สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีถวายภัตตาหารเช้าพร้อมติดตามการสร้างพระเมรุสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ อย่างใกล้ชิด กรมศิลป์จะแถลงความคืบหน้าทุก 2 วัน ราชวงศ์ภูฏานเสด็จทรงวางพวงมาลา ครม.มีมติให้ ครม.ไว้ทุกข์เป็นเวลา 100 วัน ทีมหมอจุฬาฯ สานต่องานสาธารณสุข เผยใช้พื้นที่สนามหลวงด้านทิศใต้สร้างพระเมรุ ขณะที่ยอดรวมผู้ที่มาสักการะพระศพ 5 วัน 94,250 คน
ในช่วงเช้าวานนี้ (14 ม.ค.) เวลา 06.47 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อทรงประกอบพิธีถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์จำนวน 8 รูป จาก วัดสุทัศเทพวราราม และวัดประยูรวงศาวาส
และในเวลา 07.08 นาฬิกา พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้า พัชรกิติยาภา เสด็จมายังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง เพื่อมาสดับพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ
จากนั้นในช่วงค่ำเวลา 18.59 นาที สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ เสด็จพร้อมด้วยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญาฯ มาที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสดับพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดยมีพระสงฆ์จากวัดจักรวรรดิราชาวาส และวัดราชสิทธาราม จำนวน 8 รูปเป็นผู้สวดพระพิธีธรรม
ครม.พร้อมใจไว้ทุกข์ครบ 100 วัน
จากกรณีที่ประชุม ครม.มีมติให้ครม.ไว้ทุกข์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ ฯ เป็นเวลา 100 วัน ส่วนข้าราชการไว้ทุกข์เป็นเวลา 15 วัน และให้หน่วยราชการทั้งหมดเลื่อน หรือยกเลิกการจัดงานมหรสพ หรืองานรื่นเริงต่างๆ ในช่วง 15 วันนี้ และในช่วง 100 วัน หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ไม่ควรมีการจัดงานรื่นเริง และรัฐบาลยังเชิญชวนให้ประชาชนร่วมแสดงความไว้อาลัย ด้วยการใส่ชุดดำเป็นเวลา 15 วัน
ล่าสุด พ.อ.ประชาสัณห์ ชนะสงคราม ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะที่หลายกระทรวง ได้มีคำสั่งให้ข้าราชการในกระทรวงสวมชุดดำไว้ทุกข์ต่อไปอีก เป็นเวลา 100 วัน ตามที่สำนักพระราชวังให้ข้าราชบริพารมีการไว้ทุกข์เป็นเวลา 100 วัน โดยคาดว่าในการประชุม ครม.วันนี้(15 ม.ค.)นายจุลยุทธ์ หิรัณยะวสิต ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี อาจจะนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมเพื่อเป็นมติ ครม.ต่อไป
อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้หน่วยงานราชการในจังหวัดต่างๆ ก็ได้มีคำสั่งให้ข้าราชการไว้ทุกข์ต่อไปเป็นเวลา 100 วันเช่นกัน
ทีมหมอจุฬาฯ สานต่องานสาธารณสุข
บรรยากาศตลอดช่วงเช้าวันนี้ยังคงมีประชาชนก็ยังคงหลั่งไหลเข้ามาสักการะพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์กันอย่างเนืองแน่น โดยสำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนได้เข้าถวายสักการะได้ตั้งแต่เวลา 7.30 น. ซึ่งมีประชาชนต่อแถวกันยาวเหยียด
ในจำนวนนี้มี นายแพทย์ อดิสรณ์ ภัราดูลย์ คณะบดีคณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ ซึ่งนำคณะตัวแทนคณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ โรงพยาบาลจุฬาฯ จำนวน 60 คน มาถวายสักการะพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ พร้อมทั้งกล่าวว่าสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เป็นบุคคลสำคัญของวงการสาธารณสุขของเมืองไทยมาโดยตลอด อาทิเช่น โครงการมูลนิธิ พอสว. ในพระอุปถัมภ์ ซึ่งจะดูแลชาวบ้านชนบทในพื้นที่ห่างไกล
ซึ่งที่ผ่านมาคณะแพทย์จุฬาฯ ได้มีส่วนช่วยในการผลิตแพทย์ให้แก่แวดวงสาธารณสุขและได้มีส่วนร่วมในการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ส่วนของคณะแพทย์ในความรับผิดชอบของตนเองจะดำเนินการจัดงานการประชุมทางวิชาการด้านการแพทย์ เพื่อพัฒนาแพทย์ต่อไป
ขอยึดแนวมาบริหารร่วมกตัญญู
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มตัวแทนมูลนิธิร่วมกตัญญู นำทีมโดยนางรัตนา สมสกุลรุ่งเรือง กรรมการมูลนิธิ นายสมศักดิ์ ปารวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไปของมูลนิธิ และนายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ อาสาสมัคร พร้อมทั้งคณะกรรมการ 20 คน นำพวงมาลามาถวายพร้อมสักการะพระศพ โดยนางรัตนากล่าวว่าสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ มีพระกรุณาธิคุณต่อคนไทยอย่างมาก ทรงช่วยเหลือประชาชนที่อยู่ห่างไกลความเจริญ ทรงสืบสานปณิธานของสมเด็จย่าเพื่อช่วยเหลือเด็กที่อยู่ตามชายแดน ทรงมีพระคุณต่อประเทศชาติอย่างอเนกอนันต์
ส่วนตัวนั้นได้เห็นท่านทรงงานหนัก หลังจากที่ท่านสิ้นพระชนม์ก็ได้รับรู้พระกรณียกิจที่ยังไม่รู้อีกมากมายว่าท่านทรงงานหนัก และตนเองจะยึดพระองค์ท่านเป็นแบบอย่างในการทำงานจะตั้งใจบริหารมูลนิธิฯให้ทำงานเพื่อสังคมให้มากขึ้น
บ่ายฝนตก-แดดออก
สำหรับบรรยากาศในช่วงบ่ายนั้น ยังคงมีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ และประชาชนเป็นจำนวนมากที่ทะยอยเดินทางมาสักการะพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ อย่างต่อเนื่อง โดยมาตั้งแถวกันที่หน้าศาลาสหทัยสมาคมเพื่อรอคอยที่จะเข้าไปสักการะพระศพ ท่ามกลางแสงแดดแผดจ้าร้อนระอุจนหลายคนต้องพกร่มติดตัวมาด้วย แต่ขณะที่แดดกำลังส่องแสงแรงจ้าอยู่นั้นก็กลับมีสายฝนโปรยปรายลงมา แต่ก็ไม่ทำให้คลื่นมหาชนที่ยืนเข้าแถวปักหลักเพื่อรอเข้าไปสักการะพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯเกิดความท้อถอยแต่อย่างใด
ส่วนด้านในบริเวณพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทก็มีคณะบุคคลต่างๆเดินทางเข้ามาสักการะพระศพอย่างต่อเนื่องอาทิ กรมการพลังงานทหาร สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม นำโดย พล.ท.สราวุฒิ ชะลออยู่ เจ้ากรมการพลังงานทหาร นำข้าราชาการทหารในสังกัด จำนวน 130 นาย ,วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ จำนวน 30 คน และคณะอาสาสมัครหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว ประจำจังหวัด อุดรธานี นำทีมโดย นพ.สัญชัย ปิยะพงษ์กุล นายแพทย์สาธารณสุขอุดรธานี ซึ่งเป็นจังหวัดของ พอ.สว ในลำดับที่ 5
ราชวงศ์ภูฏานเสด็จทรงวางพวงมาลา
เมื่อเวลา 14.30 น.สมเด็จพระอัยยิกา เกซัง โชเด่น วังชุก ของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก พร้อมด้วยพระราชวงศ์ของราชอาณาจักรภูฏาน คือ เจ้าหญิง เพ็มเพ็ม วังชุก เจ้าหญิงเคซัง วังโม วังชุก ซึ่งเป็นพระปิตุจฉา ของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน และเจ้าหญิงเคซัง วังชุก พระธิดาของเจ้าหญิงเพ็มเพ็ม วังชุก เสด็จฯ แทนพระองค์สมเด็จพระราชาธิบดี มาทรงวางพวงมาลาของสมเด็จพระราชาธิบดี พระองค์ปัจจุบัน และพวงมาลาของอดีตสมเด็จพระราชาธิบดี ตลอดจนของพระบรมวงศานุวงศ์ของราชอาณาจักรภูฏาน จำนวนทั้งสิ้น 4 พวง เพื่อถวายสักการะพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส ราชนครินทร์ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยมีท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม เป็นผู้รับเสด็จ
ทั้งนี้พระบรมวงศานุวงศ์แห่งราชอาณาจักรภูฏานทุกพระองค์ทรงฉลองพระองค์ประจำชาติไว้ทุกข์ และทรงมีพระจริยวัตรอันงดงามเป็นที่ประทับใจของประชาชนชาวไทยที่เข้าเฝ้ารับเสด็จ หลังจากที่เสด็จไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เพื่อทรงวางพวงมาลา และเสด็จสักการะพระศพ ทุกพระองค์ประทับอยู่ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเป็นเวลาประมาณ ครึ่งชั่วโมง จากนั้นจึงเสด็จพระราชดำเนินกลับในเวลา 15.00 น.
พระเทพฯ ติดตามการสร้างพระเมรุอย่างใกล้ชิด
ในส่วนความคืบหน้าของการก่อสร้างพระเมรุนั้น วานนี้คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยความคืบหน้าการก่อสร้างพระเมรุ ในพระราชพิธีพระราชเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ว่า ตามที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงมีรับสั่งให้ปั้นสัตว์หิมพานต์ 3 คู่ประดับในจุดทางขึ้น-ลงพระเมรุนั้น สำนักช่างสิบหมู่จะเป็นผู้ดำเนินการ โดยใช้ช่างฝีมือดีของสำนักช่างสิบหมู่เองจากเมืองเพชรบุรี ขณะนี้ทราบว่ามีตัวช่างปั้นอยู่แล้ว
ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบในการก่อสร้างพระเมรุ ได้ถวายรายงานต่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เป็นระยะๆ โดยตลอด ส่วนใหญ่จะถวายรายงานต่อพระองค์ในช่วงเช้าหลังจากที่ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล พระราชทานพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ แล้ว ซึ่งพระองค์ทรงให้ความสนพระทัยและทรงติดตามงานเสมอ แม้แต่การติดต่อประสานจัดหากระดาทองย่นจากประเทศจีน เพื่อนำมาใช้ในการตบแต่งลวดลายพระเมรุ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ก็ทรงรับที่จะประสานด้วยพระองค์เอง โดยพระองค์ทรงทราบด้วยว่าที่เมืองไหนมีกระดาษทองย่นคุณภาพดีจำหน่าย
ให้กรมศิลป์แถลงความคืบหน้าทุก 2 วัน
คุณหญิงไขศรี กล่าวต่อไปอีกว่า การก่อสร้างพระเมรุ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ได้รับความสนใจจากประชาชนและสื่อมวลชนติดตามเสนอข่าวจำนวนมาก เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบความคืบหน้าการก่อสร้างพระเมรุอย่างต่อเนื่อง ตนจะจัดให้มีหน่วยงานที่จะทำหน้าที่เผยแพร่ข่าวการก่อสร้างพระเมรุต่อสื่อมวลชน โดยมอบหมายให้นางสมลักษณ์ เจริญพจน์ รองอธิบดีกรมศิลปากร เป็นผู้รับผิดชอบดูแล โดยนายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร จะแถลงข่าวความคืบหน้าทุกๆ 2 วัน หรือหากเป็นเรื่องใหญ่ก็ให้เป็นหน้าที่ของปลัด วธ.หรือ รมว.วธ. เป็นผู้แถลงข่าวต่อสื่อ
นอกจากนี้ในสัปดาห์หน้าตนจะเรียกประชุมคณะทำงานจัดทำจดหมายเหตุแห่งชาติ เพื่อเร่งทำงานเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงรุก เนื่องจากสื่อทุกแขนงได้นำเสนอข่าว พระจริยวัตร พระกรณียกิจ ตลอดจนมีหน่วยงานต่างๆ แต่งโคลง กลอน หรือประพันธ์บทเพลงถวายแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ อยู่ทุกวันอย่างต่อเนื่อง หากไม่เร่งดำเนินการตั้งแต่วันนี้ รอกระทั่งพระราชพิธีพระราชเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เสร็จสิ้นแล้วเกรงจะไม่ทัน ซึ่งการเก็บข้อมูลต่างๆ นั้น ต้องเก็บข้อมูลทุกประเภทในรูปดิจิตอล ส่วนการบันทึกลงในเอกสารจดหมายเหตุ คงต้องนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ และคัดเอาเฉพาะที่สำคัญ
เตรียมพิมพ์พระนิพนธ์พระพี่นางเพิ่ม
สำหรับกรณีที่มีพ่อค้านำหนังสือที่หน่วยงานต่างๆ พิมพ์ออกมาเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ สำหรับแจกประชาชนออกมาวางจำหน่ายนั้น รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า ตนทราบข่าวเหมือนกันว่ามีพ่อค้านำหนังสือที่หน่วยงานราชการพิมพ์แจกประชาชนออกมามาวางจำหน่าย ซึ่งก็ขอฝากไปถึงพ่อค้าและประชาชนทุกคนด้วยว่า ขออย่าฉวยโอกาสนำหนังสือที่หน่วยงานราชการพิมพ์แจกไปจำหน่าย เพราะการที่พิมพ์แจกให้กับประชาชนก็เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และสดุดีพระเกียรติคุณสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ
นอกจากนี้ยังทราบว่าพระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เรื่อง แม่เล่าให้ฟัง เจ้านายเล็กๆ-ยุวกษัตริย์ ที่ วธ.จัดพิมพ์เพื่อแจกให้บุคคลสำคัญ สถาบันการศึกษา และห้องสมุดต่างๆ นั้น มีผู้นำไปจำหน่ายราคาสูงถึงพันกว่าบาท อย่างไรก็ตาม ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการ ได้มีดำริที่จัดพิมพ์พระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ออกจำหน่ายเพื่อนำรายได้เข้าสมทบกองทุนการกุศล เพราะต่อไปพระนิพนธ์เหล่านี้จะกลายเป็นหนังสือหายาก
ประเมินค่าใช้จ่ายซ่อมราชรถ-ราชยาน
นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ตนได้ประชุมร่วมกับคณะทำงานซ่อมแซมราชรถของกรมศิลปากร เมื่อเร็วๆนี้ ในเบื้องต้นเห็นว่า สิ่งที่จะต้องดำเนินการสร้างและซ่อมแซมราชรถ ประกอบด้วย ฉัตร ธง อาภรณ์ บุษบก นาค เทพพนมประกอบราชรถ ส่วนงานประณีตศิลป์ อาทิ ลวดลายที่ชำรุด ทองประดับองค์ราชรถ กระจกประดับลวดลาย ก็จะต้องดำเนินการปรับปรุง และทำความสะอาดให้มีสภาพสมบูรณ์ที่สุดให้ทันประกอบพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ซึ่งขณะนี้ตนได้รับรายงานว่า เจ้าหน้าที่จากสำนักช่างสิบหมู่ ได้ดำเนินการเข้าไปตรวจสภาพราชรถ ทั้ง พระมหาพิชัยราชรถ พระเวชยันตราชรถ ราชรถน้อย พระที่นั่งราเชนทรยาน และพระวอสีวิกากาญจน์ เพื่อประเมินงบประมาณในการซ่อมแซมทั้งหมด
“กรมศิลปากร กำลังเตรียมความพร้อมในทุกส่วน ทั้งเรื่องของพระเมรุ ราชรถ การจัดทำจดหมายเหตุพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ โดยในวันที่ 18 ม.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการเกี่ยวกับการจัดทำจดหมายเหตุฯ รวมทั้งการจัดทำหนังสือที่ระลึกงานพระราชพิธีฯ โดยมีคุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.วัฒนธรรมเป็นประธาน และในวัน 21 มกราคม ผมจะเข้ารายงานความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมการจัดสร้างพระเมรุ การบูรณะราชรถและงบประมาณที่จะใช้ในการซ่อมแซมต่อนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุและบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถ และพระยานมาศ เพื่อของบประมาณต่อไป และหลังจากนั้นจะได้เริ่มดำเนินการซ่อมแซม”อธิบดีกรมศิลปากร กล่าว
ขอใช้พื้นที่สนามหลวงด้านทิศใต้สร้างพระเมรุ
นายเกรียงไกร กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนได้ทำหนังสือถึงกรุงเทพมหานคร(กทม.) เพื่อขอใช้สนามหลวงด้านทิศใต้ในการสร้างพระเมรุตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์แล้ว โดยพื้นที่สนามหลวงทางด้านทิศเหนือ ยังสามารถใช้ทำกิจกรรมอื่นๆ ในระหว่างการก่อสร้างพระเมรุ
เหลือราชรถน้อย 3 องค์ที่ยังไม่ได้บูรณะ
นายนิยม กลิ่นบุบพา นายช่างศิลปกรรม 9 หัวหน้ากลุ่มประณีตศิลป์ สำนักช่างสิบหมู่ เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นตนได้รับมอบหมายจากนายธนะชัย สุวรรณวัฒนะ ผอ.สำนักช่างสิบหมู่ ให้สำรวจราชรถน้อยองค์ที่มีสภาพทรุดโทรมมากที่สุด ซึ่งเหลือเพียงองค์เดียวจาก 3 องค์ ที่ยังไม่ได้รับการบูรณะ นับตั้งแต่สมัยรัชกาล 5 พบว่า จะต้องมีการซ่อมแซมหัวนาคราชรถ โดยช่างจะยึดตามทรวดทรงและลายที่ช่างในสมัยโบราณทำไว้มากที่สุด
“ส่วนวัสดุที่ใช้ซ่อมแซมบางประเภทไม่มีการผลิตแล้ว โดยเฉพาะ “กระจกเกรียบ” ซึ่งเป็นกระจกประดับนาค มีลักษณะบางๆสามารถใช้มือกดให้แตกเป็นชิ้นเล็กๆ บนยางรักได้โดยไม่บาดมือ เมื่อหาไม่ได้แล้ว วิธีปัจจุบันจึงต้องตัดกระจกเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ นำมาติดตกแต่งบนตัวนาคแทน เมื่อช่างได้สำรวจราชรถน้อยแล้วก็จะสำรวจสภาพของพระมหาพิชัยราชรถ พระเวชยันตราชรถ และราชยานอื่นๆด้วย โดยเฉพาะการปิดทองประดับกระจก”
กทม.เทิดพระเกียรติ “แม่พิมพ์ของแผ่นดิน”
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า กทม.กำหนดจัดงานครู ประจำปี 2551 ในวันพุธที่ 16 มกราคม 2551 ณ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง ภายใต้แนวคิด “ครู คือ ผู้ให้ สร้างเด็กไทยให้ใฝ่รู้คู่คุณธรรม” โดยปีนี้จะมีการจัดนิทรรศการ “แม่พิมพ์ของแผ่นดิน” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณและยกย่องเชิดชูเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ซึ่งคณะครูจะร่วมยืนถวายอาลัยแด่พระองค์ท่านด้วย
ยอดถวายเงินเกือบ 6 ล้านบาท
สรุปยอดผู้ที่เข้ากราบสักการะพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง วานนี้ (14 ม.ค.)ในเวลา 16.00 น. มีจำนวน 15,384 พวงมาลา 57 พวง สำหรับยอดรวมผู้ที่มาสักการะพระศพ 5 วัน มีจำนวน 94,250 คน
โดยขณะนี้ทางสำนักงานพระราชวังได้ทำการเปิดบัญชี ทุน “ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ” เพื่อรวบรวมเงินถวายดังกล่าวจนถึงพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพเพื่อดำเนินการตามประสงค์ต่อไป ซึ่งยอดเงินถวายจนถึงวันที่ 13 มกราคม 2551 เวลา 18.30 น. รวมเป็นเงิน 5,794,065.75 บาท
ในช่วงเช้าวานนี้ (14 ม.ค.) เวลา 06.47 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อทรงประกอบพิธีถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์จำนวน 8 รูป จาก วัดสุทัศเทพวราราม และวัดประยูรวงศาวาส
และในเวลา 07.08 นาฬิกา พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้า พัชรกิติยาภา เสด็จมายังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง เพื่อมาสดับพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ
จากนั้นในช่วงค่ำเวลา 18.59 นาที สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ เสด็จพร้อมด้วยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญาฯ มาที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสดับพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดยมีพระสงฆ์จากวัดจักรวรรดิราชาวาส และวัดราชสิทธาราม จำนวน 8 รูปเป็นผู้สวดพระพิธีธรรม
ครม.พร้อมใจไว้ทุกข์ครบ 100 วัน
จากกรณีที่ประชุม ครม.มีมติให้ครม.ไว้ทุกข์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ ฯ เป็นเวลา 100 วัน ส่วนข้าราชการไว้ทุกข์เป็นเวลา 15 วัน และให้หน่วยราชการทั้งหมดเลื่อน หรือยกเลิกการจัดงานมหรสพ หรืองานรื่นเริงต่างๆ ในช่วง 15 วันนี้ และในช่วง 100 วัน หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ไม่ควรมีการจัดงานรื่นเริง และรัฐบาลยังเชิญชวนให้ประชาชนร่วมแสดงความไว้อาลัย ด้วยการใส่ชุดดำเป็นเวลา 15 วัน
ล่าสุด พ.อ.ประชาสัณห์ ชนะสงคราม ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะที่หลายกระทรวง ได้มีคำสั่งให้ข้าราชการในกระทรวงสวมชุดดำไว้ทุกข์ต่อไปอีก เป็นเวลา 100 วัน ตามที่สำนักพระราชวังให้ข้าราชบริพารมีการไว้ทุกข์เป็นเวลา 100 วัน โดยคาดว่าในการประชุม ครม.วันนี้(15 ม.ค.)นายจุลยุทธ์ หิรัณยะวสิต ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี อาจจะนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมเพื่อเป็นมติ ครม.ต่อไป
อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้หน่วยงานราชการในจังหวัดต่างๆ ก็ได้มีคำสั่งให้ข้าราชการไว้ทุกข์ต่อไปเป็นเวลา 100 วันเช่นกัน
ทีมหมอจุฬาฯ สานต่องานสาธารณสุข
บรรยากาศตลอดช่วงเช้าวันนี้ยังคงมีประชาชนก็ยังคงหลั่งไหลเข้ามาสักการะพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์กันอย่างเนืองแน่น โดยสำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนได้เข้าถวายสักการะได้ตั้งแต่เวลา 7.30 น. ซึ่งมีประชาชนต่อแถวกันยาวเหยียด
ในจำนวนนี้มี นายแพทย์ อดิสรณ์ ภัราดูลย์ คณะบดีคณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ ซึ่งนำคณะตัวแทนคณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ โรงพยาบาลจุฬาฯ จำนวน 60 คน มาถวายสักการะพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ พร้อมทั้งกล่าวว่าสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เป็นบุคคลสำคัญของวงการสาธารณสุขของเมืองไทยมาโดยตลอด อาทิเช่น โครงการมูลนิธิ พอสว. ในพระอุปถัมภ์ ซึ่งจะดูแลชาวบ้านชนบทในพื้นที่ห่างไกล
ซึ่งที่ผ่านมาคณะแพทย์จุฬาฯ ได้มีส่วนช่วยในการผลิตแพทย์ให้แก่แวดวงสาธารณสุขและได้มีส่วนร่วมในการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ส่วนของคณะแพทย์ในความรับผิดชอบของตนเองจะดำเนินการจัดงานการประชุมทางวิชาการด้านการแพทย์ เพื่อพัฒนาแพทย์ต่อไป
ขอยึดแนวมาบริหารร่วมกตัญญู
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มตัวแทนมูลนิธิร่วมกตัญญู นำทีมโดยนางรัตนา สมสกุลรุ่งเรือง กรรมการมูลนิธิ นายสมศักดิ์ ปารวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไปของมูลนิธิ และนายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ อาสาสมัคร พร้อมทั้งคณะกรรมการ 20 คน นำพวงมาลามาถวายพร้อมสักการะพระศพ โดยนางรัตนากล่าวว่าสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ มีพระกรุณาธิคุณต่อคนไทยอย่างมาก ทรงช่วยเหลือประชาชนที่อยู่ห่างไกลความเจริญ ทรงสืบสานปณิธานของสมเด็จย่าเพื่อช่วยเหลือเด็กที่อยู่ตามชายแดน ทรงมีพระคุณต่อประเทศชาติอย่างอเนกอนันต์
ส่วนตัวนั้นได้เห็นท่านทรงงานหนัก หลังจากที่ท่านสิ้นพระชนม์ก็ได้รับรู้พระกรณียกิจที่ยังไม่รู้อีกมากมายว่าท่านทรงงานหนัก และตนเองจะยึดพระองค์ท่านเป็นแบบอย่างในการทำงานจะตั้งใจบริหารมูลนิธิฯให้ทำงานเพื่อสังคมให้มากขึ้น
บ่ายฝนตก-แดดออก
สำหรับบรรยากาศในช่วงบ่ายนั้น ยังคงมีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ และประชาชนเป็นจำนวนมากที่ทะยอยเดินทางมาสักการะพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ อย่างต่อเนื่อง โดยมาตั้งแถวกันที่หน้าศาลาสหทัยสมาคมเพื่อรอคอยที่จะเข้าไปสักการะพระศพ ท่ามกลางแสงแดดแผดจ้าร้อนระอุจนหลายคนต้องพกร่มติดตัวมาด้วย แต่ขณะที่แดดกำลังส่องแสงแรงจ้าอยู่นั้นก็กลับมีสายฝนโปรยปรายลงมา แต่ก็ไม่ทำให้คลื่นมหาชนที่ยืนเข้าแถวปักหลักเพื่อรอเข้าไปสักการะพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯเกิดความท้อถอยแต่อย่างใด
ส่วนด้านในบริเวณพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทก็มีคณะบุคคลต่างๆเดินทางเข้ามาสักการะพระศพอย่างต่อเนื่องอาทิ กรมการพลังงานทหาร สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม นำโดย พล.ท.สราวุฒิ ชะลออยู่ เจ้ากรมการพลังงานทหาร นำข้าราชาการทหารในสังกัด จำนวน 130 นาย ,วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ จำนวน 30 คน และคณะอาสาสมัครหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว ประจำจังหวัด อุดรธานี นำทีมโดย นพ.สัญชัย ปิยะพงษ์กุล นายแพทย์สาธารณสุขอุดรธานี ซึ่งเป็นจังหวัดของ พอ.สว ในลำดับที่ 5
ราชวงศ์ภูฏานเสด็จทรงวางพวงมาลา
เมื่อเวลา 14.30 น.สมเด็จพระอัยยิกา เกซัง โชเด่น วังชุก ของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก พร้อมด้วยพระราชวงศ์ของราชอาณาจักรภูฏาน คือ เจ้าหญิง เพ็มเพ็ม วังชุก เจ้าหญิงเคซัง วังโม วังชุก ซึ่งเป็นพระปิตุจฉา ของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน และเจ้าหญิงเคซัง วังชุก พระธิดาของเจ้าหญิงเพ็มเพ็ม วังชุก เสด็จฯ แทนพระองค์สมเด็จพระราชาธิบดี มาทรงวางพวงมาลาของสมเด็จพระราชาธิบดี พระองค์ปัจจุบัน และพวงมาลาของอดีตสมเด็จพระราชาธิบดี ตลอดจนของพระบรมวงศานุวงศ์ของราชอาณาจักรภูฏาน จำนวนทั้งสิ้น 4 พวง เพื่อถวายสักการะพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส ราชนครินทร์ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยมีท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม เป็นผู้รับเสด็จ
ทั้งนี้พระบรมวงศานุวงศ์แห่งราชอาณาจักรภูฏานทุกพระองค์ทรงฉลองพระองค์ประจำชาติไว้ทุกข์ และทรงมีพระจริยวัตรอันงดงามเป็นที่ประทับใจของประชาชนชาวไทยที่เข้าเฝ้ารับเสด็จ หลังจากที่เสด็จไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เพื่อทรงวางพวงมาลา และเสด็จสักการะพระศพ ทุกพระองค์ประทับอยู่ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเป็นเวลาประมาณ ครึ่งชั่วโมง จากนั้นจึงเสด็จพระราชดำเนินกลับในเวลา 15.00 น.
พระเทพฯ ติดตามการสร้างพระเมรุอย่างใกล้ชิด
ในส่วนความคืบหน้าของการก่อสร้างพระเมรุนั้น วานนี้คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยความคืบหน้าการก่อสร้างพระเมรุ ในพระราชพิธีพระราชเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ว่า ตามที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงมีรับสั่งให้ปั้นสัตว์หิมพานต์ 3 คู่ประดับในจุดทางขึ้น-ลงพระเมรุนั้น สำนักช่างสิบหมู่จะเป็นผู้ดำเนินการ โดยใช้ช่างฝีมือดีของสำนักช่างสิบหมู่เองจากเมืองเพชรบุรี ขณะนี้ทราบว่ามีตัวช่างปั้นอยู่แล้ว
ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบในการก่อสร้างพระเมรุ ได้ถวายรายงานต่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เป็นระยะๆ โดยตลอด ส่วนใหญ่จะถวายรายงานต่อพระองค์ในช่วงเช้าหลังจากที่ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล พระราชทานพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ แล้ว ซึ่งพระองค์ทรงให้ความสนพระทัยและทรงติดตามงานเสมอ แม้แต่การติดต่อประสานจัดหากระดาทองย่นจากประเทศจีน เพื่อนำมาใช้ในการตบแต่งลวดลายพระเมรุ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ก็ทรงรับที่จะประสานด้วยพระองค์เอง โดยพระองค์ทรงทราบด้วยว่าที่เมืองไหนมีกระดาษทองย่นคุณภาพดีจำหน่าย
ให้กรมศิลป์แถลงความคืบหน้าทุก 2 วัน
คุณหญิงไขศรี กล่าวต่อไปอีกว่า การก่อสร้างพระเมรุ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ได้รับความสนใจจากประชาชนและสื่อมวลชนติดตามเสนอข่าวจำนวนมาก เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบความคืบหน้าการก่อสร้างพระเมรุอย่างต่อเนื่อง ตนจะจัดให้มีหน่วยงานที่จะทำหน้าที่เผยแพร่ข่าวการก่อสร้างพระเมรุต่อสื่อมวลชน โดยมอบหมายให้นางสมลักษณ์ เจริญพจน์ รองอธิบดีกรมศิลปากร เป็นผู้รับผิดชอบดูแล โดยนายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร จะแถลงข่าวความคืบหน้าทุกๆ 2 วัน หรือหากเป็นเรื่องใหญ่ก็ให้เป็นหน้าที่ของปลัด วธ.หรือ รมว.วธ. เป็นผู้แถลงข่าวต่อสื่อ
นอกจากนี้ในสัปดาห์หน้าตนจะเรียกประชุมคณะทำงานจัดทำจดหมายเหตุแห่งชาติ เพื่อเร่งทำงานเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงรุก เนื่องจากสื่อทุกแขนงได้นำเสนอข่าว พระจริยวัตร พระกรณียกิจ ตลอดจนมีหน่วยงานต่างๆ แต่งโคลง กลอน หรือประพันธ์บทเพลงถวายแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ อยู่ทุกวันอย่างต่อเนื่อง หากไม่เร่งดำเนินการตั้งแต่วันนี้ รอกระทั่งพระราชพิธีพระราชเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เสร็จสิ้นแล้วเกรงจะไม่ทัน ซึ่งการเก็บข้อมูลต่างๆ นั้น ต้องเก็บข้อมูลทุกประเภทในรูปดิจิตอล ส่วนการบันทึกลงในเอกสารจดหมายเหตุ คงต้องนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ และคัดเอาเฉพาะที่สำคัญ
เตรียมพิมพ์พระนิพนธ์พระพี่นางเพิ่ม
สำหรับกรณีที่มีพ่อค้านำหนังสือที่หน่วยงานต่างๆ พิมพ์ออกมาเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ สำหรับแจกประชาชนออกมาวางจำหน่ายนั้น รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า ตนทราบข่าวเหมือนกันว่ามีพ่อค้านำหนังสือที่หน่วยงานราชการพิมพ์แจกประชาชนออกมามาวางจำหน่าย ซึ่งก็ขอฝากไปถึงพ่อค้าและประชาชนทุกคนด้วยว่า ขออย่าฉวยโอกาสนำหนังสือที่หน่วยงานราชการพิมพ์แจกไปจำหน่าย เพราะการที่พิมพ์แจกให้กับประชาชนก็เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และสดุดีพระเกียรติคุณสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ
นอกจากนี้ยังทราบว่าพระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เรื่อง แม่เล่าให้ฟัง เจ้านายเล็กๆ-ยุวกษัตริย์ ที่ วธ.จัดพิมพ์เพื่อแจกให้บุคคลสำคัญ สถาบันการศึกษา และห้องสมุดต่างๆ นั้น มีผู้นำไปจำหน่ายราคาสูงถึงพันกว่าบาท อย่างไรก็ตาม ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการ ได้มีดำริที่จัดพิมพ์พระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ออกจำหน่ายเพื่อนำรายได้เข้าสมทบกองทุนการกุศล เพราะต่อไปพระนิพนธ์เหล่านี้จะกลายเป็นหนังสือหายาก
ประเมินค่าใช้จ่ายซ่อมราชรถ-ราชยาน
นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ตนได้ประชุมร่วมกับคณะทำงานซ่อมแซมราชรถของกรมศิลปากร เมื่อเร็วๆนี้ ในเบื้องต้นเห็นว่า สิ่งที่จะต้องดำเนินการสร้างและซ่อมแซมราชรถ ประกอบด้วย ฉัตร ธง อาภรณ์ บุษบก นาค เทพพนมประกอบราชรถ ส่วนงานประณีตศิลป์ อาทิ ลวดลายที่ชำรุด ทองประดับองค์ราชรถ กระจกประดับลวดลาย ก็จะต้องดำเนินการปรับปรุง และทำความสะอาดให้มีสภาพสมบูรณ์ที่สุดให้ทันประกอบพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ซึ่งขณะนี้ตนได้รับรายงานว่า เจ้าหน้าที่จากสำนักช่างสิบหมู่ ได้ดำเนินการเข้าไปตรวจสภาพราชรถ ทั้ง พระมหาพิชัยราชรถ พระเวชยันตราชรถ ราชรถน้อย พระที่นั่งราเชนทรยาน และพระวอสีวิกากาญจน์ เพื่อประเมินงบประมาณในการซ่อมแซมทั้งหมด
“กรมศิลปากร กำลังเตรียมความพร้อมในทุกส่วน ทั้งเรื่องของพระเมรุ ราชรถ การจัดทำจดหมายเหตุพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ โดยในวันที่ 18 ม.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการเกี่ยวกับการจัดทำจดหมายเหตุฯ รวมทั้งการจัดทำหนังสือที่ระลึกงานพระราชพิธีฯ โดยมีคุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.วัฒนธรรมเป็นประธาน และในวัน 21 มกราคม ผมจะเข้ารายงานความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมการจัดสร้างพระเมรุ การบูรณะราชรถและงบประมาณที่จะใช้ในการซ่อมแซมต่อนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุและบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถ และพระยานมาศ เพื่อของบประมาณต่อไป และหลังจากนั้นจะได้เริ่มดำเนินการซ่อมแซม”อธิบดีกรมศิลปากร กล่าว
ขอใช้พื้นที่สนามหลวงด้านทิศใต้สร้างพระเมรุ
นายเกรียงไกร กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนได้ทำหนังสือถึงกรุงเทพมหานคร(กทม.) เพื่อขอใช้สนามหลวงด้านทิศใต้ในการสร้างพระเมรุตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์แล้ว โดยพื้นที่สนามหลวงทางด้านทิศเหนือ ยังสามารถใช้ทำกิจกรรมอื่นๆ ในระหว่างการก่อสร้างพระเมรุ
เหลือราชรถน้อย 3 องค์ที่ยังไม่ได้บูรณะ
นายนิยม กลิ่นบุบพา นายช่างศิลปกรรม 9 หัวหน้ากลุ่มประณีตศิลป์ สำนักช่างสิบหมู่ เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นตนได้รับมอบหมายจากนายธนะชัย สุวรรณวัฒนะ ผอ.สำนักช่างสิบหมู่ ให้สำรวจราชรถน้อยองค์ที่มีสภาพทรุดโทรมมากที่สุด ซึ่งเหลือเพียงองค์เดียวจาก 3 องค์ ที่ยังไม่ได้รับการบูรณะ นับตั้งแต่สมัยรัชกาล 5 พบว่า จะต้องมีการซ่อมแซมหัวนาคราชรถ โดยช่างจะยึดตามทรวดทรงและลายที่ช่างในสมัยโบราณทำไว้มากที่สุด
“ส่วนวัสดุที่ใช้ซ่อมแซมบางประเภทไม่มีการผลิตแล้ว โดยเฉพาะ “กระจกเกรียบ” ซึ่งเป็นกระจกประดับนาค มีลักษณะบางๆสามารถใช้มือกดให้แตกเป็นชิ้นเล็กๆ บนยางรักได้โดยไม่บาดมือ เมื่อหาไม่ได้แล้ว วิธีปัจจุบันจึงต้องตัดกระจกเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ นำมาติดตกแต่งบนตัวนาคแทน เมื่อช่างได้สำรวจราชรถน้อยแล้วก็จะสำรวจสภาพของพระมหาพิชัยราชรถ พระเวชยันตราชรถ และราชยานอื่นๆด้วย โดยเฉพาะการปิดทองประดับกระจก”
กทม.เทิดพระเกียรติ “แม่พิมพ์ของแผ่นดิน”
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า กทม.กำหนดจัดงานครู ประจำปี 2551 ในวันพุธที่ 16 มกราคม 2551 ณ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง ภายใต้แนวคิด “ครู คือ ผู้ให้ สร้างเด็กไทยให้ใฝ่รู้คู่คุณธรรม” โดยปีนี้จะมีการจัดนิทรรศการ “แม่พิมพ์ของแผ่นดิน” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณและยกย่องเชิดชูเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ซึ่งคณะครูจะร่วมยืนถวายอาลัยแด่พระองค์ท่านด้วย
ยอดถวายเงินเกือบ 6 ล้านบาท
สรุปยอดผู้ที่เข้ากราบสักการะพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง วานนี้ (14 ม.ค.)ในเวลา 16.00 น. มีจำนวน 15,384 พวงมาลา 57 พวง สำหรับยอดรวมผู้ที่มาสักการะพระศพ 5 วัน มีจำนวน 94,250 คน
โดยขณะนี้ทางสำนักงานพระราชวังได้ทำการเปิดบัญชี ทุน “ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ” เพื่อรวบรวมเงินถวายดังกล่าวจนถึงพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพเพื่อดำเนินการตามประสงค์ต่อไป ซึ่งยอดเงินถวายจนถึงวันที่ 13 มกราคม 2551 เวลา 18.30 น. รวมเป็นเงิน 5,794,065.75 บาท
