“พลังแม้ว” ปฐมนิเทศ ส.ส.ใหม่ เสนอชื่อ “ยุทธ ตู้เย็น” นั่งเก้าอี้ประธานที่น่าเคารพ ส่วน “จุ้งเว้ง-เชาวริน” ฝันอยากเป็นรองฯ ด้าน “นพดล” ออกโรงโต้ ย้ำรัฐบาลตัวจริงไม่ใช่นอมินี ปัดลูกพี่มาซุ่มฮ่องกงแค่สะดวกในการพบเพื่อนฝูง-ญาติพี่น้องเท่านั้น ระบุ ไม่มีรสนิยมสะสมรถสปอร์ตหรูเหมือน “ขิงแก่”
วันนี้ (21 ม.ค.) ที่พรรคพลังประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น.มีการปฐมนิเทศ ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน เป็นครั้งแรก ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดย ส.ส.เริ่มทยอยเดินทางมาตั้งแต่เวลา 09.00 น.โดยมี นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นประธานการประชุม เพื่อแจ้งให้ ส.ส.ของพรรคที่ได้รับการเลือกตั้ง และได้รับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทราบถึงการแต่งกาย ระเบียบ และธรรมเนียมปฏิบัติในการร่วมประชุมรัฐพิธีในเวลา 16.30 น.
ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น ได้มีการร่วมรับประทานอาหารเที่ยง จากนั้นเวลา 13.00 น.นายสมัคร พร้อมด้วย ส.ส.ของพรรคได้ขึ้นรถบัสจำนวน 5 คัน เดินทางไปยังรัฐสภา เพื่อถ่ายรูปหมู่ร่วมกันที่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 บริเวณหน้าอาคารรัฐสภา จากนั้นจึงจะเข้าร่วมรัฐพิธีที่พระที่นั่งอนันตสมาคม โดยหลังเสร็จสิ้นการร่วมงานรัฐพิธีแล้ว ส.ส.ของพรรคจะเดินทางกลับมาร่วมประชุมที่พรรคอีกครั้งหนึ่ง เพื่อหารือถึงวาระสำคัญเกี่ยวกับการเลือกประธานและรองประธานสภา
นายนพดล ปัทมะ รองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน และที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีเงิน มีอิทธิพล บารมีอยู่ในตอนนี้ และเหตุที่สมานฉันท์ล้มเหลว เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ และ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช.ยังมีทิฐิต่อกันว่า เรื่องนี้ไม่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องของอิทธิพล หรือการมีบารมีของใคร แต่ขอให้มองผลงานต่างๆที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยทำไว้เป็นที่ประจักษ์ ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องอิทธิพลหรือการมีเงินมาก เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้มีบ้านพัก มีรีสอร์ต หรือรถสปอร์ตเป็นของส่วนตัวเหมือน พล.อ.สุรยุทธ์ ที่มีบ้านพักเขายายเที่ยง
นายนพดล กล่าวอีกว่า ประเด็นที่ พล.อ.สุรยุทธ์ ระบุว่า คดีฆ่าตัดตอน 2,500 ศพในช่วงสงครามยาเสพติดนั้น หาหลักฐานการสั่งการของผู้บงการไม่ได้นั้น ขอเรียนว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่เคยสั่งการ และไม่ใช่ว่าไม่มีหลักฐานตามที่ถูกล่าวหา แต่เรื่องนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่ผู้ดำเนินการมากกว่า ส่วนที่มีข้อครหาว่ารัฐบาลชุดใหม่ จะทำงานเพื่อรอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับประเทศไทยนั้น ขอชี้แจงว่า รัฐบาลใหม่ชุดนี้เป็นตัวจริง เสียงจริง และรอการโปรดเกล้าฯอย่างเป็นทางการ จากนั้นจะเดินหน้าทำงานรัฐบาลใหม่ ไม่ใช่นอมินี
ถามว่า รัฐบาลใหม่จะอายุสั้นหรือไม่ และจะเข้ามาทรกแซงการสอบสวนคดีต่างๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ยืนยันว่าจะไม่แทรกแซงเด็ดขาด
สำหรับสาเหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมาประเทศฮ่องกงในช่วงนี้บ่อยนั้น นายนพดล กล่าวว่า คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมาพักผ่อน ญาติมิตรที่อยู่ใกล้เคียงจะไปเยี่ยมได้ง่าย และขอปฏิเสธว่า การเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในช่วงนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้ง ครม.ตามที่มีกระแสข่าว หาก พ.ต.ท.ทักษิณ จะดำเนินการแบบนั้นจริงก็สั่งการทางโทรศัพท์ หรืออินเทอร์เน็ตก็ได้ โดยไม่ต้องเดินทางมาฮ่องกง
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อสายกับ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เพื่อหารือถึงเรื่องการตั้งรัฐบาลและแบ่งโควตารัฐมนตรีให้พรรคร่วมรัฐบาลนั้น นายนพดล กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่ามีการคุยกันหรือไม่ แต่หากคุยกันจริงก็อาจเป็นเรื่องอื่นๆ ก็ได้ และในช่วงเช้าวันนี้ (21 ม.ค.) ตนได้โทรศัพท์หารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อรายงานเรื่องการสอบสวนของ คตส.กรณีหวยบนดิน และไม่ได้รายงานเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ รับทราบ
ด้าน นายทรงศักดิ์ ทองศรี ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคพลังประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานภาคอีสาน กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าว ส.ส.กลุ่มอีสาน มีการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีและตำแหน่งรองประธานรัฐสภาในโควตาของภาคอีสาน ว่า วันนี้พรรคยังไม่มีการพูดคุยเรื่องโควตาตามที่เป็นข่าว เพราะ ส.ส.อีสานส่วนใหญ่ยังยุ่งอยู่กับการหาเสียงเลือกตั้งซ่อมในพื้นที่ต่างๆ ยืนยันว่า หากมติพรรคเป็นอย่างไร ส.ส.อีสาน ก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามนั้น
ส่วนกรณีที่มีรายงานว่า พบเห็น นายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย อยู่ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ระหว่างการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งซ่อมเมื่อวันที่ 20 ม.ค.นั้น นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเพียงข่าวเท่านั้น เพราะมีความพยายามที่จะยึดโยงให้คนๆ หนึ่งเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ซึ่งคนที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองมี 111 คน แต่คนที่ปรากฏเป็นข่าวมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
นายสมาน เลิศวงศ์รัตน์ กรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงแคนดิเดตผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อเพื่อชิงตำแหน่งรองประธานสภา ว่า มีผู้ที่มีความเหมาะสมในพรรคพลังประชาชนจำนวนมาก อาทิ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองเลขาธิการพรรค นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ รองหัวหน้าพรรค นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ส.ส.ขอนแก่น และ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.ระบบสัดส่วน
ร.ต.ท.เชาวริน แถลงว่า จากการตรวจสอบบันทึกรายงานของการประชุมสภาในการเลือกประธาน และรองประธานสภา ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2548 ในการเลือกประธานและรองประธานสภานั้น ปรากฏว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีการเสนอชื่อแข่งขัน ดังนั้น ในการประชุมพรรคตนจะเสนอขอให้พรรคส่งตัวแทนไปเจรจาหารือกับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อไม่ให้ส่งรายชื่อแข่งขันเลือกประธานและรองประธานสภา เพื่อไม่ให้การประชุมยืดเยื้อ เสียเวลา และเป็นการประหยัดงบประมาณแผ่นดิน รวมถึงยังเป็นการเริ่มต้นบรรยากาศของการสมานฉันท์ปรองดองด้วย
ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวด้วยว่า ในการประชุมพรรคเพื่อปฐมนิเทศ ส.ส.ของพรรคนั้น เบื้องต้นทราบว่า จะให้ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นผู้เสนอชื่อ นายยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นประธานสภา ส่วนตำแหน่งรองประธานสภา 2 คนนั้น จะมีการพิจารณาลงมติในวันนี้ โดยทราบว่ามีรายชื่อของตน และ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ด้วย ส่วนมติจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับพรรคจะพิจารณา ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลนั้นทราบว่าพรรคเพื่อแผ่นดิน จะเสนอชื่อ ม.ร.ว.กิติวัฒนา ไชยันต์ เพื่อแข่งขันในตำแหน่งรองประธานสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในห้องประชุมช่วงเช้านั้น นายสมัคร เป็นประธานเตรียมความพร้อมให้กับ ส.ส.พร้อมด้วย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรค และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค โดย นายสมัคร ได้กล่าวย้ำกับ ส.ส.ถึงขั้นตอนการเตรียมความพร้อมประชุมสภาในวันพรุ่งนี้ (22 ม.ค.)
นอกจากนี้ นายสมัคร ยังได้กล่าวช่วงหนึ่งว่า “ส.ส.อย่าเห็นแก่ความสบายส่วนตัว พรรคจัดรถไว้เตรียมพร้อมเพื่อเดินทางไปยังรัฐสภา ซึ่งตนก็จะนั่งไปพร้อมกันด้วย ดังนั้น เราต้องไปด้วยกัน” นอกจากนี้ ภายหลังการประชุมในช่วงเช้า นายสมัคร ยังได้นัด ส.ส.ให้กลับมาประชุมร่วมกันอีกครั้ง เพื่อหารือถึงการลงมติเลือกประธานสภา และรองประธานสภา ด้วย ซึ่งจะมีการเสนอชื่อนายยงยุทธ ติยะไพรัช ในที่ประชุมวันนี้ และจะขอมติจากที่ประชุมพรรคในช่วงเย็นด้วย
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดโผครม.ว่า โผคณะรัฐมนตรีที่ออกมาขณะนี้เป็นเพียงการคาดเดา ตอนนี้ยังไม่มีการเคาะใดๆ เพราะต้องรอให้เป็นไปทีละขั้นตอนจนกว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ ถึงจะพูดได้ สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนั้น ถือว่าเป็นตำแหน่งที่สำคัญ มีผลต่อความเชื่อมั่นทั้งในประเทศและนอกประเทศ ซึ่งคนที่จะมาดำรงตำแหน่งนี้ต้องกล้าตัดสินใจ ต้องรวบรวมข้อมูลนำมาวิเคราะห์เพื่อใช้ในการเสนอโครงการหรือการลงทุนต่างๆ ที่ผ่านมาเราก็ได้มีการทาบทามบุคคลที่มีความรู้ความสามารถไว้บ้างแล้ว แต่คนนอกนั้นมีไม่มาก ส่วนคนในพรรคส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ได้ทำงานกับพรรคมาอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากได้รับตำแหน่งรมว.คลังพร้อมรับตำแหน่งหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ตั้งแต่การเลือกตั้ง พรรคพลังประชาชนเน้นแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจตั้งแต่ต้น เรามีนโยบายที่เสนอต่อประชาชน ดังนั้นเรื่องปัญหาเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าหน้าที่อะไรตนพร้อมรับผิดชอบทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
/0110