พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯให้ประกาศว่า โดยที่ได้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พศ.2550 แล้ว และตามความในมาตรา 127 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กำหนดให้มีการเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อให้สมาชิกได้มาประชุมเป็นครั้งแรกภายในสามสิบวันนับแต่วันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 127 มาตรา 128 และมาตรา 187 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตราพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาในวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2551
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี
อนึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ โดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต เวลา 16.30 น. วันจันทร์ที่ 21มกราคม 2551
ยุทธตู้เย็น นั่งปธ.สภาแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากที่ทำการพรรคพลังประชาชนว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (21ม.ค) แกนนำพรรคเ อาทิ พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ นายยงยุทธ์ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรค เดินทางเข้าหารือกันที่ที่ทำการพรรค เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 21 ม.ค.และการจัดตั้งรัฐบาลก่อนจะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 21 ม.ค. เวลา 11.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตามกำหนดการพรรคพลังประชาชนจะประชุมกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.ในวันนี้ (21 ม.ค.) จากนั้นจึงรับประทานอาหารร่วมกัน เมื่อเสร็จแล้ว นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคจะนำ ส.ส.ของพรรคทั้งระบบสัดส่วนและระบบเขตเดินทางไปยังรัฐสภา เพื่อร่วมกันถ่ายรูปหมู่ที่บริเวณด้านหน้าของพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ก่อนที่จะเดินทางไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม ซึ่งจะมีรัฐพิธีเปิดประชุมสมัยสามัญทั่วไปของรัฐสภา ณ ที่นั่งอนันตสมาคมเวลา 16.30 น.
นายสมพงษ์ กล่าวถึงการเสนอรายชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทน ราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรว่าในส่วนของพรรคจะเสนอชื่อผู้ดำรงตำแหน่งเพียงชื่อเดียวคือ นายยงยุทธ์ หลังจากที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะมีการเสนอชื่อนายชัย ชิดชอบ เป็นประธานฯ ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรในส่วนของพรรคมีผู้ที่มีความเหมาะสมหลายคน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา
นายสมพงษ์ กล่าวว่า กระบวนการทั้งหมดจะต้องมีการหารือกันกับพรรคร่วมรัฐบาลก่อนตามธรรมเนียมปฏิบัติ อย่างไรก็ตามการเสนอชื่อรองประธานสภาฯ ตามปกติพรรคร่วมรัฐบาลที่เป็นพรรคใหญ่จะส่งตัวแทนมาดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ แต่ทั้งนี้หากพรรคร่วมรัฐบาลไม่สนใจที่จะเสนอชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง รองประธานสภาฯ พรรคพลังประชาชนจะเป็นผู้เสนอชื่อผู้ที่จะมาเป็นประธานสภาฯและรองประธานสภาฯเอง
ยงยุทธเหนียมอ้างไม่ทะเยอะทะยาน
ด้านนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวว่าเป็นแค่ข่าวที่จะให้ตนเป็นประธานสภาผู้แทนฯ เพราะยังไม่ได้ประชุมหารือกันในเรื่องนี้ ส่วนการร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งจะมีผลต่อตำแหน่งดังกล่าวหรือไม่ตนคิดว่าเร็วเกินไปที่จะตอบ
"ผมไม่เคยทะเยอทะยาน อยากเป็นโน่นเป็นนี่ สิ่งที่ผมอยากเห็นคือ อยากให้บ้านเมืองสงบสุข ส่วนตำแหน่งประธานสภาฯ ผมยังไม่รู้จริงๆ ไม่ได้โกหก แต่ถ้าถามความเห็นส่วนตัว การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลนั้นจะอยู่ที่ข้อตกลงร่วมกัน ไม่ได้เป็นกฎหมาย บางครั้งก็สามารถคุยกันได้ว่าถ้าพรรคร่วมรัฐบาลไม่อยากเป็น ฝ่ายนิติบัญญัติก็สามารถให้พรรคพลังประชาชนและจะขอโควตารัฐมนตรีช่วยแทนเราก็ต้องมาคุยกัน เพื่อให้บ้านเมืองเราเดินหน้าไปได้"
นายยงยุทธ กล่าวว่าหลังจากที่พรรคพลังประชาชนได้จัดตั้งรัฐบาล ก็จึงจะมีการประชุมหารือกันเพื่อเลือกประธานสภาฯ และเลือกนายกรัฐมนตรี และ ครม. ขณะนี้เรื่องการเสนอชื่อประธานสภาฯ มีหลายคนที่ถูกเสนอชื่อ แต่ยังไม่ตกผลึก ซึ่งทราบว่า มีผู้ที่เหมาะสมประมาณ 4-5 คน และคาดว่าวันที่ 21 ม.ค. น่าจะได้ข้อสรุป
ส่วนความพร้อมในการดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ นายยงยุทธ กล่าวว่า ตนไม่ขอตอบ ส่วนตัวยืนยันจะยึดถือแนวทางความ ปรองดองและความเข้าใจกัน เพื่อให้บ้านเมืองไม่ตกเป็นเหยื่อความขัดแย้งของนักการเมือง เมื่อถามต่อว่า ตำแหน่งประธานสภาฯมีส่วนสำคัญในการพิจารณาเรื่องนิรโทษกรรม อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน ใช่หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เร็วเกินไปที่จะพูด เพราะการแก้ไขสิ่งต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ จะต้องได้รับการเห็นชอบจากการเมืองภาคประชาชน ไม่ใช่จากในสภาฯเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองเรื่องข้อเสนอ 5 ข้อของพรรคชาติไทย ที่อาจมีความ พยายามผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ นายยงยุทธ กล่าว สิ่งไหนที่เป็นเรื่องที่ดี เราก็ควรนำไปปฏิบัติ เหมือนกับการไปวัดที่ เราจะท่องนะโมตะสะ ในการเข้าวัด เราก็ปฏิบัติกัน ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าต้องทำ ไม่ต้องพูดซ้ำ
สมัคร นั่งนายกฯควบรมว.กลาโหม
ทั้งนี้นายสมัครสุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงการเตรียมการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีระหว่างพรรคการเมืองที่ร่วมจัดตั้งทั้ง 6 พรรคว่าในส่วนของ พรรคพลังประชาชนนั้นได้ตั้งตัวแทน 3 คนเพื่อเป็นผู้เจรจาความในการจัดคณะรัฐมนตรีแล้วคือ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นายยงยุทธ์ ติยะไพรัช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
สำหรับ ผู้ที่จะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่นี้ อาจต้องเข้าควบตำแหน่ง รมว.กลาโหมด้วย ส่วนตัวบุคคล ของพรรคพลังประชาชนที่จะเข้ามาทำหน้าที่ด้านเศรษฐกิจนั้น คาดว่า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ อาจเข้ามารับหน้าที่ดูแลกระทรวงพาณิชย์ ด้วยเช่นกัน
อ้างยุทธตู้เย็นถูกบังคับให้เป็นปธ.
ร.ต.ท.เชาวรินทร์ ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.ระบบสัดส่วนกลุ่ม 7 พรรคพลังประชาชน เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารพรรคว่า ที่ประชุมได้หารือกันถึงการมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 21 ม.ค.นี้ ส่วนที่มีข่าวว่าพรรคจะให้นายยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้นคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนรองประธานสภาฯยังไม่มีการพูดถึง ส่วนตัวคิดว่าคนที่จะเป็นรองประธานสภาฯ จะต้องมีความสมัครใจ อย่างไรก็ตามการที่มีการเสนอชื่อนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรคให้เป็นประธานสภานั้นทราบว่านายสมพงษ์ไม่รับแต่ได้เสนอ นายยงยุทธแทน
'นายยงยุทธอยู่ในฐานะที่ถูกบังคับให้เป็นเพราะท่านถอยจากตำแหน่งรัฐมนตรีทุกกระทรวง ซึ่งท่านบอกเลยว่าท่านถูกสื่อฯขนานนามว่าเป็นสายล่อฟ้า เป็นเป้าดังนั้นไปนั่งกระทรวงไหนก็ไม่ดีท่านจึงถอยหมดท่านไม่เอาตำแหน่งรัฐมนตรีไปเป็นประธานสภาฯเพื่อควบคุมการประชุมสภาฯให้เดินหน้า ไม่ได้คิดว่าจะไปล่อใคร ร.ต.ท.เชาวรินทร์ กล่าวและว่าหากผู้ใหญ่พรรควางตัวให้ตนเป็นรองประธานฯนั้นในฐานะที่ตนมีประสบการณ์ทั้งส.ว.และส.ส.หลายสมัย ก็ไม่ขัดข้องพร้อมที่จะทุ่มเททำงาน
เตรียมตั้งทีมเด็ดหัวขรก.เด็กคมช.
ร.ต.ท.เชาวรินทร์ ยังกล่าวถึงการดำเนินการกับข้าราชการที่วางตัวไม่เป็นกลาง และปฏิบัติตามแผนบันใด 4ขั้นของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)ว่า ที่ผ่านมาพรรคพลังประชาชน ได้รับการสกัดกั้นมาโดยตลอด ในขณะที่คณะปฏิวัติได้ประกาศบันได 4 ขั้นและพบว่ามีการสั่งการมีลายลักษณ์อักษรโดยพรรคพลังประชาชนได้ยื่นให้ กกต. ไปพิจารณาและได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนว่าเป็นเรื่องจริง แต่เมื่อเข้าบอร์ดใหญ่ บอร์ดใหญ่บอกมีการสั่งจริงแต่ยังไม่มีการปฏิบัติ ขณะนี้เรามีหลักฐานชัดเจนว่า ลงมือปฏิบัติแล้ว และพบว่ามีการตั้งทีมลงพื้นที่สกัดกั้นทุกวิธีทางเพื่อไม่ให้ผู้สมัครของ พรรคพลังประชาชนได้รับเลือกตั้ง
ก่อนปฏิบัติงานมีการอบรมและใช้เจ้าหน้าที่ของศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) กองบัญชาการทหารสูงสุด ใช้เจ้าหน้าที่ๆ มีความรู้ มีประสบการณ์ในเรื่อง ของการข่าวไปอบรมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน อาทิ การสะกดรอย จนกระทั่งมีคำสั่งให้บอกกับผู้ปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายจาก นายธงไชย ลืออดุลย์ รองผู้ว่าฯนครราชสีมา ให้มีการตรวจสอบรายชื่อภูมิลำเนาของหัวคะแนนฝ่ายพรรคพลังประชาชน และหาจุดอ่อนเพื่อโค่นผู้สมัครของพรรค ในเขตเลือกตั้งของ อ.ปักธงไชย อ.วังน้ำเขียว พยายามสร้างหลักฐานเพื่อเอาผิดผู้สมัคร พรรคพลังประชาชน ในเขตเลือกตั้งที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เป็นการกระทำผิดกฎหมาย การเลือกตั้ง ซึ่งส.ส.ของพรรค จะมีการดำเนินการ โดยจะมีการตั้งคณะการการวิสามัญขึ้นมาสอบสวนเรื่องนี้โดยเฉพาะ ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ใช่การแก้แค้น(คมช.)
ร.ต.ท.เชาวรินทร์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือ มีข้าราชการระดับสูงในกระทรวงมหาดไทยโทรศัพท์สั่งการไปยังอำเภอพื้นที่จ.ภาคอีสานหลายจังหวัด พื้นที่ภาคเหนือหลายจังหวัด โดยให้นายอำเภอเป็นผู้รับแผนไปปฏิบัติตาม บางอำเภอ ใช้เงินซื้อเสียงให้กับพรรคตรงกันข้ามกับพรรคพลังประชาชน บนที่ว่าการอำเภอ ข้อมูลเหล่านี้เราจะไม่ปล่อยผ่านจะมีการตั้งคณะกรรมการวิสามัญขึ้นมาเพื่อตรวจสอบ เรื่องนี้อย่างจริงจัง จะดำเนินคดีกับข้าราชการที่วางตัวไม่เป็นกลาง และกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ผิดกฏหมายอาญา
ผู้สื่อข่าวถามว่าทางพรรคพลังประชาชนประกาศจะไม่มีการล้างแค้น ร.ต.ท.เชาวรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนั้นหมายถึงการปฏิวัตที่หลายฝ่ายกลัวว่าจะมีการมาแก้แค้น คมช.แต่นี่เป็นเรื่องของข้าราชการประจำที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและฝ่าฝืนนโยบายของรัฐบาลในการวางตัวเป็นกลางในช่วงเลือกตั้ง หากเราไม่สะสาง ต่อไปก็จะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการแก้แค้นคณะปฏิวัติเด็ดขาดทั้งที่เรามองว่าคณะปฏิวัติชุดนี้ห่วย
'การปฏิวัติครั้งนี้เป็นการปฏิวัติและปฏิบัติเยี่ยงโจรเพราะกระทำในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเดินทางไปปฏิบัติราชการในต่างประเทศ เพราะฉะนั้นการปฏิวัติครั้งนี้จึงสร้างความไม่ถูกต้องมากมายในบ้านเมืองของเราและอาจจะเป็นปัจจัยให้ข้าราชการที่เหลิง
เรืองโรจน์ค้าสมัครคุมกองทัพ
พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้รับการคาดการณ์ว่าจะดำรงตำแหน่งรมว.กลาโหม กล่าวถึงข่าวที่ว่านายสมัคร จะนั่งควบเก้าอี้นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมว่า เรื่องนี้แล้วแต่มติของพรรค หากมติพรรคออกมาตนที่เป็นสมาชิกพรรคก็ต้องให้ความเคารพ แต่ส่วนตัวมองว่า การวางตัวรัฐมนตรีในทุกกระทรวง ต้องเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถในกระทรวงนั้นๆ เช่นรมว.กลาโหม ก็ต้องเป็นอดีตนายทหารที่รู้จักพวกพ้อง รู้จักคนในวงการเพื่อสั่งการได้ รวมทั้งการใช้คนก็ต้องพิจารณาให้เหมาะกับงาน อย่างไรก็ดีเชื่อว่าพรรคจะพิจารณาเลือกคนที่เหมาะสมในตำแหน่งดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อพิจารณาจากคุณสมบัติดังกล่าวนายสมัคร อาจไม่เหมาะสมใช่หรือไม่ พล.อ.เรืองโรจน์ กล่าวว่า ตนมองว่าคุณสมบัติรมว.กลาโหม หากได้คนเป็นทหารก็สามารถทำงานได้เลย ซึ่งพรรคก็ต้องรับฟังและมาพิจารณาด้วย อีกทั้งกระทรวงกลาโหมเป็นกระทรวงสำคัญ เป็นจุดอ่อนที่อาจถูกโจมตีได้ง่าย และปัญหาที่ต้องแก้ไม่เฉพาะเรื่องภาคใต้อย่างเดียว ยังมีเรื่องยากเสพติดและปัญหาแรงงาน เพราะฉะนั้นหากมีการจัดสรรไม่ดีก็จะมีผลเสียได้ แต่ถ้าจัดสรรเหมาะสมก็โอเค
พล.อ.เรืองโรจน์ ยอมรับว่ายังไม่มีผู้ใหญ่ในพรรคมาคุยถึงเรื่องตำแหน่ง รมว.กลาโหม แต่หากมาคุยตนพร้อมทำงานได้เลย
เฉลิม ส่อผงาดนั่งรมว.ยุติธรรม
แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า ขณะนี้ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรค จะเป็นนายกรัฐมนตรีและควบเก้าอี้ รมว.กลาโหม ซึ่งเบื้องต้นมีรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องการให้นายสมัคร เป็นรมว.กลาโหมเพื่อเข้ามาจัดแถวในกองทัพใหม่
ส่วนตำแหน่ง รมว.มหาดไทยที่มีข่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จะเข้ามาดำงตำแหน่งนั้นช่วงที่ผ่านมาแกนนำพรรคที่ใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ ได้เสนอ ร.ต.อ. ร.ต.อ.เฉลิม ว่าถ้าไม่ได้เป็น รมว.มหาดไทย จะเป็น รมว.ยุติธรรมได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม ก็ไม่ขัดข้อง ส่วนเหตุผลที่จะให้ไปเป็น รมว ยุติธรรม เนื่องจาพ.ต.ท.ทักษิณ มองว่าร.ต.อ.เฉลิมมีความรู้ทางกฎหมายหลายด้านและยังจะเป็นการเคลียร์ช่องทางกฎหมายและคดีให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก่อนที่จะเดินทางกลับเข้าประเทศ
นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวว่านายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ที่ก่อนหน้านี้มีการต่อรองการร่วมรัฐบาลซึ่งได้โควต้ารัฐมนตรีเพียง1ที่นั่ง อาจเป็นกระทรวงการการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แต่ว่านายเสนาะ ไม่ค่อยพอใจ แต่อยากไปนั่งเป็น รมว.มหาดไทย มากกว่า ทำให้พรรคพลังประชาชนต้องกลับมาพิจารณาอีกครั้ง
หญิงหน่อยดันเด็กในคาถาเป็นมท.2
มีรายงานอีกว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็ต้องการผลักดัน นายสุธา ชันแสง ส.ส.กทม.และคนสนิท ให้เข้ามาเป็น รมช.มหาดไทย เนื่องจากมองว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาพื้นที่ กทม.ในอดีตที่เคยเป็นฐานเสียงที่สำคัญแต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้กลับพ่ายแพ้พรรคประชาธิปัตย์อย่างยับเยิน จึงต้องการให้เข้ามาดูแลฐานเสียงในกทม.
อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้ตำแหน่ง รมช.มหาดไทย สมาชิกกลุ่ม กทม.ก็จะผลักดันให้นายสุธา เข้าไปเป็น รมว.การพัฒนาสังคมฯ เพื่อให้ไปดูเรื่องบ้านมั่นคง ที่จะสามารถสร้างกระแสให้คนใน กทม.ได้เช่นกัน
ส่วน นายยงยุทธ ที่จะเข้ามาเป็นประธานสภาฯนั้น พรรคพลังประชาชน ต้องการให้เข้าไป ควบคุมพรรคร่วมรัฐบาลที่อาจเกิดปัญหาในอนาคต รวมทั้งยังต้องการให้เข้ามาคุมเกมในสภาซึ่งเกรงว่าอาจเกิดปัญหาอย่างเช่นกรณีงูเห่าในรัฐสภา
สำหรับกระทรวงเศรษฐกิจที่สำคัญๆ เช่น กระทรวงการคลัง ยังคงเป็นปัญหาของพรรคพลังประชาชน เนื่องจากที่ผ่านมาแกนนำพรรคได้ไปทาบทาม บุคคลนอกหลายคนแต่กลับถูกปฏิเสธ ล่าสุดมีแนวโน้มว่า นพ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค จะเข้าไปดำรงตำแหน่งรมว.คลัง ส่วนประเด็นที่ว่า นพ.สุรพงษ์ ไม่มีความเชี่ยวชาญนั้นไม่น่ามีปัญหา เพราะนพ.สุรพงษ์ จะเป็นเพียงหัวเท่านั้น ส่วนการทำงานภาพรวมพรรคพลังประชาชนมีทีมเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอยู่แล้วจะประคับประคองการทำงานไปได้
ประภัตรจองเก้าอี้รมว.เกษตรฯ
แหล่งข่าวจากพรรคชาติไทย เปิดเผยว่าว่า ในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้พรรคชาติไทย คาดว่าจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรี 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรี รมว.เกษตรและสหกรณ์ รมว.ศึกษาธิการ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และรมช.คมนาคม โดยบุคคลที่คาดว่าจะนั่งเก้าอี้ตำแหน่งรัฐมนตรี อาทิ นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทย เป็นรมว.เกษตรฯ นายอรรคพล สรสุชาติ สมาชิกพรรคชาติไทย ได้โควต้าของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสตร์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย นั่งเก้าอี้ รมช.คมนาคม และนายวีระสักดิ์ โควสุรัตน์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทย รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งดังกล่าวยังต้องมีการเจรจาต่อรอง ทุกอย่างยังมีการเปลี่ยนแปลงได้จนถึงวันที่ 25 ม.ค. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพรรคแกนนำเป็นผู้ตัดสินใจ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 127 มาตรา 128 และมาตรา 187 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตราพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาในวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2551
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี
อนึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ โดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต เวลา 16.30 น. วันจันทร์ที่ 21มกราคม 2551
ยุทธตู้เย็น นั่งปธ.สภาแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากที่ทำการพรรคพลังประชาชนว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (21ม.ค) แกนนำพรรคเ อาทิ พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ นายยงยุทธ์ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรค เดินทางเข้าหารือกันที่ที่ทำการพรรค เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 21 ม.ค.และการจัดตั้งรัฐบาลก่อนจะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 21 ม.ค. เวลา 11.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตามกำหนดการพรรคพลังประชาชนจะประชุมกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.ในวันนี้ (21 ม.ค.) จากนั้นจึงรับประทานอาหารร่วมกัน เมื่อเสร็จแล้ว นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคจะนำ ส.ส.ของพรรคทั้งระบบสัดส่วนและระบบเขตเดินทางไปยังรัฐสภา เพื่อร่วมกันถ่ายรูปหมู่ที่บริเวณด้านหน้าของพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ก่อนที่จะเดินทางไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม ซึ่งจะมีรัฐพิธีเปิดประชุมสมัยสามัญทั่วไปของรัฐสภา ณ ที่นั่งอนันตสมาคมเวลา 16.30 น.
นายสมพงษ์ กล่าวถึงการเสนอรายชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทน ราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรว่าในส่วนของพรรคจะเสนอชื่อผู้ดำรงตำแหน่งเพียงชื่อเดียวคือ นายยงยุทธ์ หลังจากที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะมีการเสนอชื่อนายชัย ชิดชอบ เป็นประธานฯ ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรในส่วนของพรรคมีผู้ที่มีความเหมาะสมหลายคน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา
นายสมพงษ์ กล่าวว่า กระบวนการทั้งหมดจะต้องมีการหารือกันกับพรรคร่วมรัฐบาลก่อนตามธรรมเนียมปฏิบัติ อย่างไรก็ตามการเสนอชื่อรองประธานสภาฯ ตามปกติพรรคร่วมรัฐบาลที่เป็นพรรคใหญ่จะส่งตัวแทนมาดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ แต่ทั้งนี้หากพรรคร่วมรัฐบาลไม่สนใจที่จะเสนอชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง รองประธานสภาฯ พรรคพลังประชาชนจะเป็นผู้เสนอชื่อผู้ที่จะมาเป็นประธานสภาฯและรองประธานสภาฯเอง
ยงยุทธเหนียมอ้างไม่ทะเยอะทะยาน
ด้านนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวว่าเป็นแค่ข่าวที่จะให้ตนเป็นประธานสภาผู้แทนฯ เพราะยังไม่ได้ประชุมหารือกันในเรื่องนี้ ส่วนการร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งจะมีผลต่อตำแหน่งดังกล่าวหรือไม่ตนคิดว่าเร็วเกินไปที่จะตอบ
"ผมไม่เคยทะเยอทะยาน อยากเป็นโน่นเป็นนี่ สิ่งที่ผมอยากเห็นคือ อยากให้บ้านเมืองสงบสุข ส่วนตำแหน่งประธานสภาฯ ผมยังไม่รู้จริงๆ ไม่ได้โกหก แต่ถ้าถามความเห็นส่วนตัว การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลนั้นจะอยู่ที่ข้อตกลงร่วมกัน ไม่ได้เป็นกฎหมาย บางครั้งก็สามารถคุยกันได้ว่าถ้าพรรคร่วมรัฐบาลไม่อยากเป็น ฝ่ายนิติบัญญัติก็สามารถให้พรรคพลังประชาชนและจะขอโควตารัฐมนตรีช่วยแทนเราก็ต้องมาคุยกัน เพื่อให้บ้านเมืองเราเดินหน้าไปได้"
นายยงยุทธ กล่าวว่าหลังจากที่พรรคพลังประชาชนได้จัดตั้งรัฐบาล ก็จึงจะมีการประชุมหารือกันเพื่อเลือกประธานสภาฯ และเลือกนายกรัฐมนตรี และ ครม. ขณะนี้เรื่องการเสนอชื่อประธานสภาฯ มีหลายคนที่ถูกเสนอชื่อ แต่ยังไม่ตกผลึก ซึ่งทราบว่า มีผู้ที่เหมาะสมประมาณ 4-5 คน และคาดว่าวันที่ 21 ม.ค. น่าจะได้ข้อสรุป
ส่วนความพร้อมในการดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ นายยงยุทธ กล่าวว่า ตนไม่ขอตอบ ส่วนตัวยืนยันจะยึดถือแนวทางความ ปรองดองและความเข้าใจกัน เพื่อให้บ้านเมืองไม่ตกเป็นเหยื่อความขัดแย้งของนักการเมือง เมื่อถามต่อว่า ตำแหน่งประธานสภาฯมีส่วนสำคัญในการพิจารณาเรื่องนิรโทษกรรม อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน ใช่หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เร็วเกินไปที่จะพูด เพราะการแก้ไขสิ่งต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ จะต้องได้รับการเห็นชอบจากการเมืองภาคประชาชน ไม่ใช่จากในสภาฯเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองเรื่องข้อเสนอ 5 ข้อของพรรคชาติไทย ที่อาจมีความ พยายามผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ นายยงยุทธ กล่าว สิ่งไหนที่เป็นเรื่องที่ดี เราก็ควรนำไปปฏิบัติ เหมือนกับการไปวัดที่ เราจะท่องนะโมตะสะ ในการเข้าวัด เราก็ปฏิบัติกัน ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าต้องทำ ไม่ต้องพูดซ้ำ
สมัคร นั่งนายกฯควบรมว.กลาโหม
ทั้งนี้นายสมัครสุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงการเตรียมการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีระหว่างพรรคการเมืองที่ร่วมจัดตั้งทั้ง 6 พรรคว่าในส่วนของ พรรคพลังประชาชนนั้นได้ตั้งตัวแทน 3 คนเพื่อเป็นผู้เจรจาความในการจัดคณะรัฐมนตรีแล้วคือ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นายยงยุทธ์ ติยะไพรัช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
สำหรับ ผู้ที่จะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่นี้ อาจต้องเข้าควบตำแหน่ง รมว.กลาโหมด้วย ส่วนตัวบุคคล ของพรรคพลังประชาชนที่จะเข้ามาทำหน้าที่ด้านเศรษฐกิจนั้น คาดว่า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ อาจเข้ามารับหน้าที่ดูแลกระทรวงพาณิชย์ ด้วยเช่นกัน
อ้างยุทธตู้เย็นถูกบังคับให้เป็นปธ.
ร.ต.ท.เชาวรินทร์ ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.ระบบสัดส่วนกลุ่ม 7 พรรคพลังประชาชน เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารพรรคว่า ที่ประชุมได้หารือกันถึงการมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 21 ม.ค.นี้ ส่วนที่มีข่าวว่าพรรคจะให้นายยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้นคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนรองประธานสภาฯยังไม่มีการพูดถึง ส่วนตัวคิดว่าคนที่จะเป็นรองประธานสภาฯ จะต้องมีความสมัครใจ อย่างไรก็ตามการที่มีการเสนอชื่อนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรคให้เป็นประธานสภานั้นทราบว่านายสมพงษ์ไม่รับแต่ได้เสนอ นายยงยุทธแทน
'นายยงยุทธอยู่ในฐานะที่ถูกบังคับให้เป็นเพราะท่านถอยจากตำแหน่งรัฐมนตรีทุกกระทรวง ซึ่งท่านบอกเลยว่าท่านถูกสื่อฯขนานนามว่าเป็นสายล่อฟ้า เป็นเป้าดังนั้นไปนั่งกระทรวงไหนก็ไม่ดีท่านจึงถอยหมดท่านไม่เอาตำแหน่งรัฐมนตรีไปเป็นประธานสภาฯเพื่อควบคุมการประชุมสภาฯให้เดินหน้า ไม่ได้คิดว่าจะไปล่อใคร ร.ต.ท.เชาวรินทร์ กล่าวและว่าหากผู้ใหญ่พรรควางตัวให้ตนเป็นรองประธานฯนั้นในฐานะที่ตนมีประสบการณ์ทั้งส.ว.และส.ส.หลายสมัย ก็ไม่ขัดข้องพร้อมที่จะทุ่มเททำงาน
เตรียมตั้งทีมเด็ดหัวขรก.เด็กคมช.
ร.ต.ท.เชาวรินทร์ ยังกล่าวถึงการดำเนินการกับข้าราชการที่วางตัวไม่เป็นกลาง และปฏิบัติตามแผนบันใด 4ขั้นของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)ว่า ที่ผ่านมาพรรคพลังประชาชน ได้รับการสกัดกั้นมาโดยตลอด ในขณะที่คณะปฏิวัติได้ประกาศบันได 4 ขั้นและพบว่ามีการสั่งการมีลายลักษณ์อักษรโดยพรรคพลังประชาชนได้ยื่นให้ กกต. ไปพิจารณาและได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนว่าเป็นเรื่องจริง แต่เมื่อเข้าบอร์ดใหญ่ บอร์ดใหญ่บอกมีการสั่งจริงแต่ยังไม่มีการปฏิบัติ ขณะนี้เรามีหลักฐานชัดเจนว่า ลงมือปฏิบัติแล้ว และพบว่ามีการตั้งทีมลงพื้นที่สกัดกั้นทุกวิธีทางเพื่อไม่ให้ผู้สมัครของ พรรคพลังประชาชนได้รับเลือกตั้ง
ก่อนปฏิบัติงานมีการอบรมและใช้เจ้าหน้าที่ของศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) กองบัญชาการทหารสูงสุด ใช้เจ้าหน้าที่ๆ มีความรู้ มีประสบการณ์ในเรื่อง ของการข่าวไปอบรมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน อาทิ การสะกดรอย จนกระทั่งมีคำสั่งให้บอกกับผู้ปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายจาก นายธงไชย ลืออดุลย์ รองผู้ว่าฯนครราชสีมา ให้มีการตรวจสอบรายชื่อภูมิลำเนาของหัวคะแนนฝ่ายพรรคพลังประชาชน และหาจุดอ่อนเพื่อโค่นผู้สมัครของพรรค ในเขตเลือกตั้งของ อ.ปักธงไชย อ.วังน้ำเขียว พยายามสร้างหลักฐานเพื่อเอาผิดผู้สมัคร พรรคพลังประชาชน ในเขตเลือกตั้งที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เป็นการกระทำผิดกฎหมาย การเลือกตั้ง ซึ่งส.ส.ของพรรค จะมีการดำเนินการ โดยจะมีการตั้งคณะการการวิสามัญขึ้นมาสอบสวนเรื่องนี้โดยเฉพาะ ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ใช่การแก้แค้น(คมช.)
ร.ต.ท.เชาวรินทร์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือ มีข้าราชการระดับสูงในกระทรวงมหาดไทยโทรศัพท์สั่งการไปยังอำเภอพื้นที่จ.ภาคอีสานหลายจังหวัด พื้นที่ภาคเหนือหลายจังหวัด โดยให้นายอำเภอเป็นผู้รับแผนไปปฏิบัติตาม บางอำเภอ ใช้เงินซื้อเสียงให้กับพรรคตรงกันข้ามกับพรรคพลังประชาชน บนที่ว่าการอำเภอ ข้อมูลเหล่านี้เราจะไม่ปล่อยผ่านจะมีการตั้งคณะกรรมการวิสามัญขึ้นมาเพื่อตรวจสอบ เรื่องนี้อย่างจริงจัง จะดำเนินคดีกับข้าราชการที่วางตัวไม่เป็นกลาง และกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ผิดกฏหมายอาญา
ผู้สื่อข่าวถามว่าทางพรรคพลังประชาชนประกาศจะไม่มีการล้างแค้น ร.ต.ท.เชาวรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนั้นหมายถึงการปฏิวัตที่หลายฝ่ายกลัวว่าจะมีการมาแก้แค้น คมช.แต่นี่เป็นเรื่องของข้าราชการประจำที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและฝ่าฝืนนโยบายของรัฐบาลในการวางตัวเป็นกลางในช่วงเลือกตั้ง หากเราไม่สะสาง ต่อไปก็จะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการแก้แค้นคณะปฏิวัติเด็ดขาดทั้งที่เรามองว่าคณะปฏิวัติชุดนี้ห่วย
'การปฏิวัติครั้งนี้เป็นการปฏิวัติและปฏิบัติเยี่ยงโจรเพราะกระทำในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเดินทางไปปฏิบัติราชการในต่างประเทศ เพราะฉะนั้นการปฏิวัติครั้งนี้จึงสร้างความไม่ถูกต้องมากมายในบ้านเมืองของเราและอาจจะเป็นปัจจัยให้ข้าราชการที่เหลิง
เรืองโรจน์ค้าสมัครคุมกองทัพ
พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้รับการคาดการณ์ว่าจะดำรงตำแหน่งรมว.กลาโหม กล่าวถึงข่าวที่ว่านายสมัคร จะนั่งควบเก้าอี้นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมว่า เรื่องนี้แล้วแต่มติของพรรค หากมติพรรคออกมาตนที่เป็นสมาชิกพรรคก็ต้องให้ความเคารพ แต่ส่วนตัวมองว่า การวางตัวรัฐมนตรีในทุกกระทรวง ต้องเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถในกระทรวงนั้นๆ เช่นรมว.กลาโหม ก็ต้องเป็นอดีตนายทหารที่รู้จักพวกพ้อง รู้จักคนในวงการเพื่อสั่งการได้ รวมทั้งการใช้คนก็ต้องพิจารณาให้เหมาะกับงาน อย่างไรก็ดีเชื่อว่าพรรคจะพิจารณาเลือกคนที่เหมาะสมในตำแหน่งดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อพิจารณาจากคุณสมบัติดังกล่าวนายสมัคร อาจไม่เหมาะสมใช่หรือไม่ พล.อ.เรืองโรจน์ กล่าวว่า ตนมองว่าคุณสมบัติรมว.กลาโหม หากได้คนเป็นทหารก็สามารถทำงานได้เลย ซึ่งพรรคก็ต้องรับฟังและมาพิจารณาด้วย อีกทั้งกระทรวงกลาโหมเป็นกระทรวงสำคัญ เป็นจุดอ่อนที่อาจถูกโจมตีได้ง่าย และปัญหาที่ต้องแก้ไม่เฉพาะเรื่องภาคใต้อย่างเดียว ยังมีเรื่องยากเสพติดและปัญหาแรงงาน เพราะฉะนั้นหากมีการจัดสรรไม่ดีก็จะมีผลเสียได้ แต่ถ้าจัดสรรเหมาะสมก็โอเค
พล.อ.เรืองโรจน์ ยอมรับว่ายังไม่มีผู้ใหญ่ในพรรคมาคุยถึงเรื่องตำแหน่ง รมว.กลาโหม แต่หากมาคุยตนพร้อมทำงานได้เลย
เฉลิม ส่อผงาดนั่งรมว.ยุติธรรม
แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า ขณะนี้ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรค จะเป็นนายกรัฐมนตรีและควบเก้าอี้ รมว.กลาโหม ซึ่งเบื้องต้นมีรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องการให้นายสมัคร เป็นรมว.กลาโหมเพื่อเข้ามาจัดแถวในกองทัพใหม่
ส่วนตำแหน่ง รมว.มหาดไทยที่มีข่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จะเข้ามาดำงตำแหน่งนั้นช่วงที่ผ่านมาแกนนำพรรคที่ใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ ได้เสนอ ร.ต.อ. ร.ต.อ.เฉลิม ว่าถ้าไม่ได้เป็น รมว.มหาดไทย จะเป็น รมว.ยุติธรรมได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม ก็ไม่ขัดข้อง ส่วนเหตุผลที่จะให้ไปเป็น รมว ยุติธรรม เนื่องจาพ.ต.ท.ทักษิณ มองว่าร.ต.อ.เฉลิมมีความรู้ทางกฎหมายหลายด้านและยังจะเป็นการเคลียร์ช่องทางกฎหมายและคดีให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก่อนที่จะเดินทางกลับเข้าประเทศ
นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวว่านายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ที่ก่อนหน้านี้มีการต่อรองการร่วมรัฐบาลซึ่งได้โควต้ารัฐมนตรีเพียง1ที่นั่ง อาจเป็นกระทรวงการการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แต่ว่านายเสนาะ ไม่ค่อยพอใจ แต่อยากไปนั่งเป็น รมว.มหาดไทย มากกว่า ทำให้พรรคพลังประชาชนต้องกลับมาพิจารณาอีกครั้ง
หญิงหน่อยดันเด็กในคาถาเป็นมท.2
มีรายงานอีกว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็ต้องการผลักดัน นายสุธา ชันแสง ส.ส.กทม.และคนสนิท ให้เข้ามาเป็น รมช.มหาดไทย เนื่องจากมองว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาพื้นที่ กทม.ในอดีตที่เคยเป็นฐานเสียงที่สำคัญแต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้กลับพ่ายแพ้พรรคประชาธิปัตย์อย่างยับเยิน จึงต้องการให้เข้ามาดูแลฐานเสียงในกทม.
อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้ตำแหน่ง รมช.มหาดไทย สมาชิกกลุ่ม กทม.ก็จะผลักดันให้นายสุธา เข้าไปเป็น รมว.การพัฒนาสังคมฯ เพื่อให้ไปดูเรื่องบ้านมั่นคง ที่จะสามารถสร้างกระแสให้คนใน กทม.ได้เช่นกัน
ส่วน นายยงยุทธ ที่จะเข้ามาเป็นประธานสภาฯนั้น พรรคพลังประชาชน ต้องการให้เข้าไป ควบคุมพรรคร่วมรัฐบาลที่อาจเกิดปัญหาในอนาคต รวมทั้งยังต้องการให้เข้ามาคุมเกมในสภาซึ่งเกรงว่าอาจเกิดปัญหาอย่างเช่นกรณีงูเห่าในรัฐสภา
สำหรับกระทรวงเศรษฐกิจที่สำคัญๆ เช่น กระทรวงการคลัง ยังคงเป็นปัญหาของพรรคพลังประชาชน เนื่องจากที่ผ่านมาแกนนำพรรคได้ไปทาบทาม บุคคลนอกหลายคนแต่กลับถูกปฏิเสธ ล่าสุดมีแนวโน้มว่า นพ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค จะเข้าไปดำรงตำแหน่งรมว.คลัง ส่วนประเด็นที่ว่า นพ.สุรพงษ์ ไม่มีความเชี่ยวชาญนั้นไม่น่ามีปัญหา เพราะนพ.สุรพงษ์ จะเป็นเพียงหัวเท่านั้น ส่วนการทำงานภาพรวมพรรคพลังประชาชนมีทีมเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอยู่แล้วจะประคับประคองการทำงานไปได้
ประภัตรจองเก้าอี้รมว.เกษตรฯ
แหล่งข่าวจากพรรคชาติไทย เปิดเผยว่าว่า ในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้พรรคชาติไทย คาดว่าจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรี 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรี รมว.เกษตรและสหกรณ์ รมว.ศึกษาธิการ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และรมช.คมนาคม โดยบุคคลที่คาดว่าจะนั่งเก้าอี้ตำแหน่งรัฐมนตรี อาทิ นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทย เป็นรมว.เกษตรฯ นายอรรคพล สรสุชาติ สมาชิกพรรคชาติไทย ได้โควต้าของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสตร์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย นั่งเก้าอี้ รมช.คมนาคม และนายวีระสักดิ์ โควสุรัตน์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทย รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งดังกล่าวยังต้องมีการเจรจาต่อรอง ทุกอย่างยังมีการเปลี่ยนแปลงได้จนถึงวันที่ 25 ม.ค. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพรรคแกนนำเป็นผู้ตัดสินใจ