ครม.จี้พาณิชย์เร่งเครื่องแก้ปัญหาสินค้าแพง หลังจากที่มีแต่ไฟเขียวขึ้นราคาสินค้าลูกเดียว ย้ำที่ผ่านมายังไม่มีการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ขณะที่กรมการค้าภายในเร่งเปิดโผ 33 รายการสินค้า ถูกหวยพาณิชย์ จ่อถูกบีบลดราคา เซ่นนโยบายประชานิยม ทั้งข้าวถุง นม น้ำมันพืช อาหารตามสั่ง หมู สบู่ แชมพู ยาสีฟัน รถ แก๊สหุงต้ม ปูน เหล็ก ปุ๋ย ไม่เว้นกระทั่งค่ารักษาพยาบาล ค่าเช่าบ้าน และค่าโทรมือถือ "ยรรยง"เตรียมสรุปโครงสร้างต้นทุน โครงสร้างราคาเสนอ "เจ๊มิ่ง" สัปดาห์หน้า
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ ( 8 ก.พ.) ที่ประชุมได้มีการพูดคุยถึงการแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง นับว่าเป็นปัญหาสำคัญของประชาชนในขณะนี้ โดยรัฐบาลถือเป็นนโยบายเร่งด่วน และได้กำชับให้กระทรวงพาณิชย์รีบเร่งกลับไปแก้ปัญหาสินค้าราคาแพงทันที เนื่องจากที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ ยังไม่ได้มีการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง มีแต่อนุมัติให้มีการปรับขึ้นราคาสินค้า เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำมันพืช นม แบตเตอร์รี่ บะหมี่สำเร็จรูป เมื่ออนุมัติให้ปรับขึ้นราคาไปแล้วก็จะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภค และอาหารทันที และไม่สามารถปรับลดราคาลงมาได้ และส่อเค้าว่าจะมีสินค้าอีกนับร้อยรายการที่กำลังทยอยขอปรับราคาขึ้นอีก
"ที่ผ่านมา มีแต่ไฟเขียวให้ปรับขึ้นราคาสินค้า โดยอ้างว่ามีต้นทุนการผลิตสูง แต่ข้อเท็จจริงนั้นทางกระทรวงพาณิชย์ สามารถขอความร่วมมือจากเอกชนให้ผลิตสินค้าที่จำเป็นออกมาจำหน่ายในราคาถูกได้ โดยใช้วัตถุดิบที่มีต้นทุนต่ำก็สามารถทำได้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน"
แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รมว.พาณิชย์ กำลังเร่งศึกษาแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง และพิจารณาการทำงานของกระทรวงพาณิชย์ ว่าที่ผ่านมาเหตุใดจึงปล่อยให้สินค้ามีราคาแพงอย่างต่อเนื่อง และหาสาเหตุที่แท้จริงว่า ต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นอีกเท่าไร หากปรับขึ้นราคาไปแล้วไม่สมเหตุสมผล ก็จะนำมาทบทวนกันใหม่ รวมถึงการพิจารณาคณะงานของกระทรวงพาณิชย์ หากขาดประสิทธิภาพในการทำงานก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนใหม่ เพื่อทำให้การแก้ปัญหาราคาสินค้าทำได้อย่างรวดเร็ว
"หากรัฐบาลไม่จี้เรื่องราคาสินค้าแพง พาณิชย์ก็ไม่เดินเครื่อง มีแต่พิจารณาให้ปรับขึ้นราคาสินค้าอย่างเดียว แต่เมื่อให้มีการทบทวนก็รับลูกอย่างรวดเร็ว และเห็นช่องทางว่าอะไรที่สามารถปรับลดราคาได้ ก็จะเร่งประกาศลดราคาได้ทันที" แหล่งข่าว กล่าว
“ยรรยง”เสนอ 30 รายการสินค้าจำเป็น
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯ ได้จัดทำบัญชีรายการสินค้าและบริการที่จำเป็นต่อการครองชีพประมาณ 30 รายการ ตามนโยบายของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รมว.พาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้ไปศึกษา และวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุน และโครงสร้างราคา เพื่อหาทางปรับราคาลงมาเสร็จสิ้นแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาโครงสร้างต่างๆ ของสินค้าแต่ละรายการอยู่ คาดว่าจะเสนอให้นายมิ่งขวัญ พิจารณาได้ภายในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ สินค้าที่ถูกคัดเลือกขึ้นมานั้น เพราะเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการครองชีพ ใช้ในชีวิตประจำวัน และเป็นสินค้าที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีปัญหาในเรื่องราคาเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ว่าจะคัดเลือกขึ้นมาโดยไม่มีหลักเกณฑ์
ส่วนแนวทางในการพิจารณาว่า จะปรับลดราคาได้หรือไม่นั้น จะพิจารณาจากโครงสร้างต้นทุนของสินค้าแต่ละรายการ ว่าเป็นอย่างไร ใช้วัตถุดิบในประเทศ หรือวัตถุดิบนำเข้า โครงสร้างของธุรกิจเป็นอย่างไร เกี่ยวข้องกับใครบ้าง ราคาตรงจุดไหนโป่งเกินจริง ซึ่งจะมีการสรุปโครงสร้างของแต่ละรายการ และวิธีการในการปรับลดราคา
ที่สำคัญ จะมีข้อเสนอแนะด้วยว่า หากต้องขอให้ปรับลดราคา รัฐจะให้ความช่วยเหลืออย่างไร เช่น สินค้าบางตัวต้องใช้วัตถุดิบนำเข้า ต้นทุนไปเกี่ยวข้องกับโครงสร้างภาษี หากภาษีนำเข้าสูง รัฐจะช่วยอะไรได้บ้าง เป็นเรื่องในระดับนโยบายที่จะต้องทำ
"เท่าที่ดูมีสินค้าหลายๆรายการสามารถปรับลดราคาได้ทันที เข่น ค่ารักษาพยาบาล ซึ่งหากได้ข้อสรุปทั้งหมดแล้ว จะเชิญผู้ประกอบการเข้ามาหารือ เพื่อขอความร่วมมือในการปรับลดราคา โดยในการขอให้ปรับลดราคา จะดูบนพื้นฐานความจริงที่สุด ถ้าโครงสร้างต้นทุน โครงสร้างราคาผิดปกติ ก็ต้องลด แต่ถ้าต้นทุนเพิ่ม ก็ไม่ขัดข้องที่จะให้ขึ้นราคา" นายยรรยงกล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ขณะนี้กรมการค้าภายในได้จัดทำบัญชีรายการสินค้าและบริการจำเป็นต่อการครองชีพของประชาชนออกมาทั้งสิ้น 33 รายการ ได้แก่ ข้าวสารบรรจุถุง ผลิตภัณฑ์นม น้ำมันพืช บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แป้งสาลี อาหารปรุงสำเร็จ เนื้อสุกร ผงซักฟอก แชมพู สบู่ ยาสีฟัน ผ้าอนามัย ถ่านไฟฉาย เยื่อกระดาษ กระดาษเหนียว กระดาษทำลูกฟูก แบตเตอรี่ รถยนต์นั่ง รถยนต์บรรทุกเล็ก รถจักรยานยนต์ แก๊สหุงต้ม ปูนซีเมนต์ เหล็กเส้น สายไฟฟ้า เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ เหล็กแท่ง ปุ๋ย ยาป้องกันและปราบศัตรูพืช อาหารสัตว์ ค่ารักษาพยาบาลโรงพยาบาลเอกชน ค่าเช่าบ้าน และค่าโทรศัพท์มือถือ
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ ( 8 ก.พ.) ที่ประชุมได้มีการพูดคุยถึงการแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง นับว่าเป็นปัญหาสำคัญของประชาชนในขณะนี้ โดยรัฐบาลถือเป็นนโยบายเร่งด่วน และได้กำชับให้กระทรวงพาณิชย์รีบเร่งกลับไปแก้ปัญหาสินค้าราคาแพงทันที เนื่องจากที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ ยังไม่ได้มีการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง มีแต่อนุมัติให้มีการปรับขึ้นราคาสินค้า เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำมันพืช นม แบตเตอร์รี่ บะหมี่สำเร็จรูป เมื่ออนุมัติให้ปรับขึ้นราคาไปแล้วก็จะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภค และอาหารทันที และไม่สามารถปรับลดราคาลงมาได้ และส่อเค้าว่าจะมีสินค้าอีกนับร้อยรายการที่กำลังทยอยขอปรับราคาขึ้นอีก
"ที่ผ่านมา มีแต่ไฟเขียวให้ปรับขึ้นราคาสินค้า โดยอ้างว่ามีต้นทุนการผลิตสูง แต่ข้อเท็จจริงนั้นทางกระทรวงพาณิชย์ สามารถขอความร่วมมือจากเอกชนให้ผลิตสินค้าที่จำเป็นออกมาจำหน่ายในราคาถูกได้ โดยใช้วัตถุดิบที่มีต้นทุนต่ำก็สามารถทำได้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน"
แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รมว.พาณิชย์ กำลังเร่งศึกษาแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง และพิจารณาการทำงานของกระทรวงพาณิชย์ ว่าที่ผ่านมาเหตุใดจึงปล่อยให้สินค้ามีราคาแพงอย่างต่อเนื่อง และหาสาเหตุที่แท้จริงว่า ต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นอีกเท่าไร หากปรับขึ้นราคาไปแล้วไม่สมเหตุสมผล ก็จะนำมาทบทวนกันใหม่ รวมถึงการพิจารณาคณะงานของกระทรวงพาณิชย์ หากขาดประสิทธิภาพในการทำงานก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนใหม่ เพื่อทำให้การแก้ปัญหาราคาสินค้าทำได้อย่างรวดเร็ว
"หากรัฐบาลไม่จี้เรื่องราคาสินค้าแพง พาณิชย์ก็ไม่เดินเครื่อง มีแต่พิจารณาให้ปรับขึ้นราคาสินค้าอย่างเดียว แต่เมื่อให้มีการทบทวนก็รับลูกอย่างรวดเร็ว และเห็นช่องทางว่าอะไรที่สามารถปรับลดราคาได้ ก็จะเร่งประกาศลดราคาได้ทันที" แหล่งข่าว กล่าว
“ยรรยง”เสนอ 30 รายการสินค้าจำเป็น
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯ ได้จัดทำบัญชีรายการสินค้าและบริการที่จำเป็นต่อการครองชีพประมาณ 30 รายการ ตามนโยบายของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รมว.พาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้ไปศึกษา และวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุน และโครงสร้างราคา เพื่อหาทางปรับราคาลงมาเสร็จสิ้นแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาโครงสร้างต่างๆ ของสินค้าแต่ละรายการอยู่ คาดว่าจะเสนอให้นายมิ่งขวัญ พิจารณาได้ภายในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ สินค้าที่ถูกคัดเลือกขึ้นมานั้น เพราะเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการครองชีพ ใช้ในชีวิตประจำวัน และเป็นสินค้าที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีปัญหาในเรื่องราคาเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ว่าจะคัดเลือกขึ้นมาโดยไม่มีหลักเกณฑ์
ส่วนแนวทางในการพิจารณาว่า จะปรับลดราคาได้หรือไม่นั้น จะพิจารณาจากโครงสร้างต้นทุนของสินค้าแต่ละรายการ ว่าเป็นอย่างไร ใช้วัตถุดิบในประเทศ หรือวัตถุดิบนำเข้า โครงสร้างของธุรกิจเป็นอย่างไร เกี่ยวข้องกับใครบ้าง ราคาตรงจุดไหนโป่งเกินจริง ซึ่งจะมีการสรุปโครงสร้างของแต่ละรายการ และวิธีการในการปรับลดราคา
ที่สำคัญ จะมีข้อเสนอแนะด้วยว่า หากต้องขอให้ปรับลดราคา รัฐจะให้ความช่วยเหลืออย่างไร เช่น สินค้าบางตัวต้องใช้วัตถุดิบนำเข้า ต้นทุนไปเกี่ยวข้องกับโครงสร้างภาษี หากภาษีนำเข้าสูง รัฐจะช่วยอะไรได้บ้าง เป็นเรื่องในระดับนโยบายที่จะต้องทำ
"เท่าที่ดูมีสินค้าหลายๆรายการสามารถปรับลดราคาได้ทันที เข่น ค่ารักษาพยาบาล ซึ่งหากได้ข้อสรุปทั้งหมดแล้ว จะเชิญผู้ประกอบการเข้ามาหารือ เพื่อขอความร่วมมือในการปรับลดราคา โดยในการขอให้ปรับลดราคา จะดูบนพื้นฐานความจริงที่สุด ถ้าโครงสร้างต้นทุน โครงสร้างราคาผิดปกติ ก็ต้องลด แต่ถ้าต้นทุนเพิ่ม ก็ไม่ขัดข้องที่จะให้ขึ้นราคา" นายยรรยงกล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ขณะนี้กรมการค้าภายในได้จัดทำบัญชีรายการสินค้าและบริการจำเป็นต่อการครองชีพของประชาชนออกมาทั้งสิ้น 33 รายการ ได้แก่ ข้าวสารบรรจุถุง ผลิตภัณฑ์นม น้ำมันพืช บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แป้งสาลี อาหารปรุงสำเร็จ เนื้อสุกร ผงซักฟอก แชมพู สบู่ ยาสีฟัน ผ้าอนามัย ถ่านไฟฉาย เยื่อกระดาษ กระดาษเหนียว กระดาษทำลูกฟูก แบตเตอรี่ รถยนต์นั่ง รถยนต์บรรทุกเล็ก รถจักรยานยนต์ แก๊สหุงต้ม ปูนซีเมนต์ เหล็กเส้น สายไฟฟ้า เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ เหล็กแท่ง ปุ๋ย ยาป้องกันและปราบศัตรูพืช อาหารสัตว์ ค่ารักษาพยาบาลโรงพยาบาลเอกชน ค่าเช่าบ้าน และค่าโทรศัพท์มือถือ
