ผู้จัดการรายวัน-ไฟไหม้ร้านอาหารในสุวรรณภูมิทดสอบระบบดับเพลิง แต่ไม่ลุกลาม “เสรีรัตน์”ยันระบบดับเพลิงทำงานตามมาตรฐาน ตรวจสอบเบื้องต้นพนักงานเลิ่นเล่อ ทำบุหรี่ตกใส่ในระหว่างประกอบอาหาร ขณะที่ตรุษจีนคึกคักมีเที่ยวบินเพิ่มกว่า 350 เที่ยว
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เปิดเผยว่า วานนี้ (5 ก.พ.) เวลา 14.13 น.ศูนย์รักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาการร์ ฝ่ายรักษาความปลอดภัยว่า พบกลุ่มควันจำนวนหนึ่งลอยออกมาจากร้าน Goodies ซึ่งเป็นร้านขายอาหาร ตั้งอยู่บริเวณ ชั้น 3 ใกล้กับบริเวณทางเลื่อนอาคารผู้โดยสาร ฝั่งตะวันตก โดยจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นกับพนักงานในร้าน ให้การว่า ในขณะที่มีการประกอบอาหาร ได้เกิดไฟลุกขึ้นบริเวณเตาปรุงอาหาร เมื่อเกิดไฟลุกขึ้นพนักงานได้ใช้อุปกรณ์ดับเพลิงเบื้องต้น และในขณะนั้นเครื่องสปริงเคิลภายในร้านทำงานฉีดน้ำออกมาดับไฟ จึงทำให้เกิดเป็นกลุ่มควันขึ้นมาภายในร้าน
นายเสรีรัตน์กล่าวว่า เมื่อได้รับแจ้งเหตุ ฝ่ายดับเพลิงและกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปในที่เกิดเหตุ พบกลุ่มควันแต่เปลวเพลิงได้ดับลงแล้ว เนื่องจากพนักงานได้ใช้อุปกรณ์ดับเพลิงเบื้องต้นตามที่ได้รับการอบรม ทำให้สามารถระงับเหตุ ได้ทันก่อนที่เพลิงจะลุกลาม โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบและเคลียร์พื้นที่และระงับเหตุได้ในเวลาประมาณ 30 นาที โดยภายในร้านมีอุปกรณ์ได้รับความเสียหายจากน้ำ ส่วนสาเหตุที่แท้จริง และมูลค่าความเสียหาย ขณะนี้อยู่ในระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ราชาเทวะ ตรวจสอบและสอบสวนข้อเท็จจริง
ด้านนายยอดเยี่ยม เทพธรานนท์ กรรมการ ทอท.ในฐานะของนักสถาปนิก กล่าวว่า จากการตรวจสอบได้รับรายงานว่าเหตุเกิดจากร้านอาหารดังกล่าวได้มีการทำอาหารและกะทะเกิดความร้อนสูงจนทำให้เกิดไฟลุกขึ้นและในเวลา14.16 เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงเข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุและสามารถแก้ไขสถานการณ์เรียบร้อยได้ในเวลา14.18 น.ซึ่งถือว่าการติดตั้งอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆสามารถใช้งานได้ ส่วนรายละเอียดระบบป้องกันความปลอดภัยต่างๆอาจต้องมีการตรวจสอบท่อต่างๆที่อาจมีคราบของน้ำมันซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ได้
แหล่งข่าวจาก ทอท. กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รับแจ้งว่ามีเจ้าหน้าที่ประกอบอาหารของร้านดังกล่าว
ทำบุหรี่ตกใส่ในระหว่างประกอบอาหารจึงเป็นเหตุให้เกิดกลุ่มควันลุกขึ้นมาเท่านั้นและสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทันทีไม่มีปัญหาไฟลุกลามขึ้น รวมทั้งทางสนามบินสุวรรณภูมิไม่มีข้อห้ามเรื่องการประกอบอาหาร แต่มีข้อกำหนดว่าห้ามใช้แก๊ส ให้ใช้ได้เฉพาะเตาไฟฟ้าเท่านั้นและจะต้องมีการติดตั้งระบบดูดควันต่างๆ
ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดอยู่แล้วโดยเฉพาะบริเวณจุดเกิดเหตุดังกล่าวอยู่บริเวณชั้น 3ซึ่งเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์และร้านค้า
ตรุษจีนมีเที่ยวบินเพิ่มกว่า 350 เที่ยว
นายเสรีรัตน์ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนระหว่างวันที่ 5-17 ก.พ.51 มีสายการบินและสายการบินเช่าเหมาลำ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ รวม 31 สายการบิน ขอเพิ่มเที่ยวบินพิเศษเข้า-ออก ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวมทั้งสิ้น 350 เที่ยวบิน แบ่งเป็น เที่ยวบินระหว่างประเทศ จำนวน 316 เที่ยวบิน เป็นขาเข้า 156 เที่ยวบิน ขาออก 160 เที่ยวบิน ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 56 เที่ยวบิน หรือ 21.53% และเป็นเที่ยวบินภายในประเทศ จำนวน 34 เที่ยวบิน เป็นขาเข้า 17 เที่ยวบิน ขาออก 17 เที่ยวบิน ซึ่งถือว่าลดลงจากปีที่แล้ว 55 เที่ยวบิน หรือ 61.79 % ซึ่งสาเหตุที่ลดลง เนื่องจากได้มีการย้ายเที่ยวบินภายในประเทศส่วนมากกลับไปใช้บริการที่ท่าอากาศยานดอนเมืองตั้งแต่ 25 มี.ค.50 สำหรับสายการบินระหว่างประเทศที่มีการเพิ่มเที่ยวบินพิเศษมากที่สุดคือ สายการบิน China Eastern Airlines จำนวน 63 เที่ยวบิน ในส่วนของสายการบินภายในประเทศที่มีการเพิ่มเที่ยวบินมากที่สุดคือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ จำนวน 32 เที่ยวบิน
โดยคาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นเป็น 120,000 คนต่อวันและพล.ต.ต.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ผู้บังคับการกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานแห่งชาติ ได้สั่งการให้จัดเตรียมระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกว่า 1,200 นาย ปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจบุคคลเข้า-ออก
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เปิดเผยว่า วานนี้ (5 ก.พ.) เวลา 14.13 น.ศูนย์รักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาการร์ ฝ่ายรักษาความปลอดภัยว่า พบกลุ่มควันจำนวนหนึ่งลอยออกมาจากร้าน Goodies ซึ่งเป็นร้านขายอาหาร ตั้งอยู่บริเวณ ชั้น 3 ใกล้กับบริเวณทางเลื่อนอาคารผู้โดยสาร ฝั่งตะวันตก โดยจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นกับพนักงานในร้าน ให้การว่า ในขณะที่มีการประกอบอาหาร ได้เกิดไฟลุกขึ้นบริเวณเตาปรุงอาหาร เมื่อเกิดไฟลุกขึ้นพนักงานได้ใช้อุปกรณ์ดับเพลิงเบื้องต้น และในขณะนั้นเครื่องสปริงเคิลภายในร้านทำงานฉีดน้ำออกมาดับไฟ จึงทำให้เกิดเป็นกลุ่มควันขึ้นมาภายในร้าน
นายเสรีรัตน์กล่าวว่า เมื่อได้รับแจ้งเหตุ ฝ่ายดับเพลิงและกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปในที่เกิดเหตุ พบกลุ่มควันแต่เปลวเพลิงได้ดับลงแล้ว เนื่องจากพนักงานได้ใช้อุปกรณ์ดับเพลิงเบื้องต้นตามที่ได้รับการอบรม ทำให้สามารถระงับเหตุ ได้ทันก่อนที่เพลิงจะลุกลาม โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบและเคลียร์พื้นที่และระงับเหตุได้ในเวลาประมาณ 30 นาที โดยภายในร้านมีอุปกรณ์ได้รับความเสียหายจากน้ำ ส่วนสาเหตุที่แท้จริง และมูลค่าความเสียหาย ขณะนี้อยู่ในระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ราชาเทวะ ตรวจสอบและสอบสวนข้อเท็จจริง
ด้านนายยอดเยี่ยม เทพธรานนท์ กรรมการ ทอท.ในฐานะของนักสถาปนิก กล่าวว่า จากการตรวจสอบได้รับรายงานว่าเหตุเกิดจากร้านอาหารดังกล่าวได้มีการทำอาหารและกะทะเกิดความร้อนสูงจนทำให้เกิดไฟลุกขึ้นและในเวลา14.16 เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงเข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุและสามารถแก้ไขสถานการณ์เรียบร้อยได้ในเวลา14.18 น.ซึ่งถือว่าการติดตั้งอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆสามารถใช้งานได้ ส่วนรายละเอียดระบบป้องกันความปลอดภัยต่างๆอาจต้องมีการตรวจสอบท่อต่างๆที่อาจมีคราบของน้ำมันซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ได้
แหล่งข่าวจาก ทอท. กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รับแจ้งว่ามีเจ้าหน้าที่ประกอบอาหารของร้านดังกล่าว
ทำบุหรี่ตกใส่ในระหว่างประกอบอาหารจึงเป็นเหตุให้เกิดกลุ่มควันลุกขึ้นมาเท่านั้นและสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทันทีไม่มีปัญหาไฟลุกลามขึ้น รวมทั้งทางสนามบินสุวรรณภูมิไม่มีข้อห้ามเรื่องการประกอบอาหาร แต่มีข้อกำหนดว่าห้ามใช้แก๊ส ให้ใช้ได้เฉพาะเตาไฟฟ้าเท่านั้นและจะต้องมีการติดตั้งระบบดูดควันต่างๆ
ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดอยู่แล้วโดยเฉพาะบริเวณจุดเกิดเหตุดังกล่าวอยู่บริเวณชั้น 3ซึ่งเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์และร้านค้า
ตรุษจีนมีเที่ยวบินเพิ่มกว่า 350 เที่ยว
นายเสรีรัตน์ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนระหว่างวันที่ 5-17 ก.พ.51 มีสายการบินและสายการบินเช่าเหมาลำ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ รวม 31 สายการบิน ขอเพิ่มเที่ยวบินพิเศษเข้า-ออก ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวมทั้งสิ้น 350 เที่ยวบิน แบ่งเป็น เที่ยวบินระหว่างประเทศ จำนวน 316 เที่ยวบิน เป็นขาเข้า 156 เที่ยวบิน ขาออก 160 เที่ยวบิน ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 56 เที่ยวบิน หรือ 21.53% และเป็นเที่ยวบินภายในประเทศ จำนวน 34 เที่ยวบิน เป็นขาเข้า 17 เที่ยวบิน ขาออก 17 เที่ยวบิน ซึ่งถือว่าลดลงจากปีที่แล้ว 55 เที่ยวบิน หรือ 61.79 % ซึ่งสาเหตุที่ลดลง เนื่องจากได้มีการย้ายเที่ยวบินภายในประเทศส่วนมากกลับไปใช้บริการที่ท่าอากาศยานดอนเมืองตั้งแต่ 25 มี.ค.50 สำหรับสายการบินระหว่างประเทศที่มีการเพิ่มเที่ยวบินพิเศษมากที่สุดคือ สายการบิน China Eastern Airlines จำนวน 63 เที่ยวบิน ในส่วนของสายการบินภายในประเทศที่มีการเพิ่มเที่ยวบินมากที่สุดคือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ จำนวน 32 เที่ยวบิน
โดยคาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นเป็น 120,000 คนต่อวันและพล.ต.ต.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ผู้บังคับการกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานแห่งชาติ ได้สั่งการให้จัดเตรียมระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกว่า 1,200 นาย ปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจบุคคลเข้า-ออก