วันทูโก หันซบธุรกิจขนส่งสินค้า เพิ่มรายได้เข้าบริษัท หลัง ธุรกิจโลว์คอสต์เส้นทางในประเทศ แข่งเดือดด้านสงครามราคา สบช่องธุรกิจฟีทเดอร์ยังมีดีมานด์สูง อัดเงินกว่า 2,000 ล้านบาท เช่าซื้อเครื่องโบอิ้ง 3 ลำ ประเดิม 4 เส้นทาง ย่านเอเชีย ในเดือนมีนาคมนี้ คาดปีแรก โกยเงินเข้ากระเป๋าได้กว่า 2,000 ล้านบาท
นายอุดม ตันติประสงค์ชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบิน วัน ทู โก เปิดเผยว่า ได้เตรียมให้บริการเพิ่มด้านการขนส่งสินค้าในธุรกิจฟีทเดอร์ หรือการขนส่งสินค้าทางอากาศแบบครบวงจร โดยจะใช้เงินลงทุนราว 2,000 ล้านบาท เช่าซื้อเครื่องบินโบอิง 747-400 จำนวน 3 ลำ สำหรับใช้ในกิจการดังกล่าว กำหนดเริ่มให้บริการในเดือนมีนาคมศกนี้
โดยตั้งเป้าหมายปีแรกที่เปิดให้บริการ จะสามารถขนส่งสินค้าได้ประมาณ 2.5-3 หมื่นตัน สร้างรายได้กว่า 2,000 ล้านบาท วางแผนให้บริการ 3-4 เส้นทาง เช่น กรุงเทพฯ-ญี่ปุ่น ,กรุงเทพฯ-ไทเป และ กรุงเทพฯ-ฮ่องกง เป็นต้น แต่ละเส้นทางจะบินทุกวันๆละ 1 เที่ยว กำลังการขนส่งในแต่ละเที่ยวจะได้ถึง1,000 ตัน ซึ่งหากผลตอบรับดี ก็อาจเพิ่มจำนวนได้ คาดว่าธุรกิจนี้จะเติบโตได้อย่างน้อย 5-10% เพราะในประเทศไทยยังไม่มีใครทำธุรกิจนี้อย่างจริงจัง มีเพียงสายการบินไทยเท่านั้นที่ให้บริการ แต่ก็สามารถขนส่งได้เพียง3-4 แสนตันต่อปี ขณะที่ประเทศไทยมีการส่งสินค้าออกทางอากาศ มากถึง 1.2 ล้านตันต่อปี
"จากข้อมูลดังกล่าวเรามีความมั่นใจว่า มีโอกาสที่จะงานเข้าไปในธุรกิจนี้อย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่คาร์โก้ ซึ่งเป็นการขนส่งสินค้าใต้ท้องเครื่องบินโดยสารเท่านั้น เพราะปัจจุบันมีจำนวนสินค้าที่ต้องการส่งออกโดยเครื่องบินมีจำนวนมาก แต่ยังมีเครื่องบินบริการไม่พอ ซึ่งบริษัทมองว่ารายได้จากธุรกิจนี้ จะสามารถเข้ามาเพิ่มรายได้รวมให้แก่บริษัทได้อีกจำนวนมาก แต่ยังเป็นสัดส่วนเท่าใดยังตอบไม่ได้"
อย่างไรก็ตามนายอุดม กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจสายการบินภายในประเทศมีการแข่งขันเรื่องราคาสูง ทั้งสายการบินที่เป็นโลว์คอสต์และที่ไม่ใช่โลว์คอสต์ โดยเฉพาะช่วงโลว์ซีซั่น ซึ่งต่างก็เล่นสงครามราคากันทั้งหมด ขณะที่ยอมรับว่า ตลาดคนไทยยังนิยมใช้ราคาเป็นการตัดสินใจที่จะซื้อบริการ ทำให้ วันทูโกต้องขยับขยายหาธุรกิจอื่นๆเข้ามาเสริม ซึ่งธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศนี้ มองว่าคู่แข่งน้อยและดีมานด์สูงจึงสนใจเข้ามาลงทุน
สำหรับในส่วนของธุรกิจเครื่องบินโดยสาร วัน ทู โก ปีนี้บริษัทมีแผนจัดแคมเปญกระตุ้นกำลังซื้อต่อเนื่องตลอดทั้งปี ซึ่งจะใช้เรื่องราคามาเป็นจุดขายบ้าง ซึ่งจะเป็นราคาเดียวแบบเบ็ดเสร็จตามสไตล์ของวัน ทู โก อยู่แล้ว ขณะเดียวกันการบริหารงานก็จะมีความยืดหยุ่นตามสภาพตลาด โดยเส้นที่มีผู้โดยสารน้อยในบางฤดูกาล ก็จะปรับลดเที่ยวบิน ส่วนเส้นทางใดผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมาก ก็จะเพิ่มเที่ยวบิน เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าได้ตามดีมานด์ ซัพพลาย ที่แท้จริง
นอกจากนั้น ยังให้ความสำคัญกับธุรกิจเครื่องบินเช่าเหมาลำด้วย โดยเปิดให้บริการเครื่องบินเช่าเหมาลำทุกเส้นทาง ที่มีผู้ต้องการทั้งเส้นทางในเอเชียและยุโรป มั่นใจว่าเมื่อรายได้มาจากทุกๆ ทางบริษัทก็จะมีผลกำไรเพิ่มขึ้น ซึ่งหากทำเพียงเครื่องโดยสารก็จะมีกำไรน้อย เพราะต้นทุนสูงแต่ไม่สามารถกำหนดราคาขายตั๋วให้สูงขึ้นได้
นายอุดม ตันติประสงค์ชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบิน วัน ทู โก เปิดเผยว่า ได้เตรียมให้บริการเพิ่มด้านการขนส่งสินค้าในธุรกิจฟีทเดอร์ หรือการขนส่งสินค้าทางอากาศแบบครบวงจร โดยจะใช้เงินลงทุนราว 2,000 ล้านบาท เช่าซื้อเครื่องบินโบอิง 747-400 จำนวน 3 ลำ สำหรับใช้ในกิจการดังกล่าว กำหนดเริ่มให้บริการในเดือนมีนาคมศกนี้
โดยตั้งเป้าหมายปีแรกที่เปิดให้บริการ จะสามารถขนส่งสินค้าได้ประมาณ 2.5-3 หมื่นตัน สร้างรายได้กว่า 2,000 ล้านบาท วางแผนให้บริการ 3-4 เส้นทาง เช่น กรุงเทพฯ-ญี่ปุ่น ,กรุงเทพฯ-ไทเป และ กรุงเทพฯ-ฮ่องกง เป็นต้น แต่ละเส้นทางจะบินทุกวันๆละ 1 เที่ยว กำลังการขนส่งในแต่ละเที่ยวจะได้ถึง1,000 ตัน ซึ่งหากผลตอบรับดี ก็อาจเพิ่มจำนวนได้ คาดว่าธุรกิจนี้จะเติบโตได้อย่างน้อย 5-10% เพราะในประเทศไทยยังไม่มีใครทำธุรกิจนี้อย่างจริงจัง มีเพียงสายการบินไทยเท่านั้นที่ให้บริการ แต่ก็สามารถขนส่งได้เพียง3-4 แสนตันต่อปี ขณะที่ประเทศไทยมีการส่งสินค้าออกทางอากาศ มากถึง 1.2 ล้านตันต่อปี
"จากข้อมูลดังกล่าวเรามีความมั่นใจว่า มีโอกาสที่จะงานเข้าไปในธุรกิจนี้อย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่คาร์โก้ ซึ่งเป็นการขนส่งสินค้าใต้ท้องเครื่องบินโดยสารเท่านั้น เพราะปัจจุบันมีจำนวนสินค้าที่ต้องการส่งออกโดยเครื่องบินมีจำนวนมาก แต่ยังมีเครื่องบินบริการไม่พอ ซึ่งบริษัทมองว่ารายได้จากธุรกิจนี้ จะสามารถเข้ามาเพิ่มรายได้รวมให้แก่บริษัทได้อีกจำนวนมาก แต่ยังเป็นสัดส่วนเท่าใดยังตอบไม่ได้"
อย่างไรก็ตามนายอุดม กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจสายการบินภายในประเทศมีการแข่งขันเรื่องราคาสูง ทั้งสายการบินที่เป็นโลว์คอสต์และที่ไม่ใช่โลว์คอสต์ โดยเฉพาะช่วงโลว์ซีซั่น ซึ่งต่างก็เล่นสงครามราคากันทั้งหมด ขณะที่ยอมรับว่า ตลาดคนไทยยังนิยมใช้ราคาเป็นการตัดสินใจที่จะซื้อบริการ ทำให้ วันทูโกต้องขยับขยายหาธุรกิจอื่นๆเข้ามาเสริม ซึ่งธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศนี้ มองว่าคู่แข่งน้อยและดีมานด์สูงจึงสนใจเข้ามาลงทุน
สำหรับในส่วนของธุรกิจเครื่องบินโดยสาร วัน ทู โก ปีนี้บริษัทมีแผนจัดแคมเปญกระตุ้นกำลังซื้อต่อเนื่องตลอดทั้งปี ซึ่งจะใช้เรื่องราคามาเป็นจุดขายบ้าง ซึ่งจะเป็นราคาเดียวแบบเบ็ดเสร็จตามสไตล์ของวัน ทู โก อยู่แล้ว ขณะเดียวกันการบริหารงานก็จะมีความยืดหยุ่นตามสภาพตลาด โดยเส้นที่มีผู้โดยสารน้อยในบางฤดูกาล ก็จะปรับลดเที่ยวบิน ส่วนเส้นทางใดผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมาก ก็จะเพิ่มเที่ยวบิน เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าได้ตามดีมานด์ ซัพพลาย ที่แท้จริง
นอกจากนั้น ยังให้ความสำคัญกับธุรกิจเครื่องบินเช่าเหมาลำด้วย โดยเปิดให้บริการเครื่องบินเช่าเหมาลำทุกเส้นทาง ที่มีผู้ต้องการทั้งเส้นทางในเอเชียและยุโรป มั่นใจว่าเมื่อรายได้มาจากทุกๆ ทางบริษัทก็จะมีผลกำไรเพิ่มขึ้น ซึ่งหากทำเพียงเครื่องโดยสารก็จะมีกำไรน้อย เพราะต้นทุนสูงแต่ไม่สามารถกำหนดราคาขายตั๋วให้สูงขึ้นได้
