ผู้จัดการรายวัน – โดฟ ตอกย้ำผู้เชี่ยวชาญผมเสียครบวงจร อัดฉีด 80 ล้านบาท ผุดแคมเปญ“Better Morning Better Hair” ช่วยหญิงไทยมีเส้นผมไม่แห้งและชี้ฟูตอนเช้า เดินสายแจกสินค้าตัวอย่าง 5 หมื่นชิ้น พร้อมเดินเกมกระตุ้นสาวไทยใช้ทรีทเมนต์เพิ่ม หลังสบช่องตลาด 600 ล้านบาท โตพรวด 15% สูงสุดในแฮร์แคร์
นางสาวพจมาศ วิชญวงศ์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม – โดฟ บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแชมพูและครีมนวดผมโดฟ เปิดเผยว่า เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์โดฟในฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการดูแลผมเสียอย่างครบวงจร บริษัทฯได้ทุ่มงบ 80 ล้านบาทในระยะเวลา 3 เดือน เปิดตัวแคมเปญ “Better Morning Better Hair” เพื่อช่วยผู้หญิงเปิดรับเช้าวันใหม่มีเส้นผมไม่แห้งและชี้ฟู เนื่องจากการสำรวจพบว่า ผู้หญิงไทยสระผมตอนเช้าสัดส่วน 55% โดยพบว่า 95% ไม่พอใจกับทรงผมตอนเช้า เนื่องจากมีปัญหาจากผมเสีย
สำหรับแคมเปญ “Better Morning Better Hair” นำร่องด้วยการจัดกิจกรรม ส่งทีมโดฟ เวค คลับ แจกโดฟ แฮปปี้ บ็อกซ์ หรือสินตัวอย่างโดฟ เธอราพี ซิสเต็ม มีรีแพร์ริ่ง เซรั่ม ช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมอย่างครบวงจร จำนวน 50,000 ชิ้น แจกคู่กับซีดีเพลงเช้าวันใหม่ ซึ่งนำมะเดี่ยว – ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ผู้กำกับหนังรักแห่งสยาม และพิช-วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงศ์กุล นักแสดงมาร่วมแต่งและร้องเพลง เริ่มตั้งแต่วันที่ 14-16 มกราคม นี้ ทั่วกรุงเทพ โดยเฉพาะในย่านธุรกิจ สีลม สาทร เพลินจิต วิทยุ เป็นต้น พร้อมกันนี้ได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ในกลางเดือนหน้านี้ต่อเนื่องจากภาพยนตร์โฆษณาชุดแรก
“การจัดแคมเปญดังกล่าว เพื่อส่งเสริมให้ผู้หญิงทุกคนมีความเชื่อมั่น และมั่นใจในความงามที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง และพลังในการเริ่มต้นเช้าวันใหม่อย่างสดใดกับแชมพูโดฟ เธอราพี ซิสเต็ม มี รีแพร์ริ่ง เซรั่ม ซึ่งเป็นสูตรที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้”
ทั้งนี้คาดว่ากิจกรรมนำร่องในช่วงต้นปีนี้ของโดฟ จะช่วยให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคและการเกิดการทดลองใช้ หรือได้รับประสบการณ์โดยตรงจากการทดลองใช้ ซึ่งจะทำให้โดฟสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายๆ และมีฐานลูกค้ากว้างมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม การจัดกิจกรรมของแชมพูและครีมนวดโดฟจะมีอย่างต่อเนื่องทั้งปี ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้เชี่ยวชาญในการดูแลผมเสีย และเป้าหมายสำคัญคือการกระตุ้นการใช้ทรีทเมนต์ของสาวไทยให้มีการขยายตัวเพิ่มจาก 20% หรือคิดเป็นมูลค่า 600 ล้านบาท เป็น 30% หรือมูลค่า 900 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมตลาดแชมพูและครีมนวดผมมูลค่า 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็น แชมพูมูลค่า 7,000 ล้านบาท ตลาดไม่มีอัตราการเติบโต เพราะอัตราการใช้ครบ 100% ส่วนตลาดครีมนวดมูลค่า 3,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียว จากการมีอัตราการใช้ 85% ส่วนตลาดทรีทเมนต์มูลค่า 600 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20% จากตลาดครีมนวดมีอัตราการเติบโต 15% สูงสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เส้นผม
นางสาวพจมาศ วิชญวงศ์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม – โดฟ บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแชมพูและครีมนวดผมโดฟ เปิดเผยว่า เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์โดฟในฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการดูแลผมเสียอย่างครบวงจร บริษัทฯได้ทุ่มงบ 80 ล้านบาทในระยะเวลา 3 เดือน เปิดตัวแคมเปญ “Better Morning Better Hair” เพื่อช่วยผู้หญิงเปิดรับเช้าวันใหม่มีเส้นผมไม่แห้งและชี้ฟู เนื่องจากการสำรวจพบว่า ผู้หญิงไทยสระผมตอนเช้าสัดส่วน 55% โดยพบว่า 95% ไม่พอใจกับทรงผมตอนเช้า เนื่องจากมีปัญหาจากผมเสีย
สำหรับแคมเปญ “Better Morning Better Hair” นำร่องด้วยการจัดกิจกรรม ส่งทีมโดฟ เวค คลับ แจกโดฟ แฮปปี้ บ็อกซ์ หรือสินตัวอย่างโดฟ เธอราพี ซิสเต็ม มีรีแพร์ริ่ง เซรั่ม ช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมอย่างครบวงจร จำนวน 50,000 ชิ้น แจกคู่กับซีดีเพลงเช้าวันใหม่ ซึ่งนำมะเดี่ยว – ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ผู้กำกับหนังรักแห่งสยาม และพิช-วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงศ์กุล นักแสดงมาร่วมแต่งและร้องเพลง เริ่มตั้งแต่วันที่ 14-16 มกราคม นี้ ทั่วกรุงเทพ โดยเฉพาะในย่านธุรกิจ สีลม สาทร เพลินจิต วิทยุ เป็นต้น พร้อมกันนี้ได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ในกลางเดือนหน้านี้ต่อเนื่องจากภาพยนตร์โฆษณาชุดแรก
“การจัดแคมเปญดังกล่าว เพื่อส่งเสริมให้ผู้หญิงทุกคนมีความเชื่อมั่น และมั่นใจในความงามที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง และพลังในการเริ่มต้นเช้าวันใหม่อย่างสดใดกับแชมพูโดฟ เธอราพี ซิสเต็ม มี รีแพร์ริ่ง เซรั่ม ซึ่งเป็นสูตรที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้”
ทั้งนี้คาดว่ากิจกรรมนำร่องในช่วงต้นปีนี้ของโดฟ จะช่วยให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคและการเกิดการทดลองใช้ หรือได้รับประสบการณ์โดยตรงจากการทดลองใช้ ซึ่งจะทำให้โดฟสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายๆ และมีฐานลูกค้ากว้างมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม การจัดกิจกรรมของแชมพูและครีมนวดโดฟจะมีอย่างต่อเนื่องทั้งปี ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้เชี่ยวชาญในการดูแลผมเสีย และเป้าหมายสำคัญคือการกระตุ้นการใช้ทรีทเมนต์ของสาวไทยให้มีการขยายตัวเพิ่มจาก 20% หรือคิดเป็นมูลค่า 600 ล้านบาท เป็น 30% หรือมูลค่า 900 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมตลาดแชมพูและครีมนวดผมมูลค่า 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็น แชมพูมูลค่า 7,000 ล้านบาท ตลาดไม่มีอัตราการเติบโต เพราะอัตราการใช้ครบ 100% ส่วนตลาดครีมนวดมูลค่า 3,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียว จากการมีอัตราการใช้ 85% ส่วนตลาดทรีทเมนต์มูลค่า 600 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20% จากตลาดครีมนวดมีอัตราการเติบโต 15% สูงสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เส้นผม