ศูนย์ข่าวศรีราชา -นายกสมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย แนะรัฐบาลใหม่ยึดประเทศบราซิล เป็นแบบอย่างในการส่งเสริม ละจัดทำพลังงานทดแทนทางธรรมชาติ เพื่อให้ประเทศไทยมีความก้าวหน้าด้านการผลิตพลังงานทดแทนอย่างไบโอดีเซลและเอทานอลอย่างแท้จริง จี้นายกฯ “หมัก” จัดทำยุทธศาสตร์พลังงานชาติ ด้วยการใช้ตนเองเป็นศูนย์กลางประสานทุกกระทรวงร่วมทำงานเพื่อชาติอย่างแท้จริง โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ และไม่แบ่งแยกพรรคการเมือง
นายนิยม จุฬาเสรีกุล นายกสมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย เผยถึงการประกาศนโยบายสำคัญของรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของพรรคพลังประชาชน ซึ่งต้องการที่จะสนับสนุนการผลิตพลังงานทดแทนด้วยวัตถุดิบธรรมชาติภายในประเทศว่า ถือเป็นเรื่องดีหากรัฐบาลชุดนี้ต้องการสนับสนุนให้เกิดการผลิตพลังงานทดแทน ทั้งไบโอดีเซลและเอทานอล ลดการพึ่งพานำเข้าพลังงานเชื้อเพลิงจากต่างประเทศอย่างจริงจัง ที่ไม่ใช่เพียงการประกาศนโยบายเพื่อสร้างภาพ
ทั้งนี้ เนื่องจากในความคิดเห็นส่วนตนแล้วมองว่า การนำเข้าพลังงานเชื้อเพลิงจากต่างประเทศมีผลประโยชน์มหาศาล จนทำให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในช่วงที่ผ่านมา ไม่พยายามที่จะผลักดันให้เกิดการผลิตพลังงานทดแทนในประเทศอย่างแท้จริง
ดังนั้น หากรัฐบาลใหม่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย รวมทั้งมองข้ามผลประ โยชน์มหาศาลซึ่งวางอยู่ข้างหน้า แล้วหันมาสนับสนุนให้เกษตรกรในประเทศปลูกปาล์มน้ำมัน อ้อย และมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตพลังงานทดแทนอย่างเป็นระบบ ก็จะทำให้ประเทศไทยมีการพัฒนาด้านการผลิตไบโอดีเซล และเอทานอลอย่างเป็นรูปธรรม
“ตนไม่ได้ดูถูกพรรคพลังประชาชนเรื่องการสนับสนุนนโยบายด้านการผลิตพลังงานทดแทน แต่อุปสรรคระหว่างทางมีเยอะ ลำพังเจ้ากระทรวงใดกระทรวงหนึ่งทำคงไม่ได้ แต่ต้องมีการประสานงานอย่างจริงจังระหว่างกระทรวง ทั้งกระทรวงพลังงาน คลัง พาณิชย์ เกษตรฯ เพราะหากจะสนับสนุนแผนงานนี้ รัฐบาลต้องวางแผนแล้วว่าระหว่างที่เกษตรกรปลูกปาล์มน้ำมันระยะ 3-5 ปีจะมีรายได้จากทางใดเพื่อเลี้ยงตัวเอง ขณะเดียวกันต้องมีการวางแผนการปลูกเพื่อให้ได้ผลผลิตอย่างเป็นระบบ ซึ่งคนที่มีกำลังมากที่สุดที่จะเข้ามาจี้ติดการทำงานของทุกกระทรวง ก็คือนายกรัฐมนตรี ดังนั้น นายกฯ จะต้องกระโดดลงมาเป็นตัวกลางประสานการทำงานเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง”
นายกสมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย ยังแนะให้รัฐบาลชุดใหม่ศึกษาแบบอย่างการพัฒนาพลังงานทดแทนของประเทศบราซิล ซึ่งนายกรัฐมนตรีของประเทศบราซิลใช้เวลานานถึง 5 ปีในการศึกษา ผลักดันและทดลองการดำเนินงานอย่างต่อ เนื่องจนประสบผลสำเร็จ ซึ่งหากประเทศไทยจะดำเนินการอย่างจริงจัง ต้องมีการจัดทำยุทธศาสตร์พลังงานชาติอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งจัดตั้งคณะอนุกรรมการอย่างน้อย 1 ชุดที่ประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ เกษตรกร ผู้ผลิตและผู้แปรรูปฯลฯ เพื่อร่วมกันทำงาน รวมทั้งการจัดตั้งงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เพราะหากไม่ทำเช่นนี้แล้ว ก็จะเป็นได้แค่โครงการที่ประกาศออกมาเพื่อหาสียงในรูปแบบประชานิยม
“ ไม่ใช่ไม่เชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้จะทำได้จริง เพราะผลประโยชน์จากการนำเข้าน้ำมันและพลังงานจากต่างประเทศมันมีมหาศาล จนผู้เกี่ยวข้องต่างทำเป็นลืม ที่จะหันมาสนับสนุนการผลิตภายในประเทศ แม้แต่อดีตนายกฯทักษิณ (ชินวัตร) เมื่อก่อนก็เคยกระตือรือร้นที่จะทำ แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็ไม่เห็นมีการดำเนินการใดๆ ซึ่งผมเองก็ไม่อยากเห็นรัฐบาลชุดนี้เป็นเช่นนั้น ก็ได้แต่ขอให้มีการจัดทำยุทธศาสตร์ด้านพลังงานชาติ และการผลิตพลังงานทดแทนให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก ” นายนิยม กล่าว