ศูนย์ข่าวภูเก็ต -กลุ่มทุนจากลาสเวกัส สหรัฐฯ “HARRAH’S ENTERTAINMENT” เจ้าของ Caesars Palace สนใจลงทุนศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าพร้อมโรงแรม ที่ภูเก็ต เตรียมเสนอแผนลงทุนในอีก 1-2 เดือนข้างหน้านี้
นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังจากตัวแทนระดับผู้บริหารกลุ่มทุนจากสหรัฐอเมริกา “HARRAH’S ENTERTAINMENT” เจ้าของ Caesars Palace เข้าพบ ว่า กลุ่มทุนดังกล่าวสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในจังหวัดภูเก็ต โดยขอทราบข้อมูลและนโยบายในการส่งเสริมการลงทุนขนาดใหญ่ของจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะโครงการศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติภูเก็ต ซึ่งขณะนี้จังหวัดได้คัดเลือกพื้นที่ในการก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว คือ บริเวณที่ราชพัสดุแปลง 153 ท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาว อ.ถลาง เนื้อที่ประมาณ 150 ไร่ และได้มอบหมายให้กรมธนารักษ์ดำเนินการต่อในแง่ของการลงทุน เพราะเรื่องดังกล่าวถือเป็นนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของจังหวัด
“เนื่องจากขั้นตอนในการดำเนินการระดับจังหวัดได้เสร็จสิ้นตามนโยบายที่วางไว้ ขณะนี้ขั้นตอนอยู่ที่กรมธนารักษ์ในการดำเนินการ เพื่อหาผู้มาลงทุนเนื่องจากเป็นเจ้าของพื้นที่ ซึ่งจะมีบริษัท ธนารักษ์พัฒนา จำกัด ดูแลในเรื่องนี้ ก็ได้แนะนำให้เข้าไปพูดคุยกับกรมธนารักษ์เพื่อความชัดเจนของข้อมูล”
นายวรพจน์ กล่าวว่า เหตุที่กลุ่มดังกล่าวสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในภูเก็ต เนื่องจากเห็นศักยภาพความเป็นเมืองท่องเที่ยว ประกอบกับขณะนี้จังหวัดมีโครงการเมกะโปรเจกต์ ที่เชิญชวนให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุน ซึ่งกลุ่มดังกล่าวมองว่าเขามีความสามารถที่จะเข้ามาลงทุนได้ และปัจจุบันในส่วนของ Caesars Palace ซึ่งตั้งอยู่ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไปใช้บริการปีละกว่า 100 ล้านคน ทำให้สามารถที่จะกระจายนักท่องเที่ยวมายังภูเก็ตได้หากได้มีการลงทุนในโครงการดังกล่าว เพราะนอกจากศูนย์ประชุมฯแล้วกลุ่มทุนดังกล่าวจะลงทุนในส่วนของโรงแรมและเอนเตอร์เทนเมนต์ต่างๆภายในโครงการด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มนักลงทุนดังกล่าวให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยอีกหลายแห่ง ซึ่งเป็นหัวเมืองสำคัญๆ และมีศักยภาพในการลงทุนด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เช่น กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เชียงใหม่ เป็นต้น ด้วยมองว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งทำให้เกิดความมั่นใจมากยิ่งขึ้น รวมถึงศักยภาพของทางกลุ่มนักลงทุนเอง ซึ่งปัจจุบันมีโรงแรมอยู่ทั่วโลกประมาณ 50 โรง มีจำนวนห้องพักประมาณ 40,000 ห้อง
ทั้งนี้หลังจากรับทราบข้อมูลแล้วจะใช้เวลาอีกประมาณ 1-2 เดือน ในการจัดทำรายละเอียดและรูปแบบของการลงทุนเพื่อนำกลับมาเสนอต่อจังหวัดอีกครั้งหนึ่ง
นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังจากตัวแทนระดับผู้บริหารกลุ่มทุนจากสหรัฐอเมริกา “HARRAH’S ENTERTAINMENT” เจ้าของ Caesars Palace เข้าพบ ว่า กลุ่มทุนดังกล่าวสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในจังหวัดภูเก็ต โดยขอทราบข้อมูลและนโยบายในการส่งเสริมการลงทุนขนาดใหญ่ของจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะโครงการศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติภูเก็ต ซึ่งขณะนี้จังหวัดได้คัดเลือกพื้นที่ในการก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว คือ บริเวณที่ราชพัสดุแปลง 153 ท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาว อ.ถลาง เนื้อที่ประมาณ 150 ไร่ และได้มอบหมายให้กรมธนารักษ์ดำเนินการต่อในแง่ของการลงทุน เพราะเรื่องดังกล่าวถือเป็นนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของจังหวัด
“เนื่องจากขั้นตอนในการดำเนินการระดับจังหวัดได้เสร็จสิ้นตามนโยบายที่วางไว้ ขณะนี้ขั้นตอนอยู่ที่กรมธนารักษ์ในการดำเนินการ เพื่อหาผู้มาลงทุนเนื่องจากเป็นเจ้าของพื้นที่ ซึ่งจะมีบริษัท ธนารักษ์พัฒนา จำกัด ดูแลในเรื่องนี้ ก็ได้แนะนำให้เข้าไปพูดคุยกับกรมธนารักษ์เพื่อความชัดเจนของข้อมูล”
นายวรพจน์ กล่าวว่า เหตุที่กลุ่มดังกล่าวสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในภูเก็ต เนื่องจากเห็นศักยภาพความเป็นเมืองท่องเที่ยว ประกอบกับขณะนี้จังหวัดมีโครงการเมกะโปรเจกต์ ที่เชิญชวนให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุน ซึ่งกลุ่มดังกล่าวมองว่าเขามีความสามารถที่จะเข้ามาลงทุนได้ และปัจจุบันในส่วนของ Caesars Palace ซึ่งตั้งอยู่ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไปใช้บริการปีละกว่า 100 ล้านคน ทำให้สามารถที่จะกระจายนักท่องเที่ยวมายังภูเก็ตได้หากได้มีการลงทุนในโครงการดังกล่าว เพราะนอกจากศูนย์ประชุมฯแล้วกลุ่มทุนดังกล่าวจะลงทุนในส่วนของโรงแรมและเอนเตอร์เทนเมนต์ต่างๆภายในโครงการด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มนักลงทุนดังกล่าวให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยอีกหลายแห่ง ซึ่งเป็นหัวเมืองสำคัญๆ และมีศักยภาพในการลงทุนด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เช่น กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เชียงใหม่ เป็นต้น ด้วยมองว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งทำให้เกิดความมั่นใจมากยิ่งขึ้น รวมถึงศักยภาพของทางกลุ่มนักลงทุนเอง ซึ่งปัจจุบันมีโรงแรมอยู่ทั่วโลกประมาณ 50 โรง มีจำนวนห้องพักประมาณ 40,000 ห้อง
ทั้งนี้หลังจากรับทราบข้อมูลแล้วจะใช้เวลาอีกประมาณ 1-2 เดือน ในการจัดทำรายละเอียดและรูปแบบของการลงทุนเพื่อนำกลับมาเสนอต่อจังหวัดอีกครั้งหนึ่ง