พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงย้ำให้ ส.ส.ใหม่ปรองดอง ยึดเหตุผลคำนึงถึงประโยชน์และความมั่นคงของชาติ ประชาชนในการทำหน้าที่ ในสภา ด้าน พปช.ลงมติให้ "ยุทธ ตู้เย็น" นั่งประธานสภาฯ "สมศักดิ์-อภิวันท์" รองประธานฯ เตรียมเสนอเข้าที่ประชุมวันนี้ ขณะที่ ปชป.ส่ง "บัญญัติ" ลงสู้ เจ้าตัวห่วง ภาพลั กษณ์และความเป็นกลาง "แบม-จณิสตา" รองโฆษกฯ ส่วน "สมัคร" ไม่หนักใจโหวตเลือกนายกฯ สัปดาห์นี้จบ "หมอเลี้ยบ" พร้อมนั่ง รมว.คลัง ประธาน กกต.ห่วงหัวหน้า มฌ.ยังไม่ชัดอาจมีผลต่อการร่วมรัฐบาล
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงพระกรุณาโปรด เกล้าฯให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฏราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนิน ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในงานรัฐพิธี ประกอบไปด้วยบุคคลสำคัญต่าง ๆอาทิ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี ประธาน คมช. ประธานศาลฏีกา ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คณะรัฐมนตรี คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ คณะทูตานุทูต และปลัดกระทรวงต่างๆ เฝ้ารับเสด็จ
จากนั้นเวลา 16.30 น. วานนี้ (21 ม.ค.) สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ได้เสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต ทรงยืนหน้าพระแท่นนพปฏลมหาเศวตฉัตร มหาดเล็กรัวกรับ ชาวม่านไขพระวิสูตร ชาวพนักงานประโคมกระทั่งแตร มโหระทึก ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรเสริญพระบารมีเมื่อสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมารในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสเปิดประชุมรัฐสภาความว่า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ข้าพเจ้าปฎิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์มาเป็นประธาน การเรียกประชุมรัฐสภาครั้งนี้นับเป็นนิมิตรหมายของการเริ่มต้นที่ดี ของการปกครองระบอบประชาธิปไตยของประเทศเรา นับแต่วาระนี้ไปรัฐสภาจะเป็นผู้ใช้อำนาจนิติบัญญัติสมบูรณ์ตามรัฐธรรมนูญ
ข้าพเจ้าเชื่อใจว่าบรรดาสมาชิกแห่งสภานี้มีความสำนึกในชาติอยู่ถ้วนทั่วทุกคน และต่างเล็งเห็นว่าสถานการณ์ต่างๆอันเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติยังคงมีอยู่ตามที่ทราบกันแล้ว ภารกิจของท่านจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ที่จะต้องรีบเร่งพิจารณาดำเนินการ เพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพทุกๆ ด้านให้ประเทศชาติมีปึกแผ่นมั่นคงเป็นปกติสุข
ดังนั้นการปรึกษาตกลงหรือการอภิปรายปัญหาใดๆ ที่จะมีขึ้นในสภาแห่งนี้ จึงควรจะได้กระทำด้วยเหตุ ด้วยผลที่ถูกต้อง และด้วยความร่วมมือปรองดองกัน โดยคำนึงถึงประโยชน์อันพึ่งประสงค์คือความมั่นคง ปลอดภัย และความวัฒนาผาสุกของประเทศชาติและประชาชนเป็นเป้าหมายสูงสุด
ได้เวลาอันเป็นมงคลแล้วในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯข้าพเจ้าขอเปิดประชุมรัฐสภาตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และขอให้ทุกท่านที่ร่วมประชุมอยู่ ณที่นี้ประสบแต่ความสุข ความสวัสดี จงทุกเมื่อทั่วกัน"
จบแล้วมหาดเล็กรัวกรับ ชาวม่านปิดพระวิสูตรชาวพนักงานประโคมกระทั่งแตร มโหระทึกทหารกองเกียรติยศวถายความเคารพ แตรวงบรรเลงสรรเสริฐพระบารมี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เสด็จพระราชดำเนินลงจากพระที่นั่งอนันตสมาคมประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับ
ส.ส.ถ่ายรูปร่วมกันคึกคัก
ผู้สื่อข่าวรายงานก่อนรัฐพิธี ส.ส.จากทุกพรรคการเมืองต่างเดินทางมายังรัฐสภา เพื่อถ่ายรูปร่วมกันที่บริเวณหน้ารัฐสภา โดยเริ่มจากการถ่ายรูปร่วมกันแต่ละพรรคการเมือง จากนั้น ส.ส.ทุกพรรคได้ถ่ายภาพร่วมกัน โดยนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนนั่งถ่ายรูปข้างนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ขณะที่นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นั่งข้างนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่านายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย พร้อมด้วย น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา นายวราวุธ ศิลปอาชา บุตรสาว และบุตรชาย รวมถึงนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รองหัวหน้าพรรค ไม่ได้เดินทางมาร่วมถ่ายรูปครั้งนี้ด้วย โดยเมื่อสอบถามก็ได้รับคำตอบว่า ทั้งหมดติดภารกิจ และจะเดินทางไปยังที่นั่งอนันตสมาคมฯ ในเวลา 16.30 น.
สำหรับบรรยากาศภายหลังการถ่ายรูปของแต่ละพรรคการเมืองเป็นไปอย่าง คึกคัก ส.ส.ต่างพรรคกันต่างทักทายกันอย่างคุ้นเคย โดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.ระบบสัดส่วนพรรคพลังประชาชน ได้เดินเข้าไปทักทายนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทั้งยกมือไหว้แนบอก โดยนายชวนได้กล่าว แสดงความยินดีกลับ ร.ต.อ.เฉลิมที่ได้กลับมาเป็น ส.ส. ทั้งนี้ ร.ต.อ เฉลิม ยังได้เข้าไปทักทาย นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากนี้ในช่วง ก่อนถ่ายรูปรวม ส.ส. นายยงยุทธ ได้ทักทาย และพูดคุยกับนายถาวร เสเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์อย่างเป็นกันเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายอภิสิทธิ์ เดินทางมาถ่ายรูปแลได้เข้ามาทักทายกับบรรดาผู้สื่อข่าวประจำพรรคประชาธิปัตย์และผู้สื่อข่าวประจำพรรคชาติไทย ซึ่งก็ได้มีการแนะนำว่ากลุ่มนี้เป็นผู้สื่อข่าวพรรคปลาไหล นายอภิสิทธิ์จึงกล่าวว่า "อย่าไปว่าอย่างนั้น ไหลไปเดี๋ยวก็ไหลกลับ"
"สมัคร"มั่นใจผ่านโหวตนั่งนายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อน ส.ส.พรรคพลังประชาชนจะเดินทางบมายังรัฐสภา นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคได้เป็นประธานประชุมปฐมนิเทศ ส.ส.เพื่อชี้แจงการแต่งกาย ขั้นตอน ระเบียบ และธรรมเนียมปฎิบัติในการร่วมรัฐพิธี จากนั้นจึงเดินทางมายังรัฐสภาพร้อมกัน
นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณว่าบรรยากาศ ทางการเมืองเรียบร้อยดีไม่มีปัญหา ไม่หนักใจกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ส่วนที่มี สนช.บางส่วนจะยื่นตีความคุณสมบัติของตนนั้น เป็นเรื่องของ สนช.ไม่ใช่เรื่องของตน อยากจะทำอะไรก็ทำไป เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะไม่กระทบกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นายสมัคร กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามขั้นตอนภายในสัปดาห์นี้คงจะเสร็จ ส่วนกระแสข่าวที่มีชื่อของตนนั่งควบในตำแหน่งรมว.กลาโหมนั้น ต้องบอกว่าไม่
พปช.มีมติให้ยุทธตู้เย็นนั่ง ปธ.สภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังร่วมรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา นายสมัคร พร้อมแกนนำ และ ส.ส.ได้เดินทางกลับที่ทำการพรรค เพื่อประชุมลงมติเลือกประธานและรองประธานสภา โดยระหว่างเดินทางถึงที่ทำการพรรค ได้มีบรรดากองเชียร์ เดินทางมาสนับสนุนนายสมัคร พร้อมตระโกนว่า "ยินดีต้อนรับท่านนายกฯ" ทำเอา นายสมัครยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก่อนจะตรงขึ้นลิฟท์ไปประชุมกรรมการบริหารและ ส.ส.พรรค
หลังการประชุม ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน แถลงว่า ที่ประชุมมีมติเสนอชื่อ นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นประธานสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ส.ส.ขอนแก่น เป็นรองประธานสภาฯคนที่ 1 และเสนอพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี เป็นรองประธานสภาฯคนที่ 2 โดยพิจารณาคัดสรรจากโควตาจำนวน ส.ส.ของภาคเหนือ อีสาน และกทม.กับภาคกลาง เพื่อให้พรรคร่วมรัฐบาลช่วยสนับสนุนต่อไป
สำหรับนายยงยุทธ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นกรรมการบริหารพรรคนั้นได้ลาออก จากตำแหน่งและแจ้งต่อ กกต.แล้ว เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปอย่างสมบูรณ์ที่สุด ส่วนรองประธานอีก 2 คน ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดเนื่องจากไม่มีตำแหน่งใดๆ ในพรรค ส่วนคดีความที่ยังติดค้างอยู่ของนายยงยุทธนั้น พรรคไม่ได้หยิบยกมา พิจารณา เพราะเชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไรที่ทำให้พวกเราต้องหนักใจ นายยงยุทธถือว่ามีคุณสมบัติครบถ้วน ทำงานในสภามานานพอสมควร
ส่วนการที่ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติเป็นของพรรคพลังประชาชนทั้ง 3 คน จะเกิดข้อครหาเป็นเผด็จการรัฐสภาหรือไม่ ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า การมาจากพรรค ที่มีเสียงส่วนใหญ่ จะทำให้เกิดการเคารพเสียงข้างน้อยมากที่สุด จะมีความเกรงอก เกรงใจเป็นพิเศษ ไม่เป็นเผด็จการรัฐสภาแน่นอน
พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ว่า ไม่หนักใจกับการที่พรรคจะให้ตนเป็นรองประธานสภา และพร้อมที่จะรับหน้าที่นี้ เพราะหากพรรคมีมติก็ต้องปฎิบัต ิตาม ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ตนเคยเคลื่อนไหวกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) มาก่อน จะทำหน้าที่อย่างเป็นกลางหรือไม ่นั้น ตนคิดว่าเป็นคนละบทบาทหน้าที่ และตนไม่ใช่คนที่ก้าวร้าวอย่างท ี่สังคมจับตามอง จึงไม่น่าจะเป็นปัญหาแต่อย่างใด
"ยงยุทธ"ลาออกจาก กก.บห.พปช.
นายสมาน เลิศวงศ์รัตน์ นายทะเบียนพรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้า นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ได้ยื่นใบลาออก จากจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากรัฐธรรมนูญระบุว่า ผู้ดำรงตำแหน่งประธานสภาฯนั้นจะต้องพ้นจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค เพื่อความเป็นกลาง อย่างไรก็ตาม นายยงยุทธก็ยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ เพราะกฎหมายไม่ได้ห้าม อีกทั้งส.ส.ก็ต้องเป็นสมาชิกพรรคด้วย
ส่วนกรรมการบริหารพรรครายอื่น ที่มีรายชื่อว่าอาจได้รับตำแหน่งรองประธานสภาฯนั้น ขณะนี้ยังไม่มีใครมายื่นใบลาออก เพราะพรรคคงต้องให้ความมั่นใจแก่เขาเสียก่อน
"หมอเลี้ยบ"พร้อมนั่ง รมว.คลัง
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดโผ ครม.ว่า โผที่ออกมาขณะนี้เป็นเพียงการคาดเดา ตอนนี้ยังไม่ได้เคาะเพราะต้องรอให้เป็นไปทีละขั้นตอนจนกว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ ถึงจะพูดได้ สำหรับตำแหน่ง รมว.คลังนั้น ถือเป็นตำแหน่งที่สำคัญ มีผลต่อความเชื่อมั่นทั้งในประเทศและนอกประเทศ ซึ่งคนที่จะมาดำรงตำแหน่งนี้ต้องกล้าตัดสินใจ ต้องรวบรวมข้อมูลนำมาวิเคราะห์เพื่อใช้ในการเสนอโครงการหรือการลงทุนต่างๆ ที่ผ่านมาเราก็ได้มีการทาบทามบุคคลที่มีความรู้ความสามารถไว้บ้างแล้ว แต่คนนอกนั้นมีไม่มาก ส่วนคนในพรรคส่วนใหญ่ จะเป็นคนที่ได้ทำงานกับพรรคมาอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากได้รับตำแหน่งรมว.คลังพร้อมรับตำแหน่งหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ตั้งแต่การเลือกตั้ง พรรคพลังประชาชนเน้นแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจตั้งแต่ต้น เรามีนโยบายที่เสนอต่อประชาชน ดังนั้นเรื่องปัญหาเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าหน้าที่อะไรตนพร้อมทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
"นพดล"ปัด"แม้ว"เอี่ยวฟอร์ม ครม.
นายนพดล ปัทมะ รองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน และที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังมีเงิน มีอิทธิพล บารมีอยู่ในตอนนี้ และเหตุที่สมานฉันท์ล้มเหลวเพราะพ.ต.ท.ทักษิณและพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. ยังมีทิฐิต่อกันว่า เรื่องนี้ไม่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องของอิทธิพล หรือการมีบารมีของใคร แต่ขอให้มองผลงานต่างๆ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณเคยทำไว้ ดังนั้นไม่ใช่เรื่องอิทธิพลหรือการมีเงินมาก เพราะพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้มีบ้านพัก มีรีสอร์ท หรือรถสปอร์ตเป็นของส่วนตัวเหมือน พล.อ.สุรยุทธ์ที่มีบ้านพักเขายายเที่ยง
นายนพดล กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่พล.อ.สุรยุทธ์ระบุว่า คดีฆ่าตัดตอน 2,500 ศพในช่วงสงครามยาเสพติดนั้น หาหลักฐานการสั่งการของผู้บงการไม่ได้นั้น ขอเรียนว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่เคยสั่งการและไม่ใช่ว่าไม่มีหลักฐานตามที่ถูกล่าวหา แต่เรื่องนี้พ.ต.ท.ทักษิณไม่ใช่ผู้ดำเนินการมากกว่า ส่วนที่มีข้อครหาว่ารัฐบาลชุดใหม่ จะทำงานเพื่อรอให้พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางกลับประเทศไทยนั้น ขอชี้แจงว่า รัฐบาลใหม่ชุดนี้เป็นตัวจริง เสียงจริงและรอการโปรดเกล้าฯอย่างเป็นทางการ จากนั้นจะเดินหน้าทำงาน รัฐบาลใหม่ ไม่ใช่นอมินี
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลใหม่จะอายุสั้นหรือไม่ และจะเข้ามาทรกแซงการสอบสวน คดีต่างๆ ของพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร หรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ยืนยันว่าจะไม่แทรกแซงเด็ดขาด
ส่วนสาเหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมาประเทศฮ่องกงในช่วงนี้บ่อยนั้น นายนพดล กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางมาพักผ่อน ญาติมิตรที่อยู่ใกล้เคียงจะไปเยี่ยมได้ง่าย การเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณในช่วงนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งครม.ตามที่มีกระแสข่าว หากพ.ต.ท.ทักษิณจะดำเนินการแบบนั้นจริงก็สั่งการทางโทรศัพท์หรืออินเตอร์เน็ตก็ได้โดยไม่ต้องเดินทางมาฮ่องกง
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อสายกับนายบรรหาร เพื่อหารือถึงเรื่องการตั้งรัฐบาลและแบ่งโควตารัฐมนตรีให้พรรค ร่วมรัฐบาลนั้น นายนพดล กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่ามีการคุยกันหรือไม่ แต่หากคุยกันจริงก็อาจเป็นเรื่องอื่นๆก็ได้ และในช่วงเช้าวันนี้ (21 ม.ค.) ตนได้โทรศัพท์หารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อรายงานเรื่องการสอบสวนของ คตส. กรณีหวยบนดิน และไม่ได้รายงานเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ รับทราบ
ปชป.เสนอ"บัญญัติ"สู้ "ยุทธ ตู้เย็น"
วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวขชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานการประชุม ส.ส.พรรคเพื่อเตรียมเข้าร่วมรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา และการประชุมเพื่อเลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ในวันที่ 22 ม.ค. โดยที่ประชุมพรรคมีมติเสนอชื่อ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ เข้าชิงตำแหน่งประธานสภาฯ และเสนอชื่อ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์เป็นรองประธานสภาฯ
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กล่าวว่า ในอดีตพรรคที่ได้รับเสียงข้างมากจะกำหนดตัวประธานสภาฯ มักจยึดเอานักการเมืองอาวุโส เพื่อให้เป็นที่ยอมรับทั้งในและนอกสภา เพราะถ้าไม่ได้รับการยอมารับแม้จะมีเสียงข้างมาก ถ้าการควบคุมการประชุมไม่เรียบร้อยก็จะมีปัญหาได้ ส่วนนายยงยุทธ เมื่อพรรคพลังประชาชนเลือกมาแล้วก็เป็นเรื่องของนายยงยุทธต้องพิสูจน์ตัวเอง แต่สิ่งที่อยากย้ำคือ ไม่ว่าประธานสภาฯ เป็นประมุขของอำนาจนิติบัญญัติ ต้องรักษาความเป็นกลาง อย่างเคร่งครัด และการใช้อำนาจในสภาพึงต้องระมัดระวัง ไม่ควรปล่อยให้เสียงข้างมากลากไปอย่างเดียว
"ถ้าพูดกันอย่างตรงไปตรงมา เราก็กังวลกันอยู่เหมือนกัน แต่เมื่อพรรคพลังประชาชนได้เสียงข้างมาก และเขากำหนดตัวแล้ว ก็เป็นเรื่องที่คุณยงยุทธต้องพิสูจน์ตัวเอง"
เตือนหัวหน้า มฌ.ยังไม่ชัดอาจมีปัญหา
นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.เปิดเผยถึงความชัดเจน การดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตยของนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าตกลงแล้วยังเป็นนายประชัย หรือไม่ เนื่องจากสำนวน การสอบสวนยังไม่เสร็จ ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบปากคำอีกหลายปาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อยังไม่ชัดเจนการประกาศตัวร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนหรือสิทธิการโหวตเลือกประธานสภาฯ และนายกรรัฐมนตรีจะมีปัญหาหรือไม่หากนายประชัยไม่ยินยอม นายอภิชาต กล่าวว่า ก็คิดว่าเป็นเช่นนั้น ถ้านายประชัยไม่ยอมจริงๆก็คงยุ่ง เป็นเรื่องที่น่าคิดเหมือนกัน และเมื่อถามย้ำว่า ถ้านายประชัย ยังเป็นหัวหน้าแต่ไม่ยอมจริงๆ จะเป็นปํญหาต่อระบบสภาหรือไม่ นายอภิชาต หัวเราะก่อนถามกลับว่าถามนำหรือเปล่า ก่อนกล่าวว่า ตอนนี้ความคืบหน้าทั้งหมด ฝ่ายกิจการพรรคการเมืองอยู่ระหว่างพิจารณา ซี่งยังไม่มีข้อสรุป
"เติ้ง"แจงอีกร่วม พปช.เพื่อให้เดินหน้า
นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุมกรรมการบริหรรพรรคและ ส.ส.พรรคชาติไทยว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคคาดหวังไว้พอสมควร แต่ผิดเป้าไปกว่า 10 ที่นั่ง ต้องยอมรับว่าสู้กระแสไม่ได้
ส่วนการเข้าร่วมรัฐบาลนั้น ถ้าไม่เข้าร่วมการเมืองก็จะไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ บ้านเมืองติดล็อกแล้วมีปัญหาอีก สำหรับความคืบหน้าในตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลนั้น คงต้องรอความชัดเจนเรื่องตั้งนายกรัฐมนตรีก่อน ซึ่งคาดว่าน่าจะรู้ชัดประมาณวันที่ 25 ม.ค.
นายบรรหาร กล่าวด้วยว่าพรรคชาติไทยจะไม่ส่งชื่อใครไปเป็นรองประธานสภาฯ ส่วนการโหวตนายกรัฐมนตรีนั้น หากพรรคพลังประชาชนเสนอชื่อใครมาพรรคเราต้องประชุม ส.ส.พรรคก่อนตัดสินใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเข้าร่วมรัฐบาลพรรคค่อนข้างจะถูกโจมตีมากจะชี้แจงอย่างไร นายบรรหาร กล่าวว่า ต้องยอมรับความจริงว่าจะให้ทำอย่างไร ถ้าเข้าอีกฝ่ายหนึ่ง อีกฝ่ายที่ไม่อยากให้เข้าก็โทรมาเล่นงานเรา มันโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง เข้าก็ถูกเล่นงาน ไม่เข้าก็ถูกเล่นงาน
"ที่ตัดสินใจเพราะเรามองเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก เราต้องมีรัฐบาล จะปล่อยให้สูญญากาศเกิดขึ้นไม่ได้ และรัฐบาลก็มีความมั่นคง ไม่ใช่ตั้งไปแล้วปริ่มน้ำก็อยู่ไม่ยืด ซึ่งตรงนี้เราใช้เวลาพิจารณานานมากพอสมควร ดังนั้นเมื่อพิจารณาอย่างละเอียดแล้วก็เป็นเรื่องที่เหมาะสมดูว่าพรรคไหนที่ได้เสียงข้างมากเราก็ไปร่วม สำหรับผมอะไรก็ไม่เป็น ลูกก็ไม่เป็น แต่เราอยากเห็นประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก"
สำหรับความสัมพันธ์กับพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายบรรหาร กล่าวว่า ทุกพรรคเหมือนเดิมหมด เราไม่เป็นพรรคฝ่ายค้านก็เป็นรัฐบาล ถ้าไม่เหมือนเดิมก็เป็นศัตรูกันหมดทั้งประเทศ ครั้งนี้ต้องการความสามานฉันท์ สามัคคี ตราบใดประเทศชาติไม่มีความสามัคคีก็อยู่ไม่ได้
อ้างไม่มีเงื่อนไข รมต.ร่วมรัฐบาล
นายบรรหาร กล่าวถึงการจัดสรรโควต้ารัฐมนตรีว่า ยังไม่ถึงเวลา ต้องรอเปิดรัฐสภาแล้วเลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ รอโปรดเกล้าฯ ซึ่งยังไม่รู้ว่าวันไหน จากนั้นประธานรัฐสภาจึงจะนัดประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ขั้นต่อไปจึงจะมีการประชุมพรรคร่วมรัฐบาลว่าใครจะได้อะไรบ้าง ส่วนที่สื่อระบุว่าพรรคชาติไทยจะได้ 4-5 ที่นั่งนั้นไม่ใช่ ตนยังไม่รู้เรื่องเลย
ส่วนบุคคลที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีนั้น นายบรรหาร กล่าวว่าจะยึดบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ คนที่ช่วยเหลือพรรค และอยู่กับพรรคมานาน ใครที่อยู่พรรคชาติไทยจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีเกือบทุกคน ตอนนี้ก็มีค้างอยู่ตั้งแต่ปี 2527 ซึ่งจะต้องพิจารณาหลายส่วนด้วยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การจัดสรรโควต้ารัฐมนตรีไม่ใช่เงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า ไม่ใช่ สมัยนี้ไม่เอาแล้ว เงื่อนไขต่อรองไม่มีแล้ว สุดแล้วแต่พรรคพลังประชาชนจะพิจารณา
"นลินี"โฆษกรัฐบาล"แบม"รองโฆษกฯ
แหล่งข่าว เปิดเผยว่า สำหรับตำแหน่งโฆษกรัฐบาลนั้น ขณะนี้มีความ เป็นไปได้ว่าจะใช้คนของพรรคพลังประชาชน โดยคาดว่าผู้ที่จะได้รับตำแหน่งคือ น.ส.นลินี ทวีสิน อดีตผู้สมัครส.ส.กทม. เขต 6 พรรคพลังประชาชน ซึ่งสอบตก ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เนื่องจาก น.ส.นลินีเป็นคนที่มีความรู้ ภาษาอังกฤษดี และเป็นถึงระดับดอกเตอร์ สำหรับตำแหน่งรองโฆษกรัฐบาลนั้น เป็นไปได้ว่าจะมอบให้เป็น โควตาของพรรคชาติไทยคือ น.ส.จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ โฆษกพรรคชาติไทย ส่วนที่ให้ทีมโฆษกรัฐบาลเป็นผู้ใหญ่นั้นแกนนำพรรคมองว่า จะสามารถลดแรง เสียดทานทางการเมืองได้ในระดับหนึ่ง
"เสธ.หนั่น"ปัดพูดความสง่างามของ"สมัคร"
ด้าน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีที่ พรรคพลังประชาชนจะเสนอชื่อนายยงยุทธ์ เป็นประธานสภาว่า ยังไม่ทราบ เดี๋ยวพรรคพลังประชาชนคงแจ้งให้ทราบ เมื่อถามต่อว่าการให้นายยงยุทธ เป็นประธานรัฐสภาจะทำให้ภาพสมานฉันท์เกิดขึ้นหรือไม่ พล.ต.สนั่นกล่าวว่า เรื่องนี้ก็ต้องไปวิพากวิจารณ์กันเอาเอง เมื่อถามต่อว่ามีข่าวว่าตำแหน่งประธานรัฐสภาและรองประธานรัฐสภาพรรคพลังประชาชนจะเอาไว้ทั้งหมด พล.ต.สนั่นกล่าวว่า เขาคงเอาไปทั้งหมด คงไม่ให้เรา ในเมื่อเขาไม่ให้เราก็ต้องสละสิทธิ์
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความสัมพันธ์ระหว่างนายบรรหารกับนายสมัคร จะไปด้วยกันได้หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ไม่เห็นจะมีอะไรเลย เมื่อถามถึงการทำงานร่วมกันระหว่างพรรคชาติไทยและพรรคพลังประชาชนในรัฐบาล พล.ต.สนั่น กล่าวว่า เรื่องนี้ก็ต้อง ติดตามกันต่อไป ในเมื่อเราตัดสินใจไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคชาติไทยจะเสนอชื่อนายสมัคร เป็นนายกรัรฐมนตรี พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ก็พรรคพลังประชาชนยังไม่บอกมาว่าจะเสนอชื่อใครเป็นนายกฯ ก็พูดไม่ได้ เมื่อถามย้ำว่า หากเขาเสนอใครมาพรรคชาติไทยก็พร้อมสนับสนุนใช่หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่าก็แน่นอน เขาเสนอใครมาเราตัดสินใจร่วมรัฐบาลแล้วก็ต้อง เป็นไปตามนั้น เมื่อถามถึงความสง่างามของนายสมัครในการนั่งตำแหน่งนายกฯเนื่องจากติดคดีอยู่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ขอร้องเถอะ ขอร้องเถอะ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงพระกรุณาโปรด เกล้าฯให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฏราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนิน ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในงานรัฐพิธี ประกอบไปด้วยบุคคลสำคัญต่าง ๆอาทิ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี ประธาน คมช. ประธานศาลฏีกา ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คณะรัฐมนตรี คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ คณะทูตานุทูต และปลัดกระทรวงต่างๆ เฝ้ารับเสด็จ
จากนั้นเวลา 16.30 น. วานนี้ (21 ม.ค.) สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ได้เสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต ทรงยืนหน้าพระแท่นนพปฏลมหาเศวตฉัตร มหาดเล็กรัวกรับ ชาวม่านไขพระวิสูตร ชาวพนักงานประโคมกระทั่งแตร มโหระทึก ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรเสริญพระบารมีเมื่อสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมารในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสเปิดประชุมรัฐสภาความว่า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ข้าพเจ้าปฎิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์มาเป็นประธาน การเรียกประชุมรัฐสภาครั้งนี้นับเป็นนิมิตรหมายของการเริ่มต้นที่ดี ของการปกครองระบอบประชาธิปไตยของประเทศเรา นับแต่วาระนี้ไปรัฐสภาจะเป็นผู้ใช้อำนาจนิติบัญญัติสมบูรณ์ตามรัฐธรรมนูญ
ข้าพเจ้าเชื่อใจว่าบรรดาสมาชิกแห่งสภานี้มีความสำนึกในชาติอยู่ถ้วนทั่วทุกคน และต่างเล็งเห็นว่าสถานการณ์ต่างๆอันเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติยังคงมีอยู่ตามที่ทราบกันแล้ว ภารกิจของท่านจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ที่จะต้องรีบเร่งพิจารณาดำเนินการ เพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพทุกๆ ด้านให้ประเทศชาติมีปึกแผ่นมั่นคงเป็นปกติสุข
ดังนั้นการปรึกษาตกลงหรือการอภิปรายปัญหาใดๆ ที่จะมีขึ้นในสภาแห่งนี้ จึงควรจะได้กระทำด้วยเหตุ ด้วยผลที่ถูกต้อง และด้วยความร่วมมือปรองดองกัน โดยคำนึงถึงประโยชน์อันพึ่งประสงค์คือความมั่นคง ปลอดภัย และความวัฒนาผาสุกของประเทศชาติและประชาชนเป็นเป้าหมายสูงสุด
ได้เวลาอันเป็นมงคลแล้วในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯข้าพเจ้าขอเปิดประชุมรัฐสภาตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และขอให้ทุกท่านที่ร่วมประชุมอยู่ ณที่นี้ประสบแต่ความสุข ความสวัสดี จงทุกเมื่อทั่วกัน"
จบแล้วมหาดเล็กรัวกรับ ชาวม่านปิดพระวิสูตรชาวพนักงานประโคมกระทั่งแตร มโหระทึกทหารกองเกียรติยศวถายความเคารพ แตรวงบรรเลงสรรเสริฐพระบารมี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เสด็จพระราชดำเนินลงจากพระที่นั่งอนันตสมาคมประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับ
ส.ส.ถ่ายรูปร่วมกันคึกคัก
ผู้สื่อข่าวรายงานก่อนรัฐพิธี ส.ส.จากทุกพรรคการเมืองต่างเดินทางมายังรัฐสภา เพื่อถ่ายรูปร่วมกันที่บริเวณหน้ารัฐสภา โดยเริ่มจากการถ่ายรูปร่วมกันแต่ละพรรคการเมือง จากนั้น ส.ส.ทุกพรรคได้ถ่ายภาพร่วมกัน โดยนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนนั่งถ่ายรูปข้างนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ขณะที่นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นั่งข้างนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่านายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย พร้อมด้วย น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา นายวราวุธ ศิลปอาชา บุตรสาว และบุตรชาย รวมถึงนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รองหัวหน้าพรรค ไม่ได้เดินทางมาร่วมถ่ายรูปครั้งนี้ด้วย โดยเมื่อสอบถามก็ได้รับคำตอบว่า ทั้งหมดติดภารกิจ และจะเดินทางไปยังที่นั่งอนันตสมาคมฯ ในเวลา 16.30 น.
สำหรับบรรยากาศภายหลังการถ่ายรูปของแต่ละพรรคการเมืองเป็นไปอย่าง คึกคัก ส.ส.ต่างพรรคกันต่างทักทายกันอย่างคุ้นเคย โดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.ระบบสัดส่วนพรรคพลังประชาชน ได้เดินเข้าไปทักทายนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทั้งยกมือไหว้แนบอก โดยนายชวนได้กล่าว แสดงความยินดีกลับ ร.ต.อ.เฉลิมที่ได้กลับมาเป็น ส.ส. ทั้งนี้ ร.ต.อ เฉลิม ยังได้เข้าไปทักทาย นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากนี้ในช่วง ก่อนถ่ายรูปรวม ส.ส. นายยงยุทธ ได้ทักทาย และพูดคุยกับนายถาวร เสเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์อย่างเป็นกันเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายอภิสิทธิ์ เดินทางมาถ่ายรูปแลได้เข้ามาทักทายกับบรรดาผู้สื่อข่าวประจำพรรคประชาธิปัตย์และผู้สื่อข่าวประจำพรรคชาติไทย ซึ่งก็ได้มีการแนะนำว่ากลุ่มนี้เป็นผู้สื่อข่าวพรรคปลาไหล นายอภิสิทธิ์จึงกล่าวว่า "อย่าไปว่าอย่างนั้น ไหลไปเดี๋ยวก็ไหลกลับ"
"สมัคร"มั่นใจผ่านโหวตนั่งนายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อน ส.ส.พรรคพลังประชาชนจะเดินทางบมายังรัฐสภา นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคได้เป็นประธานประชุมปฐมนิเทศ ส.ส.เพื่อชี้แจงการแต่งกาย ขั้นตอน ระเบียบ และธรรมเนียมปฎิบัติในการร่วมรัฐพิธี จากนั้นจึงเดินทางมายังรัฐสภาพร้อมกัน
นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณว่าบรรยากาศ ทางการเมืองเรียบร้อยดีไม่มีปัญหา ไม่หนักใจกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ส่วนที่มี สนช.บางส่วนจะยื่นตีความคุณสมบัติของตนนั้น เป็นเรื่องของ สนช.ไม่ใช่เรื่องของตน อยากจะทำอะไรก็ทำไป เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะไม่กระทบกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นายสมัคร กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามขั้นตอนภายในสัปดาห์นี้คงจะเสร็จ ส่วนกระแสข่าวที่มีชื่อของตนนั่งควบในตำแหน่งรมว.กลาโหมนั้น ต้องบอกว่าไม่
พปช.มีมติให้ยุทธตู้เย็นนั่ง ปธ.สภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังร่วมรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา นายสมัคร พร้อมแกนนำ และ ส.ส.ได้เดินทางกลับที่ทำการพรรค เพื่อประชุมลงมติเลือกประธานและรองประธานสภา โดยระหว่างเดินทางถึงที่ทำการพรรค ได้มีบรรดากองเชียร์ เดินทางมาสนับสนุนนายสมัคร พร้อมตระโกนว่า "ยินดีต้อนรับท่านนายกฯ" ทำเอา นายสมัครยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก่อนจะตรงขึ้นลิฟท์ไปประชุมกรรมการบริหารและ ส.ส.พรรค
หลังการประชุม ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน แถลงว่า ที่ประชุมมีมติเสนอชื่อ นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นประธานสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ส.ส.ขอนแก่น เป็นรองประธานสภาฯคนที่ 1 และเสนอพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี เป็นรองประธานสภาฯคนที่ 2 โดยพิจารณาคัดสรรจากโควตาจำนวน ส.ส.ของภาคเหนือ อีสาน และกทม.กับภาคกลาง เพื่อให้พรรคร่วมรัฐบาลช่วยสนับสนุนต่อไป
สำหรับนายยงยุทธ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นกรรมการบริหารพรรคนั้นได้ลาออก จากตำแหน่งและแจ้งต่อ กกต.แล้ว เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปอย่างสมบูรณ์ที่สุด ส่วนรองประธานอีก 2 คน ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดเนื่องจากไม่มีตำแหน่งใดๆ ในพรรค ส่วนคดีความที่ยังติดค้างอยู่ของนายยงยุทธนั้น พรรคไม่ได้หยิบยกมา พิจารณา เพราะเชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไรที่ทำให้พวกเราต้องหนักใจ นายยงยุทธถือว่ามีคุณสมบัติครบถ้วน ทำงานในสภามานานพอสมควร
ส่วนการที่ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติเป็นของพรรคพลังประชาชนทั้ง 3 คน จะเกิดข้อครหาเป็นเผด็จการรัฐสภาหรือไม่ ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า การมาจากพรรค ที่มีเสียงส่วนใหญ่ จะทำให้เกิดการเคารพเสียงข้างน้อยมากที่สุด จะมีความเกรงอก เกรงใจเป็นพิเศษ ไม่เป็นเผด็จการรัฐสภาแน่นอน
พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ว่า ไม่หนักใจกับการที่พรรคจะให้ตนเป็นรองประธานสภา และพร้อมที่จะรับหน้าที่นี้ เพราะหากพรรคมีมติก็ต้องปฎิบัต ิตาม ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ตนเคยเคลื่อนไหวกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) มาก่อน จะทำหน้าที่อย่างเป็นกลางหรือไม ่นั้น ตนคิดว่าเป็นคนละบทบาทหน้าที่ และตนไม่ใช่คนที่ก้าวร้าวอย่างท ี่สังคมจับตามอง จึงไม่น่าจะเป็นปัญหาแต่อย่างใด
"ยงยุทธ"ลาออกจาก กก.บห.พปช.
นายสมาน เลิศวงศ์รัตน์ นายทะเบียนพรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้า นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ได้ยื่นใบลาออก จากจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากรัฐธรรมนูญระบุว่า ผู้ดำรงตำแหน่งประธานสภาฯนั้นจะต้องพ้นจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค เพื่อความเป็นกลาง อย่างไรก็ตาม นายยงยุทธก็ยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ เพราะกฎหมายไม่ได้ห้าม อีกทั้งส.ส.ก็ต้องเป็นสมาชิกพรรคด้วย
ส่วนกรรมการบริหารพรรครายอื่น ที่มีรายชื่อว่าอาจได้รับตำแหน่งรองประธานสภาฯนั้น ขณะนี้ยังไม่มีใครมายื่นใบลาออก เพราะพรรคคงต้องให้ความมั่นใจแก่เขาเสียก่อน
"หมอเลี้ยบ"พร้อมนั่ง รมว.คลัง
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดโผ ครม.ว่า โผที่ออกมาขณะนี้เป็นเพียงการคาดเดา ตอนนี้ยังไม่ได้เคาะเพราะต้องรอให้เป็นไปทีละขั้นตอนจนกว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ ถึงจะพูดได้ สำหรับตำแหน่ง รมว.คลังนั้น ถือเป็นตำแหน่งที่สำคัญ มีผลต่อความเชื่อมั่นทั้งในประเทศและนอกประเทศ ซึ่งคนที่จะมาดำรงตำแหน่งนี้ต้องกล้าตัดสินใจ ต้องรวบรวมข้อมูลนำมาวิเคราะห์เพื่อใช้ในการเสนอโครงการหรือการลงทุนต่างๆ ที่ผ่านมาเราก็ได้มีการทาบทามบุคคลที่มีความรู้ความสามารถไว้บ้างแล้ว แต่คนนอกนั้นมีไม่มาก ส่วนคนในพรรคส่วนใหญ่ จะเป็นคนที่ได้ทำงานกับพรรคมาอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากได้รับตำแหน่งรมว.คลังพร้อมรับตำแหน่งหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ตั้งแต่การเลือกตั้ง พรรคพลังประชาชนเน้นแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจตั้งแต่ต้น เรามีนโยบายที่เสนอต่อประชาชน ดังนั้นเรื่องปัญหาเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าหน้าที่อะไรตนพร้อมทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
"นพดล"ปัด"แม้ว"เอี่ยวฟอร์ม ครม.
นายนพดล ปัทมะ รองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน และที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังมีเงิน มีอิทธิพล บารมีอยู่ในตอนนี้ และเหตุที่สมานฉันท์ล้มเหลวเพราะพ.ต.ท.ทักษิณและพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. ยังมีทิฐิต่อกันว่า เรื่องนี้ไม่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องของอิทธิพล หรือการมีบารมีของใคร แต่ขอให้มองผลงานต่างๆ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณเคยทำไว้ ดังนั้นไม่ใช่เรื่องอิทธิพลหรือการมีเงินมาก เพราะพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้มีบ้านพัก มีรีสอร์ท หรือรถสปอร์ตเป็นของส่วนตัวเหมือน พล.อ.สุรยุทธ์ที่มีบ้านพักเขายายเที่ยง
นายนพดล กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่พล.อ.สุรยุทธ์ระบุว่า คดีฆ่าตัดตอน 2,500 ศพในช่วงสงครามยาเสพติดนั้น หาหลักฐานการสั่งการของผู้บงการไม่ได้นั้น ขอเรียนว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่เคยสั่งการและไม่ใช่ว่าไม่มีหลักฐานตามที่ถูกล่าวหา แต่เรื่องนี้พ.ต.ท.ทักษิณไม่ใช่ผู้ดำเนินการมากกว่า ส่วนที่มีข้อครหาว่ารัฐบาลชุดใหม่ จะทำงานเพื่อรอให้พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางกลับประเทศไทยนั้น ขอชี้แจงว่า รัฐบาลใหม่ชุดนี้เป็นตัวจริง เสียงจริงและรอการโปรดเกล้าฯอย่างเป็นทางการ จากนั้นจะเดินหน้าทำงาน รัฐบาลใหม่ ไม่ใช่นอมินี
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลใหม่จะอายุสั้นหรือไม่ และจะเข้ามาทรกแซงการสอบสวน คดีต่างๆ ของพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร หรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ยืนยันว่าจะไม่แทรกแซงเด็ดขาด
ส่วนสาเหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมาประเทศฮ่องกงในช่วงนี้บ่อยนั้น นายนพดล กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางมาพักผ่อน ญาติมิตรที่อยู่ใกล้เคียงจะไปเยี่ยมได้ง่าย การเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณในช่วงนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งครม.ตามที่มีกระแสข่าว หากพ.ต.ท.ทักษิณจะดำเนินการแบบนั้นจริงก็สั่งการทางโทรศัพท์หรืออินเตอร์เน็ตก็ได้โดยไม่ต้องเดินทางมาฮ่องกง
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อสายกับนายบรรหาร เพื่อหารือถึงเรื่องการตั้งรัฐบาลและแบ่งโควตารัฐมนตรีให้พรรค ร่วมรัฐบาลนั้น นายนพดล กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่ามีการคุยกันหรือไม่ แต่หากคุยกันจริงก็อาจเป็นเรื่องอื่นๆก็ได้ และในช่วงเช้าวันนี้ (21 ม.ค.) ตนได้โทรศัพท์หารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อรายงานเรื่องการสอบสวนของ คตส. กรณีหวยบนดิน และไม่ได้รายงานเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ รับทราบ
ปชป.เสนอ"บัญญัติ"สู้ "ยุทธ ตู้เย็น"
วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวขชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานการประชุม ส.ส.พรรคเพื่อเตรียมเข้าร่วมรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา และการประชุมเพื่อเลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ในวันที่ 22 ม.ค. โดยที่ประชุมพรรคมีมติเสนอชื่อ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ เข้าชิงตำแหน่งประธานสภาฯ และเสนอชื่อ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์เป็นรองประธานสภาฯ
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กล่าวว่า ในอดีตพรรคที่ได้รับเสียงข้างมากจะกำหนดตัวประธานสภาฯ มักจยึดเอานักการเมืองอาวุโส เพื่อให้เป็นที่ยอมรับทั้งในและนอกสภา เพราะถ้าไม่ได้รับการยอมารับแม้จะมีเสียงข้างมาก ถ้าการควบคุมการประชุมไม่เรียบร้อยก็จะมีปัญหาได้ ส่วนนายยงยุทธ เมื่อพรรคพลังประชาชนเลือกมาแล้วก็เป็นเรื่องของนายยงยุทธต้องพิสูจน์ตัวเอง แต่สิ่งที่อยากย้ำคือ ไม่ว่าประธานสภาฯ เป็นประมุขของอำนาจนิติบัญญัติ ต้องรักษาความเป็นกลาง อย่างเคร่งครัด และการใช้อำนาจในสภาพึงต้องระมัดระวัง ไม่ควรปล่อยให้เสียงข้างมากลากไปอย่างเดียว
"ถ้าพูดกันอย่างตรงไปตรงมา เราก็กังวลกันอยู่เหมือนกัน แต่เมื่อพรรคพลังประชาชนได้เสียงข้างมาก และเขากำหนดตัวแล้ว ก็เป็นเรื่องที่คุณยงยุทธต้องพิสูจน์ตัวเอง"
เตือนหัวหน้า มฌ.ยังไม่ชัดอาจมีปัญหา
นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.เปิดเผยถึงความชัดเจน การดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตยของนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าตกลงแล้วยังเป็นนายประชัย หรือไม่ เนื่องจากสำนวน การสอบสวนยังไม่เสร็จ ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบปากคำอีกหลายปาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อยังไม่ชัดเจนการประกาศตัวร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนหรือสิทธิการโหวตเลือกประธานสภาฯ และนายกรรัฐมนตรีจะมีปัญหาหรือไม่หากนายประชัยไม่ยินยอม นายอภิชาต กล่าวว่า ก็คิดว่าเป็นเช่นนั้น ถ้านายประชัยไม่ยอมจริงๆก็คงยุ่ง เป็นเรื่องที่น่าคิดเหมือนกัน และเมื่อถามย้ำว่า ถ้านายประชัย ยังเป็นหัวหน้าแต่ไม่ยอมจริงๆ จะเป็นปํญหาต่อระบบสภาหรือไม่ นายอภิชาต หัวเราะก่อนถามกลับว่าถามนำหรือเปล่า ก่อนกล่าวว่า ตอนนี้ความคืบหน้าทั้งหมด ฝ่ายกิจการพรรคการเมืองอยู่ระหว่างพิจารณา ซี่งยังไม่มีข้อสรุป
"เติ้ง"แจงอีกร่วม พปช.เพื่อให้เดินหน้า
นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุมกรรมการบริหรรพรรคและ ส.ส.พรรคชาติไทยว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคคาดหวังไว้พอสมควร แต่ผิดเป้าไปกว่า 10 ที่นั่ง ต้องยอมรับว่าสู้กระแสไม่ได้
ส่วนการเข้าร่วมรัฐบาลนั้น ถ้าไม่เข้าร่วมการเมืองก็จะไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ บ้านเมืองติดล็อกแล้วมีปัญหาอีก สำหรับความคืบหน้าในตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลนั้น คงต้องรอความชัดเจนเรื่องตั้งนายกรัฐมนตรีก่อน ซึ่งคาดว่าน่าจะรู้ชัดประมาณวันที่ 25 ม.ค.
นายบรรหาร กล่าวด้วยว่าพรรคชาติไทยจะไม่ส่งชื่อใครไปเป็นรองประธานสภาฯ ส่วนการโหวตนายกรัฐมนตรีนั้น หากพรรคพลังประชาชนเสนอชื่อใครมาพรรคเราต้องประชุม ส.ส.พรรคก่อนตัดสินใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเข้าร่วมรัฐบาลพรรคค่อนข้างจะถูกโจมตีมากจะชี้แจงอย่างไร นายบรรหาร กล่าวว่า ต้องยอมรับความจริงว่าจะให้ทำอย่างไร ถ้าเข้าอีกฝ่ายหนึ่ง อีกฝ่ายที่ไม่อยากให้เข้าก็โทรมาเล่นงานเรา มันโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง เข้าก็ถูกเล่นงาน ไม่เข้าก็ถูกเล่นงาน
"ที่ตัดสินใจเพราะเรามองเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก เราต้องมีรัฐบาล จะปล่อยให้สูญญากาศเกิดขึ้นไม่ได้ และรัฐบาลก็มีความมั่นคง ไม่ใช่ตั้งไปแล้วปริ่มน้ำก็อยู่ไม่ยืด ซึ่งตรงนี้เราใช้เวลาพิจารณานานมากพอสมควร ดังนั้นเมื่อพิจารณาอย่างละเอียดแล้วก็เป็นเรื่องที่เหมาะสมดูว่าพรรคไหนที่ได้เสียงข้างมากเราก็ไปร่วม สำหรับผมอะไรก็ไม่เป็น ลูกก็ไม่เป็น แต่เราอยากเห็นประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก"
สำหรับความสัมพันธ์กับพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายบรรหาร กล่าวว่า ทุกพรรคเหมือนเดิมหมด เราไม่เป็นพรรคฝ่ายค้านก็เป็นรัฐบาล ถ้าไม่เหมือนเดิมก็เป็นศัตรูกันหมดทั้งประเทศ ครั้งนี้ต้องการความสามานฉันท์ สามัคคี ตราบใดประเทศชาติไม่มีความสามัคคีก็อยู่ไม่ได้
อ้างไม่มีเงื่อนไข รมต.ร่วมรัฐบาล
นายบรรหาร กล่าวถึงการจัดสรรโควต้ารัฐมนตรีว่า ยังไม่ถึงเวลา ต้องรอเปิดรัฐสภาแล้วเลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ รอโปรดเกล้าฯ ซึ่งยังไม่รู้ว่าวันไหน จากนั้นประธานรัฐสภาจึงจะนัดประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ขั้นต่อไปจึงจะมีการประชุมพรรคร่วมรัฐบาลว่าใครจะได้อะไรบ้าง ส่วนที่สื่อระบุว่าพรรคชาติไทยจะได้ 4-5 ที่นั่งนั้นไม่ใช่ ตนยังไม่รู้เรื่องเลย
ส่วนบุคคลที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีนั้น นายบรรหาร กล่าวว่าจะยึดบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ คนที่ช่วยเหลือพรรค และอยู่กับพรรคมานาน ใครที่อยู่พรรคชาติไทยจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีเกือบทุกคน ตอนนี้ก็มีค้างอยู่ตั้งแต่ปี 2527 ซึ่งจะต้องพิจารณาหลายส่วนด้วยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การจัดสรรโควต้ารัฐมนตรีไม่ใช่เงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า ไม่ใช่ สมัยนี้ไม่เอาแล้ว เงื่อนไขต่อรองไม่มีแล้ว สุดแล้วแต่พรรคพลังประชาชนจะพิจารณา
"นลินี"โฆษกรัฐบาล"แบม"รองโฆษกฯ
แหล่งข่าว เปิดเผยว่า สำหรับตำแหน่งโฆษกรัฐบาลนั้น ขณะนี้มีความ เป็นไปได้ว่าจะใช้คนของพรรคพลังประชาชน โดยคาดว่าผู้ที่จะได้รับตำแหน่งคือ น.ส.นลินี ทวีสิน อดีตผู้สมัครส.ส.กทม. เขต 6 พรรคพลังประชาชน ซึ่งสอบตก ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เนื่องจาก น.ส.นลินีเป็นคนที่มีความรู้ ภาษาอังกฤษดี และเป็นถึงระดับดอกเตอร์ สำหรับตำแหน่งรองโฆษกรัฐบาลนั้น เป็นไปได้ว่าจะมอบให้เป็น โควตาของพรรคชาติไทยคือ น.ส.จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ โฆษกพรรคชาติไทย ส่วนที่ให้ทีมโฆษกรัฐบาลเป็นผู้ใหญ่นั้นแกนนำพรรคมองว่า จะสามารถลดแรง เสียดทานทางการเมืองได้ในระดับหนึ่ง
"เสธ.หนั่น"ปัดพูดความสง่างามของ"สมัคร"
ด้าน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีที่ พรรคพลังประชาชนจะเสนอชื่อนายยงยุทธ์ เป็นประธานสภาว่า ยังไม่ทราบ เดี๋ยวพรรคพลังประชาชนคงแจ้งให้ทราบ เมื่อถามต่อว่าการให้นายยงยุทธ เป็นประธานรัฐสภาจะทำให้ภาพสมานฉันท์เกิดขึ้นหรือไม่ พล.ต.สนั่นกล่าวว่า เรื่องนี้ก็ต้องไปวิพากวิจารณ์กันเอาเอง เมื่อถามต่อว่ามีข่าวว่าตำแหน่งประธานรัฐสภาและรองประธานรัฐสภาพรรคพลังประชาชนจะเอาไว้ทั้งหมด พล.ต.สนั่นกล่าวว่า เขาคงเอาไปทั้งหมด คงไม่ให้เรา ในเมื่อเขาไม่ให้เราก็ต้องสละสิทธิ์
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความสัมพันธ์ระหว่างนายบรรหารกับนายสมัคร จะไปด้วยกันได้หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ไม่เห็นจะมีอะไรเลย เมื่อถามถึงการทำงานร่วมกันระหว่างพรรคชาติไทยและพรรคพลังประชาชนในรัฐบาล พล.ต.สนั่น กล่าวว่า เรื่องนี้ก็ต้อง ติดตามกันต่อไป ในเมื่อเราตัดสินใจไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคชาติไทยจะเสนอชื่อนายสมัคร เป็นนายกรัรฐมนตรี พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ก็พรรคพลังประชาชนยังไม่บอกมาว่าจะเสนอชื่อใครเป็นนายกฯ ก็พูดไม่ได้ เมื่อถามย้ำว่า หากเขาเสนอใครมาพรรคชาติไทยก็พร้อมสนับสนุนใช่หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่าก็แน่นอน เขาเสนอใครมาเราตัดสินใจร่วมรัฐบาลแล้วก็ต้อง เป็นไปตามนั้น เมื่อถามถึงความสง่างามของนายสมัครในการนั่งตำแหน่งนายกฯเนื่องจากติดคดีอยู่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ขอร้องเถอะ ขอร้องเถอะ