นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการ คตส.ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนการทุจริตการก่อสร้างบ้านเอื้ออาทร กล่าวภายหลังการประชุมใหญ่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)ว่า ที่ประชุมด้มีมติตั้งข้อกล่าวหา และชี้มูลความผิดการทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรเพิ่มเติมอีก 2 โครงการ คือ 1.โครงการบ้านเอื้ออาทร จ.ปราจีนบุรี (กบินทร์บุรี 2) มูลค่า 181 ล้านบาท โดยพบว่ามีการพอกราคาที่ดินเกินความจริง 7.8 ล้านบาท ทั้งยังพบว่า มีการปลอมแปลงเอกสารการประเมินที่ดิน ซึ่งจากการตรวจสอบของอนุกรรมการพบว่า มีการใช้เอกสารปลอม และมีการแก้ไขการประเมินราคาที่ดินย้อนหลัง คณะกรรมการจึงมีมติชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้องจำนวน 4 ราย ประกอบด้วย 1. เจ้าหน้าที่ศูนย์ที่ดิน 2 คน คือนายเจตวัฒน์ วิชิต กับ นายปรีชา ขุนรักษ์ 2. นายธวัช ทุวิรัต กรรมการผู้จัดการบริษัท อลิอันซ์ พร็อพเพอตี้ จำกัด 3. นายพิทยา เจริญวรรณ รองผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ ในความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ ในฐานะพนักงานของรัฐ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติชี้มูลความผิดโครงการบ้านเอื้ออาทร โครงการอรัญประเทศ มูลค่า 209 ล้านบาท ในความผิดฐาน พอกราคาสูงกว่าความเป็นจริง 10.7 ล้านบาท พบว่ามีการปลอมแปลงเอกสารการประเมินราคาที่ดิน เช่นเดียวกันโดยมีมติชี้มูลความผิด และแจ้งข้อกล่าวและตั้งอนุกรรมการไต่สวน นายธวัช ทุวิรัต และเจ้าหน้าที่ศูนย์ที่ดิน 3 คน คือ นายเจตวัฒน์และนายปรีชา และนายวินัย ภิรมย์ดี
หลังจากนี้ อนุกรรมการจะส่งหนังสือให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 โครงการ คัดค้านการตั้งอนุกรรมการไต่สวน และมารับทราบข้อกล่าวหากับ คตส. ต่อไป ซึ่งถ้าแก้ข้อกล่าวหาไม่ได้ กลุ่มมาเฟียในการเคหะฯที่ร่วมกันพอกราคาก็จะถูกจัดการ และในโครงการทุจริตโควตา พญานาค และปลาใหญ่ ก็จะโดนคดีทุจริตนี้ด้วย
"อนุกรรมการได้นำรายชื่อบริษัทที่ประเมินที่ดินของโครงการบ้านเอื้ออาทรทั้งหมด มาตรวจสอบพบว่ามีบริษัทแห่งหนึ่งที่ไม่ได้ส่งผลการประเมิน แต่กลับมีการกล่าวอ้างบริษัทประเมินที่ดินถึง 2 บริษัท ซึ่งอนุกรรมการได้ไปตรวจสอบบริษัทประเมินที่ดินปรากฏว่า ไม่มีการประเมินราคาที่ดินแต่อย่างใด กลุ่มทุจริตจึงให้บริษัทดังกล่าว ทำการประเมินย้อนหลัง แต่บริษัทไม่ยอม กลุ่มทุจริตจึงบังอาจแก้วันที่ย้อนหลัง แล้วไปซุกไว้ในห้องมั่นคงที่อนุกรรมการบล็อกเอาไว้ว่า ห้ามนำเอกสารอื่นใดไปสอดแทรกเพิ่มเติม จึงพบว่า ทั้งสองคดีมีการปลอมเอกสารการประเมิน และใช้เอกสารปลอม และประเมินราคาเกินความเป็นจริง"
นายแก้วสรร ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนโครงการบ้านเอื้ออาทร คลอง 9 ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบของอนุกรรมการว่า จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาและขอมติที่ประชุม คตส. เพื่อตั้งอนุกรรมการไต่สวนในวันจันทร์ที่ 21 ม.ค. ส่วนโครงการบ้านเอื้ออาทรเคหะร่มเกล้า บางพลี ที่มีการตั้งอนุกรรมการไต่สวนไปเรียบร้อยแล้วนั้น จะมีการสรุปผลการไต่สวนและส่งให้อัยการสูงสุด สั่งฟ้องได้ภายในสิ้นเดือนม.ค. นี้ หลังจากนั้นอนุกรรมการ ก็จะไม่ตรวจสอบโครงการอื่นของบ้านเอื้ออาทรอีกแล้ว ซึ่งคาดว่าภายในระยะเวลาต่อจากนี้ คือ 5 เดือนกว่า อนุกรรมการจะสามารถสรุปผลได้ทุกโครงการ
นายแก้วสรร ในฐานะอนุกรรมการสอบสวนกรณีการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ เพื่อเอื้อประโยชน์ธุรกิจตนเองและพวกพ้อง ของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการแจ้งข้อกล่าวหากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในความผิดกรณีแปลงค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต และคดีพ.ต.ท.ทักษิณได้ทรัพย์สินโดยมิสมควร และขอให้ศาลยึดเงินจากการซื้อขายหุ้น จากการขายหุ้นชินคอร์ป และเงินปันผลให้ตกเป็นของแผ่นดินว่า ทั้งสองคดีที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ทาง คตส.ได้ส่งข้อกล่าวหาไปให้พ.ต.ท.ทักษิณ ทางไปรษณีย์แล้ว และทางทีมทนายความของพ.ต.ท.ทักษิณ จะมารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเอง ทำให้อนุกรรมการสบายใจ และทำให้เรื่องนี้ไม่เสียเวลา
สำหรับเจ้าหน้าที่ซึ่งมีส่วนเอื้อประโยชน์ในธุรกิจโทรคมนาคม รวม 3 คดี อนุกรรมการได้มีการวางแผนที่จะเรียกพยานมาให้ถ้อยคำเพิ่มเติม รวมทั้งกำหนดผู้ถูกกล่าวหาภายใน 2 สัปดาห์นี้ จะได้ทยอยรายงาน คตส.เพื่อตั้งข้อกล่าวหาได้ หลักฐานของคตส.ในขณะนี้มีหลักฐานเพียงพอแล้วเหลือเพียงผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจง เพื่อจะได้มีการนำสืบพยานกันต่อไป เวลาที่เหลือก่อนจะถึงมิถุนายน คตส.ไม่ได้วิตกว่าจะทำไม่ทันแต่อย่างใด
นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส. กล่าวถึงความคืบหน้าการเพิกถอนการอายัดทรัพย์น.ส. ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน ที่ถูกอายัดบัญชีเงิน 100 ล้านบาทนั้น ทางอนุกรรมการพิจารณาเพิกถอนการอายัดทรัพย์เห็นว่า หลังจากน.ส. ชินณิชา เลื่อนการชี้แจงออกมาหลายครั้งแล้ว จึงได้สั่งกำชับให้มาชี้แจงด้วยตัวเองในวันที่ 18 ม.ค. นี้
อนึ่ง เงินของน.ส.ชินณิชา จำนวน 100 ล้านบาทที่ คตส. อายัดไว้ ทีมทนายของ น.ส.ชินณิชา ชี้แจงว่า เป็นเงินกู้มาจากนาย บรรณพจน์ ดามาพงษ์ พี่ชายคุณหญิงพจมาน ชินวัตร
แหล่งข่าวจากคตส.เปิดเผยว่า ในการประชุมครั้งนี้ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ที่ประชุมได้ขอให้เป็นการประชุมลับ เพื่อสอบถามนายสัก กอแสงเรือง และนายวิโรจน์ เลาหะพันธ์ เกี่ยวกับการเข้าพบเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นการเข้าพบเรื่องอะไร ซึ่งนายสัก ได้ชี้แจงว่า เป็นการสอบถามเรื่องคดีต่าง ๆ ของ คตส.ว่ามีความคืบหน้าอย่างไร มีปัญหาอย่างไรบ้าง และเรื่องคดีที่เกี่ยวกับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีอยู่ในชั้นศาล 2 คดี คือ การซื้อขายที่ดินย่านรัชดา และคดีการเลี่ยงภาษี บริษัทชินวัตรคอมพิวเตอร์แอนด์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ซึ่งปรากฎว่า ที่ประชุมไม่ได้ติดใจซักถามอะไรเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติชี้มูลความผิดโครงการบ้านเอื้ออาทร โครงการอรัญประเทศ มูลค่า 209 ล้านบาท ในความผิดฐาน พอกราคาสูงกว่าความเป็นจริง 10.7 ล้านบาท พบว่ามีการปลอมแปลงเอกสารการประเมินราคาที่ดิน เช่นเดียวกันโดยมีมติชี้มูลความผิด และแจ้งข้อกล่าวและตั้งอนุกรรมการไต่สวน นายธวัช ทุวิรัต และเจ้าหน้าที่ศูนย์ที่ดิน 3 คน คือ นายเจตวัฒน์และนายปรีชา และนายวินัย ภิรมย์ดี
หลังจากนี้ อนุกรรมการจะส่งหนังสือให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 โครงการ คัดค้านการตั้งอนุกรรมการไต่สวน และมารับทราบข้อกล่าวหากับ คตส. ต่อไป ซึ่งถ้าแก้ข้อกล่าวหาไม่ได้ กลุ่มมาเฟียในการเคหะฯที่ร่วมกันพอกราคาก็จะถูกจัดการ และในโครงการทุจริตโควตา พญานาค และปลาใหญ่ ก็จะโดนคดีทุจริตนี้ด้วย
"อนุกรรมการได้นำรายชื่อบริษัทที่ประเมินที่ดินของโครงการบ้านเอื้ออาทรทั้งหมด มาตรวจสอบพบว่ามีบริษัทแห่งหนึ่งที่ไม่ได้ส่งผลการประเมิน แต่กลับมีการกล่าวอ้างบริษัทประเมินที่ดินถึง 2 บริษัท ซึ่งอนุกรรมการได้ไปตรวจสอบบริษัทประเมินที่ดินปรากฏว่า ไม่มีการประเมินราคาที่ดินแต่อย่างใด กลุ่มทุจริตจึงให้บริษัทดังกล่าว ทำการประเมินย้อนหลัง แต่บริษัทไม่ยอม กลุ่มทุจริตจึงบังอาจแก้วันที่ย้อนหลัง แล้วไปซุกไว้ในห้องมั่นคงที่อนุกรรมการบล็อกเอาไว้ว่า ห้ามนำเอกสารอื่นใดไปสอดแทรกเพิ่มเติม จึงพบว่า ทั้งสองคดีมีการปลอมเอกสารการประเมิน และใช้เอกสารปลอม และประเมินราคาเกินความเป็นจริง"
นายแก้วสรร ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนโครงการบ้านเอื้ออาทร คลอง 9 ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบของอนุกรรมการว่า จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาและขอมติที่ประชุม คตส. เพื่อตั้งอนุกรรมการไต่สวนในวันจันทร์ที่ 21 ม.ค. ส่วนโครงการบ้านเอื้ออาทรเคหะร่มเกล้า บางพลี ที่มีการตั้งอนุกรรมการไต่สวนไปเรียบร้อยแล้วนั้น จะมีการสรุปผลการไต่สวนและส่งให้อัยการสูงสุด สั่งฟ้องได้ภายในสิ้นเดือนม.ค. นี้ หลังจากนั้นอนุกรรมการ ก็จะไม่ตรวจสอบโครงการอื่นของบ้านเอื้ออาทรอีกแล้ว ซึ่งคาดว่าภายในระยะเวลาต่อจากนี้ คือ 5 เดือนกว่า อนุกรรมการจะสามารถสรุปผลได้ทุกโครงการ
นายแก้วสรร ในฐานะอนุกรรมการสอบสวนกรณีการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ เพื่อเอื้อประโยชน์ธุรกิจตนเองและพวกพ้อง ของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการแจ้งข้อกล่าวหากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในความผิดกรณีแปลงค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต และคดีพ.ต.ท.ทักษิณได้ทรัพย์สินโดยมิสมควร และขอให้ศาลยึดเงินจากการซื้อขายหุ้น จากการขายหุ้นชินคอร์ป และเงินปันผลให้ตกเป็นของแผ่นดินว่า ทั้งสองคดีที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ทาง คตส.ได้ส่งข้อกล่าวหาไปให้พ.ต.ท.ทักษิณ ทางไปรษณีย์แล้ว และทางทีมทนายความของพ.ต.ท.ทักษิณ จะมารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเอง ทำให้อนุกรรมการสบายใจ และทำให้เรื่องนี้ไม่เสียเวลา
สำหรับเจ้าหน้าที่ซึ่งมีส่วนเอื้อประโยชน์ในธุรกิจโทรคมนาคม รวม 3 คดี อนุกรรมการได้มีการวางแผนที่จะเรียกพยานมาให้ถ้อยคำเพิ่มเติม รวมทั้งกำหนดผู้ถูกกล่าวหาภายใน 2 สัปดาห์นี้ จะได้ทยอยรายงาน คตส.เพื่อตั้งข้อกล่าวหาได้ หลักฐานของคตส.ในขณะนี้มีหลักฐานเพียงพอแล้วเหลือเพียงผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจง เพื่อจะได้มีการนำสืบพยานกันต่อไป เวลาที่เหลือก่อนจะถึงมิถุนายน คตส.ไม่ได้วิตกว่าจะทำไม่ทันแต่อย่างใด
นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส. กล่าวถึงความคืบหน้าการเพิกถอนการอายัดทรัพย์น.ส. ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน ที่ถูกอายัดบัญชีเงิน 100 ล้านบาทนั้น ทางอนุกรรมการพิจารณาเพิกถอนการอายัดทรัพย์เห็นว่า หลังจากน.ส. ชินณิชา เลื่อนการชี้แจงออกมาหลายครั้งแล้ว จึงได้สั่งกำชับให้มาชี้แจงด้วยตัวเองในวันที่ 18 ม.ค. นี้
อนึ่ง เงินของน.ส.ชินณิชา จำนวน 100 ล้านบาทที่ คตส. อายัดไว้ ทีมทนายของ น.ส.ชินณิชา ชี้แจงว่า เป็นเงินกู้มาจากนาย บรรณพจน์ ดามาพงษ์ พี่ชายคุณหญิงพจมาน ชินวัตร
แหล่งข่าวจากคตส.เปิดเผยว่า ในการประชุมครั้งนี้ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ที่ประชุมได้ขอให้เป็นการประชุมลับ เพื่อสอบถามนายสัก กอแสงเรือง และนายวิโรจน์ เลาหะพันธ์ เกี่ยวกับการเข้าพบเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นการเข้าพบเรื่องอะไร ซึ่งนายสัก ได้ชี้แจงว่า เป็นการสอบถามเรื่องคดีต่าง ๆ ของ คตส.ว่ามีความคืบหน้าอย่างไร มีปัญหาอย่างไรบ้าง และเรื่องคดีที่เกี่ยวกับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีอยู่ในชั้นศาล 2 คดี คือ การซื้อขายที่ดินย่านรัชดา และคดีการเลี่ยงภาษี บริษัทชินวัตรคอมพิวเตอร์แอนด์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ซึ่งปรากฎว่า ที่ประชุมไม่ได้ติดใจซักถามอะไรเพิ่มเติม