xs
xsm
sm
md
lg

"บัณฑูร"ชี้ทางรอดปรับตัวรับศก.โลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"บัณฑูร"ภาคธุรกิจต้องให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงให้มากขึ้นเพื่อความอยู่รอด ชี้ความเสี่ยงแรกที่สำคัญคือเศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาในสหรัฐฯที่เดือนร้อนถึงขึ้นใช้มาตรการผ่าตัด แนะผู้ประกอบการปรับตัวให้พร้อมรับมือกับการทำธุรกิจที่ยากขึ้น ส่วนกสิกรไทยยังนั้นขยายสินเชื่อให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ระบุการเมืองยังไม่มีอะไรที่เสี่ยงแต่ต้องให้เวลารัฐบาลใหม่ทำงานก่อนประเมินผล
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า โจทย์ของการทำธุรกิจในปัจจุบันคือการบริหารความเสี่ยง การมีนวัตกรรมใหม่และต้นทุนที่ถูกเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดได้ ซึ่งรวมถึงในส่วนของเศรษฐกิจที่จะต้องมีการลงทุนเพื่อเป็นแรงผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตได้ ซึ่งการลงทุนนั้นจะต้องมีการบริหารความเสี่ยงควบคู่ไปกับการพัฒนาด้วย
"การทำธุรกิจตอนนี้ไม่ได้มีอะไรที่หนักใจ เพราะธุรกิจมีความเสี่ยงอยู่แล้ว ดังนั้นโจทย์คือการบริหารความเสี่ยง ถ้าบริหารได้ทุนก็งอกเงย คิดบริการหรือผลิตภัณฑ์ใหมได้ก็จะขายได้ หากคิดไม่ทันตลาดก็ไม่รอดเศรษฐกิจ หากไม่มีการลงทุนก็จะไม่หมุนแต่การลงทุนต้องมีการบริหารความเสี่ยงให้อยู่รอดได้เหมือนกัน"
ทั้งนี้ หากให้ลำดับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นโลกนี้ สิ่งที่มาเป็นอันดับแรกคือ เศรษฐกิจโลกซึ่งเป็นผลจากที่ตลาดของสหรัฐฯมีความผันผวน จนทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงหรือเปรียบเหมือนคนป่วยที่ต้องผ่าตัด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯมีความเดือดร้อน ทำให้ต้องใช้มาตรการขั้นรุนแรงในการแก้ไขปัญหา แต่ผลจะออกมาเป็นอย่างไรไม่สามารถตอบได้ 100% แต่เชื่อว่าน่าจะช่วยบรรเทาปัญหาได้บ้าง ซึ่งในส่วนของเศรษฐกิจประเทศไทยนั้น คงจะได้รับผลกระทบไม่น้อย เนื่องจากเศรษฐกิจไทยขึ้นอยู่กับการส่งออกเป็นส่วนใหญ่ และอาจทำให้ผู้ประกอบการขายของไม่ได้ ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงต้องมีการปรับตัวแต่ในขณะนี้ไม่สามารถตอบได้ว่าผู้ประกอบการปรับตัวได้เพียงพอหรือไม่
"คนลงทุนตอนนี้คงต้องคิดหนักกันมากขึ้น เพราะไม่รู้ว่าจะขายของให้ใคร แต่สิ่งที่ช่วยได้คือการมองหาตลาดใหม่ ๆ คนปล่อยกู้ก็ต้องคิดหนักเหมือนกัน ต้องวิเคราะห์ว่าถ้าปล่อยให้ลงทุนไปแล้วเขาจะเอาของไปขายให้ใคร"
นายบัณฑูร กล่าวว่า การเมืองไทยตอนนี้ยังไม่เห็นว่ามีอะไรที่เป็นความเสี่ยง เพราะการเมืองไทยมีการยุบพรรค ย้ายพรรค เป็นเรื่องปกติ ส่วนรัฐบาลใหม่ก็ต้องให้เวลาในการทำงานไประยะหนึ่ง ก็คงจะเห็นว่าเรื่องของค่าเงินบาทหรืออัตราดอกเบี้ย และจะเป็นไปในทิศทางใด
สำหรับการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% นั้นถ้าคิดแบบตื้น ๆ หากมีการยกเลิกก็จะทำให้ค่าเงินบาทแข็งขึ้นทันที โดยค่าเงินที่แข็งค่านั้นถือว่าเป็นโจทย์ประเทศอื่นเหมือนกัน เพราะการแข็งค่านั้นเกิดขึ้นกับทุกประเทศในภูมิภาค แต่ถ้าจะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนลงก็จะทำให้คนไทยซื้อน้ำมันในราคาที่แพงขึ้น ก็จะทำให้มีผลกับอัตราเงินเฟ้อได้ ส่วนการประกันเงินฝากนั้น ถือว่ามีการหย่อนความเข้มลงมาระดับหนึ่ง เนื่องจากทางการกลัวว่าจะมีการย้ายเงินฝากอย่างรุนแรง ซึ่งคำจำกัดความในปัจจุบันก็ถือว่าครอบคลุมค่อนข้างมากแล้ว
ส่วนเรื่องของนโยบายประชานิยมนั้น ขณะนี้ยังไม่เห็นตัวนโยบายที่ชัดเจนมีเพียงแต่มีบุคคลมาพูดถึงเท่านั้น จึงต้องรอส่วนที่เป็นนโยบายที่ชัดเจนว่าเป็นอย่างไร แต่นโยบายการใส่เงินนั้นเป็นนโยบายที่เดิมทีก็มีการทำมาตลอดแต่จะต้องดูวิธีและแนวทางในการบริหารความเสี่ยงว่าจะทำอย่างไร เพราะเศรษฐกิจจะเติบโตไปได้ก็ต้องมีการใส่เงินลงไปในระบบอยู่แล้ว
นายบัณฑูร กล่าวอีกว่า ภาคธุรกิจธนาคารพาณิชย์ปีนี้คงยังมีการแข่งขันที่รุนแรง และการทำธุรกิจปีนี้คงยากเพราะตลาดสหรัฐฯมีปัญหาก็อาจจะมีผลต่อกำลังซื้อได้ ซึ่งการแข่งขันที่จะเห็นจะยังมีอยู่ทั้งในส่วนของเงินฝากและเงินกู้ แต่ที่เห็นในตอนนี้จะเป็นในด้านของเงินฝากที่เริ่มมีการแข่งขันมากพอสมควร ขณะที่การแข่งขันของธนาคารต่างชาตินั้นมองว่า 10 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยได้ทำให้เห็นแล้วว่าเป็นตลาดที่ปราบต่างชาติ เพราะไม่เห็นว่าจะอยู่รอดหรือว่ามีการเปลี่ยนโครงสร้างธนาคารในประเทศไทยได้เลย รวมถึงบางรายเมื่อเข้ามาก็ต้องออกไปแล้วก็มีรายใหม่เข้ามา โดยในปัจจุบันโครงสร้างส่วนแบ่งทางการตลาดของธนาคารพาณิชย์ยังคงอยู่เหมือนเดิมทุกอย่าง
ส่วนเป้าหมายของธนาคารกสิกรไทยก็ตั้งเป้าสินเชื่อให้ขยายตัวไปอย่างต่อเนื่องโดยอยู่บนการบริหารความเสี่ยงที่ดี ส่วนสาขาต่างประเทศนั้นขณะนี้มีเหลืออยู่ 2 แห่ง คือสาขาลอสแอนเจลลิสและเซิ่นเจิ้น ซึ่งสาขาเซิ่นเจิ้นนั้นธนาคารจะให้บริการสินเชื่อเอสเอ็มอีเพียงอย่างเดียว เนื่องจากเป็นส่วนที่ธนาคารมีความเชี่ยวชาญ ซึ่งหากประสบผลสำเร็จในสาขานี้ธนาคารก็อาจจะมีการเปิดเพิ่มอีก
"ตอนนี้สาขาต่างประเทศเราเหลือ 2 แห่ง โดยในเซิ่นเจิ้นนั้นเราใช้เวลาในการเปิดถึง 2 ปี และให้จะปล่อยสินเชื่อเพียงอย่างเดียว คือ เอสเอ็มอี เพราะเป็นสิ่งที่เราเข้าใจตลาด ส่วนอื่นไม่อยู่ในวิสัย โดยจะเป็นการทำตลาดร่วมไปกับคู่ค้าของเราที่อยู่ในจีน โดยตลาดที่เราจะเข้าไปถือว่ามีจำนวนมาก แต่ไม่ได้เข้าไปง่าย ๆ โอกาสดีก็มี โอกาสตายก็มี"
กำลังโหลดความคิดเห็น