์ ไทยแอร์เอเชีย เป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด
นายเสรีรัตน์ กล่าวอีกว่า ในช่วงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิปิดซ่อมทางวิ่ง ฝั่งตะวันออก จำเป็นต้องให้เครื่องบินส่วนใหญ่ไปขึ้น-ลงที่ทางวิ่งฝั่งตะวันตกมากกว่าเดิม ซึ่งอาจจะทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในแนวเส้นเสียงดังกล่าว ได้รับผลกระทบทางด้านเสียงมากขึ้นกว่าปกติ แต่จะพยายามซ่อมแซมทางวิ่งเส้นดังกล่าวให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ซึ่งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าไปให้ข้อมูลและเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเสียงดังกล่าวได้ทราบแล้ว