xs
xsm
sm
md
lg

สมัครปัดปลดอาวุธทหาร อ้างแค่รับข้อเสนอก็ถูกด่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่างถึงแนวทางการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยการปลดอาวุธชาวบ้าน และ ตำรวจ ทหาร ระดับร้อยโทลงมาว่า เป็นข้อเสนอของคณะกรรมการกลางอิสลามประจำประเทศไทย ที่มาคารวะตนโดยเสนอให้ปลดอาวุธ แก้ปัญหาปัญหายาเสพติด เรื่องการศึกษา โดยให้เวลา 3 เดือนแล้วไปตรวจสอบ ใครมีอาวุธอยู่ในบ้านก็ให้ประหารชีวิต ตนเห็นว่าเป็นแบบมาเลเซีย จึงเสนอว่า ให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิตก็รุนแรงแล้ว ซึ่งตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีจะนำไปบอกคนที่รับผิดชอบว่ามีคนเสนอมาแบบนี้ แต่พอมีข่าวออกไป ชาวพุทธบอกว่า ชาวพุทธยังไม่ได้พบกับนายกฯ แต่ไปพบกับอิสลามแล้ว ซึ่งมันเป็นเพียงข้อเสนอเท่านั้นยังไม่ไปถึงขั้นตอนไหนก็โดนด่าเสียแล้ว ต่อไปจะไม่เอาอีกแล้ว ใครจะมาติดต่ออย่างไร ขอให้เขียนหนังสือมา แล้วจะไปแง้มๆ ดู
ไผมจะคุยกับคนที่มีหน้าที่อีก 2-3 วันว่าอะไรควรจะดำเนินการแก้ไข หากดีแล้วก็ทำต่อไป ถ้าไม่ดีผมจะขอแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมที่เป็นส่วนตัว ในฐานะที่รับผิดชอบก็ต้องไปร่วมหารือ แต่หากจะมาบอกทั้งๆ ที่เพิ่งถวายสัตย์ฯ มาหมาดๆ และพรุ่งนี้จะมีการประชุม ครม. รวมทั้งวันอังคารที่ 12 ก.พ.ก็จะประชุม ครม.เพื่อเตรียมการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จะต้องทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ต้องเข้าสภาก่อน ตอบสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้”
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ยืนยันว่า การแก้ปัญหาภาคใต้จะยังคงเป็นเรื่องเร่งด่วน แต่เรื่องดังกล่าว กระทรวงมหาดไทยไม่ได้เป็นผู้ปฏิบัติงานเพียงลำพัง ดังนั้น ต้องมีการหารือกับหน่วยงานที่ร่วมรับผิดชอบคือ ทหาร รัฐบาลชุดนี้ จะถือว่าปัญหาภาคใต้เป็นปัญหาระดับความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งอาจต้องมีการพิจารณาในการปรับปรุงโครงสร้าง ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต.ให้มีอำนาจหน้าที่มากยิ่งขึ้นและยืนยันว่า จะยังคง พ.ร.บ.ศอ.บต.ต่อไป
พล.ต.ต.สายัณห์ กระแสเสน ผบก.ภ.จว.ยะลา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการรณรงค์ป้องกันการก่อเหตุร้าย โดยใช้มาตรการจอดรถเปิดเบาะ แขวนหมวกกันน็อค เพื่อเป็นการง่ายต่อการดูแลความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน ในเขตเทศบาลนครยะลา หลังกลุ่มคนร้ายมักใช้รถจักรยานยนต์นำระเบิดเข้ามาก่อเหตุจนทำให้เจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
พล.ต.ต.สายัณห์ กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวเป็นโครงการรณรงค์ให้ประชาชนที่ใช้รถจักรยานยนต์ เปิดเบาะและแขวนหมวกกันน็อคทุกครั้งที่นำไปจอดยังที่สาธารณะ เช่น ตลาด ชุมชน ย่านการค้า และสถานที่ราชการ โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในเขตเทศบาลนครยะลารับทราบและถือปฏิบัติโดยพร้อมเพรียงกัน
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุร้าย ซึ่งระยะหลังพบว่ากลุ่มคนร้าย มักจะนำระเบิดซุกซ่อนมากับรถจักรยานยนต์และนำไปจอดทิ้งไว้ในย่านชุมชน จนเกิดเหตุร้ายทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตมาแล้วหลายราย ทั้งนี้โครงการดังกล่าวได้นำมาใช้เป็นมาตรการสำคัญผ่านมาแล้ว 3 วัน ในจำนวน 10 จุด ที่พบว่าเป็นจุดเสี่ยงอันตราย ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประชาชนดีมาก แต่ก็ยังคงมีบางส่วนที่ยังไม่เข้าใจ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจของสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงวัตถุประสงค์ พร้อมกันนี้ยังได้ขอความร่วมมือไปยังประชาชนในเขตเทศบาลนครยะลา ได้รับทราบถึงวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้ว
ขณะที่นางไซนะ สาซิ ประชาชนในเขตเทศบาลนครยะลา กล่าวว่า โครงการดังกล่าวถือว่าเป็นมาตรการที่ดีในการดูแลชีวิตของประชาชน และตนเองก็พร้อมจะให้ความร่วมมือ และอยากให้มีการนำมาตรการดังกล่าวนี้ไปใช้ทั่วทั้งจังหวัด เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดเหตุร้าย.
นายวิรัช ประเศรษโฐ นายอำเภอมายอ จ.ปัตตานี กล่าวว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้น ถึงแม้ตนจะถูกระเบิดจนบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้ยังคงมีกำลังใจดี เพราะที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุประชาชนโดยเฉพาะชาวบ้านในพื้นที่ ได้รับทราบข่าวต่างออกมาแสดงความห่วงใยและให้กำลังใจ พร้อมประณามกลุ่มที่ก่อเหตุ ซึ่งขอยืนยันว่าจะยังคงมีความปรารถนาที่จะทำหน้าที่เพื่อการอุทิศตนให้กับคนในพื้นที่ ให้มีความอยู่ดีกินดีต่อไป โดยไม่ย่อท้อ และขอให้ทุกคนร่วมมือ ปรองดอง สมานสามัคคี เพื่อสันติสุขของบ้านเมืองโดยเร็ว
สำหรับอาการโดยรวมของนายวิรัช ประเศรษโฐ นายอำเภอมายอ ขณะนี้ความปลอดภัยแล้ว แต่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ส่วนนายประดิษฐ์ เพ็งเจริญ ผู้ช่วยเกษตรจังหวัดปัตตานี สะเก็ดที่เข้าตา แพทย์เร่งให้การช่วยเหลือ และนายหร่ออ๊บ มุเส็มสะเดา ปลัดตำบลที่ถูกตัดขายังคงนอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ส่วนที่เหลืออาการปลอดภัยหมดแล้ว
ด้านแนวทางการสืบสวนหากลุ่มผู้ก่อเหตุนั้น พ.ต.อ.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผกก.สภ.มายอ เผยว่า ได้แบ่งงานเป็นสองชุด โดยชุดแรกกำลังทั้งตำรวจ ทหาร คอยออกกดดันติดตามหากลุ่มนายอาหามะ จาจ้า แกนนำกลุ่มอาร์เคเค ที่คาดว่ายังคงกบดานอยู่บ้านของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ ส่วนชุดที่สอง แบ่งการสืบสวนสอบสวน พร้อมขอความร่วมมือผู้ที่ถ่ายภาพกิจกรรมช่วงที่มีการปล่อยปลา เพราะจากการตรวจสอบพบว่า ระเบิดถูกจุดฉนวนด้วยรีโมทคอนโทรล และคนจุดจะต้องอยู่ห่างจากระเบิดในระยะไม่เกิน 80 เมตรลงมา ซึ่งหากได้ภาพจากกล้องทุกตัว ก็จะง่ายต่อการหาเบาะแสผู้ก่อเหตุได้ง่ายขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือไปยังทุกคนที่ถ่ายภาพในวันเวลาดังกล่าว และเริ่มมีผู้ให้ความร่วมมือนำกล้องมาให้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วบางส่วน
วันเดียวกันตำรวจภูธรนราธิวาส และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก ภายใต้การนำของ พตอ.ปราบพาล มีมงคล ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก พตท.แวสาแม สาและ รอง.ผกก.(สส) สภ.สุไหงโก-ลก ร่วมกันนำ นายมูอาวียะห์ หรือ อายิ อาแว อายุ 27 ปี บ้านกือปงกาแม ถนนตะลือเบ อ.สุไหงโก-ลก เคยผ่านการ (ซูมเปาะ) มาแล้ว เมื่อปี 2545 ตกเป็นผู้ต้องหา ลอบวางระเบิดในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก มาหลายครั้ง และมีหมายจับของ สภ.สุไหงโก-ลก กว่า 10 คดี โดยเฉพาะการลอบวางระเบิดสถานที่บันเทิง ช่วงคืนเทศกาลตรุษจีน เมื่อปี 2550 ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต หลายราย
นอกจากนี้ได้ลอบวางระเบิดที่ริมถนนสายสุไหงโก-ลก ตากใบ บริเวณหน้าวิทยาลัยการอาชีพสุไหงโก-ลก ในขณะที่กำลังทหารเพชราวุธ ที่ 36 และสื่อมวลชน เข้าตรวจสอบและบันทึกภาพ นายมูอาวียะห์ อาแว ได้ร่วมกับพวก จุดชนวนระเบิด จนเกิดระเบิดขึ้น ส่งผลทำให้มีทหารและ สือมวลชน ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นนายมูอาวียะห์กับพวกได้พากันหลบหนีไป
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายมูอาวียะห์ หรือ อายะ อาแว ผู้ต้องหาคนสำคัญ คดีลอบวางระเบิดพื้นที่ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดลอบวางระเบิดในพื้นที่อำเภอสุไหงโกลก กว่า 10 จุด ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก มีกำลังตำรวจ ทหาร คุ้มกันอย่างหนาแน่น ห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้บริเวณทำแผน เนื่องจากนายมูอาวียะห์ เป็นผู้ต้องหาคนสำคัญ และมีหมายจับอีกกว่า 10 คดี ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับแกนนำขบวนการRKK จึงเกรงว่าจะถูกฆ่าปิดปาก หลังทำแผนตำรวจรีบนำตัวกลับไปสอบสวนขยายผล จับกุมเพื่อนร่วมขบวนการมาดำเนินคดี
กำลังโหลดความคิดเห็น