โฆษกคลัง เผยเตรียมเสนอแผนปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบ ต่อรัฐบาลชุดใหม่ ระบุการปรับชึ้น VAT 10% ถือเป็นทางเลือกสุดท้าย ด้านภาคเอกชน ผวาภาษีโหดทำกำลังซื้อหด-ซ้ำเติมเศรษฐกิจทรุดหนัก คาดบาทแข็ง น้ำมันแพง ตัวแปรสำคัญ สอยจีดีพีหลุดเป้า 5%
วันนี้ (8 ม.ค.) นายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า กระทรวงการคลัง ได้ยกร่างแผนปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบให้รัฐบาลชุดใหม่พิจารณา โดยประกอบด้วย ภาษีทุกประเภท ทั้งภาษีสรรพสามิต ภาษีสรรพากร รวมไปถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่เชื่อว่า จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงภายใน ก.ย.2551
สำหรับกระแสข่าวที่จะเสนอให้ปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากอัตรา 7% ไปสู่ระดับ 10% ตามเดิมนั้น นายสมชัย กล่าวว่า VAT จะเป็นภาษีตัวสุดท้ายที่จะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะเป็นภาษีที่มีผลกระทบในวงกว้าง
สำหรับกรณีดังกล่าว ภาคเอกชน เชื่อว่า เป็นการโยนหินถามทางของรัฐบาล เพราะการปรับขึ้น VAT จะทำให้เศรษฐกิจทรุดหนักลงไปอีก โดยก่อนหน้านี้ นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาคมธนาคารไทย ออกมาระบุว่า ภาคเอกชนมีความเป็นห่วงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ จากการที่ค่าเงินบาทแข็งและราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง แต่ภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ก็เจอกันทั่วโลก อยู่ที่ว่าใครจะจัดการได้ดีกว่ากัน และการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชนที่จะต้องดูว่าอะไรที่เป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องทำก่อนหลัง
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธาน ส.อ.ท.กล่าวถึงกรณีการปรับขึ้น VAT จาก 7% เป็น 10% รัฐบาลควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่า ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 2550 จะยังโตได้ 4.5-5%
“คิดว่าทุกคนคงต้องระมัดระวังเรื่องค่าใช้จ่ายในปีนี้ให้ดี ซึ่งภาคเอกชนเองก็ต้องระมัดระวังด้วย เพราะถ้าไม่ระวังให้ดีคงอยู่รอดไม่ได้” นายสันติ กล่าวสรุปทิ้งท้าย