“ชวน” ท้า “สมัคร” แน่จริงเปิดชื่อมือสกปรกสกัด พปช.ไม่ให้จัดตั้งรัฐบาล ระบุมือสกปรกตัวจริงก็คือการซื้อเสียง และโกงเลือกตั้ง พร้อมกรีด สมัยก่อนตอนมีอำนาจกลั่นแกล้งชาวบ้านไม่เห็นสนใจเรื่องความชอบธรรม ชี้สาเหตุที่โวย กกต.เพราะคุมไม่ได้เหมือนในอดีต เชื่อ กกต.ชุดนี้จับทุจริตได้เล็กน้อย จากที่มีการซื้อเสียงในการเลือกตั้งมากมาย แต่ยังให้กำลังใจ กกต.อย่าแตกแยก ด้าน “หมอเลี้ยบ” โต้พรรคที่ได้ใบเหลือง-แดงน้อยสามารถแทรกแซง กกต.ได้
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนระบุว่ามีมือสกปรกคอยสกัดกั้นพรรคพลังประชาชนการจัดตั้งรัฐบาลว่า คงไม่มีใครไปสกัดกั้นพรรคพลังประชาชนได้ และเห็นว่าหากกล้าจริงขอให้ระบุว่ามือสกปรกนั้นเป็นใครและทำอย่างไร ทั้งนี้ส่วนตัวเห็นว่ามือสกปรกคงมีจริง แต่เป็นมือซื้อเสียง หรือมือที่โกงเลือกตั้ง
“ที่จริงแล้วเหตุการณ์ขณะนี้น่าทบทวนว่า สมัยก่อนทำไมพวกท่านไม่สนใจ ความชอบธรรม ทำในสิ่งที่ชั่วร้าย สกปรก แต่ไม่มีใครเรียกร้องความชอบธรรมในขณะนั้น แม้กระทั่งนักการเมืองกลั่นแกล้งประชาชนก็ไม่มีใครออกมาพูดอะไร มีการทุจริตเลือกตั้งเรียกว่าโกงกันทั้งบ้านทั้งเมือง จับไม่ได้แม้แต่คนเดียว จับได้เพียง นายธานินทร์ ใจสมุทร ที่เอาเรื่องตากใบมาพูด ผมจึงอยากจะให้พวกเราใช้มาตรฐาน เดียวกันคือการรักษาความถูกต้องชอบธรรมเอาไว้ ใครผิดว่าไปตามผิด ไม่ว่า พรรคไหนถูกยุบก็อย่าไปกลั่นแกล้ง ฉะนั้นคนที่ไม่ผิดก็ไม่ควรจะเดือดร้อน แต่อย่าเอามาตรฐานปี 2548 มาใช้”
ส่วนกรณีที่คนในพรรคพลังประชาชนกล่าวหาว่าพรรคประชาธิปัตย์ใช้ศาล เป็นมือในการยุบพรรคไทยรักไทยนั้น นายชวน กล่าวว่า ความจริงช่วงนี้ ไม่อยากพูดเรื่องการเมือง แต่ไม่อยากให้เรื่องนี้ผ่านพ้นไปโดยไม่มีมูลความจริง และทำให้ตุลาการรัฐธรรมนูญชุดนั้น ซึ่งถือเป็นชุดที่ดีที่สุดได้รับความเสียหาย เพราะเรื่องดังกล่าวไม่เป็นจริง และพรรคไทยรักไทยต้องยอมรับว่าได้กระทำผิดจริง เพราะ ตุลาการรัฐธรรมนูญในขณะนั้นเป็นตุลาการรัฐธรรมนูญที่เที่ยงตรงที่สุด และไม่เป็นเครื่องมือพรรคการเมือง ดังนั้นไม่ควรออกมาวิพากษ์วิจารณ์เช่นนี้
“มันไม่มีบทบัญญัติเกี่ยวกับการละเมิดอำนาจตุลาการรัฐธรรมนูญ ไม่อย่างนั้นคนเหล่านี้ติดคุก ไม่ต้องรอลงอาญา ถูกจำคุกไปแล้ว เพราะมีการพูดในลักษณะนี้หลายครั้ง รวมทั้งคุณสมัครด้วย ท่านสมัครเองพูดในลักษณะว่าตุลาการรัฐธรรมนูญ ตัดสินยุบพรรคไทยรักไทยทุเรศ แต่เราต้องยอมรับว่าการกระทำผิดครั้งนั้น ถ้าสำเร็จ พวกท่านทั้งหลายก็ได้ประโยชน์ หรือสามารถทำให้การเลือกตั้งเพื่อประโยชน์ตัวเองได้ ฉะนั้นความจริงนี้ควรจะยอมรับ ถ้ายังไม่ยอมรับ อย่าไปคิดที่จะนิรโทรกรรมอะไรเลย เพราะคนต้องสำนึกว่าทำอะไรไปถูกหรือผิด ส่วนคนที่ไม่เกี่ยวข้องก็น่าเห็นใจ แต่ต้องยอมรับว่าถ้ามัประโยชน์จากการทำผิดในครั้งนั้นสำเร็จโดยไม่มีหลักฐานจับได้ ประโยชน์จะได้กับทุกคน”
ส่วนกรณีที่กกต.ยังไม่รับรองส.ส.อีก 65 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สอดคล้องกับที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ออกมาพูดก่อนหน้านี้นั้น นายชวนกล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องตัวเลขดังกล่าว และคงต้องไปถามนายสุเทพดู แต่ส่วนตัวคิดว่า ไม่ว่า กกต.ชุดนี้จะดำเนินการอย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสามารถที่จะดำเนินการกับคนที่กระทำผิดได้น้อยมาก เพราะจากการที่ออกหาเสียงตัวประเทศ พบว่ามีการซื้อเสียง และทุจริตเลือกตั้งกว้างขวางทั่วไปมาก แต่มีหลักฐานให้กกต. เพียงเล็กน้อย แต่ที่พรรคการเมืองออกมาโวยวาย เพราะในอดีตนั้น พรรคไทยรักไทย คุมกกต.ได้เป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ตนไม่ประณามว่ากกต.ชุดนั้นจะเลวร้ายหมด แต่ก็สามารถทำให้ถูกเป็นผิด หรือผิดเป็นถูก รวมทั้งสามารถแก้ไขข้อมูลในทะเบียนในคอมพิวเตอร์ด้วย จึงได้เกิดการทุจริตอย่างรุนแรง
“เพราะฉะนั้นการที่เขาสามารถคุม กกต.ส่วนใหญ่ได้ขนาดนั้น ทำให้ย่ามใจ ถึงกล้าทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่วันนี้ผมเชื่อว่าเขาคุมไม่ได้ การคุมไม่ได้ เมื่อถูกตรวจสอบขึ้นมา เหมือนคนอื่นถูกตรวจสอบ เขาก็โวยวาย เพราะฉะนั้น การโวยวายขณะนี้ไม่ใช่เรื่องที่ กกต.ไปกลั่นแกล้ง แต่เป็นเรื่องที่มีการกระทำผิดจริง เกิดขึ้น และมีหลักฐานบางกรณีซึ่งเป็นส่วนน้อยมากที่จะไปหาหลักฐานมาสอบได้ ก็ยังชื่นชมคนที่หาหลักฐานมาได้”
นายชวน กล่าวว่า อยากจะให้กำลังใจกับ กกต.และขออย่าแตกแยกสามัคคีกัน เพราะทุกคนก็สมัครใจเข้ารับการสรรหา และย่อมรู้ว่าการที่เข้ามาสร้างความชอบธรรม ถูกต้องในบ้านเมืองนั้นเป็นสิ่งที่ท้าทายและต้องเสี่ยงบ้างไม่มากก็น้อย เพราะฉะนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรักษาเกียรติยศชื่อเสียง อย่าให้ใครมาทำอะไรเราได้ ไม่ว่าด้วยผลประโยชน์หรือด้วยอะไรก็ตาม และเป็นความหวังให้กับประชาชนว่าจะสามารถคุมการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยสุจริตมากที่สุด
ส่วนขณะนี้มองว่ามีความพยายามที่จะเข้าไปแทรกแซง กกต.นั้น นายชวน กล่าวว่า ตนเชื่อว่า กกต.ชุดนี้คงแทรกแซงยาก แต่ไม่กล้าบอกว่าได้ทั้งร้อย เพราะถ้ามีความพยายามก็อาจทำให้เกิดการหวั่นไหวได้ เพราะที่ผ่านมายังมีข่าวพยายาม แทรกแซงตุลาการรัฐธรรมนูญด้วยเงิน 30 ล้านบาท อย่างไรก็ตามขณะนี้ไม่ทราบว่า มีความพยายามในทำนองนี้หรือไม่ แต่เชื่อว่าด้วยเกียรติยศและศักดิ์ศรีของกกต. ส่วนใหญ่ในชุดนี้จะรักษาความถูกต้องเอาไว้ได้ เพียงแต่ว่าหลักฐานที่จะมีให้กกต.คงจะยาก
ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องใบเหลืองใบแดงจะส่งผลต่อ การพิจารณาหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ ต้องขึ้นอยู่กับ กกต.ว่าแต่ละคนจะมีความมั่นคงหนักแน่นอย่างไร ส่วนที่จังหวัดบุรีรัมย์ที่มีประชาชนนับหมื่นออกมาประท้วงคัดค้านการให้ใบแดงนั้น ต้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง ซึ่งตนเชื่อว่า กกต.ไม่ไปกลั่นแกล้งใคร แต่คงมีหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินการ เพียงแต่ครั้งหนึ่งคงเคยคุม กกต. ได้ แต่วันหนึ่งเมื่อคุมไม่ได้ ก็ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ จึงต้องขึ้นอยู่กับข้อมูลของฝ่าย กกต.
ด้านนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวตอบโต้ นายชวน ออกมาแสดงความเห็นว่า พรรคที่ได้ใบเหลือง ใบแดงมากเพราะไม่สามารถควบคุม กกต. ได้นั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเพราะหากคิดในทางกลับกันอาจ หมายความว่าพรรคการเมืองที่ได้ใบเหลือง ใบแดงน้อย แสดงว่าสามารถแทรกแซง กกต.ได้
“ข้อมูลจำนวนใบเหลือง ใบแดง ที่มีการเปิดเผยก่อนหน้านี้ และมีความสอดคล้องกับจำนวนที่ กกต.พิจารณา ทำให้บุคคลทั่วไปตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดจึงมีความสอดคล้องกัน ซึ่งทำให้ข่าวลือว่ามีผู้มีอำนาจแทรกแซง กกต. มีการพูดถึงมากขึ้นและไม่ดีต่อกระบวนการประชาธิปไตย พรรคพลังประชาชน จึงขอให้กำลังใจ กกต.อย่าหวั่นต่อการแทรกแซงของอำนาจภายนอกและทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม” นพ.สุรพงษ์กล่าว
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนระบุว่ามีมือสกปรกคอยสกัดกั้นพรรคพลังประชาชนการจัดตั้งรัฐบาลว่า คงไม่มีใครไปสกัดกั้นพรรคพลังประชาชนได้ และเห็นว่าหากกล้าจริงขอให้ระบุว่ามือสกปรกนั้นเป็นใครและทำอย่างไร ทั้งนี้ส่วนตัวเห็นว่ามือสกปรกคงมีจริง แต่เป็นมือซื้อเสียง หรือมือที่โกงเลือกตั้ง
“ที่จริงแล้วเหตุการณ์ขณะนี้น่าทบทวนว่า สมัยก่อนทำไมพวกท่านไม่สนใจ ความชอบธรรม ทำในสิ่งที่ชั่วร้าย สกปรก แต่ไม่มีใครเรียกร้องความชอบธรรมในขณะนั้น แม้กระทั่งนักการเมืองกลั่นแกล้งประชาชนก็ไม่มีใครออกมาพูดอะไร มีการทุจริตเลือกตั้งเรียกว่าโกงกันทั้งบ้านทั้งเมือง จับไม่ได้แม้แต่คนเดียว จับได้เพียง นายธานินทร์ ใจสมุทร ที่เอาเรื่องตากใบมาพูด ผมจึงอยากจะให้พวกเราใช้มาตรฐาน เดียวกันคือการรักษาความถูกต้องชอบธรรมเอาไว้ ใครผิดว่าไปตามผิด ไม่ว่า พรรคไหนถูกยุบก็อย่าไปกลั่นแกล้ง ฉะนั้นคนที่ไม่ผิดก็ไม่ควรจะเดือดร้อน แต่อย่าเอามาตรฐานปี 2548 มาใช้”
ส่วนกรณีที่คนในพรรคพลังประชาชนกล่าวหาว่าพรรคประชาธิปัตย์ใช้ศาล เป็นมือในการยุบพรรคไทยรักไทยนั้น นายชวน กล่าวว่า ความจริงช่วงนี้ ไม่อยากพูดเรื่องการเมือง แต่ไม่อยากให้เรื่องนี้ผ่านพ้นไปโดยไม่มีมูลความจริง และทำให้ตุลาการรัฐธรรมนูญชุดนั้น ซึ่งถือเป็นชุดที่ดีที่สุดได้รับความเสียหาย เพราะเรื่องดังกล่าวไม่เป็นจริง และพรรคไทยรักไทยต้องยอมรับว่าได้กระทำผิดจริง เพราะ ตุลาการรัฐธรรมนูญในขณะนั้นเป็นตุลาการรัฐธรรมนูญที่เที่ยงตรงที่สุด และไม่เป็นเครื่องมือพรรคการเมือง ดังนั้นไม่ควรออกมาวิพากษ์วิจารณ์เช่นนี้
“มันไม่มีบทบัญญัติเกี่ยวกับการละเมิดอำนาจตุลาการรัฐธรรมนูญ ไม่อย่างนั้นคนเหล่านี้ติดคุก ไม่ต้องรอลงอาญา ถูกจำคุกไปแล้ว เพราะมีการพูดในลักษณะนี้หลายครั้ง รวมทั้งคุณสมัครด้วย ท่านสมัครเองพูดในลักษณะว่าตุลาการรัฐธรรมนูญ ตัดสินยุบพรรคไทยรักไทยทุเรศ แต่เราต้องยอมรับว่าการกระทำผิดครั้งนั้น ถ้าสำเร็จ พวกท่านทั้งหลายก็ได้ประโยชน์ หรือสามารถทำให้การเลือกตั้งเพื่อประโยชน์ตัวเองได้ ฉะนั้นความจริงนี้ควรจะยอมรับ ถ้ายังไม่ยอมรับ อย่าไปคิดที่จะนิรโทรกรรมอะไรเลย เพราะคนต้องสำนึกว่าทำอะไรไปถูกหรือผิด ส่วนคนที่ไม่เกี่ยวข้องก็น่าเห็นใจ แต่ต้องยอมรับว่าถ้ามัประโยชน์จากการทำผิดในครั้งนั้นสำเร็จโดยไม่มีหลักฐานจับได้ ประโยชน์จะได้กับทุกคน”
ส่วนกรณีที่กกต.ยังไม่รับรองส.ส.อีก 65 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สอดคล้องกับที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ออกมาพูดก่อนหน้านี้นั้น นายชวนกล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องตัวเลขดังกล่าว และคงต้องไปถามนายสุเทพดู แต่ส่วนตัวคิดว่า ไม่ว่า กกต.ชุดนี้จะดำเนินการอย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสามารถที่จะดำเนินการกับคนที่กระทำผิดได้น้อยมาก เพราะจากการที่ออกหาเสียงตัวประเทศ พบว่ามีการซื้อเสียง และทุจริตเลือกตั้งกว้างขวางทั่วไปมาก แต่มีหลักฐานให้กกต. เพียงเล็กน้อย แต่ที่พรรคการเมืองออกมาโวยวาย เพราะในอดีตนั้น พรรคไทยรักไทย คุมกกต.ได้เป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ตนไม่ประณามว่ากกต.ชุดนั้นจะเลวร้ายหมด แต่ก็สามารถทำให้ถูกเป็นผิด หรือผิดเป็นถูก รวมทั้งสามารถแก้ไขข้อมูลในทะเบียนในคอมพิวเตอร์ด้วย จึงได้เกิดการทุจริตอย่างรุนแรง
“เพราะฉะนั้นการที่เขาสามารถคุม กกต.ส่วนใหญ่ได้ขนาดนั้น ทำให้ย่ามใจ ถึงกล้าทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่วันนี้ผมเชื่อว่าเขาคุมไม่ได้ การคุมไม่ได้ เมื่อถูกตรวจสอบขึ้นมา เหมือนคนอื่นถูกตรวจสอบ เขาก็โวยวาย เพราะฉะนั้น การโวยวายขณะนี้ไม่ใช่เรื่องที่ กกต.ไปกลั่นแกล้ง แต่เป็นเรื่องที่มีการกระทำผิดจริง เกิดขึ้น และมีหลักฐานบางกรณีซึ่งเป็นส่วนน้อยมากที่จะไปหาหลักฐานมาสอบได้ ก็ยังชื่นชมคนที่หาหลักฐานมาได้”
นายชวน กล่าวว่า อยากจะให้กำลังใจกับ กกต.และขออย่าแตกแยกสามัคคีกัน เพราะทุกคนก็สมัครใจเข้ารับการสรรหา และย่อมรู้ว่าการที่เข้ามาสร้างความชอบธรรม ถูกต้องในบ้านเมืองนั้นเป็นสิ่งที่ท้าทายและต้องเสี่ยงบ้างไม่มากก็น้อย เพราะฉะนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรักษาเกียรติยศชื่อเสียง อย่าให้ใครมาทำอะไรเราได้ ไม่ว่าด้วยผลประโยชน์หรือด้วยอะไรก็ตาม และเป็นความหวังให้กับประชาชนว่าจะสามารถคุมการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยสุจริตมากที่สุด
ส่วนขณะนี้มองว่ามีความพยายามที่จะเข้าไปแทรกแซง กกต.นั้น นายชวน กล่าวว่า ตนเชื่อว่า กกต.ชุดนี้คงแทรกแซงยาก แต่ไม่กล้าบอกว่าได้ทั้งร้อย เพราะถ้ามีความพยายามก็อาจทำให้เกิดการหวั่นไหวได้ เพราะที่ผ่านมายังมีข่าวพยายาม แทรกแซงตุลาการรัฐธรรมนูญด้วยเงิน 30 ล้านบาท อย่างไรก็ตามขณะนี้ไม่ทราบว่า มีความพยายามในทำนองนี้หรือไม่ แต่เชื่อว่าด้วยเกียรติยศและศักดิ์ศรีของกกต. ส่วนใหญ่ในชุดนี้จะรักษาความถูกต้องเอาไว้ได้ เพียงแต่ว่าหลักฐานที่จะมีให้กกต.คงจะยาก
ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องใบเหลืองใบแดงจะส่งผลต่อ การพิจารณาหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ ต้องขึ้นอยู่กับ กกต.ว่าแต่ละคนจะมีความมั่นคงหนักแน่นอย่างไร ส่วนที่จังหวัดบุรีรัมย์ที่มีประชาชนนับหมื่นออกมาประท้วงคัดค้านการให้ใบแดงนั้น ต้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง ซึ่งตนเชื่อว่า กกต.ไม่ไปกลั่นแกล้งใคร แต่คงมีหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินการ เพียงแต่ครั้งหนึ่งคงเคยคุม กกต. ได้ แต่วันหนึ่งเมื่อคุมไม่ได้ ก็ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ จึงต้องขึ้นอยู่กับข้อมูลของฝ่าย กกต.
ด้านนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวตอบโต้ นายชวน ออกมาแสดงความเห็นว่า พรรคที่ได้ใบเหลือง ใบแดงมากเพราะไม่สามารถควบคุม กกต. ได้นั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเพราะหากคิดในทางกลับกันอาจ หมายความว่าพรรคการเมืองที่ได้ใบเหลือง ใบแดงน้อย แสดงว่าสามารถแทรกแซง กกต.ได้
“ข้อมูลจำนวนใบเหลือง ใบแดง ที่มีการเปิดเผยก่อนหน้านี้ และมีความสอดคล้องกับจำนวนที่ กกต.พิจารณา ทำให้บุคคลทั่วไปตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดจึงมีความสอดคล้องกัน ซึ่งทำให้ข่าวลือว่ามีผู้มีอำนาจแทรกแซง กกต. มีการพูดถึงมากขึ้นและไม่ดีต่อกระบวนการประชาธิปไตย พรรคพลังประชาชน จึงขอให้กำลังใจ กกต.อย่าหวั่นต่อการแทรกแซงของอำนาจภายนอกและทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม” นพ.สุรพงษ์กล่าว