xs
xsm
sm
md
lg

ราชวงศ์ทั่วหล้าร่วมอาลัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (4 ม.ค.) เวลา 07.02 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมายังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงประกอบพิธีธรรมถวายภัตตาหารเช้า แด่พระสงฆ์ที่สวดพระอภิธรรมในการพิธีพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินกลับในเวลาประมาณ 08.00 น.
ช่วงเย็นเวลาประมาณ 18.00 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จฯ พร้อมด้วย ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ในพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยมีพระสงฆ์จากวัดสระเกศ และวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ สวดพระอภิธรรมสับเปลี่ยนเป็นชุด ชุดละ 8 รูป

**ราชวงศ์ต่างชาติส่งพระราชสาส์นไว้อาลัย
ในวันเดียวกัน นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ แห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เชค ซอบะห์ อัลอะห์มัด อัลจาบีร์ อัลซอบะห์ เจ้าผู้ครองรัฐคูเวต และ เชค ซัลมาน บิน ฮามัด อัล คอลิฟะห์ มกุฎราชกุมารแห่งบาห์เรน ได้ส่งพระราชสาส์นถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แสดงความเสียใจและไว้อาลัย ถึงการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

**ประมุขและผู้นำประเทศแสดงความเสียใจ
นายมิคาอิล บารานอฟ ที่ปรึกษาสถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทย เป็นผู้หนึ่งที่เขียนคำไว้อาลัยถึง 5 หน้ากระดาษ ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่เขียนยาวว่า เป็นความรู้สึกที่ออกมาจากใจจริง ประเทศรัสเซีย ขอแสดงความเสียใจกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ ต่อการสูญสียอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ และรู้สึกซาบซึ้งต่อพระกรุณาธิคุณอันใหญ่หลวงของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่พระองค์ทรงงานเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์และการกุศลต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อประชาชนชาวไทย ในหลายๆ ด้าน อาทิ การศึกษา ศิลปวัฒนธรรม และการกุศล
ทั้งนี้ นายมิคาอิล บารานอฟ เปิดเผยต่อว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย นายวลาดิเมียร์ ปูติน ได้ส่งสาส์นแสดงความเสียใจต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ มาในวันนี้ด้วย
นอกจากนี้ นายหู จิ่น เทา ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ถวายสาส์นไว้อาลัย โดยมีใจความสำคัญว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงเป็นเพื่อนเก่าแก่ของจีน และทรงมีบทบาทอย่างยิ่งในการกระชับส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
ส่วนในช่วงเย็น พลเอกอาวุโส ตาน ฉ่วย ประธานสภาเพื่อสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ หรือ เอสพีดีซี (SPDC) ของสหภาพพม่า นาย เอส.อาร์.นาธาน ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ นายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสิงคโปร์ และนาย ลี กวน ยู รัฐมนตรีที่ปรึกษาสาธารณรัฐสิงคโปร์ ก็ได้ถวายสาส์นไว้อาลัยเช่นกัน

**ทูตต่างชาติถวายสักการะพระศพ    
  วานนี้ (4 ม.ค.) นายฮิเดกิ โคบายาชิ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และนายเฟลิเป ฟรายด์แมน เอกอัครราชทูตอาร์เจนตินาประจำประเทศไทย เดินทางมายังศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อร่วมถวายสักการะพระศพต่อหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ
นายโคบายาชิ กล่าวว่า ตนในนามรัฐบาลและประชาชนชาวญี่ปุ่น ขอแสดงความเสียใจต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และชาวญี่ปุ่นก็รู้สึกเสียใจต่อการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ท่านเช่นเดียวกับประชาชนชาวไทยทุกคน
นายอ้วน พรหมมะจัก เอกอัครราชทูตลาวประจำประเทศไทย ได้เดินทางร่วมลงนามถวายสักการะพระพี่นางฯ โดยระบุข้อความว่า ตนในนามของปวงชนชาวลาว ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และขอให้ดวงวิญญาณของพระองค์สู่สวรรคาลัย
ตั้งแต่ช่วงบ่ายเวลา 15.00 น. เป็นต้นไป มีบรรดาทูตานุทูต ตัวแทนจากประเทศต่างๆ ทยอยมาร่วมถวายสักการะพระฉายาลักษณ์ และลงนามไว้อาลัยในการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เป็นจำนวนมาก อาทิ ดร.เฟรดดริค ฮัมบัวร์เกอร์ เอกอัครราชทูตกลุ่มประชาคมยุโรปประจำประเทศไทย, นายปีเตอร์ ชาน เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย, นายซีนาร์ อัลเดมีร์ เอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทย, ซิงเย ดอร์จี เอกอัครราชทูตแห่งราชอาณาจักรภูฏาน ประจำประเทศไทย, นางโพลาชิ เคมิ วี. ไอเยดัน อุปทูตไนจีเรียประจำประเทศไทย, นายฟิลล์ เซลเตอร์ ผู้อำนวยการองค์กรแรงงานนานาชาติประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออก เป็นตัวแทนองค์กรสหประชาชาติ, นายซีนาร์ อัลเดมีร์ เอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทย, นายคริสคอฟ ปรูมเมอร์ เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย, สเตฟานี เบียทริกซ์ ตัวแทนของประธานาธิบดีสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เป็นต้น
       นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศยังได้รับสาส์นไว้อาลัยจากสถานเอกอัครราชทูตบัลแกเรียประจำประเทศไทยด้วย
ขณะเดียวกัน บุคคลสำคัญๆ ของไทย อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกรรมการบริหารพรรค รวมทั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทั้ง ทหาร ตำรวจ และประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้เดินทางมาร่วมไว้อาลัยอย่างต่อเนื่อง
นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า ตนและพรรคประชาธิปัตย์ รู้สึกซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณของ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ขณะนี้สาขาของพรรคประชาธิปัตย์ทั่วประเทศได้ร่วมกันจัดพิธีถวายสักการะเพื่อร่วมไว้อาลัยแด่พระองค์ท่านด้วย
สำหรับยอดการลงนามถวายความอาลัย ที่ปิดให้ลงนามในเวลา 17.00 น.ในวันนี้ มีประชาชนมาร่วมลงนามทั้งสิ้น 16,007 คน ยอดพวงมาลารวม 2 วัน มีทั้งสิ้น 160 พวง ส่วนยอดเงินทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัยเป็นเงิน 311,952.75 บาท

**ศิษย์วิชาฝรั่งเศส ถวายอาลัย
นางฐิติมา พงศ์ประศาสน์ ผู้จัดการธนาคารนครหลวงไทย สาขาท่าพระจันทร์ หนึ่งในนักศึกษาสาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส คณะวิทยาศาสตร์และอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อปี พ.ศ. 2518-2522 ที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ได้ทรงสอนในวิชาโบราณคดีและการเขียนภาษาฝรั่งเศส กล่าวถึงความประทับใจในครั้งนั้นว่า ทรงไม่ถือพระองค์แต่อย่างใด ทำพระองค์เสมือนครูผู้สอนธรรมดาคนหนึ่ง อีกทั้งยังเอาใจใส่ในการสอนเป็นอย่างมาก
สำหรับเหตุการณ์ที่ประทับใจที่มีต่อพระองค์ คือ พระองค์จะทรงเรียกชื่อของตนอย่างถูกต้องเสมอว่า ถิ-ติ-มา เพราะหลายคนจะเรียกชื่อผิดว่า ทิ-ติ-มา ทำให้ตนมีความประทับใจที่พระองค์ทรงใส่พระทัยในเรื่องเล็กๆ อย่างการออกเสียง การพูดภาษาไทยอย่างถูกต้อง
อีกเหตุการณ์หนึ่งในตอนที่พระองค์ทรงสอน เมื่อทรงเรียกให้นักศึกษาคนใดตอบคนนั้นก็ต้องยืนขึ้นตอบ ไม่ว่าคำตอบผิดหรือถูก พระองค์ก็จะให้คำอธิบายสำหรับคำตอบนั้นอย่างแจ่มแจ้ง ชัดเจน ครั้งหนึ่งในวิชาการเขียนภาษาฝรั่งเศส พระองค์ทรงสั่งงานให้นักศึกษาเขียนเรียงความภาษาฝรั่งเศสเกี่ยวกับความใกล้ชิด ซึ่งตนได้เขียนเล่าถึงความใกล้ชิดที่มีต่อพ่อ จากนั้นพระองค์ทรงยกตัวอย่างจากงานเขียนของนักศึกษาทุกคนเพื่อวิจารณ์งาน และทรงให้การชื่นชมงานเขียนของตน จนตนได้คะแนนในวิชานี้ดีที่สุดในห้อง
“ดีใจและภูมิใจเป็นอย่างมากที่มีโอกาสได้รับการสอนจากพระองค์ตลอด 4 ปีที่เรียนที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีวาสนาที่ดีถึงเพียงนี้ หลังเรียนจบแล้วมีก็โอกาสได้ไปศึกษาต่อที่ประเทศฝรั่งเศส จากนั้นได้กราบทูลลาไปศึกษาต่อพระองค์ท่านได้พระราชทานเงินให้ 200 ฟรังก์ (1,000 บาท) และได้นำเงินนั้นไปซื้อดิกชินเนอรีภาษาฝรั่งเศส ที่เป็นความประทับใจไม่รู้ลืม
ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นเลย อยากให้พระองค์มีพระชนมายุยืนนานมากกว่านี้ เพราะทรงทำคุณประโยชน์เพื่อประชาชนของพระองค์ ตอนนี้ก็ได้แต่ภาวนาให้ดวงพระวิญญาณเสด็จสู่สรวงสวรรค์ และประสบแต่ความสุข” ฐิติมา กล่าว

** ทรงสั่งกระเป๋าเป้ให้นร.ไทยใช้
นายชวน หลีกภัย เอดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาพร้อมกับ นายพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกุล นางกัลยา โสภณพนิช นายบุญยอด สุขถิ่นไทย โดยนายชวน กล่าวว่า สิ่งที่พระองค์ท่านทรงปฏิบัติในพระราชกรณียกิจ ในส่วนของการศึกษามีอย่างมหาศาล และตนได้มีโอกาสสัมผัสเรื่องนี้เมื่อปี 2527 ที่เคยมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องของเด็กไทยต้องหิ้วกระเป๋าหนัก สมเด็จย่าฯ ทรงมีพระดำริในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เป็นพระองค์แรกที่สั่งกระเป๋าเป้มาจากเมืองนอก เพื่อให้องค์การค้าคุรุสภา นำมาเป็นแบบ แล้วจัดทำจำหน่าย เพื่อการแก้ปัญหาการหิ้วกระเป๋าหนัก ถือเป็นเรื่องที่ทรงใส่พระทัยเรื่องการศึกษา และทำเพื่อเยาวชน อีกทั้งพระราชนิพนธ์ของพระองค์ เช่น เรื่องแม่เล่าให้ฟัง เวลาเป็นของมีค่า เป็นตัวอย่างหนังสือที่ดี ที่จะให้เด็กไทยใช้ในการศึกษา

**เตรียม “เวชยันตราชรถ”ถวายพระเพลิง
วานนี้ (4 ม.ค.) เวลาประมาณ 15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครว่า คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.วัฒนธรรม กล่าวถึงเตรียมความพร้อมในการนำเวชยันตราชรถ ที่จะใช้สำหรับเคลื่อนพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ภายในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพว่า ตนและอธิบดีกรมศิลปากรและผู้เชี่ยวชาญ มาตรวจสอบและประเมินความพร้อมในการจัดเก็บดูแลรักษาพระมหาพิชัยราชรถ เวชยันตราชรถ ราชรถน้อย และยานมาศ 3 คานหาม ซึ่งเป็นพาหนะสำหรับใช้เคลื่อนพระบรมศพของพระมหากษัตริย์ หรือพระศพพระบรมวงศานุวงศ์ไปยังพระเมรุมาศ หรือพระเมรุบริเวณท้องสนามหลวง ซึ่งเป็นพระราชประเพณีที่ถือปฏิบัติมาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ ตนได้หารือกับผู้เชี่ยวชาญของกรมศิลปากรว่าจะต้องซ่อมแซมอะไรบ้าง รวมถึงการทำความสะอาด โดยจะนำสรุปข้อมูลต่างๆ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการอำนวยการงานพระราชพิธีพระศพของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ในส่วนของรัฐบาลที่มี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งจะมีการประชุมในสัปดาห์หน้า ดังนั้น กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จะต้องประเมินความพร้อมในส่วนงานที่รับผิดชอบเพื่อให้รัฐบาลนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อมีพระบรมราชวินิจฉัยต่อไป
ด้านนายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร ในฐานะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ กล่าวว่า ขณะนี้กรมศิลปากรได้ดำเนินการตรวจสอบราชรถ ที่ใช้ในการประกอบพระราชพิธีพระศพ โดยจะประสานทางทหารให้มาช่วยตรวจสภาพของล้อ เพลา กลไกของราชรถว่า มีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน ส่วนในเรื่องของศิลาภรณ์นั้น ทางกรมศิลปากรจะมอบหมายให้ สำนักช่างสิบหมู่ เป็นผู้ประเมินตรวจดูสภาพทั้งหมด ส่วนจะมีการใช้ราชรถองค์ไหนนั้น ก็สุดแล้วแต่จะโปรดเกล้าฯ
สำหรับความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมการจัดสร้างพระเมรุนั้น ได้มีการประชุมคณะกรรมการกรมศิลปากร โดยมีมติแต่งตั้งคณะทำงานของกรมศิลปากรในการจัดสร้างพระเมรุ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ แล้ว ประกอบด้วย น.อ.อาวุธ เงินชูกลิ่น เป็นประธานคณะทำงาน และมีอดีตอธิบดีกรมศิลปากร รวมถึงผู้เชี่ยวชาญทางด้านการจัดสร้างพระเมรุร่วมเป็นคณะทำงาน ได้แก่ นายสุวิชญ์ รัศมิภูติ นายเดโช สวนานนท์ นายทวีศักดิ์ เสนาณรงค์ นายสิริชัยชาญ ฟักจำรูญ นายอารักษ์ สังหิตกุล และทีมงานจากสำนักช่างสิบหมู่ สำนักสถาปัตยกรรม ซึ่งคณะทำงานชุดดังกล่าวจะเป็นผู้ดูแลการออกแบบ รูปแบบสถาปัตยกรรมของพระเมรุ เมื่อมีการโปรดเกล้าฯให้ดำเนินการจัดสร้าง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กรมศิลปากรได้เตรียมความพร้อมของข้อมูลแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพระเมรุ ราชรถ การจัดทำบันทึกจดหมาย ที่ถูกต้องตามโบราณราชประเพณี เพื่อเตรียมนำเสนอข้อมูลต่อ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ต่อไป” อธิบดีกรมศิลปากร กล่าว

**กรมธนารักษ์จัดทำเหรียญที่ระลึก
นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเจริญพระชนมายุ 7 รอบ 6 พ.ค. 2550 เปิดเผยว่า ที่ประชุมสรุปผลการจัดสรรงบประมาณจำนวน 200 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานและดำเนินงานโครงการ กิจกรรมร่วมงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลเจริญพระชนมายุ 7 รอบเมื่อวันที่ 6 พ.ค.2550 จำนวน 141 โครงการ/กิจกรรม โดยในส่วนของสำนักงบประมาณได้จัดทำสรุปยอดงบประมาณที่มีคงเหลือจำนวนกว่า 151 ล้านบาท ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นควร โดยจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบผลการดำเนินงานจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ และการขอคืนเงินที่เหลือต่อสำนักงบประมาณต่อไป
นายไพบูลย์ กล่าวถึงหน่วยงานต่างๆ ที่จัดกิจกรรมเพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณและอัจฉริยภาพของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ว่า กรมธนารักษ์จัดทำเหรียญที่ระลึก พระราชทานเพลิงพระศพ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจัดการบรรพชาอุปสมบทถวายเป็นพระราชกุศล สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กรุงเทพมหานครและกระทรวงมหาดไทย จัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ถวายเป็นพระราชกุศลในสัปดาห์ถัดไปในโอกาสครบ 50 วัน และครบ 100 วัน
ทั้งนี้ ในส่วนของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จะได้จัดพิมพ์พระฉายาลักษณ์แจกจ่ายประชาชนเพื่อนำไปสักการะ รวมถึงอัญเชิญพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่ได้รับพระราชทานพระอนุญาต รวมทั้งบทความอันเกี่ยวเนื่องกับพระองค์ฯ ลงในเว็บไซต์สำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ www.indentity.opm.go.th ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
กำลังโหลดความคิดเห็น