"รักแห่งสยาม" รีเทิร์นฉายฉบับเต็มอีกรอบ "พิช" ลั่นไม่เกี่ยวเพิ่มรายได้หนัง พร้อมบอกอย่าคาดหวังเลิฟซีนจะดุเดือด แค่เพิ่มฉากความสัมพันธ์ของตัวละครความยาวเกือบ 4 ชั่วโมง เผยหลังหนังออกโรงยังมีงานติดต่อเพียบ ด้านแกรมมี่ทาบเป็นดีเจ แต่เจ้าตัวยังไม่เลือกบอกไกลที่เรียน
ทนกระแสเรียกร้องไม่ไหวทีเดียวสำหรับหนังเรื่องรักแห่งสยาม เพราะรักแห่งสยามฉบับเต็มจะมีการนำมาฉายอีกครั้งที่โรงหนังเฮ้าส์ อีกครั้งวันที่ 17 นี้ นักแสดงในเรื่องอย่าง "พิช วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล" บอกที่เอามาฉายเพราะแฟนหนังเรียกร้องอยากดูอีก ไม่เกี่ยวอยากเพิ่มรายได้หนังหรือเอาฉากหวือหวามาเรียกกระแสแน่นอน บอกเลิฟซีนที่เห็นจูบปากในโรงมีมากสุดแล้วจะไม่มีการเพิ่มฉากหวือหวาอีกแม้หนังจะยาวเกือบ 4ชั่วโมงก็ตาม
"ที่เขาเอามาฉายใหม่นี่พิชว่ามันไม่เกี่ยวกับไปเพิ่มยอดอะไรนะครับ แต่เพราะว่าคนอยากดูรอบเต็มๆมีมากจริงๆ รีเควสต์เข้ามากันเยอะ พี่มะเดี่ยวก็เลยเอามาฉายต่อตามคำเรียกร้อง ซึ่งไม่น่าเกี่ยวกับเรื่องรายได้เพราะว่า3-4 วันแรกมันรู้แล้วไงครับว่าออกมายังไง"
"คือเลิฟซีนนี่ไม่มีมากกว่านั้นแล้ว..(ยิ้ม) ในหนังนั่นมากสุดแล้วครับ แต่ที่มันจะมีส่วนเพิ่มเข้ามาเนี่ยมันเรื่องของความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละตัวมากกว่าว่าจะออกมาอย่างไร เกี่ยวเนื่องกันอย่างไร มันจะได้เห็นอีกมุม อีกมิติที่มีรายละเอียดมากขึ้น ซึ่งในโรงเนี่ยมันนานอยู่แล้ว ลงตัวของมันอยู่แล้ว แต่รอบนี้นี่คือของคนที่อยากจะดูจริงๆ 3 ชั่วโมงกว่าน่ะครับเกือบ 4 ชั่วโมง"
ก่อนจะเผยว่าแม้ว่าหนังจะออกโรงไปแล้วแต่งานก็ยังมีเข้ามาเรื่อยๆทั้งงานดีเจ งานละคร พร้อมลั่นส่วนตัวแล้วอยากเรียนมากกว่า
"จริงๆพิชชอบงานเบื้องหลังมากกว่านะ ที่จริงพิชไม่ได้เซ็นสัญญากับทางสหมงคลหรอก แต่ว่าทางบาแรมยูเนี่ยดูงานให้ ซึ่งงานก็ต้องผ่านทางบาแรมยูมาดูให้ว่าอย่างไร มีติดต่อเข้ามานะทั้งงานละครก็มีไปแคสบ้าง งานดีเจแกรมมี่ก็มีติดต่อเข้ามานะ ถามว่าอยากทำมั้ยพิชอยากทำนะ แต่ว่าเราเรียนที่ธรรมศาสตร์ รังสิต แล้วต้องไปๆกลับๆ มันไม่เอื้อนะ ไกล เวลาเรียนมันไม่ตรงกันอีกนะครับ พิชขอเลือกเรียนก่อนแล้วกัน"
" คือถามว่าอยากกอบโกยมั้ยมันก็อยากนะ แต่ว่าเราอยากทำทีละอย่าง แล้วทำให้มันดีน่ะครับ คือวันนี้เรามีเรียน เรียนอยู่ เราก็เรียนไปก่อน ทำให้มันดีไปก่อน คืองานเนี่ยเราไม่รู้หรอกว่าวันอื่นมันจะมีมั้ย แต่ว่าพิชก็คิดว่าถ้าพิชเรียนไปก่อน ให้มันดีนะ พิชว่าพิชไม่ลำบากแน่ๆน่ะ"
"ถ้ามีโอกาสอยากทำหมดแหละแต่ต้องดูว่ามันเอื้อมั้ยไงครับ พิชไม่ใช่แบบว่ามีอะไรเข้ามาก็ทำ หน้าที่หลักของพิชคือเรียนน่ะตอนนี้ อย่างเรื่องดนตรี เป็นศิลปินถามว่าอยากเป็นมั้ยอยากนะอยากทำทุกอย่างน่ะ..(ยิ้ม) อยากลองไงมันอยู่ในช่วงอยากลองทำแต่มันต้องดูไงครับว่าเราไหวมั้ยพิชมีเรียนจันทร์ถึงพฤหัสเลยนะ แล้วจริงๆการเป็นศิลปินเนี่ยมันไม่ใช่แค่เราเดินเข้าไปเรื่องเพลงไง โปรเจ็กต์เรากับโปรเจ็กต์ค่ายมันก็ไม่เหมือนกันอยู่แล้วน่ะพิชว่า อย่างเราอยากทำเพลงแนวนี้ แบบนี้ แต่นายทุนเจ้าของค่ายก็จะเป็นอีกแนวหนึ่ง อยากให้เราเป็นอีกแบบหนึ่งพิชว่ามันไม่ใช่น่ะครับ คือเขาก็ให้เราเป็นอย่างที่เขาอยากให้เป็น อาจไม่ใช่ตัวเรา"
ก่อนจะเผยว่าหนังรักแห่งสยามทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปมากมีคนรู้จักมากขึ้น แต่ย้ำสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแต่ตนเองไม่เคยเปลี่ยน พร้อมยันแม้จะเป็นนักแสดงหน้าใหม่แต่ก็ไม่เคยคิดปล่อยภาพฉาวหวังดังเทียบดาราคนอื่นแน่นอน
"ถามว่าชีวิตเปลี่ยนไปเยอะมั้ย เยอะมากนะ สังคมข้างนอกคนข้างนอกเข้ามาเยอะ แต่ตัวเราก็ยังไม่เปลี่ยนนะ เราปรับตัวมาเยอะ ทำใจมาตั้งแต่ก้าวเข้ามาแล้ว ทั้งเรื่องข่าว เรื่องคน เรื่องอะไรที่จะเข้ามาหาเรา เราทำใจไว้แล้ว พิชไม่ได้มองว่าพิชดังนะ แล้วไม่ได้อยากมีข่าวอะไรทั้งนั้น บางคนมีคลิปฉาวออกมา เออ มันดังนะ ปล่อยเขาดังกันไปเถอะ แต่พิชว่าดังด้านอื่นๆดีกว่านะ..(ยิ้ม) แบบฉาวๆนี่ไม่เอา"
"คือเรื่องข่าวเนี่ย เราต้องทำใจนะอย่างสมมติว่าสมัยเราไม่มีชื่อเสียงเราถ่ายรูปกับเพื่อนก็คือถ่ายกับเพื่อน แต่พอเรามาอยู่ในวงการนี้ข่าวมันก็คือข่าวน่ะครับ เราก็อย่าไปทำอะไรที่มันเสียหายมากกว่านั้นก็พอแล้วพิชว่านะ มันต้องทำใจครับเมื่อก้าวเข้ามาแล้วน่ะ"
***
เปิดใจจูบแรกของ “พิช” กับผู้ชาย เจ้าตัวย้ำผมไม่ใช่เกย์