คนที่เล่น อินเทอร์เน็ตทุกคนรู้จัก google ครับ
เพราะจะหาอะไรก็ต้องพึ่งเจ้า Search Engine ตัวนี้แหละครับ
ความจริงนั้น เมื่อปลายปีที่แล้วผมผ่านตาบทความในนิตยสารนิวสวีค ที่เขาเขียนรายงานเกี่ยวกับ google ไว้ดี เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งก็นานมาพอสมควรทีเดียว
แต่ระยะหลังๆ ผมค้นเอกสารบางอย่างใน google ไม่ค่อยได้ดังใจครับ และรู้สึกว่ามักได้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับที่ตรงความที่อยากได้เท่าที่นึก
ก็เลยนึกถึงบทความเก่านี้แหละครับ
ค้นไปอ่านดู พบว่ามีคนพบปัญหาเดียวกันนี้แหละครับ
จะว่า google คิดว่าผูกขาด Search tool นี้อยู่คนเดียว และกินส่วนแบ่งในตลาดมากที่สุดก็ไม่น่าใช่
แต่น่าจะเป็นเพราะว่าความไม่สมประกอบมากกว่า
หรือไม่ก็เป็นได้ว่าตัว Search Engine นี้ล้าสมัยและเป็น Search Engine ที่ย้อนยุคไปแล้ว
น่าจะมีคนพัฒนาให้ทันสมัยได้แล้ว
google นั้นทำกำไรมาก มูลค่าหุ้นไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มากกว่ามูลค่าของ yahoo 5 เท่า และก็มากกว่า Search ของไมโครซอฟท์อยู่ ¾ เท่าตัว
google เองก็พยายามพัฒนา แต่มันมิใช่เอาใจลูกค้าแต่หันไปปรับตัวเอง เพื่อกินโฆษณามากขึ้น เพราะกำไรกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ที่กูเกิ้ลทำได้นั้นมาจากค่าโฆษณาครับ
ความสำเร็จและผลกำไรก็มาจากตัว Search ที่แสนจะง่ายๆ เท่านั้น
และทุกวันนี้ google โดนผลกระทบรุนแรงมาก เพราะความที่ไม่พัฒนาตัว Search หลัก เช่น ลึกไม่พอ ไม่ให้ข้อมูลต่อเนื่องหรือบริการเสริมฟรี แถมคู่แข่งก็ยังเป็นพวกมีเทคโนโลยีสูง
กลุ่มที่ก่อตั้ง google ในปี 1998 นั้น เป็นพวกจบมาจากมหาวิทยาลัย Stanford ครับ ประกอบด้วย Sergey Brin และ Larry Page
แน่นอนครับว่า google คงไม่ล้มหายตายจากไปง่ายๆ แต่น่าจะมีธุรกิจแบบ Sideline ที่ทำกำไรเข้ามาเสริมรายได้อีกบ้าง ซึ่งส่วนหลังนี้พวกที่ซื้อหุ้น google ไว้ก็หวังว่าจะเกิดขึ้นในไม่ช้าเพราะมันจะช่วยเพิ่มมูลค่าหุ้น และหุ้นจะขึ้น
แต่อะไรที่มันขึ้นเร็ว ย่อมลงได้เร็วเช่นกัน
สัจธรรมข้อนี้ google ก็รู้
แน่ละครับ... ในยกแรก google ชนะทุก Search แล้วทิ้งห่างมายาวเลย
แต่ในยกที่สอง มันไม่แน่นะครับ
เพราะคู่แข่งรายอื่นๆ เกิดขึ้นแล้วนี่ครับ
ตั้งแต่ปี 1995 แล้ว ที่นักวิจัยของ Digital Equipment Corp พบว่าจะจัดทำระบบดัชนีข้อมูลคำบนหน้าเว็บโดยมันเป็นที่มาของระบบค้นหาคำที่รวดเร็ว
ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ Search Engine Alta Vista กลายมาเป็นยอดนิยมของคนใช้เน็ตยุคแรกๆ และดูจะรุ่งที่ครอบงำตลาด
แต่ในปี 1998 ก็เล่าขานกันว่ามี Search ตัวใหม่กว่าชื่อแปลกๆ แต่หาง่าย และได้ข้อมูลมากกว่าปี 2000 google ก็เอาชนะทุก Search ซึ่ง yahoo นั้นขาดวิสัยทัศน์ ดันเอา google ไปใส่ไว้บน homepage ของตัวเองเสียฉิบ ทั้งๆ ที่ตัวเองมีคนเข้ามาใช้กว่า 10 ล้านคนแล้ว
ไมโครซอฟท์ยังหลับใหลอยู่ในเวลานั้นครับ
ครั้น google หัวใสโดยได้โฆษณาจากแผนธุรกิจ เมื่อผู้ใช้คลิ๊กเข้าเท่ากับว่า google กลายเป็น Search Money Making Machine โดยทันที
ปัจจุบันทำเงินร่วม 1 แสน 5 หมื่นกว่าล้านเหรียญสหรัฐ โดยกำไรไม่น้อยกว่า 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐ แบบจะจะ
google ไม่ได้ชนะผู้อื่นเพราะว่าตัวเองนั้นดีเลิศประเสริฐศรีหรอกครับ ตรงกันข้าม มันเป็น Search ย้อนยุคหรือเรียกได้ว่าเป็น Second Generation หรือ “ตกรุ่น” ไปแล้ว
พวกทันสมัยก็ต้อง Alta Vista Web มีคำที่สอดคล้องกับคำที่ผู้ใช้ต้องการหา
แล้ว Microsoft มัวไปมุดหัวทำอะไรอยู่ที่ไหน?
จริงๆ แล้ว Microsoft ก็อยากมากที่จะรวม Window Live Search กับพวก online PC tasks ต่างๆ อยู่ เพียงแต่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์จาก Windows ไปเคลื่อนไหว Search ของตัวเองเท่านั้น
แต่ Microsoft กำลังพัฒนา Search แบบ “ลงลึก” เช่น จะหาคำว่า “โคล่า” ก็จะพบคำว่า Coca-Cola Corp พร้อมกับข้อมูลและรายละเอียดทางบัญชีการเงินของบริษัทนี้
นักศึกษาที่เรียนวิชาโบราณคดีสุโขทัย Search คำว่า พ่อขุนรามคำแหง ก็จะได้ “ศิลาจารึก” พร้อมคำแปลแถมด้วยบทวิเคราะห์ว่าใครเขียน, เขียนยุคไหน ใครทำปลอมขึ้นมา เพราะอะไร, สังคม, เศรษฐกิจการเมืองยุคนั้น เป็นต้น
ปัญหาคือ แม้จะทำดีอย่างไรก็ตาม
แต่คนก็ยังไม่ใช้... เพราะนอกจากไม่ทราบแล้วยังติดแบรนด์อย่าง google อยู่ แม้ว่าจากการสำรวจคร่าวๆ จะทิ้งกันไม่มากระหว่าง 80:70:65 ระหว่าง google:yahoo และไมโครซอฟท์ Search
นอกจากนี้คู่แข่งก็น่ากลัว ก็คือรัฐบาลประเทศต่างๆ ครับ เช่น ญี่ปุ่นนั้นทุ่มเงินกว่า 125 ล้านเหรียญสหรัฐ พัฒนา Search ของตัวเอง เยอรมนีร่วมกับฝรั่งเศสทุ่มเงิน 165 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 122 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ เพื่อการวิจัย Search Engine ร่วม
นี่จะเห็นได้ว่า ทำกันเพื่อประโยชน์ของแต่ละชาติและร่วมมือกัน
บางประเทศก็มี Search สัญชาติของตัวเอง เช่น ในออสเตรเลีย มี Lexxe เป็นต้น
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการฟันธงหรือโฟกัสให้ได้ว่า ผู้ใช้ต้องการอะไรแน่ google พยายามหาโดยใช้ปริมาณแต่ไม่มีคุณภาพ บาง Search ให้หาเฉพาะบ้านที่ต้องการขายเท่านั้น พวก Search สุขภาพก็จะวิเคราะห์โรค บอกสาเหตุ และว่าควรรักษาตัวอย่างไร ฯลฯ
ครับ... โลกเราง่ายขึ้น เพราะมี Search Engine ที่ดียิ่งขึ้น
เราก็สบายขึ้นในฐานะผู้ใช้ล่ะครับ
เพราะจะหาอะไรก็ต้องพึ่งเจ้า Search Engine ตัวนี้แหละครับ
ความจริงนั้น เมื่อปลายปีที่แล้วผมผ่านตาบทความในนิตยสารนิวสวีค ที่เขาเขียนรายงานเกี่ยวกับ google ไว้ดี เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งก็นานมาพอสมควรทีเดียว
แต่ระยะหลังๆ ผมค้นเอกสารบางอย่างใน google ไม่ค่อยได้ดังใจครับ และรู้สึกว่ามักได้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับที่ตรงความที่อยากได้เท่าที่นึก
ก็เลยนึกถึงบทความเก่านี้แหละครับ
ค้นไปอ่านดู พบว่ามีคนพบปัญหาเดียวกันนี้แหละครับ
จะว่า google คิดว่าผูกขาด Search tool นี้อยู่คนเดียว และกินส่วนแบ่งในตลาดมากที่สุดก็ไม่น่าใช่
แต่น่าจะเป็นเพราะว่าความไม่สมประกอบมากกว่า
หรือไม่ก็เป็นได้ว่าตัว Search Engine นี้ล้าสมัยและเป็น Search Engine ที่ย้อนยุคไปแล้ว
น่าจะมีคนพัฒนาให้ทันสมัยได้แล้ว
google นั้นทำกำไรมาก มูลค่าหุ้นไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มากกว่ามูลค่าของ yahoo 5 เท่า และก็มากกว่า Search ของไมโครซอฟท์อยู่ ¾ เท่าตัว
google เองก็พยายามพัฒนา แต่มันมิใช่เอาใจลูกค้าแต่หันไปปรับตัวเอง เพื่อกินโฆษณามากขึ้น เพราะกำไรกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ที่กูเกิ้ลทำได้นั้นมาจากค่าโฆษณาครับ
ความสำเร็จและผลกำไรก็มาจากตัว Search ที่แสนจะง่ายๆ เท่านั้น
และทุกวันนี้ google โดนผลกระทบรุนแรงมาก เพราะความที่ไม่พัฒนาตัว Search หลัก เช่น ลึกไม่พอ ไม่ให้ข้อมูลต่อเนื่องหรือบริการเสริมฟรี แถมคู่แข่งก็ยังเป็นพวกมีเทคโนโลยีสูง
กลุ่มที่ก่อตั้ง google ในปี 1998 นั้น เป็นพวกจบมาจากมหาวิทยาลัย Stanford ครับ ประกอบด้วย Sergey Brin และ Larry Page
แน่นอนครับว่า google คงไม่ล้มหายตายจากไปง่ายๆ แต่น่าจะมีธุรกิจแบบ Sideline ที่ทำกำไรเข้ามาเสริมรายได้อีกบ้าง ซึ่งส่วนหลังนี้พวกที่ซื้อหุ้น google ไว้ก็หวังว่าจะเกิดขึ้นในไม่ช้าเพราะมันจะช่วยเพิ่มมูลค่าหุ้น และหุ้นจะขึ้น
แต่อะไรที่มันขึ้นเร็ว ย่อมลงได้เร็วเช่นกัน
สัจธรรมข้อนี้ google ก็รู้
แน่ละครับ... ในยกแรก google ชนะทุก Search แล้วทิ้งห่างมายาวเลย
แต่ในยกที่สอง มันไม่แน่นะครับ
เพราะคู่แข่งรายอื่นๆ เกิดขึ้นแล้วนี่ครับ
ตั้งแต่ปี 1995 แล้ว ที่นักวิจัยของ Digital Equipment Corp พบว่าจะจัดทำระบบดัชนีข้อมูลคำบนหน้าเว็บโดยมันเป็นที่มาของระบบค้นหาคำที่รวดเร็ว
ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ Search Engine Alta Vista กลายมาเป็นยอดนิยมของคนใช้เน็ตยุคแรกๆ และดูจะรุ่งที่ครอบงำตลาด
แต่ในปี 1998 ก็เล่าขานกันว่ามี Search ตัวใหม่กว่าชื่อแปลกๆ แต่หาง่าย และได้ข้อมูลมากกว่าปี 2000 google ก็เอาชนะทุก Search ซึ่ง yahoo นั้นขาดวิสัยทัศน์ ดันเอา google ไปใส่ไว้บน homepage ของตัวเองเสียฉิบ ทั้งๆ ที่ตัวเองมีคนเข้ามาใช้กว่า 10 ล้านคนแล้ว
ไมโครซอฟท์ยังหลับใหลอยู่ในเวลานั้นครับ
ครั้น google หัวใสโดยได้โฆษณาจากแผนธุรกิจ เมื่อผู้ใช้คลิ๊กเข้าเท่ากับว่า google กลายเป็น Search Money Making Machine โดยทันที
ปัจจุบันทำเงินร่วม 1 แสน 5 หมื่นกว่าล้านเหรียญสหรัฐ โดยกำไรไม่น้อยกว่า 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐ แบบจะจะ
google ไม่ได้ชนะผู้อื่นเพราะว่าตัวเองนั้นดีเลิศประเสริฐศรีหรอกครับ ตรงกันข้าม มันเป็น Search ย้อนยุคหรือเรียกได้ว่าเป็น Second Generation หรือ “ตกรุ่น” ไปแล้ว
พวกทันสมัยก็ต้อง Alta Vista Web มีคำที่สอดคล้องกับคำที่ผู้ใช้ต้องการหา
แล้ว Microsoft มัวไปมุดหัวทำอะไรอยู่ที่ไหน?
จริงๆ แล้ว Microsoft ก็อยากมากที่จะรวม Window Live Search กับพวก online PC tasks ต่างๆ อยู่ เพียงแต่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์จาก Windows ไปเคลื่อนไหว Search ของตัวเองเท่านั้น
แต่ Microsoft กำลังพัฒนา Search แบบ “ลงลึก” เช่น จะหาคำว่า “โคล่า” ก็จะพบคำว่า Coca-Cola Corp พร้อมกับข้อมูลและรายละเอียดทางบัญชีการเงินของบริษัทนี้
นักศึกษาที่เรียนวิชาโบราณคดีสุโขทัย Search คำว่า พ่อขุนรามคำแหง ก็จะได้ “ศิลาจารึก” พร้อมคำแปลแถมด้วยบทวิเคราะห์ว่าใครเขียน, เขียนยุคไหน ใครทำปลอมขึ้นมา เพราะอะไร, สังคม, เศรษฐกิจการเมืองยุคนั้น เป็นต้น
ปัญหาคือ แม้จะทำดีอย่างไรก็ตาม
แต่คนก็ยังไม่ใช้... เพราะนอกจากไม่ทราบแล้วยังติดแบรนด์อย่าง google อยู่ แม้ว่าจากการสำรวจคร่าวๆ จะทิ้งกันไม่มากระหว่าง 80:70:65 ระหว่าง google:yahoo และไมโครซอฟท์ Search
นอกจากนี้คู่แข่งก็น่ากลัว ก็คือรัฐบาลประเทศต่างๆ ครับ เช่น ญี่ปุ่นนั้นทุ่มเงินกว่า 125 ล้านเหรียญสหรัฐ พัฒนา Search ของตัวเอง เยอรมนีร่วมกับฝรั่งเศสทุ่มเงิน 165 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 122 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ เพื่อการวิจัย Search Engine ร่วม
นี่จะเห็นได้ว่า ทำกันเพื่อประโยชน์ของแต่ละชาติและร่วมมือกัน
บางประเทศก็มี Search สัญชาติของตัวเอง เช่น ในออสเตรเลีย มี Lexxe เป็นต้น
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการฟันธงหรือโฟกัสให้ได้ว่า ผู้ใช้ต้องการอะไรแน่ google พยายามหาโดยใช้ปริมาณแต่ไม่มีคุณภาพ บาง Search ให้หาเฉพาะบ้านที่ต้องการขายเท่านั้น พวก Search สุขภาพก็จะวิเคราะห์โรค บอกสาเหตุ และว่าควรรักษาตัวอย่างไร ฯลฯ
ครับ... โลกเราง่ายขึ้น เพราะมี Search Engine ที่ดียิ่งขึ้น
เราก็สบายขึ้นในฐานะผู้ใช้ล่ะครับ