“มิ่งขวัญ” นัดถกผู้ผลิตสินค้า 33 รายการ ปรับลด-ตรึงราคา สัปดาห์หน้า โดยพิจารณาต้นทุนที่เหมาะสม ชี้ สบู่ น้ำยาล้างจาน และแชมพู มีการตั้งราคาจำหน่ายต่อกำไรสูงกว่ากลุ่มอื่น น่าจะปรับลดราคาลงได้
วันนี้ (11 ก.พ.) นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการ (รมว.) กระทรวงพาณิชย์ จะเชิญกลุ่มผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพ รวมถึงสมาคมต่างๆ เข้ามาหารือ เพื่อจะขอความร่วมมือในการปรับลด หรือตรึงราคาสินค้าอุปบริโภค ที่จำเป็นต่อการครองชีพ จำนวน 33 รายการ เพื่อแบ่งเบาภาระให้กับประชาชน
กรมฯ ได้ศึกษาต้นทุนในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค 33 รายการ เพื่อทบทวนราคาใกล้เสร็จแล้ว เบื้องต้นคาดว่า จะเสนอต่อ รมว.พาณิชย์ ได้ในสัปดาห์นี้ ซึ่งจากการวิเคราะห์ต้นทุน 33 รายการ มีอยู่หลายรายการ เช่น กลุ่มสินค้าอาหารของใช้ในบ้าน อาทิ สบู่ น้ำยาล้างจาน แชมพู ผลิตภัณฑ์การเกษตร ยังสามารถปรับลดราคาลงได้ แม้บางกลุ่มได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น หากมีการบริหารจัดการที่ดีก็สามารถลดต้นทุนและปรับลดราคาลง
“ต้องยอมรับว่า กลุ่มเหล่านี้ ทั้งสบู่, น้ำยาล้างจาน และ แชมพู มีการตั้งราคาจำหน่ายต่อกำไรสูงกว่ากลุ่มอื่น ดังนั้น หากบริหารจัดการตรงนี้ให้ดี ก็สามารถอยู่ได้ภายต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นการช่วยเหลือผู้บริโภค”
นายยรรยง กล่าวว่า เมื่อวานนี้ กรมการค้าภายในได้ร่วมกับบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด และองค์กรเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ สมาคมผู้ผลิตผู้ค้าและผู้ส่งออกไข่ไก่ จัดงานรณรงค์บริโภคไข่ไก่ ระหว่างวันที่ 11-13 ก.พ.นี้ ที่แม็คโครทุกสาขา โดยนำไข่ ไก่สดจากฟาร์มมาจำหน่ายในราคาพิเศษ ซึ่งที่ผ่านมาราคาไข่ไก่ลดลง เนื่องจากประชาชนกังวลปัญหาไข้หวัด
นาวาโทหญิง วรรณพร มาศเกษม นายกสมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม กล่าวว่า แนวทางที่กระทรวงพาณิชย์ ต้องการให้ผู้ประกอบการปรับลดราคาสินค้าลงมานั้น ในส่วนของน้ำมันปาล์มคงเป็นไปได้ยาก เพราะวัตถุดิบที่ใช้ผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุขวดต้องขึ้นอยู่กับราคาตลาดโลก ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ถ้านับจากต้นปีที่แล้วจนถึงปัจจุบันราคาน้ำมันปาล์มดิบขึ้นไปถึง 100% จากกก.ละ 17-18 บาท เป็น 35-36 บาท
สำหรับสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพ 33 รายการ ที่กรมการค้าภายในกลับไปพิจารณาโครงสร้างต้นทุนใหม่ตามนโยบายของ รมว.พาณิชย์ ได้แก่ ข้าวสารบรรจุถุง, ผลิตภัณฑ์นม, น้ำมันพืช, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, อาหารปรุงสำเร็จ, เนื้อสุกร, ผงซักฟอก, แชมพู, สบู่, ยาสีฟัน, ผ้าอนามัย, ถ่ายไฟฉาย, รถยนต์นั่ง, รถจักรยานยนต์, ก๊าซหุงต้ม, ปูนซีเมนต์, ปุ๋ย, ค่ารักษาพยาบาลโรงพยาบาลเอกชน และค่าโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
