xs
xsm
sm
md
lg

ส.อ.ท.นัดถกสมาชิก25-26ม.ค. สรุปแผนฟื้นศก.เสนอรัฐบาลใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน- ส.อ.ท.ระดมสมาชิกทั่วประเทศถกสรุปข้อเสนอชงรัฐบาลใหม่เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบ่งเป็น 3 กรอบหลักได้แก่ มาตรการที่รัฐต้องเร่งทำ มาตรการที่ต้องสนับสนุนเอกชนและมาตรการที่ต้องนำเอกชน เผยเอกชนวิตก”การเมือง”มากกว่าน้ำมันและบาทแข็งค่าแนะรัฐบาลใหม่ต้องรอบคอบขึ้น VAT

แหล่งข่าวจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 25-26 มกราคมนี้ส.อ.ท.จะหารือกับสมาชิกทั้งหมดเพื่อที่จะระดมสมองเพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่ต่อการบริหารเศรษฐกิจของประเทศ โดยจะวางกรอบหลักๆ ในการหารือไว้ 3 ประเด็นคือ 1. อะไรบ้างที่รัฐบาลใหม่จะต้องดำเนินการเร่งด่วน 2. นโยบายด้านใดที่จะต้องสนับสนุนหรือเกิดความร่วมมือกับภาคเอกชนและ 3. นโยบายหรือมาตรการใดบ้างที่ภาครัฐจะต้องนำเอกชนเพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ปี 2551 มีปัจจัยเสี่ยงหลายด้านที่เอกชนจะต้องปรับตัวรับมือทั้งราคาน้ำมันที่คาดว่าจะทรงตัวระดับสูงต่อเนื่องอีกปีหนึ่ง รวมไปถึงภาวะอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่คาดว่าจะแข็งค่าขึ้น แต่ทั้งสองประเด็นเอกชนมีการปรับตัวแล้วพอสมควรและเป็นไปตามภาวะของโลกที่ทุกประเทศเผชิญหมด อย่างไรก็ตามสิ่งที่เอกชนกังวลและได้มีการหยิบยกมาพูดกันบ่อยในเวทีต่างๆ นั้นส่วนใหญ่จะห่วงการเมืองมากกว่าเพราะจะมีผลต่อความเชื่อมั่นซึ่งหากการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าหรือมีความวุ่นวายย่อมไม่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทย

นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันหรือกกร.ที่ประกอบด้วยสภาหอฯ ส.อ.ท.และสมาคมธนาคารไทยกล่าวว่า เอกชนเองมีความเป็นห่วงเศรษฐกิจแต่ก็ได้ย้ำเสมอว่าราคาน้ำมันที่สูงและค่าเงินบาทที่แข็งค่านั้นทั่วโลกก็เป็นปัญหาเช่นกันอยู่ที่ใครจะบริหารจัดการได้ดีกว่าซึ่งการบริหารจัดการก็จะต้องร่วมมือกับรัฐบาล ซึ่งก็เชื่อว่ารัฐบาลใหม่มาอะไรเร่งด่วนที่จะต้องทำก็คงจะทราบดี

นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานส.อ.ท.กล่าวว่า คงต้องมีการสอบถามสมาชิกส.อ.ท.เกี่ยวกับภาวะน้ำมันและค่าเงินบาทโดยรวมก่อนแต่ยอมรับว่าหากระดับราคาน้ำมันโลกเฉลี่ย 100 เหรียญต่อบาร์เรลจะกระทบกับต้นทุนการผลิตสินค้าในปี 2551 ให้เพิ่มขึ้นได้ และยังจะส่งผลให้ประชาชนมีค่าครองชีพที่สูงขึ้นซึ่งจะกระทบกับการใช้จ่ายประชาชนให้ลดลงตามไป ดังนั้นคงจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

แนะรัฐบาลใหม่รอบคอบขึ้นVAT

ส่วนกรณีที่กระทรวงการคลังได้วางกรอบเพื่อนำเสนอรัฐบาลใหม่ให้พิจารณาปรับเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มที่มีเพดานสูงสุด 10% จากปัจจุบันอยู่ที่ 7% ว่า รัฐบาลคงจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเนื่องจากหากปรับขึ้นในช่วงที่ประชาชนมีค่าครองชีพที่สูงอยู่แล้วจะยิ่งซ้ำเติมมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลใหม่เข้ามาคงจะต้องพิจารณาเรื่องนี้เป็นอย่างดี ส่วนกรณีค่าเงินบาทที่แข็งค่าสุดรอบ 5 เดือนนั้นทางภาครัฐเองก็ระบุว่าไม่ได้ต่างจากเพื่อนบ้านซึ่งเรื่องนี้เอกชนได้มีการประเมินไว้บ้างแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น