"ยุทธตู้เย็น"ร้อง กกต. ส่งซีดีที่อ้างว่าเป็นหลักฐานทุจริตให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ มีจัดฉากตัดต่อหรือไม่ ด้าน"โกโบสาก" ช่วยการันตี "ทั่นยุทธ" ไม่ใช้เอกสิทธิสภาคุ้มครอง หากถูก กกต.ชี้มูล ขณะที่เลขา กกต. แจงเสนอ กกต.พิจารณาไม่ตั้งคกก.สอบ"สมชัย" กรณีต้องสงสัยทำสำนวนทุจริตเชียงรายรั่ว เพราะ กกต.ไม่เคยมีการตั้ง คณะกรรมการสอบพวกเดียวกัน พร้อมปัดตอบหาก กกต.เสนอยุบ มฌ.-ชท. ทำอย่างไร เปรียบสถานการณ์เหมือนคนป่วยกำลังฟื้นตัว แต่กลับถามถึงที่เผา ชาติไทยผวาถูกยุบ เรียกร้อง กกต. ใช้หลักรัฐศาสตร์-นิติศาสตร์ พิจารณา ไม่ควรใช้มาตรฐานเดียวกันกับพรรคอื่น
วานนี้ (28 ม.ค.) ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ได้เดินทางมาที่สำนักงานกกต. เพื่อยื่นหนังสือของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ กกต.ส่งหลักฐานวีซีดีทั้ง 8 แผ่น ที่มีการระบุเป็นหลักฐานว่า นายยงยุทธ กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ให้กับ กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีการตัดต่อหรือไม่ โดย ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวว่า ไม่ได้เร่งรัด หรือ กำหนดขอบเขตเวลาว่า กกต.จะต้องรีบส่งไปภายในเมื่อใด แต่หาก กกต. ไม่นำซีดีทั้ง 8 แผ่น ส่งกองพิสูจน์หลักฐาน ตามที่ผู้ร้องร้องขอ ตรงนี้ก็จะเป็นหลักฐานที่จะมีการบันทึกไว้ว่า กกต. ไม่ได้ส่งเรื่องดังกล่าวไป ซึ่งผู้ร้องสามารถนำไปเป็นหลักฐานเพื่อชี้แจงในชั้นศาลได้ แต่ทั้งนี้เชื่อว่า กกต. จะใช้ดุลพินิจ ก่อนส่งซีดีดังกล่าวไปยังกองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริง
"หลังจากที่ นายยงยุทธ ได้เข้าไปดูซีดีของสันติบาล จึงไม่เชื่อมั่นในหลักฐานต่างๆ ที่ปรากฎยู่ในวีซีดี ซึ่งทางสันติบาลกล่าวอ้างว่า เป็นเรื่องจริง แต่ตรงกันข้าม กลับเชื่อว่ามีการตัดต่อ จัดฉาก ดังนั้นหากส่งไปกองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งเป็นองค์กรที่ได้รับความไว้วางใจ และ ผลการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐานก็จะมีน้ำหนัก น่าเชื่อถือ และเมื่อนำไปอ้างในชั้นศาล ก็ถือว่า เป็นหน่วยงานที่เป็นที่ยอมรับตามกฎหมาย ส่วนหากมีคนกล่าวอ้างว่า กองพิสูจน์หลักฐานเชื่อถือไม่ได้นั้น ก็ควรจะยุบกองพิสูจน์หลักฐานไป แล้วควรที่จะเชื่อผลการตรวจสอบของสันติบาล จึงไม่ควรยุบสันติบาล เพราะเขายังมีงานอื่นให้ต้องทำอีกเยอะ"ร.ต.ท.เชาวริน กล่าว
ส่วนความคืบหน้าการให้ปากคำสำนวนสอบสวนพยานฝ่ายนายยงยุทธ ว่ามีทั้งหมด 11 ปาก แต่คณะอนุกรรมการสอบสวนได้สอบปากคำพยานไปแล้ว 9 ปาก เหลือ 2 ปาก ประกอบไปด้วยนางละออง ติยะไพรัช น้องสาวนายยงยุทธ และนายอิทธิเดช แก้วหลวง ทั้ง 2 คนเป็น ส.ส.เชียงราย พรรคพลังประชาชน ที่ถูกร้องคัดค้านในกรณีเดียวกัน ซึ่งที่ผ่านมาที่ทั้ง 2 คนยังไม่เคยได้เดินทางมาชี้แจง เนื่องจากติดภารกิจเรื่องการรายงานตัวเป็น ส.ส.ต่อรัฐสภา ซึ่งในวันที่ 29 ม.ค. เวลา 14.00 น. ทั้ง 2 คน จะเดินทางมาชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการตรวจสอบชุดที่มี นายสุวิทย์ ธีรพงษ์ ประธานอนุกรรมการฯ นอกจากนี้ ตนยืนยันได้ว่านายยงยุทธ จะไม่ขอเอกสิทธิ์ ความเป็น ส.ส. และประธานสภาผู้แทนราษฎร คุ้มครองในกรณีที่ถูก กกต.ชี้มูลว่า กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง
ด้าน นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงการที่นายยงยุทธ จะขอให้ส่งซีดีไปยังกองพิสูจน์หลักฐานว่า ไม่แน่ใจว่า นายเชาวริน ร้องเรียนมาอย่างไร แต่หากนำเสนอเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม กกต.ก็ต้องส่งเรื่องคณะอนุกรรมการ ที่มีนาย สุวิทย์ ธีรพงษ์ เป็นประธานพิจารณาต่อไป
ส่วนกรณีที่ที่สำนักกฎหมาย และคดีของกกต. เสนอความเห็นไม่ควรตั้งคณะกรรมการตรวจสอบนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต. ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย ที่ถูกร้องเรียนว่า อาจเป็นผู้ทำให้สำนวนทุจริตเลือกตั้งเชียงรายรั่วไหล ว่า ทางสำนักกฎหมายและคดีของ กกต.เสนอว่า กกต.ไม่เคยมีธรรมเนียมในการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ กกต.เอง แต่เคยมีการตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเจ้าหน้าที่ ดังนั้นตนจึงได้เสนอเรื่องนี้ให้นาย อภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.เป็นผู้พิจารณา นำความเห็นดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม กกต.เพื่อพิจารณาต่อไป
"ความจริงการเก็บสำนวนการร้องคัดค้าน เป็นหน้าที่ของ กกต. แต่เมื่อสันติบาลอยากจะได้สำนวนคืน ผมก็ให้คืน ก็แปลกใจเหมือนกันว่า ทำไมต้องเก็บคืนไป ทั้งนี้การที่ กกต.ไม่ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบนั้น ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะมี ป.ป.ช. เป็นช่องทางในการตรวจสอบอยู่แล้ว ซึ่ง นายวีระ สมความคิด เลขา คปต. ก็ได้ยื่น ให้ป.ป.ช.ตรวจสอบแล้ว"
นายสุทธิพล ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการที่ปรึกษา กกต. ด้านกิจการพรรคการเมือง ที่มีนายบุญทัน ดอกไธสง เป็นประธาน ได้เสนอเรื่องให้ กกต.พิจารณาส่งเรื่องให้ยุบพรรคมัชฌิมาธิปไตย (มฌ.)ว่า ขณะนี้คณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าวได้สรุปความเห็นในประเด็นข้อกฎหมายมาแล้ว โดยมีการแปรความของ พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. มาตรา 103 ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิด หรือเป็นการกระทำที่ไม่สุจริต เกี่ยวกับการเลือกตั้งหรือไม่ คาดว่าจะสามารถนำเข้าสู่ที่ประชุม กกต. ภายในสัปดาห์นี้ หาก กกต.พิจารณาแล้วเห็นว่า กรรมการบริหารพรรคมีส่วนรู้เห็น ก็จะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา เพื่อยุบพรรคต่อไป
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากรณีการเพิกถอนสิทธิว่าที่ส.ส.ชาติไทย จะมีลักษณะเทียบเคียงกับกรณีว่าที่ ส.สพรรคมัชฌิมาธิปไตย แต่ กกต.ก็ต้องพิจารณาว่า กรรมการบริหารพรรคเกี่ยวข้อง และ มีความผิดอย่างไร ซึ่งยังไม่อยากให้ความเห็นว่า ทั้ง 2 พรรค จะถูกยุบ เพราะยังมีกระบวนการอีกนาน
"ขณะนี้เราได้ผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว มีสภาผู้แทนราษฎร มีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว และเรากำลังจะเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้ง ส.ว. ผมไม่อยากพูดทำให้บรรยากาศการเมืองอยู่ในเชิงลบว่า หากพรรคโดนยุบแล้วต้องทำอย่างไร เพราะถ้าพูดแบบนั้น ก็เหมือนคนกำลังป่วยแล้วเราไปถามว่าจะเผาที่ไหน คนกำลังจะฟื้น ดังนั้นจะต้องทำให้สุขภาพแข็งแรงก่อน ไม่ควรถามหาวัดก่อน เราต้องมองไปข้างหน้า และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย โดยยืนยันว่า การพิจารณาของ กกต. จะไม่นำประเด็นทางการเมืองมาพิจารณาร่วมด้วยอย่างแน่นอน”
สำหรับความคืบหน้าในการรับรอง ส.ส.ที่ได้รับเลือกจากการเลือกตั้งใน จ.ปราจีนบุรี และจ.ชัยนาท ว่า ขณะนี้กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง ได้รับรายงานแล้ว โดย กกต.จะมีการประชุมในวันนี้ ( 29 ม.ค.) ซึ่งก็จะนำเข้าพิจารณาและคาดว่า กกต.จะใช้มาตรฐานเดียวกันคือ ประกาศรับรองผลไปก่อน
อนุฯ สอบนอมินี ทรท.เร่งสรุปสำนวน
นายไพฑูรย์ เนติพงษ์ ประธานอนุกรรมการสอบสวนกรณีพรรคพลังประชาชน เป็นนอมินีพรรคไทยรักไทย เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการ ไม่สามารถผลการสอบเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ได้ทันตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ เนื่องจากที่ประชุมเห็นว่า เพื่อความเป็นธรรมและเป็นกลาง จำเป็นต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติมของฝ่ายผู้ถูกร้อง ทั้งนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน และว่าที่ นายกรัฐมนตรี นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน รวมถึงกรรมการบริหารพรรคอีก 2-3 คน เพื่อมาให้ข้อมูลถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งจากเดิมนัดให้บุคคลดังกล่าวมาชี้แจงภายในสัปดาห์นี้ แต่ทั้งหมดขอเลื่อนเป็นสัปดาห์หน้าแทน เนื่องจากติดภารกิจที่รัฐสภา โดยนายสมัครและบุคคลอื่น ยืนยันว่าจะเดินทางเข้าชี้แจงในวันที่ 5 - 9 กุมภาพันธ์
อย่างไรก็ตาม นายไพฑูรย์ กล่าวว่า หลังจากสอบปากคำพยานเพิ่มเติมทั้งหมดแล้ว คณะอนุกรรมการจะสรุปสำนวนให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ ก่อนเสนอให้ที่ประชุม กกต.พิจารณาต่อไป
"ชาติไทย"ผวาถูกยุบพรรค
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีที่ กกต.เตรียมพิจารณายุบพรรคชาติไทย หลังจากที่นายมณเฑียร สงฆ์ประชา กรรมการบริหารพรรคชาติไทย ถูกใบแดงที่ จ.ชัยนาท ว่า การพิจารณาเรื่องยุบพรรค ถือเป็นเรื่องใหญ่ ละเอียดอ่อน และสำคัญมากสำหรับนักการเมืองและนักการเมือง เพราะฉะนั้นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยต้องใช้ทั้งหลักรัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ ไม่อยากมองการกระทำของพรรคใดพรรคหนึ่งเป็นบรรทัดฐานสำหรับพรรคการเมืองอีกพรรคหนึ่ง เพราะต่างกรรม ต่างวาระกัน แต่ละพรรคดำเนินกิจกรรมทางการเมืองที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุก ๆ ฝ่าย เช่นเดียวกันการพิจารณาในกระบวนการยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า กกต.มีข้อมูล แต่ขณะเดียวกันพรรคการเมืองก็มีข้อมูลที่จะชี้แจงเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียด อย่าใช้อารมณ์ความรู้สึกมาตัดสินเพราะจะเกิดผลเสียได้
วานนี้ (28 ม.ค.) ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ได้เดินทางมาที่สำนักงานกกต. เพื่อยื่นหนังสือของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ กกต.ส่งหลักฐานวีซีดีทั้ง 8 แผ่น ที่มีการระบุเป็นหลักฐานว่า นายยงยุทธ กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ให้กับ กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีการตัดต่อหรือไม่ โดย ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวว่า ไม่ได้เร่งรัด หรือ กำหนดขอบเขตเวลาว่า กกต.จะต้องรีบส่งไปภายในเมื่อใด แต่หาก กกต. ไม่นำซีดีทั้ง 8 แผ่น ส่งกองพิสูจน์หลักฐาน ตามที่ผู้ร้องร้องขอ ตรงนี้ก็จะเป็นหลักฐานที่จะมีการบันทึกไว้ว่า กกต. ไม่ได้ส่งเรื่องดังกล่าวไป ซึ่งผู้ร้องสามารถนำไปเป็นหลักฐานเพื่อชี้แจงในชั้นศาลได้ แต่ทั้งนี้เชื่อว่า กกต. จะใช้ดุลพินิจ ก่อนส่งซีดีดังกล่าวไปยังกองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริง
"หลังจากที่ นายยงยุทธ ได้เข้าไปดูซีดีของสันติบาล จึงไม่เชื่อมั่นในหลักฐานต่างๆ ที่ปรากฎยู่ในวีซีดี ซึ่งทางสันติบาลกล่าวอ้างว่า เป็นเรื่องจริง แต่ตรงกันข้าม กลับเชื่อว่ามีการตัดต่อ จัดฉาก ดังนั้นหากส่งไปกองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งเป็นองค์กรที่ได้รับความไว้วางใจ และ ผลการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐานก็จะมีน้ำหนัก น่าเชื่อถือ และเมื่อนำไปอ้างในชั้นศาล ก็ถือว่า เป็นหน่วยงานที่เป็นที่ยอมรับตามกฎหมาย ส่วนหากมีคนกล่าวอ้างว่า กองพิสูจน์หลักฐานเชื่อถือไม่ได้นั้น ก็ควรจะยุบกองพิสูจน์หลักฐานไป แล้วควรที่จะเชื่อผลการตรวจสอบของสันติบาล จึงไม่ควรยุบสันติบาล เพราะเขายังมีงานอื่นให้ต้องทำอีกเยอะ"ร.ต.ท.เชาวริน กล่าว
ส่วนความคืบหน้าการให้ปากคำสำนวนสอบสวนพยานฝ่ายนายยงยุทธ ว่ามีทั้งหมด 11 ปาก แต่คณะอนุกรรมการสอบสวนได้สอบปากคำพยานไปแล้ว 9 ปาก เหลือ 2 ปาก ประกอบไปด้วยนางละออง ติยะไพรัช น้องสาวนายยงยุทธ และนายอิทธิเดช แก้วหลวง ทั้ง 2 คนเป็น ส.ส.เชียงราย พรรคพลังประชาชน ที่ถูกร้องคัดค้านในกรณีเดียวกัน ซึ่งที่ผ่านมาที่ทั้ง 2 คนยังไม่เคยได้เดินทางมาชี้แจง เนื่องจากติดภารกิจเรื่องการรายงานตัวเป็น ส.ส.ต่อรัฐสภา ซึ่งในวันที่ 29 ม.ค. เวลา 14.00 น. ทั้ง 2 คน จะเดินทางมาชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการตรวจสอบชุดที่มี นายสุวิทย์ ธีรพงษ์ ประธานอนุกรรมการฯ นอกจากนี้ ตนยืนยันได้ว่านายยงยุทธ จะไม่ขอเอกสิทธิ์ ความเป็น ส.ส. และประธานสภาผู้แทนราษฎร คุ้มครองในกรณีที่ถูก กกต.ชี้มูลว่า กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง
ด้าน นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงการที่นายยงยุทธ จะขอให้ส่งซีดีไปยังกองพิสูจน์หลักฐานว่า ไม่แน่ใจว่า นายเชาวริน ร้องเรียนมาอย่างไร แต่หากนำเสนอเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม กกต.ก็ต้องส่งเรื่องคณะอนุกรรมการ ที่มีนาย สุวิทย์ ธีรพงษ์ เป็นประธานพิจารณาต่อไป
ส่วนกรณีที่ที่สำนักกฎหมาย และคดีของกกต. เสนอความเห็นไม่ควรตั้งคณะกรรมการตรวจสอบนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต. ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย ที่ถูกร้องเรียนว่า อาจเป็นผู้ทำให้สำนวนทุจริตเลือกตั้งเชียงรายรั่วไหล ว่า ทางสำนักกฎหมายและคดีของ กกต.เสนอว่า กกต.ไม่เคยมีธรรมเนียมในการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ กกต.เอง แต่เคยมีการตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเจ้าหน้าที่ ดังนั้นตนจึงได้เสนอเรื่องนี้ให้นาย อภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.เป็นผู้พิจารณา นำความเห็นดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม กกต.เพื่อพิจารณาต่อไป
"ความจริงการเก็บสำนวนการร้องคัดค้าน เป็นหน้าที่ของ กกต. แต่เมื่อสันติบาลอยากจะได้สำนวนคืน ผมก็ให้คืน ก็แปลกใจเหมือนกันว่า ทำไมต้องเก็บคืนไป ทั้งนี้การที่ กกต.ไม่ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบนั้น ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะมี ป.ป.ช. เป็นช่องทางในการตรวจสอบอยู่แล้ว ซึ่ง นายวีระ สมความคิด เลขา คปต. ก็ได้ยื่น ให้ป.ป.ช.ตรวจสอบแล้ว"
นายสุทธิพล ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการที่ปรึกษา กกต. ด้านกิจการพรรคการเมือง ที่มีนายบุญทัน ดอกไธสง เป็นประธาน ได้เสนอเรื่องให้ กกต.พิจารณาส่งเรื่องให้ยุบพรรคมัชฌิมาธิปไตย (มฌ.)ว่า ขณะนี้คณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าวได้สรุปความเห็นในประเด็นข้อกฎหมายมาแล้ว โดยมีการแปรความของ พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. มาตรา 103 ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิด หรือเป็นการกระทำที่ไม่สุจริต เกี่ยวกับการเลือกตั้งหรือไม่ คาดว่าจะสามารถนำเข้าสู่ที่ประชุม กกต. ภายในสัปดาห์นี้ หาก กกต.พิจารณาแล้วเห็นว่า กรรมการบริหารพรรคมีส่วนรู้เห็น ก็จะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา เพื่อยุบพรรคต่อไป
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากรณีการเพิกถอนสิทธิว่าที่ส.ส.ชาติไทย จะมีลักษณะเทียบเคียงกับกรณีว่าที่ ส.สพรรคมัชฌิมาธิปไตย แต่ กกต.ก็ต้องพิจารณาว่า กรรมการบริหารพรรคเกี่ยวข้อง และ มีความผิดอย่างไร ซึ่งยังไม่อยากให้ความเห็นว่า ทั้ง 2 พรรค จะถูกยุบ เพราะยังมีกระบวนการอีกนาน
"ขณะนี้เราได้ผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว มีสภาผู้แทนราษฎร มีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว และเรากำลังจะเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้ง ส.ว. ผมไม่อยากพูดทำให้บรรยากาศการเมืองอยู่ในเชิงลบว่า หากพรรคโดนยุบแล้วต้องทำอย่างไร เพราะถ้าพูดแบบนั้น ก็เหมือนคนกำลังป่วยแล้วเราไปถามว่าจะเผาที่ไหน คนกำลังจะฟื้น ดังนั้นจะต้องทำให้สุขภาพแข็งแรงก่อน ไม่ควรถามหาวัดก่อน เราต้องมองไปข้างหน้า และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย โดยยืนยันว่า การพิจารณาของ กกต. จะไม่นำประเด็นทางการเมืองมาพิจารณาร่วมด้วยอย่างแน่นอน”
สำหรับความคืบหน้าในการรับรอง ส.ส.ที่ได้รับเลือกจากการเลือกตั้งใน จ.ปราจีนบุรี และจ.ชัยนาท ว่า ขณะนี้กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง ได้รับรายงานแล้ว โดย กกต.จะมีการประชุมในวันนี้ ( 29 ม.ค.) ซึ่งก็จะนำเข้าพิจารณาและคาดว่า กกต.จะใช้มาตรฐานเดียวกันคือ ประกาศรับรองผลไปก่อน
อนุฯ สอบนอมินี ทรท.เร่งสรุปสำนวน
นายไพฑูรย์ เนติพงษ์ ประธานอนุกรรมการสอบสวนกรณีพรรคพลังประชาชน เป็นนอมินีพรรคไทยรักไทย เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการ ไม่สามารถผลการสอบเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ได้ทันตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ เนื่องจากที่ประชุมเห็นว่า เพื่อความเป็นธรรมและเป็นกลาง จำเป็นต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติมของฝ่ายผู้ถูกร้อง ทั้งนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน และว่าที่ นายกรัฐมนตรี นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน รวมถึงกรรมการบริหารพรรคอีก 2-3 คน เพื่อมาให้ข้อมูลถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งจากเดิมนัดให้บุคคลดังกล่าวมาชี้แจงภายในสัปดาห์นี้ แต่ทั้งหมดขอเลื่อนเป็นสัปดาห์หน้าแทน เนื่องจากติดภารกิจที่รัฐสภา โดยนายสมัครและบุคคลอื่น ยืนยันว่าจะเดินทางเข้าชี้แจงในวันที่ 5 - 9 กุมภาพันธ์
อย่างไรก็ตาม นายไพฑูรย์ กล่าวว่า หลังจากสอบปากคำพยานเพิ่มเติมทั้งหมดแล้ว คณะอนุกรรมการจะสรุปสำนวนให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ ก่อนเสนอให้ที่ประชุม กกต.พิจารณาต่อไป
"ชาติไทย"ผวาถูกยุบพรรค
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีที่ กกต.เตรียมพิจารณายุบพรรคชาติไทย หลังจากที่นายมณเฑียร สงฆ์ประชา กรรมการบริหารพรรคชาติไทย ถูกใบแดงที่ จ.ชัยนาท ว่า การพิจารณาเรื่องยุบพรรค ถือเป็นเรื่องใหญ่ ละเอียดอ่อน และสำคัญมากสำหรับนักการเมืองและนักการเมือง เพราะฉะนั้นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยต้องใช้ทั้งหลักรัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ ไม่อยากมองการกระทำของพรรคใดพรรคหนึ่งเป็นบรรทัดฐานสำหรับพรรคการเมืองอีกพรรคหนึ่ง เพราะต่างกรรม ต่างวาระกัน แต่ละพรรคดำเนินกิจกรรมทางการเมืองที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุก ๆ ฝ่าย เช่นเดียวกันการพิจารณาในกระบวนการยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า กกต.มีข้อมูล แต่ขณะเดียวกันพรรคการเมืองก็มีข้อมูลที่จะชี้แจงเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียด อย่าใช้อารมณ์ความรู้สึกมาตัดสินเพราะจะเกิดผลเสียได้
