xs
xsm
sm
md
lg

ฤา...ทุนนิยมสามานย์จะครองไทย (ตอนหนึ่ง)

เผยแพร่:   โดย: เชี่ยวชวนะ

วันนี้..ไม่ว่าใครในพรรคพลังประชาชน จะได้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร และเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยก็ตาม ไม่ได้นำมาซึ่งปัญหาน่าปริวิตกใดๆ สำหรับภาคประชาชนเลย

แต่วันนี้มีเรื่องน่าสนใจสำหรับคอการเมืองมากกว่า เมื่อประดากลุ่มฝ่ายซ้ายทั้งสนับสนุนและต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในประเทศไทย ต่างมีข้อสรุปตรงกันแล้วว่า

ระบอบศักดินา-อมาตยาธิปไตย ได้พ่ายแพ้ต่อระบอบทุนนิยมสามานย์ ที่ใช้เงินขับเคลื่อนไพร่พลกลับเข้ามายึดครองอำนาจรัฐอีกครั้ง ด้วยการชนะเลือกตั้งอย่างท่วมท้น ในนามพรรคนอมินีพลังประชาชนโดยสิ้นเชิงแล้ว

หลังรัฐบาลทักษิณถูกรัฐประหาร แทนที่คณะทหารในฐานะตัวแทนของอมาตยาธิปไตย จะดำเนินการปกครองและปฏิรูปประเทศให้เข้มแข็ง ส่งเสริมให้ประชาชนอยู่ดีกินดี แต่การณ์กลับตรงกันข้าม กลุ่มศักดินา-อมาตยาธิปไตยกลับเล่นการเมือง 2 หน้า

หน้าหนึ่ง..จงใจใช้กลเม็ดอ่อนแอประนีประนอม-ปรองดอง-สมานฉันท์ ฯลฯ กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยตั้งนายกรัฐมนตรีที่หน่อมแน้ม แอบเจรจาต้าอ่วย-เกี้ยเซี้ยกับทักษิณทั้งลับและเปิดเผยสารพัด วางเฉยเข้าเกียร์ว่าง บางครายังเข้าเกียร์ถอยหลัง จนข้าราชการไม่ให้ความร่วมมือจัดการกับคดีคอร์รัปชันโกงกิน ในโครงการประชานิยมยันโครงการเชิงนโยบายอย่างโจ๋งครึ่ม ของทักษิณตลอดห้วงที่เป็นรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง

นายกรัฐมนตรีจากอดีตองคมนตรีและนายทหารหน่วยรบพิเศษ และคณะรัฐมนตรีที่อ่อนแอได้บริหารประเทศแบบไม่ได้เรื่องในทุกด้าน โดยเฉพาะการเมืองและเศรษฐกิจนั้น ถือได้ว่ารัฐบาลนี้ บริหารประเทศย่ำแย่ที่สุดเป็นประวัติการณ์เลยทีเดียว

ที่สำคัญรัฐบาลสุรยุทธ์ไม่ได้ใช้สื่อของรัฐ อรรถาธิบายให้ประชาชนได้รับรู้ และเข้าใจถึงความเลวร้ายของรัฐบาลทักษิณในเรื่องต่างๆ จนประชาชนเรือนแสนเรือนล้าน ต้องออกมาเดินขบวนขับไล่รัฐบาลทักษิณอย่างต่อเนื่องนับปี ลงท้าย..ทหารก็เข้ามารัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลทุนนิยมสามานย์ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549

หน้าสอง..ต่อภาคประชาชนที่ต่อสู้ขับเคี่ยวกับรัฐบาลทักษิณ และพิทักษ์ปกป้องสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย คณะทหารที่รัฐประหารและรัฐบาลสุรยุทธ์กลับเมินเฉย กระทั่งแทบจะเป็นคู่อริกันทางการเมืองด้วยซ้ำไป ดีที่ภาคประชาชนไหวทัน ทุกอย่างจึงผ่านพ้นไปโดยไม่เกิดการทำร้ายกันทางการเมือง ระหว่างรัฐบาลสุรยุทธ์กับขบวนการประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่เคยต่อสู้กับรัฐบาลทักษิณมาก่อน

ดังนั้น..การบริหารงานอันอ่อนแออย่างจงใจของรัฐบาลสุรยุทธ์ จึงไร้ทั้งการปฏิรูปการเมืองและสื่อสารมวลชน ไร้ซึ่งผลงานทางเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนรากหญ้าในชนบทและชนชั้นกลางไม่น้อย เกิดการเปรียบเทียบผลงานและหวนคิดถึงรัฐบาลทักษิณ ที่ฝีมือเหนือชั้นกว่าอย่างเทียบไม่ติด

แต่น่าแปลกใจที่นายกฯ สุรยุทธ์ ก็ไม่เคยคิดจะแก้ไขหรือปรับปรุงผลงานของตนแม้แต่น้อย แถมยังกลับเร่งกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปให้เร็วขึ้น ยังความได้เปรียบทางการเมืองต่อพรรคพลังประชาชน ที่มีทั้งเงินทองและอดีต ส.ส.มากกว่าพรรคอื่นในสนามเลือกตั้ง

เท่านั้นไม่พอ..แม้นตุลาการรัฐธรรมนูญ จะได้ตัดสินพิพากษายุบพรรคไทยรักไทย และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคทั้ง 111 คน มิให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ในข้อหามีการกระทำอันเป็นอันตรายร้ายแรงต่อระบอบปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแล้ว

ทว่า..รัฐบาลสุรยุทธ์และ กกต. 5 คน ที่มีหน้าที่ทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม กลับเอาหูไปนา-เอาตาไร่ ปล่อยให้ทักษิณประกาศตั้งพรรคนอมินี อัดภาพและเสียงด้วยตนเองจากประเทศอังกฤษ เรียกร้องให้ประชาชนภาคเหนือและอีสาน เลือกพรรคนอมินีพลังประชาชนของตนอย่างโจ๋งครึ่ม วีซีดีของทักษิณดังถูกแจกจ่ายไปทั่วนับล้านๆ แผ่นอย่างเปิดเผย

แต่รัฐบาลสุรยุทธ์ กกต.ใหญ่ทั้ง 5 คนและแทบทุกองค์กรของรัฐ กลับนอนไม่รู้- คู้ไม่เห็น ปล่อยให้พรรคพลังประชาชนกระทำผิดกฎหมายซึ่งๆ หน้า เป็นการเอาเปรียบพรรคอื่นๆ ในสนามเลือกตั้งอย่างน่าเกลียด

เมื่อผู้รักษากฎหมายอย่าง กกต.และรัฐบาลเพิกเฉย กระทั่งองค์กร กกต.ไม่คิดจะปรามบรรดาผู้สมัคร ส.ส.ที่ละเมิดกฎหมาย ด้วยการแจกใบเหลืองใบแดงก่อนการเลือกตั้ง การละเมิดกฎหมายก็ยิ่งทวีความเลวร้ายยิ่งขึ้นไปอีก

ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชาชนบางคนถึงกับเดินทางไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่อแจกวีซีดีทักษิณ โดยพรรคพลังประชาชนที่ได้ประโยชน์จากการกระทำนี้โดยตรง ไม่มีการลงโทษหรือขับผู้สมัคร ส.ส.รายดังกล่าวออกจากพรรค ใช้แต่เพียงข้ออ้างว่า ไม่เกี่ยวกับพรรค..เป็นการกระทำโดยส่วนตัวของผู้สมัคร ส.ส.คนดังกล่าวเท่านั้น???

น่าแปลกและออกจะผิดปกติวิสัยที่ กกต.ใหญ่ 5 คนในส่วนกลาง ซึ่งมาจากนักกฎหมายมือฉมัง กลับวางเฉยไม่ยินดียินร้ายกับการละเมิดกฎหมายอย่างโจ่งแจ้ง

การแย่งอำนาจรัฐกลับสู่กำมืออีกครั้ง ของกลุ่มทุนนิยมสามานย์ครั้งนี้ ต้องต่อกรกับ คมช.บางคน ต้องต่อสู้กับพลพรรคไทยรักไทยเดิม ที่แตกตัวออกมาและลงแข่งในสนามเลือกตั้ง ทักษิณจึงต้องใช้อำนาจทุกชนิด เพื่อเอาชนะใจผู้คนในชนบทและเมืองบางส่วน เอาชนะผู้คนในระบบที่เกี่ยวข้องกับการกำกับ และให้คุณให้โทษต่อการเลือกตั้งอย่างเต็มกำลัง

หลังการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 กกต.ใหญ่ยังกระทำราวการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ แทบจะไร้ซึ่งปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง กลายเป็นการเลือกตั้งที่ดูจะบริสุทธิ์ยุติธรรมมากกว่าครั้งใดๆ ถึงขนาด กกต.ใหญ่บางคนออกมาพูดในทำนองว่า

การเลือกตั้งเรียบร้อย..ถือเป็นการปักธงประชาธิปไตยแล้ว กกต.จะรับรอง ส.ส.ไปก่อน เพื่อเปิดสภาฯ ให้ได้..จากนั้นค่อยสอยตามหลัง ฯลฯ กระทั่ง กกต.ที่ดูแลการสืบสวนสอบสวน ได้ยกคำร้องนับพันเรื่องในข้อครหาเลือกตั้งสกปรกอย่างรวดเร็วผิดปกติ หลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไปแค่ไม่กี่วัน

เมื่อสันติบาลที่ กกต.กลางตั้งให้สืบสวนสอบสวน และขึ้นตรงต่อ กกต.กลางเอง ได้นำเรื่องร้องเรียนและหลักฐานนับร้อยเรื่องเข้าเสนอต่อ กกต.กลาง กลับมี กกต.ใหญ่อย่างน้อย 2 คน ที่ภริยาทำงานอยู่ในกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเจ๊..สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เคยเป็น รมต. แสดงอาการไม่พอใจอย่างออกนอกหน้า แถม กกต.ใหญ่คนหนึ่งยังหอบเอกสารลับ หรือสำนวนสอบสวนนายยงยุทธ ติยะไพรัช ของสันติบาล ออกไปจากห้องประชุมอย่างดื้อๆ อีกด้วย

พฤติกรรมของ กกต.ที่พิลึกๆ ยังมีอีกเยอะ กรณีนักการเมืองใหญ่จากเชียงราย มี ส.ส.บัญชีรายชื่อคนดังอย่างยงยุทธ ติยะไพรัช ติดร่างแห และอาจลามไปถึงขั้นยุบพรรคนั้น หลักฐานของสันติบาลเล่นเอา กกต.จอมใบขาวใบเหลืองบางคนมึนตึ๊บ

หากนักการเมืองใหญ่เชียงรายผิดล่ะก็ยุ่งแน่ เพราะหนึ่งใน ส.ส.บัญชีรายชื่อคนสำคัญ เป็นสามีของ “เจ๊แดง” และเทียบชั้นนายกรัฐมนตรีแทนนายสมัคร สุนทรเวช ได้เลย นี่เป็นปัญหาของ กกต.ที่เจองานกระดูกชิ้นโตครับ

ขืน กกต.ปล่อยสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ดูตาม้าตาเรือ อาจติดคุกติดตะรางเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูลได้เลย เพราะหลักฐานของสันติบาล พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล นั้นเจ๋งเป้ง จน กกต.กลางต้องตั้งกรรมการซ้อนขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง เพื่อหาทางออกที่ดีและปลอดภัยที่สุดสำหรับใบขาว

การณ์อันลงโทษได้ด้วยกฎหมาย..อันควรเชื่อได้..เลยกลายเป็นเรื่องอุตลุด กกต.บางคนพยายามจะหาหลักฐานโน่นนี่ราวกับคดีอาญา ที่เอาเป็นเอาตายประหารชีวิตนักโทษกันเลยทีเดียว

การกระทำพิลึกกึกกือแปลกๆ เรื่องที่ควรรีบทำแต่ไม่ทำ เรื่องที่ไม่ควรรีบทำดันรีบทำ จนตอบคำถามสังคมไม่แจ้งกระจ่างใจของ กกต.ใหญ่บางคน ทำให้ผู้คนอดคิดไม่ได้ว่า..กกต.ใหญ่บางคน ไปกินอะไรพิเศษจนเกิดอาการผิดสำแดงเข้าหรือเปล่า?

ระวังนะครับ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน ยุคทักษิณเรืองอำนาจสุดๆ กกต.ตำรวจใหญ่อย่าง “วาสนา” และพวกยังติดคุกได้เลย

มาถึงตรงนี้..คงต้องติดตามตอนสอง ฤา..ทุนนิยมสามานย์จะครองไทยครับ..???
กำลังโหลดความคิดเห็น